สุดซึ้ง! ก่อน มะเร็งคร่าชีวิต พ่อใช้ช่วงเวลาสุดท้าย หาครอบครัวใหม่ให้ลูก
เว็ปไซต์หลายแห่งในต่างประเทศ เช่น kidspot.com.au ได้นำเสนอเรื่องราวของ นิค โรส คุณพ่อเลี้ยงเดี่ยว วัย 40 ปี ชาวอังกฤษ ที่จากไปอย่างสงบเมื่อวันที่ 3 มกราคม ที่ผ่านมา หลังจากต่อสู้กับโรคมะเร็งที่ลุกลามจากกระดูก มาถึงปอดอย่างรวดเร็ว แม้ว่าเขาจะได้รับการรักษาจากเคมีบำบัดแต่ก็ไม่อาจช่วยรักษาชีวิตของเขาเอาไว้ได้ ก่อนหมดลมหายใจ คุณพ่อท่านนี้ ได้ใช้เวลาทั้งหมดที่มี หาครอบครัวใหม่ให้ลูก วัย 4 ขวบ ในช่วง 9 เดือนที่นิคต้องเผชิญกับโรคร้าย ก่อน มะเร็งคร่าชีวิต เขาไปจากคนที่รัก สิ่งที่เขาให้ความสำคัญที่สุดคือการ หาครอบครัวใหม่ให้ลูก โลแกน ลูกชายวัย 4 ขวบ ที่กำพร้าแม่มาตั้งแต่ยังเล็ก
เพราะไม่มีอะไรสำคัญกว่าลูกชายตัวน้อย
ย้อนกลับไปเมื่อ 9 เดือนก่อน นิค เข้ารับการตรวจและพบว่ามีก้อนเนื้อร้ายซึ่งหลังจากนั้นไม่นาน มันก็ได้แพร่กระจายลุกลามจากกระดูกไปยังปอดอย่างรวดเร็ว จนกระทั่งเขาได้เสียชีวิตลงเมื่อวันที่ 3 มกราคมที่ผ่านมา
แอรอน ชรอมป์ตัน เพื่อนสนิทของนิค ผู้ที่อยู่เคียงข้างเขาตลอดระยะเวลาที่ต้องต่อสู้กับโรคร้าย กล่าวว่า “สำหรับนิคแล้ว ไม่มีอะไรสำคัญไปกว่าโลแกน ผู้เป็นลูกชายของเขา แม้ว่าในช่วงสุดท้ายของชีวิต เขาจะทรมานมากแค่ไหน แต่โลแกนคือที่สุดของเขา”
ในขณะที่เอมี่ พี่สาวของแอรอนกล่าวเสริมว่า “ก่อนนิคจะเสียชีวิต เขาใช้เวลาช่วงสุดท้ายอยู่อย่างเข้มแข็ง และพยายามอดทนให้นานที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพื่อจัดการหาครอบครัวที่อบอุ่นแห่งใหม่ให้กับลูกชายของเขา”
ทั้งนี้ แอรอนและเอมี่ ได้ช่วยกันทำเพจ JustGiving ขึ้นเพื่อระดมทุนสำหรับเป็นค่าชุดนักเรียนให้กับโลแกน และเตรียมไว้ให้โลแกนใช้ในอนาคต นอกจากนี้ยังอยากจะให้เป็นของขวัญวันคริสต์มาสครั้งสุดท้ายของนิคและโลแกน และให้ทุกคนจดจำเขาไปอีกนาน
“ด้วยนิสัยที่น่ารักของนิค ทำให้นิคเป็นที่รู้จักของใครหลายคน และเชื่อว่าหลังจากนี้ทุกคนจะต้องคิดถึงเขา” เอมี่กล่าวทิ้งท้าย
โรคร้ายที่คร่าชีวิตมนุษย์ไปนับไม่ถ้วน
ประเทศไทยเอง ก็มีอัตราการเสียชีวิตที่มีสาเหตุจากโรคมะเร็ง ติดอันดับ 1 จาก 6 อันดับโรคร้ายที่คร่าชีวิตคนไทย 6 โรคร้ายที่เป็นสาเหตุของการเสียชีวิตในประเทศไทย มีอะไรบ้าง ไปอ่านกันค่ะ
บทความ : โรคร้ายที่ทำคนไทยตายสูงสุด
อันดับ 1 มะเร็ง
คาดเดาไม่ผิด อันดับ 1 ของมะเร็งคือ มะเร็งตับ รองลงมาคือมะเร็งลำไส้ใหญ่และปอด ( อ้างอิงจากผลวิจัยปี 2546 ) ซึ่งโรคเหล่านี้ ล้วนแล้วแต่เป็นโรคจากการใช้ชีวิตประจำวันแบบผิด ๆ ของคนในยุคสมัยใหม่ไม่ว่าจะเป็นมะเร็งชนิดใด มะเร็งลำไส้, มะเร็งมดลูก หรือมะเร็งเต้านม ก็ล้วนแล้วแต่คร่าชีวิตคนไทยมาแล้วนักต่อนัก สถิติการเป็นมะเร็งของคนไทยนั้นเพิ่มสูงขึ้นถึง 70,000 คน และมีแนวโน้มจะสูงขึ้นเรื่อย ๆ มะเร็งยังครองแชมป์การเป็นโรคที่มีคนเป็นมากที่สุดในประเทศ อันดับที่ 1 ถึง 5 ปีซ้อน และมีผู้เสียชีวิตไปด้วยโรคนี้ถึงปีละ 50,000 คนอีกด้วย
อันดับ 2 โรคหลอดเลือดหัวใจ
โรคที่คนไทยนิยมเป็นกันไม่แพ้มะเร็ง เพราะด้วยนิสัยการทานอาหารที่มีไขมันสูง ไม่ยอมออกกำลังกาย เป็นโดยพันธุกรรมและยังเป็นอีก 1 โรคแทรกซ้อนของผู้ที่เป็นเบาหวาน เกิดจากการที่ไขมันไปจับ หรือเกาะผนังของหลอดเลือดที่ไปเลี้ยงหัวใจ จนเลือดไม่อาจถูกส่งไปเลี้ยงหัวใจได้ ทำให้กล้ามเนื้อหัวใจตายจากการขาดเลือด ส่งผลให้หัวใจยุดเต้นอย่างเฉียบพลัน และเสียชีวิตอย่างรวดเร็ว
อันดับ 3 โรคเบาหวาน
เบาหวานเป็นอีกโรคที่เป็นสาเหตุของการเป็นโรคที่ทำให้คนไทยเสียชีวิต เกิดจากการที่ร่างกายสร้างฮอร์โมนอินซูลินมามากทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงกว่าปกติ ร่างกายจึงไม่สามารถใช้น้ำตาลได้อย่างเหมาะสม และตับอ่อนทำงานได้อย่างไม่เต็มที่ จนไม่สามารถนำน้ำตาลในเลือดไปใช้งานได้ หรือใช้งานได้น้อย จนทำให้น้ำตาลค้างอยู่ในเลือดสูง การรักษาโรคนี้ มีทั้งการฉีดอินซูลินเข้าไป เพื่อกระตุ้นให้ตับอ่อนสร้างอินซูลิน และการดูแลชีวิต ที่ต้องควบคุมอาหารที่มีไขมัน และน้ำตาลสูง, ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอควรเช็คน้ำตาลในเลือดทุกวัน, งดอาหารเค็ม และพบแพทย์ตามนัดเสมอ
อันดับ 4 โรคความดันโลหิตสูง
โรคภาวะความดันโลหิตสูง โดยมีความดันสูงถึง 140/90 มิลลิเมตร – ปรอท ขึ้นไป โดยที่ความดันของคนปกติจะอยู่ที่ 90 – 119/60 – 79 มิลลิเมตร – ปรอท
ถ้ามีอาการมึนหัว วิงเวียนศีรษะ สับสน เจ็บหน้าอก ใจสั่น เหงื่ออกมาก และปวดศีรษะมาก ให้รีบไปพบแพทย์ทันที เพราะนั่นอาจเป็นอาการเริ่มต้น ของโรคความดันโลหิตสูงได้ ควรจำกัดแป้ง น้ำตาล ไขมัน และอาหารเค็ม ออกกำลังกาย ลดความเครียดลง ไม่สูบบุหรี่ เลิกสุรา และรีบพบแพทย์ทันที่เมื่อมีอาการ
อันดับ 5 วัณโรคที่มากับอากาศ
เกิดจากเชื้อแบคทีเรียชื่อว่า มายโคแบคทีเรียม ทูเบอร์คูโลสิส (Mycobacterium tuberculosis) ซึ่งมีแนวโน้มของผู้ป่วยรายใหม่ เพิ่มสูงขึ้นถึงปีละ 70% อาการของผู้ที่เป็นวัณโรคจะไอแห้ง ติดต่อกันเกิน 3 สัปดาห์ และมีเลือดปนออกมาด้วย นอกจากนี้ ในบางรายอาจมีอาการอ่อนเพลีย หรือไข้ร่วมด้วย แต่ผู้ที่เป็นระยะแรก ๆ มักจะไม่ค่อยแสดงอาการมากนัก เบื่ออาหาร น้ำหนักลดมาก แน่นและเจ็บหน้าอกทุกครั้งที่ไอ ถ้าต้องอยู่ร่วมกับผู้ป่วยโรคนี้ ก็ให้จัดสถานที่ให้โล่งโปร่ง อากาศถ่ายเทสะดวก ไม่คลุกคลีหรือสัมผัสผู้ป่วยโดยตรง การรักษาระยะแรกผู้ป่วยต้องไปรับยาอย่างสม่ำเสมอติดต่อกัน 6 เดือน อาการก็จะดีขึ้นจนอาจหายป่วยได้ แต่ถ้าไม่รับยาตามนัด จะก่อให้เกิดเชื้อดื้อยา และต้องทานยาใหม่ที่มีราคาสูงขึ้น และใช้เวลาถึง 18 เดือนในการรักษา เพราะฉะนั้นจึงควรที่จะไปรับการรักษา ตั้งแต่ต้นที่ตรวจพบ และทานยาตลอดจนอาการดีขึ้น
อันดับ 6 โรคปอดเรื้อรัง
เกิดจากการสูบบุหรี่ การหายใจเอาละอองสารเคมีเข้าไปนาน ๆ จนเกิดการสะสม มลภาวะในอากาศ และโรคทางพันธุกรรมบางชนิด ก็ทำให้เกิดโรคนี้ได้ แต่โดยส่วนใหญ่แล้วมักจะมาจากผู้ที่สูบบุหรี่ เพราะสารพิษในควันบุหรี่จะเข้าไปทำลายเนื้อปอด และหลอดลม ซึ่งในยุคปัจจุบัน คนนิยมสูบบุหรี่กันเยอะขึ้นโรคปอดเรื้อรังสามารถกลายเป็นโรคถุงลมโป่งพอง ที่เกิดจากเซลล์เม็ดเลือดขาวชนิดต่าง ๆ เข้ามาอยู่ในชั้นเยื่อบุ และชั้นใต้เยื่อบุมากขึ้น ต่อมผลิตเมือกที่อยู่ใต้ชั้นเยื่อบุจะมีขนาดใหญ่ขึ้น และผลิตเมือกเข้าสู่หลอดลม จนทำให้เซลล์ที่ทำหน้าที่กวัดกวาดสิ่งสกปรกโดนเมือกเคลือบ แล้วนำพาเอาเมือกจากจุดอื่น ๆ เข้าสู่หลอดลมอย่างล้นหลาม และถุงลมก็จะถูกทำลายจนหายไป
ที่มา : kidspot.com.au
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
เลี้ยงลูกอย่างไร ให้เป็นอัจฉริยะ
พาลูกไปซื้อของต้องระวัง รถเข็นในห้าง ทำลูกเข้า ICU
จิงจูฉ่าย สุดยอดสมุนไพรต้านมะเร็ง กินกับอะไรก็อร่อย แต่คนท้องต้องระวัง!
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!