X
theAsianparent Thailand Logo
theAsianparent Thailand Logo
คู่มือสินค้าเข้าสู่ระบบ
  • อยากท้อง
  • ตั้งครรภ์
    • คำนวณวันคลอด
    • ฉันกำลังตั้งครรภ์
    • ไตรมาสที่ 1
    • ไตรมาสที่ 2
    • ไตรมาสที่ 3
    • Project Sidekicks
    • ตั้งชื่อลูก
    • การให้นมลูก
  • สุขภาพและโภชนาการ
    • โภชนาการ
    • สุขภาพ
  • ลูก
    • ทารกแรกเกิด
    • ทารก
    • เด็กวัยหัดเดิน
    • เด็กก่อนวัยเรียน
    • เด็ก
    • เด็กก่อนวัยรุ่น และวัยรุ่น
  • ชีวิตครอบครัว
    • ความรักและความสัมพันธ์
    • การเลี้ยงลูก
    • มุมคุณพ่อ
    • ประกันชีวิต
    • การวางแผนการเงิน
    • ความรัก และ เซ็กส์
  • การศึกษา
    • เด็กวัยประถม
    • โรงเรียนประถม
    • มัธยมศึกษา
    • แบบฝึกหัดและข้อสอบ
    • แนะแนวการศึกษาต่างประเทศ
  • ไลฟ์สไตล์
    • ดวง
    • ทำนายฝัน
    • สีมงคล
    • บทสวดมนต์
    • ข่าว
    • ดูแลบ้าน
    • แนะนำโดย TAP
    • อีเว้นท์
  • ที่เที่ยว
    • เที่ยวไทย
    • เที่ยวต่างประเทศ
    • ที่พัก และ โรงแรม
  • ที่กิน
    • ร้านอร่อย
    • ร้านอร่อยสำหรับเด็ก
    • คาเฟ่
    • เมนูอาหาร
  • ผู้หญิง
    • แฟชั่น
    • ความงาม
    • ฟิตเนส
  • TAPpedia
  • วิดีโอ
    • การตั้งครรภ์
    • ทารก
    • คำแนะนำในการเลี้ยงลูก
    • การให้นมบุตร
    • อาหารเสริมทารก & โภชนาการ
    • เด็กเล็ก
  • ชอปปิง
  • อีเว้นท์
    • TAP Awards Winners
    • TAP idol
    • TAP x Safari Largest Treasure Hunt
  • #สอนลูกเรื่องเงิน ฉบับพ่อแม่
  • VIP

กิจกรรมแสนสนุก…ชวนลูกห่างหน้าจอ

บทความ 3 นาที
กิจกรรมแสนสนุก…ชวนลูกห่างหน้าจอ

ทุกวันนี้คุณปล่อยให้ลูกอยู่กับมือถือ คอมพิวเตอร์ หรือแท็บเล็ต กันวันละกี่นาทีคะ...1 ชั่วโมง 2 ชั่วโมง หรือมากกว่านั้น ซึ่งในความเป็นจริงเราคงจะปฏิเสธอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เหล่านี้ไม่ได้ เพราะว่ามีทั้งสาระการเรียนรู้ที่มีประโยชน์ เกมส์ และสิ่งบันเทิงต่างๆ ก็เข้าถึงได้ง่ายมากขึ้น

แต่แน่นอนว่าในประโยชน์นั้นก็แฝงโทษไว้ด้วย เพราะเด็กที่อยู่ติดหน้าจอมากเกินไป ก็เสี่ยงกับโรคทางสายตามากขึ้นจากการได้รับแสงสีฟ้าจากอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เช่นกัน ดังนั้นการแก้ปัญหาพ่อแม่จึงควรแบ่งเวลาให้ลูกอยู่กับอุปกรณ์เหล่านี้อย่างเหมาะสม สมาคมกุมารเวชศาสตร์แห่งประเทศสหรัฐอเมริกาแนะนำว่าเด็กที่อายุมากกว่า 2 ขวบ ต้องจำกัดเวลาการใช้ในแต่ละวันไม่ให้เกินวันละ 2 ชั่วโมง คุณพ่อคุณแม่อาจจำกัดเวลาที่ 20 นาทีแล้วให้หยุดพักสายตา หรือช่วยบำรุงสายตาลูกด้วยอาหารในกลุ่มที่อุดมไปด้วยวิตามินเอ ลูทีนและซีแซนทีน อย่างโกจิเบอร์รี่ ตำลึง แครอท และฟักทอง

 

กิจกรรมแสนสนุกชวนลูกห่างหน้าจอ

 

และที่สำคัญหากิจกรรมอื่นๆ ให้ลูกได้ทำเพิ่มขึ้น เปลี่ยนจากการยื่นมือถือหรือแท็บเล็ตให้ลูก เป็นพากันออกไปทำกิจกรรมสนุกๆเพราะไม่มีของเล่นชิ้นไหน ที่จะทำให้ลูกมีความสุขหรือสนุกได้เท่ากับพ่อแม่อีกแล้ว

 

            เรามีตัวอย่างกิจกรรมสนุกๆ แสนง่ายที่พ่อแม่ลูกจะได้ใช้เวลาร่วมกันมาฝากค่ะ

1. ชวนกันทำอาหารง่าย แม่ๆ ส่วนใหญ่ไม่ชอบให้ลูกเข้ามาในครัวเพราะนอกจากกลัวอันตรายจากมีด จากน้ำร้อนแล้ว ยังห่วงความเลอะเทอะอีกต่างหาก แต่ที่จริงห้องครัวเป็นเหมือนห้องเรียนอีกหนึ่งห้องของเด็กๆ ได้เลย เพราะเขาจะได้เรียนรู้สิ่งต่างๆมากมาย เช่น อุณหภูมิ น้ำร้อน น้ำเย็น การเปลี่ยนสภาพจากของเหลวเป็นของแข็ง เรียนคณิตจากการนับเลขเวลาตอกไข่ฟองที่ 1 ฟองที่ 2 เรียนรู้เรื่องสีจากผักและผลไม้ เรียนรู้เรื่องความปลอดภัยจากของมีคม หรือของร้อนจากกาน้ำร้อน และหม้อที่ต้มอยู่บนเตา นอกจากนี้หากเมนูที่ได้ทำร่วมกันระหว่างคุณพ่อคุณแม่เป็นเมนูที่บำรุงสายตาที่ใช้ส่วนผสมจากโกจิเบอร์รี่ ตำลึง แครอท และฟักทอง ก็ยิ่งเกิดประโยชน์ใหญ่เลยค่ะ และเด็กๆส่วนใหญ่จะเจริญอาหารเป็นพิเศษถ้าเขาได้กินอาหารที่ตัวเองทำ!

 

2. ชวนกันไปออกกำลังกาย นอกจากจะสนุกแล้วยังได้สุขภาพที่ดีด้วยนะคะ ทุกที่เป็นที่เล่นของเด็กได้ ไม่ว่าจะบริเวณหน้าบ้าน สวนสาธารณะ หรือสนามเด็กเล่นในหมู่บ้าน พากันไปเดินเล่น วิ่งเล่น หรือจะใช้อุปกรณ์ง่ายๆ เช่น เชือกกระโดด หรือชวนกันไปปั่นจักรยานสำรวจรอบหมู่บ้าน แบบนี้ก็สนุกได้เหมือนกัน แต่อย่าปล่อยให้ลูกไปไกลตา ต้องระวังเรื่องความปลอดภัยด้วยค่ะ ทางที่ดีคุณพ่อคุณแม่ไปกับลูกด้วยจะได้สุขภาพดีทั้งครอบครัว

 

3. ชวนกันไปสำรวจธรรมชาติ บ้านไหนมีสวนหลังบ้านหรือต้นไม้ใหญ่ใกล้ๆ บ้านนี่เหมาะเลย ชวนเด็กๆ ออกไปจับใบไม้ใบหญ้าหรือเล่นดินทราย จะเป็นการกระตุ้นประสาทสัมผัสของเด็กๆได้เป็นอย่างดี หรือจะชวนให้ลูกดูแมลงตัวน้อยที่ทำรังหรือมดตัวเล็กๆที่กำลังเดินอยู่บนพื้นดิน สิ่งเหล่านี้จะปลูกฝังให้ลูกเป็นคนช่างสังเกต และพ่อแม่ยังสอนเรื่องความปลอดภัยให้ลูกได้อีก เช่น ถ้าหนูเจอสัตว์หน้าแบบนี้หรือแมลงรูปร่างแบบนี้ห้ามเข้าใกล้นะ มันจะทำให้หนูเจ็บได้ สิ่งเหล่านี้เป็นการเรียนรู้นอกห้องเรียนที่พ่อแม่สามารถสอนลูกได้

 

4. ชวนกันไปทำงานบ้าน เล่นแบบนี้ได้ประโยชน์แน่นอน เพราะได้ฝึกวินัยและความรับผิดชอบให้ลูกไปด้วย สำหรับเด็กเล็กเริ่มด้วยงานง่ายๆ อย่างเช่น ช่วยแยกประเภทผ้า เสื้อ กางเกง ถุงเท้า หรือผ้าขาวผ้าสีออกจากกันก่อนซัก เด็กโตขึ้นมาหน่อยควรมอบหมายให้เป็นหน้าที่ เช่น ช่วยแม่เตรียมจานชามแก้วน้ำจัดโต๊ะอาหาร กวาดบ้านถูบ้าน หรือให้อาหารสัตว์เลี้ยง และควรมีรางวัลตอบแทน เมื่อลูกทำตามหน้าที่ความรับผิดชอบของตัวเองได้ เช่น ให้ดาวความดีเพื่อสะสมแลกของที่ต้องการ เป็นต้น

 

 

โกจิเบอร์รี่

 

 

 

บทความจากพันธมิตร
แม่รู้ไหม? พัฒนาการสมอง ของลูกเกิดขึ้นได้ทั้งกลางวันและกลางคืน เสริมด้วย สารอาหารสมอง และการนอนอย่างมีคุณภาพ
แม่รู้ไหม? พัฒนาการสมอง ของลูกเกิดขึ้นได้ทั้งกลางวันและกลางคืน เสริมด้วย สารอาหารสมอง และการนอนอย่างมีคุณภาพ
มารู้จักกับ Phenomenon-Based Learning กระบวนการเรียนรู้ที่เน้นการศึกษานอกห้องเรียนมากกว่าการท่องจำ
มารู้จักกับ Phenomenon-Based Learning กระบวนการเรียนรู้ที่เน้นการศึกษานอกห้องเรียนมากกว่าการท่องจำ
น้องนดลต์ และน้องนภนต์ ฝาแฝดที่สูญเสียการได้ยินระดับรุนแรง กับโอกาสสำคัญที่พลิกชีวิตสมาชิกทั้งครอบครัว
น้องนดลต์ และน้องนภนต์ ฝาแฝดที่สูญเสียการได้ยินระดับรุนแรง กับโอกาสสำคัญที่พลิกชีวิตสมาชิกทั้งครอบครัว
BASIS Bangkok โรงเรียนนานาชาติชั้นนำระดับโลก ที่ปูพื้นฐานความเป็นเลิศตั้งแต่ระดับชั้นเด็กเล็ก
BASIS Bangkok โรงเรียนนานาชาติชั้นนำระดับโลก ที่ปูพื้นฐานความเป็นเลิศตั้งแต่ระดับชั้นเด็กเล็ก

มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!

Follow us on:
facebook-logo instagram-logo tiktok-logo
img
บทความโดย

theAsianparent Editorial Team

  • หน้าแรก
  • /
  • พัฒนาการลูก
  • /
  • กิจกรรมแสนสนุก…ชวนลูกห่างหน้าจอ
แชร์ :
  • คนท้องเล่นคอมได้หรือไม่? แม่ท้องเจอจอสีฟ้าของคอมและทีวีอันตรายต่อลูกมั๊ย?

    คนท้องเล่นคอมได้หรือไม่? แม่ท้องเจอจอสีฟ้าของคอมและทีวีอันตรายต่อลูกมั๊ย?

  • อยู่ให้ห่างของเล่นอิเล็กทรอนิกส์ ตัวการลูกพัฒนาช้า

    อยู่ให้ห่างของเล่นอิเล็กทรอนิกส์ ตัวการลูกพัฒนาช้า

  • ลูกไม่ยอมพูด เป็นเพราะอะไร จะเป็นเด็กพัฒนาการช้าไหม ทำอย่างไรให้ลูกพูด

    ลูกไม่ยอมพูด เป็นเพราะอะไร จะเป็นเด็กพัฒนาการช้าไหม ทำอย่างไรให้ลูกพูด

  • คนท้องเล่นคอมได้หรือไม่? แม่ท้องเจอจอสีฟ้าของคอมและทีวีอันตรายต่อลูกมั๊ย?

    คนท้องเล่นคอมได้หรือไม่? แม่ท้องเจอจอสีฟ้าของคอมและทีวีอันตรายต่อลูกมั๊ย?

  • อยู่ให้ห่างของเล่นอิเล็กทรอนิกส์ ตัวการลูกพัฒนาช้า

    อยู่ให้ห่างของเล่นอิเล็กทรอนิกส์ ตัวการลูกพัฒนาช้า

  • ลูกไม่ยอมพูด เป็นเพราะอะไร จะเป็นเด็กพัฒนาการช้าไหม ทำอย่างไรให้ลูกพูด

    ลูกไม่ยอมพูด เป็นเพราะอะไร จะเป็นเด็กพัฒนาการช้าไหม ทำอย่างไรให้ลูกพูด

ลงทะเบียนรับคำแนะนำเรื่องการตั้งครรภ์พัฒนาการลูกในท้องได้ที่นี่
  • เตรียมตัวเป็นผู้ปกครอง
    • ก่อนตั้งครรภ์
    • การคลอด
    • ระยะการตั้งครรภ์
    • การคลอด
  • พัฒนาการลูก
    • ทารก
    • เด็กก่อนเข้าเรียน
    • ช่วงวัยของเด็ก
    • เด็กก่อนวัยรุ่น
  • ชีวิตครอบครัว
    • การวางแผนการเงิน
    • การเลี้ยงลูก
    • ความรัก และ เซ็กส์
  • ระยะการตั้งครรภ์
    • ไตรมาส 1
    • ไตรมาส 2
    • ไตรมาส 3
    • นมแม่และนมผง
  • โภชนาการ
    • สินค้าเด็ก
    • นมผง
    • เมนูอาหาร
    • สินค้าแม่
  • เพิ่มเติม
    • TAP สังคมออนไลน์
    • ติดต่อโฆษณา
    • ติดต่อเรา
    • Influencer Marketing (KOL)
    • มาเข้าร่วมกับเรา


  • Singapore flag Singapore
  • Thailand flag Thailand
  • Indonesia flag Indonesia
  • Philippines flag Philippines
  • Malaysia flag Malaysia
  • Sri-Lanka flag Sri Lanka
  • India flag India
  • Vietnam flag Vietnam
  • Australia flag Australia
  • Japan flag Japan
  • Nigeria flag Nigeria
  • Kenya flag Kenya
© Copyright theAsianparent 2023. All rights reserved
เกี่ยวกับเรา |ทีม|นโยบายความเป็นส่วนตัว |ข้อกำหนดการใช้ |แผนผังเว็บไซต์
  • เครื่องมือ
  • บทความ
  • ฟีด
  • โพล

เราใช้คุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์คอนเทนต์ที่ดีที่สุดให้กับคุณ. เรียนรู้เพิ่มเติมตกลง เข้าใจแล้ว

เราใช้คุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์คอนเทนต์ที่ดีที่สุดให้กับคุณ. เรียนรู้เพิ่มเติมตกลง เข้าใจแล้ว

theAsianparent heart icon
เราต้องการส่งแจ้งเตือนข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับการดูแลทารกและสุขภาพไปให้กับคุณ