สายตา

เทคโนโลยีดังกล่าวก็มีศักยภาพในการพัฒนาชีวิตให้ดีขึ้น แต่ในบางกรณีก็อาจส่งผลเสียต่อสุขภาพร่างกายและอารมณ์ได้เช่นกัน ในขณะที่เราพิจารณาผลกระทบด้านลบที่อาจเกิดขึ้นจากเทคโนโลยีและให้คำแนะนำเกี่ยวกับวิธีการใช้งานที่ดีต่อสุขภาพ เทคโนโลยีสุขภาพด้านลบ

ช่วงอายุ 40 สาวๆ หลายคนกลายเป็นคุณแม่ที่มีลูกวัยกำลังน่ารัก และในขณะเดียวกันก็มีไลฟ์ไตล์การใช้ชีวิตอันยุ่งเหยิงอีกด้วย ไหนจะเรื่องงานที่ต้องรับผิดชอบมากขึ้น ต้องแบ่งเวลาดูแลครอบครัว ความเรียบร้อยในบ้าน แถมยังห้ามปล่อยตัวเองให้โทรมอีก การเป็นคุณแม่ยุคนี้จึงต้องสวยและสตรองจริงๆ ! เพราะหลากหลายบทบาทที่ท้าทาย คุณแม่ยุคใหม่ ให้ลุกขึ้นมาจัดการทุกอย่างให้เพอร์เฟ็ค โดยเฉพาะเรื่องการดูแลลูก ซึ่งเป็นหน้าที่ที่สำคัญที่สุดของคนเป็นแม่

ทุกวันนี้คุณปล่อยให้ลูกอยู่กับมือถือ คอมพิวเตอร์ หรือแท็บเล็ต กันวันละกี่นาทีคะ...1 ชั่วโมง 2 ชั่วโมง หรือมากกว่านั้น ซึ่งในความเป็นจริงเราคงจะปฏิเสธอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เหล่านี้ไม่ได้ เพราะว่ามีทั้งสาระการเรียนรู้ที่มีประโยชน์ เกมส์ และสิ่งบันเทิงต่างๆ ก็เข้าถึงได้ง่ายมากขึ้น

ในปัจจุบันคนไทยมีภาวะเสี่ยงเป็นโรคทางสายตาเพิ่มมากขึ้น ตั้งแต่เด็กไปจนถึงผู้สูงอายุ เนื่องจากการใช้เทคโนโลยีที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะการใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เช่น คอมพิวเตอร์ โทรศัพท์มือถือ แทบเล็ต ซึ่งได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่องตามความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เหล่านี้ เป็นแหล่งที่ให้แสงสีฟ้าซึ่งมีผลต่อประสาทตา

คุณพ่อคุณแม่คงปฏิเสธไม่ได้ว่าการเรียนรู้ผ่านสื่อดิจิตอลมีความสำคัญสำหรับเด็กยุคปัจจุบัน ซึ่งการเรียนรู้ผ่านสื่อดิจิตอลของเด็กจะไม่เกิดประสิทธิภาพเลย หากเครื่องมือสำคัญอย่างสายตาที่ต้องใช้ในการสำรวจและรับรู้ข้อมูลข่าวสารรอบตัวนั้นเกิดมีปัญหาขึ้นมา แล้วแบบนี้จะทำอย่างไรเพื่อให้เด็กๆ มีสายตาที่ดีได้ ไปดูคำตอบกันค่ะ