เลือดในน้ำนม นั้นอาจน่ากลัวเมื่อเห็นในตอนครั้งแรก แต่เลือดที่ปนมาในน้ำนมนั้นเป็นเรื่องปกติ โดยเฉพาะสำหรับคุณแม่มือใหม่ เลือดในน้ำนมนี้ไม่ได้เกี่ยวข้องกับโรคใด ๆ และเลือดที่ปนมากับน้ำนมนั้นมักมองไม่เห็น ยกเว้นจะเห็นจากการปั๊มนมหรือจากน้ำนมที่เด็กบ้วนออกมาครับ
รู้หรือไม่ น้ำนมแม่ไม่ได้มีแค่สีเดียว ?
จากรายงาน “ศิลปะการให้นมของสตรี” โดย La Leche League ระบุว่าเลือดที่ปนเปื้อนนั้นปลอดภัยอีกทั้งสมาคมการให้นมบุตรแห่งออสเตรเลียยังระบุว่าน้ำนมนั้นมีหลายสี และเปลี่ยนสีอยู่เรื่อย ๆ นมเพิ่มความสูงมักจะมีสีเหลือง ขณะที่น้ำนมธรรมชาติจะมีสีขาวออกฟ้า และเลือดที่ปนมาในน้ำนมนั้นสามารถเปลี่ยนสีน้ำนมให้กลายเป็นสีแดง สีชมพู สีน้ำตาล สีส้ม หรือสีเขียวได้ ซึ่งไม่เป็นอันตรายต่อลูกน้อย นอกจากนี้ น้ำนมยังสามารถเปลี่ยนสีได้ตามอาหารที่แม่บริโภคด้วยเช่นกัน
ลูกน้อยมักจะบ้วนนมที่มีเลือดผสมออกมาก หรือเลือดอาจเข้าสู่ระบบย่อยอาหาร หลายครั้งเด็กจะอาเจียนออกมาเป็นเลือดหรือมีอุจจาระสีดำ หากเด็กดื่มนมที่มีเลือดปนมาก แต่ก็ไม่เป็นอันตรายนะครับ อย่างไรก็ตามคุณแม่ควรรักษาสุขภาพให้แข็งแรง เพราะโรคต่าง ๆ สามารถส่งผ่านต่อลูกน้อยได้ทางน้ำนม เช่น โรคเอดส์ ไวรัสตับอักเสบ หรืออาการติดเชื้อต่าง ๆ หากคุณแม่มีโรค หรือสงสัยว่าเป็นโรคดังกล่าว ควรรีบปรึกษาแพทย์ เพื่อเข้ารับการวินิจฉัยครับ
บทความที่เกี่ยวข้อง : สีของน้ำนมแม่ น้ำนม ใส ที่ปั๊มออกมา ลูกจะกินได้ไหม ทำไมนมแม่มีหลายสี
วิดีโอจาก : พี่กัลนมแม่ Pekannommae mother and child care
คุณแม่ควรปฏิบัติตัวอย่างไร เมื่อพบ เลือดในน้ำนม
จากที่กล่าวไปข้างต้นว่า หากคุณแม่สังเกตเลือดปะปนออกมากับน้ำนม อาจเป็นสัญญาณของบางโรคด้วย ดังนั้นจึงต้องคอยสังเกตให้ดี หากมีอาการอื่น ๆ ควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจวินิจฉัย แต่ในเบื้องต้นให้ทำตามวิธี ดังต่อไปนี้
- คุณแม่สามารถปั๊มนมต่อไปได้ หากพบเลือดในน้ำนมในปริมาณน้อย
- หากลูกน้อยไม่มีอาการอาเจียน คุณแม่ก็สามารถให้นมต่อได้
- ลองเปลี่ยนท่าในการให้นมให้ถูกต้อง
- คุณแม่ลองสังเกตตัวเองว่ามีไข้ อาการบวม หรือตัวแดงหรือไม่
- หากคุณแม่มีอาการเต้านมอักเสบ และรับประทานยาแก้อักเสบ อาจทำให้ท่อน้ำนมตันและไม่สามารถให้นมได้ชั่วคราว
- ทาลาโนลีนที่หัวนม เพื่อหลีกเลี่ยงหัวนมแห้ง หรือแตก
- หากรู้สึกเจ็บระหว่างให้นม คุณควรหยุดให้นมเพื่อให้หัวนมหายดี ใช้แผ่นรองเต้านมไฮโดรเจลหรือใช้ครีมที่ปลอดภัยครับ
- หากอาการยังไม่ดีขึ้นใน 1 สัปดาห์ ควรปรึกษาแพทย์
สาเหตุที่ทำให้มีเลือดปนกับน้ำนม
- เกิดจากหัวนม และลานนมได้รับบาดเจ็บจากอาการต่าง ๆ เช่น หัวนมแตก หรือโดนกัด เป็นต้น
- ภาวะ Rusty pipe syndrome เป็นภาวะที่เกิดขึ้นชั่วคราว ทำให้สีของนมเปลี่ยนไปได้ โดยมากจะพบในแม่ที่เพิ่งให้นมลูก
- เส้นเลือดฝอยที่เต้านมแตก จากการเลือกใช้เครื่องปั๊มนมผิดขนาด หรือเกิดจากอาการบาดเจ็บ
- เกิดภาวะเต้านมอักเสบ หรือพบมีการติดเชื้อขึ้นภายในเต้านม เป็นต้น
- เกิด Intraductal papilloma หรือเนื้องอกในท่อน้ำนม อาจทำให้มีเลือดไหลออกมา
- มะเร็งเต้านมและมะเร็งที่หัวนม และลานนม ทำให้มีเลือดออก และมีแผลเรื้อรังที่เต้านม
บทความที่เกี่ยวข้อง : หัวนมแตก ต้องหยุดให้นมลูกหรือไม่ ? แล้วควรทำอย่างไรดี
อาหารที่สามารถเปลี่ยนสีน้ำนม
นอกจากความผิดปกติที่เป็นสัญญาณของโรคร้าย สีของน้ำนมที่ออกมานั้น ยังสามารถเกิดการเปลี่ยนแปลงได้จากการมื้ออาหารของคุณแม่ที่ทานเข้าไป หรือเกิดจากตัวยาบางชนิดได้ด้วย ได้แก่
- น้ำนมสีชมพู เกิดจากอาหารสีสดเช่น บีทรูท
- น้ำนมสีเหลือง เกิดจากอาหารสีส้ม เช่น แครอท ฟักทอง
- น้ำนมสีเขียว เกิดจากผักสีเขียว เช่น สาหร่ายทั้งในรูปแบบอาหาร หรือวิตามิน และอาหารผสมสีฟ้า
- น้ำนมสีดำ เกิดจากยาบางชนิด
- น้ำนมสีขาวสว่าง เกิดจากนมที่ผลิตมานาน
Linda Palmer ผู้แต่งหนังสือเรื่อง “อุจจาระเด็ก : สิ่งที่คุณหมอไม่ได้บอกคุณ” ระบุว่าสีจากอาหารธรรมชาตินั้นปราศจากอนุมูลอิสระ และสามารถบริโภคได้ โดยสีดังกล่าวผ่านระบบย่อยของแม่และส่งต่อสู่ลูก แบคทีเรีย serratia marsescens เป็นอีกสาเหตุให้น้ำนมเป็นสีชมพูหรือแดง ซึ่งไม่เป็นอันตรายกับเด็กที่คลอดแล้ว แต่อาจเป็นอันตรายต่อทารกในครรภ์ การเก็บรักษานมอย่างไม่ถูกวิธีก็เป็นอีกสาเหตุที่ทำให้เกิดแบคทีเรีย ซึ่งหากลูกน้อยรับประทานนมที่ปนเปื้อนแบคทีเรีย ก็จะทำให้เด็กไม่สบายได้ ดังนั้น คุณแม่ควรแช่นมและอุปกรณ์ให้นมในตู้เย็นเพื่อป้องกันแบคทีเรียนะครับ
สามารถเก็บรักษานมที่มีเลือดปนเปื้อนได้หรือไม่
คุณแม่ที่ไม่ได้ตรวจพบโรคใด ๆ อาจเป็นกังวลว่าถ้าหากน้ำนมมีเลือดปนออกมาอยู่ในระหว่างที่ปรับตัวนั้น คุณแม่ไม่จำเป็นต้องนำนมไปทิ้ง คุณแม่สามารถเก็บนมที่มีเลือดปนได้ตามปกติ หากเลือดไม่ได้มีปริมาณมาก แต่รสชาติ และกลิ่นจะเหมือนกับเหล็ก และลูกน้อยอาจจะไม่ชอบเท่าไหร่นัก เนื่องจากทารกบางคนมีความชอบ และไม่ชอบกลิ่นของนมที่แตกต่างกัน นอกจากนี้รสชาติจะยิ่งแรงขึ้น เมื่อนำนมแช่เย็นไว้
นอกจากนี้คุณแม่บางท่านอาจสงสัยว่าเลือดที่ปนมากับอุจจาระเกิดจากเลือดที่ปนมาในน้ำนมหรือไม่ หากคุณแม่เห็นเลือดติดมากับผ้าอ้อมหรืออุจจาระลูกน้อยเพียงเล็กน้อย ลองดูน้ำนมของคุณแม่ว่ามีเลือดปนมาหรือไม่ ถ้าหากมีเลือดปนมากับน้ำนม ควรรีบปรึกษาแพทย์โดยด่วน
สีของน้ำนมแม่ที่เปลี่ยนไปจากการปะปนของเลือด ไม่ใช่สิ่งที่มองข้ามได้ หากมีปริมาณมาก หรือคุณแม่มีอาการเจ็บป่วยอื่น ๆ ร่วมด้วย ควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจ หากพบโรคจะได้ทำการรักษาต่อไป
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :
คำถามยอดฮิตของแม่มือใหม่ จะรู้ได้อย่างไร ว่าลูกได้รับนมแม่เพียงพอ ?
การเก็บน้ำนมแม่ เก็บอย่างไรให้คงประโยชน์ ป้อนลูกอย่างไรไม่ให้โปรตีนสลาย
ลูกกินนมไม่หมด นมแม่ นมผง ลูกกินแล้วเหลือ ทำอย่างไรดี ?
ที่มา momjunction, namarak, thairath