TAP top app download banner
theAsianparent Thailand Logo
theAsianparent Thailand Logo
คู่มือสินค้า
เข้าสู่ระบบ
  • TAP Awards 2025
  • อยากท้อง
  • แม่ท้อง แม่ให้นม
    • ระยะการตั้งครรภ์
    • โภชนาการเเม่ท้อง
    • โภชนาการแม่ให้นม
    • ตั้งชื่อลูก
    • พัฒนาการสมอง
  • แม่ผ่าคลอด
    • พัฒนาการเด็กผ่าคลอด
    • เตรียมตัวผ่าคลอด
    • สุขภาพเด็กผ่าคลอด
    • คู่มือคุณแม่ผ่าคลอด
    • การดูแลหลังผ่าคลอด
    • โภชนาการเด็กผ่าคลอด
  • หลังคลอด
    • คลอดธรรมชาติ
    • ผ่าคลอด
    • การให้นมลูก
  • สุขภาพและโภชนาการ
    • โภชนาการ
    • สุขภาพ
  • ลูก
    • ทารกแรกเกิด
    • ทารก
    • เด็กวัยหัดเดิน
    • เด็กก่อนวัยเรียน
    • เด็ก
    • เด็กก่อนวัยรุ่น และวัยรุ่น
  • ชีวิตครอบครัว
    • ความรักและความสัมพันธ์
    • การเลี้ยงลูก
    • มุมคุณพ่อ
    • ประกันชีวิต
    • การวางแผนการเงิน
    • ความรัก และ เซ็กส์
    • #สอนลูกเรื่องเงิน ฉบับพ่อแม่
    • TAPpedia
  • การศึกษา
    • เด็กวัยประถม
    • โรงเรียนประถม
    • มัธยมศึกษา
    • แบบฝึกหัดและข้อสอบ
    • แนะแนวการศึกษาต่างประเทศ
  • ผู้หญิง
    • แฟชั่น
    • ความงาม
    • ฟิตเนส
  • ไลฟ์สไตล์
    • ที่เที่ยว
    • ที่กิน
    • ดวง
    • ทำนายฝัน
    • สีมงคล
    • บทสวดมนต์
    • ข่าว
    • ดูแลบ้าน
    • แนะนำโดย TAP
    • อีเว้นท์
  • วิดีโอ
    • การตั้งครรภ์
    • ทารก
    • คำแนะนำในการเลี้ยงลูก
    • การให้นมบุตร
    • อาหารเสริมทารก & โภชนาการ
    • เด็กเล็ก
  • ชอปปิง
  • VIP

สอนลูกให้เป็นเด็กสองภาษา ควรเริ่มเมื่อไหร่?

บทความ 3 นาที
สอนลูกให้เป็นเด็กสองภาษา ควรเริ่มเมื่อไหร่?

ปัจจุบันคนที่รู้ภาษาที่สอง ภาษาที่สามนั้นมีความได้เปรียบในการทำงานมากกว่าคนที่รู้ภาษาเดียว คุณพ่อคุณแม่ยุคใหม่จึงให้ความสำคัญและอยากสอนให้ลูกเป็นเด็กสองภาษา สามภาษาตั้งแต่ยังเล็ก สิ่งสำคัญคือควรเริ่มเมื่อไหร่จึงจะได้ผลดีที่สุด

วัยเด็กเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการเรียนรู้ภาษาที่สอง เด็กที่มีประสบการณ์ทั้งสองภาษาตั้งแต่แรกเกิดมักมีความเชี่ยวชาญทั้งสองภาษา ในขณะที่ผู้ใหญ่มักจะมีปัญหากับการเรียนรู้ภาษาที่สองและพูดได้ไม่ค่อยคล่องเหมือนเจ้าของภาษา

สอนลูกให้เป็นเด็กสองภาษา

แต่คำถามที่ยังคงพบบ่อยคือ ทารกจะสับสนหรือไม่เมื่อต้องเรียนรู้ภาษาสองภาษาพร้อมกัน?

ทารกเริ่มเรียนรู้ภาษาเมื่อไหร่? อายุเท่าไหร่ เริ่มเรียน ภาษาอังกฤษ ได้

งานวิจัยพบว่า ทารกเริ่มเรียนรู้เสียงในภาษาตั้งแต่ยังอยู่ในท้องแม่ เสียงของแม่เป็นหนึ่งในเสียงที่ชัดเจนที่สุดที่ทารกในครรภ์ได้ยิน และเมื่อลืมตาดูโลก ทารกแรกเกิด นอกจากจะแยกความแตกต่างระหว่างภาษาของแม่กับภาษาอื่นๆ ได้แล้ว ยังสามารถแยกความแตกต่างระหว่างภาษาได้ด้วย

การเรียนรู้ภาษาขึ้นอยู่กับการประมวลผลของเสียง ทุกภาษาในโลกมีทั้งหมดประมาณ 800 เสียง แต่ละภาษาใช้เพียงประมาณ 40 เสียงหรือ “หน่วยเสียง” ที่แตกต่างจากภาษาอื่น

เมื่อแรกเกิดสมองของทารกมีของขวัญพิเศษติดตัวมาด้วย นั่นคือ ความสามารถในการแยกความแตกต่างของเสียงทั้ง 800 เสียง ซึ่งหมายความว่า ในระยะนี้ ทารกสามารถเรียนรู้ภาษาใดก็ตามที่เขาได้ยินได้ฟัง จากนั้นทารกจะค่อยๆ เรียนรู้ว่าเสียงใดที่เขาได้ยินบ่อยที่สุด

ระหว่างอายุ 6-12 เดือน ทารกที่เติบโตขึ้นในครอบครัวที่พูดภาษาเดียว จะเริ่มเชี่ยวชาญในภาษาแม่ของตนป็นพิเศษ โดยเมื่ออายุครบ 1 ขวบ ทารกที่เรียนรู้เพียงภาษาเดียวจะเริ่มสูญเสียความสามารถในการได้ยินความแตกต่างของเสียงในภาษาต่างประเทศ

การศึกษาสมองของทารก

แล้วทารกที่ได้ยินสองภาษาตั้งแต่แรกเกิดล่ะ? สมองลูกน้อยสามารถมีความเชี่ยวชาญทั้งสองภาษาหรือเปล่า? ถ้าใช่ กระบวนการนี้ต่างจาก ความเชี่ยวชาญภาษาเดียวอย่างไร?

Naja Ferjan Ramirez นักวิจัยของมหาวิทยาลัยวอชิงตัน ได้ทำการศึกษากระบวนการของสมองในการเรียนรู้เสียงในภาษาของทารกวัย 11 เดือนจากครอบครัวที่พูดภาษาอังกฤษภาษาเดียว เปรียบเทียบกับทารกจากครอบครัวที่พูดได้ทั้งภาษาอังกฤษและภาษาสเปน โดยการวัดคลื่นแม่เหล็กจากสมอง เรียกว่า magnetoencephalography (MEG) เมื่อทารกได้ยินเสียงภาษาสเปนและภาษาอังกฤษทีละพยางค์

การศึกษาค้นพบความแตกต่างที่สำคัญระหว่างทารกจากครอบครัวภาษาเดียวและสองภาษา

เมื่อทารกอายุ 11 เดือน ซึ่งเป็นช่วงเวลาก่อนที่เขาจะเริ่มพูดคำแรกได้ สมองบันทึกผลได้ ดังนี้

ทารกจากครอบครัวที่พูดภาษาเดียวมีความเชี่ยวชาญในการประมวลผลเสียงในภาษาอังกฤษ แต่ไม่เชี่ยวชาญในการประมวลผลเสียงในภาษาสเปน ซึ่งเป็นภาษาที่ไม่คุ้นเคย

ในขณะที่ทารกจากครอบครัวที่พูดสองภาษามีความเชี่ยวชาญในการประมวลผลเสียงทั้งภาษาสเปนและภาษาอังกฤษ

ผลการวิจัยดังกล่าวแสดงให้เห็นว่า สมองของทารก รับรู้ภาษาใดๆ ก็ตามที่พวกเขาได้ยินจากผู้เลี้ยงดู สมองของทารกที่คุ้นเคยเพียงภาษาเดียวสมองเดียวจะประมวลผลเสียงได้เพียงหนึ่งภาษา ในขณะที่สมองของทารกที่คุ้นเคยสองภาษาจะสามารถประมวลผลได้ทั้งสองภาษา

ให้ลูกเรียนรู้สองภาษาดีหรือไม่?

พ่อแม่เด็กสองภาษามักกังวลว่าลูกของตนจะเรียนรู้ไม่เร็วพอ

แต่นักวิจัยพบว่า สมองทารกสองภาษามีการตอบสนองต่อภาษาอังกฤษเท่ากับทารกภาษาเดียว ดังนั้นทารกสองภาษาจึงเรียนรู้ภาษาอังกฤษได้เท่ากับทารกภาษาเดียว

พ่อแม่ของเด็กสองภาษายังเป็นกังวลว่าลูกของคนจะไม่รู้จักคำศัพท์มากเท่าทารกภาษาเดียว

ความกังวลนี้มีส่วนถูก เนื่องจากทารกสองภาษาต้องแบ่งเวลาระหว่างสองภาษา ทำให้ได้ยินคำโดยเฉลี่ยในแต่ละภาษาน้อยกว่า อย่างไรก็ตามการศึกษาชี้ว่า เด็กสองภาษาไม่ได้ด้อยกว่า เมื่อพิจารณาจากทั้งสองภาษา คลังคำของเด็กสองภาษาเมื่อรวมกันทั้งสองภาษาแล้วพอๆ หรือดีกว่าคลังคำของเด็กภาษาเดียวด้วยซ้ำ

อีกข้อกังวลหนึ่ง คือ การเรียนรู้สองภาษาทำให้เกิดความสับสน และอาจเกิดการผสมสองภาษาเข้าไปในคำเดียว ยกตัวอย่างเช่น เด็กอายุ 4 ขวบที่พูดได้ทั้งภาษาอังกฤษ ภาษาสเปน และภาษาสโลวีเนีย ใช้คำลงท้ายแบบสโลวีเนียในคำภาษาสเปนและภาษาอังกฤษ

ที่เป็นเช่นนี้ งานวิจัยระบุว่า เป็นเพราะผู้ใหญ่สองภาษารอบตัวเด็กพูดแบบนั้น เด็กจึงเกิดการเรียนรู้ ไม่ได้เกิดจากความไม่ตั้งใจของเด็กแต่อย่างใด

เด็กสองภาษายังสามารถยืมคำจากอีกภาษาหนึ่งมาใช้ได้ทันทีเมื่อเขานึกคำในภาษาหนึ่งไม่ออก แม้แต่เด็ก 2 ขวบก็สามารถปรับภาษาให้เหมาะกับคู่สนทนาได้

นักวิจัยชี้ว่า การเปลี่ยนภาษาเป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาภาษาปกติของเด็กสองภาษา และอาจเป็นจุดเริ่มต้นที่เรียกว่า “ความได้เปรียบของเด็กสองภาษา”

ข้อได้เปรียบของเด็กสองภาษา

เด็กเล็กๆ ไม่ว่าชาติใดล้วนแต่มีความสามารถในการเรียนรู้สองภาษาไปพร้อม ๆ กัน และความจริงในหลายประเทศทั่วโลก การพูดได้สองภาษายังถือเป็นบรรทัดฐานอีกด้วย

ความสามารถในการเปลี่ยนภาษาทำให้เกิดความได้เปรียบทางสติปัญญาหลายอย่าง งานวิจัยพบว่าผู้ใหญ่และเด็กสองภาษามีการทำงานของสมองที่ดีกว่า นั่นคือ สามารถเปลี่ยนความสนใจ สลับไปมาระหว่างงานหลายอย่างได้ และแก้ปัญหาได้ง่ายกว่า

นอกจากนี้ยังพบว่า เด็กสองภาษามีความสามารถในคิดและทำความเข้าใจกฎเกณฑ์ของภาษา ทำให้เด็กสองภาษาสามารถเรียนรู้ภาษาที่สามได้ง่ายขึ้น

บทความจากพันธมิตร
สถาบันอาทิตย์ อุไรรัตน์ ร่วมกับแสนสิริ สร้างมิติใหม่ให้วงการศึกษาไทย เชื่อมโยงนักเรียนสู่โลกการทำงานจริง
สถาบันอาทิตย์ อุไรรัตน์ ร่วมกับแสนสิริ สร้างมิติใหม่ให้วงการศึกษาไทย เชื่อมโยงนักเรียนสู่โลกการทำงานจริง
เตรียมตัวลูกอย่างไรให้ "สอบเข้าสาธิต ป.1" ได้แบบไม่เครียด?
เตรียมตัวลูกอย่างไรให้ "สอบเข้าสาธิต ป.1" ได้แบบไม่เครียด?
Dadi International Kindergarten เรียนรู้สนุก เล่นอย่างสร้างสรรค์ ด้วย 3 ภาษา พร้อมเสริมสร้างทักษะ EF
Dadi International Kindergarten เรียนรู้สนุก เล่นอย่างสร้างสรรค์ ด้วย 3 ภาษา พร้อมเสริมสร้างทักษะ EF
จุฬาฯ คว้าอันดับ 1 มหาวิทยาลัยไทยใน 34 สาขา จาก QS WUR by Subject 2025
จุฬาฯ คว้าอันดับ 1 มหาวิทยาลัยไทยใน 34 สาขา จาก QS WUR by Subject 2025

ดังนั้น หากคุณพ่อคุณแม่ต้องการให้ลูกรู้มากกว่าหนึ่งภาษา ควรเริ่มให้เร็วที่สุด ก่อนที่ลูกจะเริ่มพูดภาษาแรกได้ ซึ่งคุณแม่ได้รู้แล้วว่า การเรียนรู้สองภาษาไม่ได้ทำให้เด็กสับสน ทั้งยังช่วยเพิ่มความสามารถทางสติปัญญาให้กับเด็กอีกด้วยค่ะ

ที่มา qz.com

บทความที่น่าสนใจอื่นๆ

3 เหตุผลหลัก ที่ควรฝึกลูกให้เป็นเด็กสองภาษา

เด็กสองภาษา – ลูกเข้าใจก่อนที่จะพูดหรือไม่

TAP mobile app

 

มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!

Follow us on:
facebook-logo instagram-logo tiktok-logo
img
บทความโดย

สิริลักษณ์ อุทยารัตน์

  • หน้าแรก
  • /
  • การศึกษา
  • /
  • สอนลูกให้เป็นเด็กสองภาษา ควรเริ่มเมื่อไหร่?
แชร์ :
  • ข่าวดี! นักเรียนใช้ Canva ฟรี ทั่วประเทศ! พร้อมฟีเจอร์พรีเมียม 3 ปีเต็ม

    ข่าวดี! นักเรียนใช้ Canva ฟรี ทั่วประเทศ! พร้อมฟีเจอร์พรีเมียม 3 ปีเต็ม

  • 3 เหตุผลที่ เดนมาร์ก "สอนความเห็นอกเห็นใจ" (Empathy) เป็นวิชาบังคับ!

    3 เหตุผลที่ เดนมาร์ก "สอนความเห็นอกเห็นใจ" (Empathy) เป็นวิชาบังคับ!

  • สถาบันอาทิตย์ อุไรรัตน์ ร่วมกับแสนสิริ สร้างมิติใหม่ให้วงการศึกษาไทย เชื่อมโยงนักเรียนสู่โลกการทำงานจริง
    บทความจากพันธมิตร

    สถาบันอาทิตย์ อุไรรัตน์ ร่วมกับแสนสิริ สร้างมิติใหม่ให้วงการศึกษาไทย เชื่อมโยงนักเรียนสู่โลกการทำงานจริง

  • ข่าวดี! นักเรียนใช้ Canva ฟรี ทั่วประเทศ! พร้อมฟีเจอร์พรีเมียม 3 ปีเต็ม

    ข่าวดี! นักเรียนใช้ Canva ฟรี ทั่วประเทศ! พร้อมฟีเจอร์พรีเมียม 3 ปีเต็ม

  • 3 เหตุผลที่ เดนมาร์ก "สอนความเห็นอกเห็นใจ" (Empathy) เป็นวิชาบังคับ!

    3 เหตุผลที่ เดนมาร์ก "สอนความเห็นอกเห็นใจ" (Empathy) เป็นวิชาบังคับ!

  • สถาบันอาทิตย์ อุไรรัตน์ ร่วมกับแสนสิริ สร้างมิติใหม่ให้วงการศึกษาไทย เชื่อมโยงนักเรียนสู่โลกการทำงานจริง
    บทความจากพันธมิตร

    สถาบันอาทิตย์ อุไรรัตน์ ร่วมกับแสนสิริ สร้างมิติใหม่ให้วงการศึกษาไทย เชื่อมโยงนักเรียนสู่โลกการทำงานจริง

ลงทะเบียนรับคำแนะนำเรื่องการตั้งครรภ์พัฒนาการลูกในท้องได้ที่นี่
  • เตรียมตัวเป็นผู้ปกครอง
  • พัฒนาการลูก
  • ชีวิตครอบครัว
  • ระยะการตั้งครรภ์
  • โภชนาการ
  • ไลฟ์สไตล์
  • TAP สังคมออนไลน์
  • ติดต่อโฆษณา
  • ติดต่อเรา
  • Influencer Marketing (KOL)
  • มาเข้าร่วมกับเรา


  • Singapore flag Singapore
  • Thailand flag Thailand
  • Indonesia flag Indonesia
  • Philippines flag Philippines
  • Malaysia flag Malaysia
  • Vietnam flag Vietnam
© Copyright theAsianparent 2025. All rights reserved
เกี่ยวกับเรา |ทีม|นโยบายความเป็นส่วนตัว |ข้อกำหนดการใช้ |แผนผังเว็บไซต์
  • เครื่องมือ
  • บทความ
  • ฟีด
  • โพล

เราใช้คุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์คอนเทนต์ที่ดีที่สุดให้กับคุณ. เรียนรู้เพิ่มเติมตกลง เข้าใจแล้ว

เราใช้คุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์คอนเทนต์ที่ดีที่สุดให้กับคุณ. เรียนรู้เพิ่มเติมตกลง เข้าใจแล้ว