วิธีเลี้ยงลูกให้เรียนเก่ง แบบญี่ปุ่น
เลี้ยงลูกตั้งแต่เล็กจนโต เปรียบเสมือนการลงทุนรูปแบบหนึ่ง เมื่อพ่อแม่ลงทุนกับลูกแล้วย่อมหวังผลให้ได้รับประโยชน์สูงสุด และคุ้มค่ามากที่สุด แต่จะจัดการอย่างไรนั้น ที่ประเทศญี่ปุ่นมีการศึกษาเรื่องนี้อย่างจริงจัง โดยอาจารย์ Makiko Nakamuro จากมหาวิทยาลัยเคโอ ได้เขียนหนังสือเล่มหนึ่งที่มีชื่อว่า“เศรษฐศาสตร์การศึกษา” หรือ Economics of Education จนกลายเป็นหนังสือที่มียอดขายถล่มทลายของญี่ปุ่นในขณะนี้ วันนี้ทาง TheAsianparent จึงหยิบเอาเรื่องนี้มาเป็นแนวทางสำหรับคุณพ่อคุณแม่ที่มองหา วิธีเลี้ยงลูกให้เรียนเก่ง กันค่ะ
อาจารย์ Nakamuro ได้ออกมานำเสนอเกี่ยวกับทัศนคติ เกี่ยวกับการศึกษาของลูกน้อยที่พ่อแม่มีส่วนเกี่ยวข้อง ซึ่งจากรวบรวมทำการจิวัยส่วนตัว และต่างประเด็น มีประเด็นที่น่าสนใจ ดังต่อไปนี้
1. เด็กที่เล่นกีฬาตั้งแต่เป็นนักเรียน อนาคตจะมีเงินเยอะ
จากการสำรวจข้อมูล พบว่า การที่เด็กนักเรียนได้เข้าร่วมชมรม หรือได้ทำกิจกรรมนอกหลักสูตรช่วงมัธยม จะส่งผลในเด็กมีรายได้ที่ดีในอนาคต เนื่องจากว่าการเล่นกีฬา หรือการทำกิจกรรมต่างๆ ที่ไม่เกี่ยวกับวิชาการเลย จะทำให้เด็กรู้จักความอดทน ความพยายามเอาชนะสิ่งต่างๆ และรู้จักความคุมตัวเองได้ ไม่ใช่แค่ประเทศญี่ปุ่นเท่านั้น ในประเทศนอร์เวย์ก็มีการศึกษาวิจัยเรื่องนี้เหมือนกัน ซึ่งผลการศึกษาก็พบว่า คนที่เล่นกีฬามีรายได้สูงกว่า 4-5% ด้วยเช่นกันค่ะ
วิธีเลี้ยงลูกให้เรียนเก่ง
2. คิดว่าทำแบบนี้ลูกจะเรียนเก่ง แต่ผลการเรียนกลับแย่ลง
ถามคุณพ่อคุณแม่ค่ะว่า ตอนนี้ว่าให้ลูกทำการบ้าน หรืออ่านหนังสือแบบไหน หรือถ้าคิดจะให้ลูกอ่านหนังสือทบทวนความรู้ พ่อแม่จะเลือกวิธีไหน โดยมีตัวเลือก ดังต่อไปนี้
- คอยจับตาดู
- นั่งดูลูกอยู่ข้างๆ
- กำหนดเวลาอ่านหนังสือให้ลูก
- บังคับให้ลูกทำการบ้าน อ่านหนังสือ
เรามาดูเฉลยดีกว่า……
พ่อแม่หลายคนมองว่า การคอยจับตา ควบคุมลูกในอ่านหนังสือ คอยนั่งดูลูกอยู่ข้างๆ ตลอดเวลา กำหนดเวลาให้อ่านหนังสือตามที่พ่อแม่วางไว้ และคอยบังคับให้ลูกท่องหนังสือ ทำการบ้าน จะทำให้ลูกเรียนได้เก่งขึ้น แต่ความจริงแล้วไม่เป็นเช่นนั้น
จากผลสำรวจในประเทศญี่ปุ่น โดยใช้กลุ่มตัวอย่างประมาณ 45,000 คน พบว่า คอยสั่งบังคับให้ลูกท่องหนังสือ ทำการบ้าน ไม่ได้ช่วยให้ผลการเรียนดีขึ้น โดยเฉพาะเด็กผู้หญิง เนื่องจากว่าจะทำให้เด็กเกิดความรู้สึกต่อต้านมากขึ้น จนท้ายที่สุดผลการเรียนก็แย่ลงไปเรื่อยๆ ค่ะ
สำหรับพ่อแม่ที่ให้ลูกทำการบ้านอยู่ในห้องนั่งเล่น หรืออยู่ในสายตาพ่อแม่แบบห่างๆ หรือแบบคอยจับตาดูอยู่ จะทำให้ลูกน้อยมีผลการเรียนได้ดีขึ้นเช่นกัน เพราะเด็กจะรู้สึกว่าพ่อแม่มีความใส่ใจ แต่ไม่ได้จ้ำจี้จ้ำไช หรือเซ้าซี้ให้ลูกทำแบบนี้ ทำแบบนี้ตามที่พ่อแม่ต้องการค่ะ
วิธีที่ดีที่สุด สำหรับพ่อแม่ที่อยากให้ลูกน้อยมีผลการเรียนที่ดี คือ การกำหนดเวลาให้ลูกทำการบ้าน หรือ การท่องหนังสือค่ะ เพราะจะทำให้เด็กรู้จักฝึกความรับผิดชอบตัวเอง และรู้จักวินัยในตัวเอง รู้ว่าในช่วง 1 หรือ 2 ชั่วโมงนี้ ทำการบ้าน หรือท่องหนังสือให้เสร็จ หลังจากนั้น จะสามารถไปเล่นหรือทำอะไรก็ตามใจ
ลี้ยงลูกอย่างไรให้เรียนเก่ง
3. อยากให้ลูกเรียนเก่งๆ ต้องใช้เงินเป็นรางวัล
แนวคิดนี้ เชื่อว่าพ่อแม่หลายคนคงใช้กับลูก หรือคิดว่าจะใช้กับลูกในอนาคต งั้นลองมาเลือกกันดีกว่า ว่าวิธีให้เงินลูกเป็นรางวัลควรเลือกแบบไหน
- ถ้าอ่านหนังสือจบ 1 เล่ม ให้เงิน 200 บาท
- ถ้าสอบได้เกิน 3.5 จะให้เงิน 2,000 บาท
เฉลย….
คำตอบคือ หนังสือจบ 1 เล่ม ให้เงิน 200 บาท เหตุผลเพราะ รางวัลที่ได้จากการที่ลูกสามารถลงมือทำได้เลยตอนนั้น ขณะนั้น จะได้ผลลัพธ์ที่ดีกว่าอีกสิ่งที่ลูกต้องรอ และไม่รู้ว่าตัวเองจะได้หรือเปล่า แต่ถ้าเป็นข้อ 1 เป็นสิ่งที่สามารถเด็กทำได้ในเวลาใกล้ๆ ไม่ใช่ต้องรอกว่าจะเห็นผลในระยะยาวเกินไป ซึ่งพ่อแม่อาจจะใช้วิธีนี้กับลูกน้อยในเรื่องอื่นๆ บ้างก็ได้ค่ะ
4. ชมลูกแบบไหนดีที่สุด
เมื่อลูกเรียนหนังสือได้คะแนนดี ได้อันดับที่ดีในชั้น หรือสามารถสอบแข่งขันชิงรางวัลได้ ปกติแล้ว พ่อแม่จะชมลูกว่าอะไรกันค่ะ “เก่งมากลูก” “ฉลาดมาก” ซึ่งจากผลการศึกษาแนะนำว่า ให้พ่อแม่เปลี่ยนมาชมลูกว่า “พยายามได้ดีมากเลย” “มีความตั้งใจดีมากเลย” จะดีกว่า เพราะอาจารย์ได้ทำการทดสอบเด็กออกเป็น 2 กลุ่ม โดยที่
- ชมว่า “เก่ง ฉลาด”
- ชมว่า “พยายามได้ดี”
ปรากฏว่า กลุ่มที่ชมว่า “เก่ง ฉลาด” มีผลการเรียนแย่ลง เพราะเด็กๆ คิดว่าตัวเองเป็นคนหัวดี มีความสามารถ หรือมีพรสวรรค์ เลยทำให้ขาดความตั้งใจ หรือพยายามที่จะทำให้ดีขึ้น
ในทางตรงข้าม เด็กอีกกลุ่มที่ได้รับคำชมว่า “พยายามได้ดี” เด็กๆ กลับมาผลการเรียนที่ดีขึ้นไปอีก นอกจากนี้อาจารย์ยังเสริมอีกว่า คำที่ห้ามพูดกับลูกเด็ดขาด เมื่อลูกได้คะแนนไม่ดี ช่น “ช่วยไม่ได้ ก็เป็นเด็กผู้หญิงนี่นา เลยไม่เก่งเลข” เพราะจะเป็นการตอกย้ำอคติ ทำให้ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนลดลง
ที่มา: marumura
บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ:
เด็กไทยคิดเองไม่เป็น เพราะบ้านเราไม่ได้สอน หรือไม่เคยสอน Critical Thinking
เปิดประเด็นร้อน โรคไม่อยากล้างจาน โรคใหม่ของเด็กไทย
ฝึกลูกพูด 2 ภาษา อย่างไรให้ได้ดี วิธีสอนลูกพูดภาษาอังกฤษ สไตล์หมอเด็ก
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!