ลูกลำไส้อักเสบ เกือบเน่า ยายเอาน้ำต้มสุกใส่ขวดนมให้ทารก20วันกิน หวิดเสียชีวิต

ลูกลำไส้อักเสบ เกือบเน่า

ลูกลำไส้อักเสบ เกือบเน่า เพราะป้อนน้ำให้ลูกกิน แม่แชร์ประสบการณ์ คนแก่เห็นลูกตัวเหลือง เลยเอาน้ำต้มสุกใส่ขวดนมให้น้องดูดในปริมาณมาก ปรากฏว่าเป็น ลำไส้อักเสบ

คุณแม่ท่านนี้ได้โพสต์ว่า #มาแชร์ประสบการณ์รู้เท่าไม่ถึงการณ์ค่ะ * ขออนุญาตแอดมินค่ะ*

น้องเพิ่งกลับบ้านมาได้ 1 วันหลังจากที่น้องนอนโรงพยาบาลมา 7 วันเต็ม น้องเข้าโรงพยาบาลตอนอายุได้ 20 วัน สาเหตุเพราะถ่ายเหลวเป็นสีเขียว มีมูกเลือดปนเล็กน้อย ถ่ายตลอดเวลาถ่ายบ่อยมาก ถ่ายออกมาคือเป็นสีเขียวเลยไม่มีสีเหลืองผสมมีแต่มูกเลือดผสม ไปโรงพยาบาลน้องนอนรอฟังผลเลือดคืนแรกโดนงดนมสงสารน้องมาก ผลออกมาคือเป็นเพราะให้น้องกินน้ำ ก่อนออกโรงพยาบาลหลังคลอด พยาบาลเคยบอกแม่แล้วว่าไม่ให้กินน้ำจนกว่าจะ 6 เดือน แต่ด้วยความที่น้องตัวเหลือง คนแก่และคนที่บ้านเลยบอกให้กินน้ำเยอะ ๆ ด้วยความที่เป็นลูกคนแรกและเราอายุยังน้อยเลยเชื่อคนที่เค้าผ่านมาก่อน ผลออกมาคือ ลำไส้อักเสบ (#ลำไส้น้องเกือบเน่าเพราะกินน้ำเยอะ #ก่อนหน้านี้ยายเป็นคนเอาน้ำต้มสุกใส่ขวดนมให้น้องดูดในปริมาณมากเลยค่ะ)

น้องนอนให้ยาฆ่าเชื้ออยู่ 7 วัน โดนเจาะเลือดทุกวันสงสารลูกมาก มาแชร์ประสบการณ์เพราะไม่อยากให้แม่ ๆ บ้านอื่นเจอเหตุการณ์เดียวกับเราค่ะ ทางที่ดีเราไม่ควรเชื่อใครมากกว่าหมอเลยค่ะผลออกมา โทษตัวเองเต็ม ๆ แม่บ้านนี้เข็ดไปนานเลยค่ะ ไม่ทำอีกแล้วอะไรที่นอกเหนือคำเตือนหมอ พอเป็นอะไรมาคนรับเต็ม ๆ คือลูกค่ะ ตอนนี้ลูกหายดีแล้วโล่งใจเลยค่ะหลังจากต้องทนทรมานมา 7 วันเต็ม

ทางทีมงานดิเอเชี่ยนพาเร้นท์ ขอให้น้องแข็งแรงขึ้นเร็ว ๆ นะคะ

ทําไมทารกห้ามกินน้ํา

ทําไมทารกห้ามกินน้ํา คำถามที่มักจะได้ยิน ในบ้านที่มีคนเฒ่าคนแก่ เพราะคนโบราณเชื่อกันว่า หากทารกกินน้ำมาก ๆ จะหายจากอาการตัวเหลืองได้

การป้อนน้ำทารก นอกจากจะไม่ทำให้อาการตัวเหลืองหายแล้ว ยังอาจอันตรายต่อตัวทารกมากกว่าที่แม่ ๆ คิด เช่น ลูกน้อยเสี่ยงเสียชีวิตจากภาวะน้ำเป็นพิษ

ป้อนน้ำทารกมาก ๆ ทารกเสี่ยงภาวะน้ำเป็นพิษ

ผลเสียที่รุนแรงสำหรับทารกเมื่อได้รับน้ำมากเกินไป คือ เกิดภาวะน้ำเป็นพิษ (water intoxication) ซึ่งจะพบได้บ่อยในทารกอายุน้อยกว่า 6 เดือน เนื่องจากไตของทารกยังทำงานได้ไม่เต็มที่ จึงไม่สามารถกรองของเหลวได้อย่างรวดเร็ว น้ำจึงไปเจือจางความเข้มข้นของโซเดียม ซึ่งเป็นแร่ธาตุสำคัญในร่างกาย ทำหน้าที่รักษาสมดุลน้ำระหว่างนอกเซลล์และภายในเซลล์ โดยที่เด็กดื่มน้ำปริมาณมากเกินกว่าที่ร่างกายจะปรับสมดุลได้ ส่งผลระดับเกลือโซเดียมต่ำ จนเกิดความผิดปกติของสมดุลสารน้ำในร่างกายทารก น้ำจึงเข้าไปคั่งในเซลล์ทั่วร่างกาย ทำให้เกิดอาการกระตุกหรือชัก สมองบวม ปอดบวม โคม่า และเสียชีวิตได้

ทารก 6 เดือน กินนมแม่ดีที่สุด

มูลนิธิศูนย์นมแม่แห่งประเทศไทยอธิบายว่า จากหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ ลูกน้อยที่กินนมแม่อย่างเดียวใน 6 เดือนแรกจะมีผลดีกับการเติบโตและพัฒนาการของลูก เพราะนมแม่มีคุณค่าและพลังงานที่เหมาะสมกับความต้องการของทารก การกินนมแม่ล้วนในช่วง 6 เดือนแรก ช่วยลดอัตราการเสียชีวิตในทารกจากโรคร้ายต่างๆ เช่น โรคติดเชื้อในทางเดินอาหาร ในทางเดินหายใจ (ปอดบวม) หรือหูอักเสบ ช่วยให้ร่ายกายของทารกฟื้นตัวเร็วเมื่อเจ็บป่วย และยังช่วยแม่คุมกำเนิดโดยธรรมชาติด้วย

นอกจากนี้ การป้อนน้ำทารกยังทำให้ทารกอิ่มเร็ว แทนที่จะได้รับสารอาหารต่างๆ จากนมแม่ หากป้อนน้ำลูกเป็นประจำ อาจทำให้ลูกน้ำหนักขึ้นช้า กินนมได้น้อยลง 11% สำหรับคุณแม่ให้นม เมื่อลูกอิ่มน้ำก็จะดูดนมน้อยลง ส่งผลต่อการผลิตน้ำนมของคุณแม่ ทำให้นมแม่ลดลงอีกด้วย

ภาวะตัวเหลืองในทารกแรกเกิด

รศ. พญ. รวีรัตน์ สิชฌรังษี กุมารแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคภูมิแพ้และภูมิคุ้มกัน ระบุว่า ภาวะตัวเหลืองในทารกแรกเกิด เกิดขึ้นจากการแตกของเม็ดเลือดแดง ทำให้เกิดสารสีเหลืองที่เรียกว่า “บิลิรูบิน” สารนี้จะอยู่ในกระแสเลือด ร่างกายต้องกำจัดออกทางตับ โดยเอนไซน์ในตับจะช่วยเปลี่ยนแปลงก่อนที่จะส่งต่อไปยังลำไส้ และขับถ่ายสารเหลืองออกมาทางอุจจาระมากที่สุด

ดังนั้นหากมีโรค หรือ ความผิดปกติใด ๆ ของร่างกายที่มีผลต่อขั้นตอนเหล่านี้ก็จะส่งผลให้ทารกตัวเหลืองมากกว่าปกตินั่นเองค่ะ

สาเหตุภาวะตัวเหลืองในทารกแรกเกิดที่พบบ่อย และมักไม่เป็นอันตรายในทารกแรกเกิด มีสาเหตุจาก ภาวะเม็ดเลือดแดงแตกปกติในเด็กทารกแรกเกิด เมื่อเม็ดเลือดแดงแตกออก ก็จะมีสารเหลืองออกมาด้วย และเนื่องจากเด็กแรกเกิดมีเม็ดเลือดแดงมากกว่าผู้ใหญ่ อีกทั้งเม็ดเลือดแดงในเด็กมีอายุสั้น และยังมีเม็ดเลือดแดงที่สร้างไม่สมบูรณ์ปริมาณมากเมื่อเทียบกับผู้ใหญ่ อีกทั้งการทำงานของตับเด็กแรกเกิดก็ยังไม่สมบูรณ์ จึงกำจัดสารเหลืองได้ช้า ทำให้เกิดภาวะตัวเหลืองแบบปกติ

ซึ่งภาวะตัวเหลืองในทารกแรกเกิดนี้ พบได้ในทารกแรกเกิดเกือบทุกคน ส่งผลให้ให้ทารกตัวเหลืองเล็กน้อย เมื่ออายุ 3-5 วัน จากนั้นจะค่อย ๆ เหลืองน้อยลงจนหายไปได้เอง