10 ปัจจัยเสี่ยง ภาวะสูญเสียการได้ยินของทารกแรกเกิด พ่อแม่ไม่ควรละเลย

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

ภาวะสูญเสียการได้ยินของทารกแรกเกิด คือมีลักษณะประสาทหูพิการสองข้างระดับรุนแรงตั้งแต่แรกเกิด เมื่อโตขึ้นจะส่งผลให้เป็นใบ้ได้ ซึ่งจะทำให้เด็กมีความบกพร่องทางด้านการสื่อสาร อาจจะพูดได้ช้ากว่าเด็กปกติ ทำให้กลายเป็นเด็กด้อยโอกาสทางสังคม ทางการศึกษา และการประกอบอาชีพ ส่งผลให้เกิดปัญหาในครอบครัวขึ้น แต่มีหลักฐานในต่างประเทศพบว่า หากสามารถให้การวินิจฉัยภาวะสูญเสียการได้ยินในเด็กทารกแรกเกิดได้ในระยะแรกก่อนอายุ 3 เดือน และทำการรักษาฟื้นฟูก่อนอายุ 6 เดือน จะทำให้สมรรถภาพในด้านการฟังและการพูดมีการพัฒนาได้ใกล้เคียงเด็กปกติ

 

10 ปัจจัยเสี่ยง ภาวะสูญเสียการได้ยินของทารกแรกเกิด

อุบัติการณ์ที่พบในประเทศไทย มีรายงานพบอัตราการเกิดภาวะสูญเสียการได้ยิน 1.7 รายต่อ 1,000 รายของทารกที่เกิดใหม่ต่อปี ปัจจัยเสี่ยงที่อาจเกิดภาวะนี้ขึ้นในทารกแรกเกิดถึง 2 ขวบ ได้แก่

  1. พ่อแม่หรือญาติใกล้ชิดเป็นโรคประสาทหูพิการ เป็นใบ้ตั้งแต่กำเนิดหรือตั้งแต่วัยเด็กเล็ก
  2. เกิดภาวะทารกติดเชื้อในครรภ์ หรือมารดาติดเชื้อขณะตั้งครรภ์
  3. ในขณะตั้งครรภ์แม่ได้รับยาหรือสารที่เป็นพิษ ซึ่งมีผลกระทบต่อลูกในท้องหรือขณะคลอด
  4. ทาแรกเกิดมีความผิดปกติของรูปใบหน้า ศีรษะ รวมทั้งความผิดปกติของรูปร่างใบหู และช่องหู
  5. มีการเจ็บป่วยหรือภาวะที่ต้องดูในหอบริบาลวิกฤตนาน 48 ชั่วโมงหรือมากกว่า
  6. มีอาการแสดงที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มโรคที่มีภาวะสูญเสียการได้ยินแบบประสาทหูชั้นในเสีย และหรือทางนำเสียงเสีย
  7. ทารกมีภาวะตัวเหลือง เนื่องจากสารบิลิรูบินในเลือดสูงจนต้องถ่ายเลือด
  8. ตรวจพบการติดเชื้อของทารกหลังคลอด ซึ่งเกี่ยวข้องกับภาวะสูญเสียการได้ยิน รวมทั้งโรคเยื่อหุ้มสมองอักเสบ
  9. มีความผิดปกติด้านการได้ยิน ด้านภาษา การพูดและหรือพัฒนาการล่าช้าในวัยเด็กเล็ก
  10. มีโรคหูน้ำหนวกชนิดน้ำใสที่เกิดซ้ำ หรือปล่อยให้เป็นเรื้อรังนานอย่างน้อย 3 เดือน

บทความที่เกี่ยวข้อง : รีบเช็ก! ปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้ทารกสูญเสียการได้ยินตั้งแต่แรกเกิด!!

 

 

สังเกตพัฒนาการการได้ยิน ภาษา และการพูดของทารก

คุณพ่อคุณแม่สามารถสังเกตพัฒนาการการได้ยิน ภาษา และการพูดของทารกตั้งแต่แรกเกิด – 2 ขวบแรกที่เป็นปกติได้ดังนี้

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

ระยะแรกเกิดถึง 3 เดือน

  • ทารกจะลืมตาตื่นและกะพริบตา หรือสะดุ้ง ตกใจขึ้นได้เมื่อได้ยินเสียงดัง เช่น เสียงแตรรถ หมาเห่า
  • ลูกจะทำท่าคล้ายหยุดฟังเมื่อพ่อแม่คุยกัน หรือหยุดฟังเมื่อพ่อแม่อุ้มและก้มลงคุยใกล้ ๆ

 

ระยะ 3-6 เดือน

  • ทารกสามารถหันศีรษะไปทางที่มาของเสียงด้านข้างใกล้ ๆ ตัวได้ เช่น เสียงพ่อแม่เรียกชื่อ เสียงของเล่นต่าง ๆ
  • สามารถพูดออกเสียงคล้ายพยัญชนะ และสระรวมกัน เช่น “กา-กา” “บา-บา” ซ้ำ ๆ

 

ระยะ 6-9 เดือน

  • ลูกจะหันศีรษะไปมาเพื่อหาเสียงเรียกชื่อ จากทางด้านหลังได้
  • สามารถออกเสียงพยัญชนะและสระได้มากขึ้น โดยทำเสียงติดต่อกันยาว ๆ ได้ 4-6 พยางค์ เช่น “ลา-ลา-ลา-ลา” “บาคาบาคา”
  • จะสนใจฟังและเลียนเสียงต่าง ๆ จากสิ่งแวดล้อม เช่น เสียงหมาเห่า เสียงจิ้งจก ตุ๊กแก

บทความที่เกี่ยวข้อง : “การตรวจคัดกรองการได้ยิน” สิทธิประโยชน์ที่เด็กไทยแรกเกิดทุกคนควรได้รับ

 

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

 

ระยะ 9-12 เดือน

  • ลูกจะก้มศีรษะมองไปยังเสียงที่เกิดข้างตัวที่อยู่ต่ำกว่าระดับหูได้อย่างรวดเร็ว
  • สามารถทำตามคำสั่งแสดงท่าทางได้ถูกต้อง เมื่อพ่อแม่พูดให้ลูกทำ เช่น บ๊ายบาย สวัสดี ขอ
  • เริ่มพูดคำแรกได้เป็นคำ ๆ เช่น “แม่ หม่ำ ไป”

 

ระยะ 12-16 เดือน

  • สามารถหันหาเสียงได้ถูกต้องทุกทิศทาง
  • สามารถมองหาสิ่งของหรือคนที่คุ้นเคยได้ถูกต้อง
  • ลูกสามารถพูดเป็นคำ ๆ ได้อย่างน้อย 10-15 คำ โดยมากจะใช้คำพูดเพื่อเรียกชื่อสิ่งต่าง ๆ ที่เห็น เช่น “หมา แมว” หรือ บอกความต้องการ เช่น “เอา ไป” ได้แล้ว

 

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

ระยะ 18-24 เดือน

  • ลูกสามารถทำตามคำสั่งง่าย ๆ ได้ เมื่อพ่อแม่เรียกชื่อของสิ่งนั้น เช่น ชี้อวัยวะได้อย่างน้อย 2 อย่าง ชี้สิ่งของที่คุ้นเคยได้
  • พูดได้ประมาณ 40-100 คำ และเริ่มพูดเป็นวลีสั้น ๆ เช่น “เอามา”

บทความที่เกี่ยวข้อง : การสูญเสียการได้ยิน ปัญหาเร่งด่วน ที่รับมือได้ตั้งแต่แรกเกิด แต่เด็กไทย อาจได้รู้เมื่อสายเกินไป

 

 

หากพบว่าลูกสูญเสียการได้ยินควรทำอย่างไร

การสูญเสียการได้ยินอย่างถาวร จะไม่สามารถรักษาให้กลับมาเป็นปกติได้ เพราะเป็นความเสียหายที่เกิดจากประสาทหูหรือเซลล์ขนของหูชั้นใน ส่วนใหญ่แล้วการรักษาที่ดีที่สุดคือการใส่เครื่องช่วยฟังอย่างเหมาะสม สำหรับบางรายอาจผ่าตัดประสาทหูเทียม ดังนั้น การตรวจคัดกรองการได้ยินสำหรับทารกแรกเกิด จึงเป็นวิธีที่จะช่วยรักษาในระยะแรกได้ หากแพทย์วินิจฉัยว่าลูกสูญเสียการได้ยิน ก็จะรักษาภายในอายุ 6 เดือน ซึ่งจะช่วยให้ทารกมีพัฒนาการด้านการพูด ภาษา อารมณ์ และสังคมได้อย่างเหมาะสม

 

หากสังเกตอาการและพบว่าลูกไม่มีพัฒนาการตามช่วงวัยดังกล่าวหรือพบความผิดปกติทางการได้ยินตั้งแต่แรกเกิด ควรรีบพามาพบแพทย์เพื่อเริ่มต้นวินิจฉัยและแก้ไขปัญหาตั้งแต่เนิ่น ๆ โดยเร็วนะคะ

 

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :

เคล็ดลับพัฒนาทักษะ การได้ยินของลูก และวิธีเพิ่มทักษะด้านการฟัง

ทารกได้ยินตอนไหน การได้ยินของทารกเริ่มเมื่อไหร่ กระตุ้นการได้ยินอย่างไร

ลูกไม่ค่อยได้ยิน แม่จะรู้ได้อย่างไร วิธีสังเกตพัฒนาการทางการได้ยิน ต้องเช็กตั้งแต่ทารก

ที่มา : intimexchiangmai

บทความโดย

Napatsakorn .R