แม่คุยกับลูกในท้องช่วยลดอาการเครียดได้
แม่คุยกับลูกในท้องช่วยลดอาการเครียดได้ แม่ท้อง เครียด คุยกับลูกในท้อง ช่วยได้! บรรเทาความเครียดง่าย ๆ ดีต่อแม่ท้องและทารกในครรภ์
ผลการศึกษาชี้ แม่คุยกับลูกในท้องช่วยลดอาการเครียดได้
คุยกับลูกในท้องลดความเครียดได้
หากใครที่มองว่า ความเครียด เป็นเรื่องเล็กน้อยที่ไม่นานจะหายไปได้เอง ขอบอกเลยว่า คิดผิด เพราะความเครียดส่งผลต่อร่างกายมากกว่านั้น ยิ่งคนที่เป็นโรคเครียด มีอาการเครียดเรื้อรัง ยิ่งก่อให้เกิดโรคอื่น ๆ ตามมา เริ่มตั้งแต่อาการปวดหัว อารมณ์หงุดหงิด และพัฒนาไปได้ถึงโรคหัวใจขาดเลือด หรือเป็นโรคหัวใจได้เลยทีเดียว
อันตรายจากความเครียดนั้นไม่เป็นผลดีต่อใครเลย แต่จะเป็นผลร้ายสุด ๆ เมื่อคนที่เครียดคือแม่ท้อง เพราะความเครียดนั้นจะส่งผลทั้งแม่และลูกน้อยภายในครรภ์ ซึ่งมีผลต่อการพัฒนาสมองของลูกในท้อง
เมื่อแม่ท้องเกิดความเครียด คอร์ติซอล หรือฮอร์โมนความเครียดจะเพิ่มสูงขึ้น ส่งผลต่อลูกในท้องอย่างแน่นอน โดยเจ้าฮอร์โมนคอร์ติซอล จะส่งความเครียดไปยังลูกในท้อง พูดง่าย ๆ ก็คือ ยามแม่เครียดหรือวิตกกังวล ก็จะทำให้ลูกในท้องเครียดไปด้วย เพราะสายสัมพันธ์ระหว่างแม่และลูกนั้นเชื่อมโยงถึงกัน ไม่ว่าแม่จะรู้สึกอะไร สนุกสนาน เศร้า หรือกลัว ความรู้สึกเหล่านั้นก็จะส่งผ่านจากสายรกสู่ทารกในครรภ์
แม่คุยกับลูกในท้องช่วยลดอาการเครียดได้นะ
ผลการศึกษาพบว่า มีหลายวิธีที่จะช่วยลดความเครียดของแม่ท้อง หนึ่งในนั้นคือ การพูดคุยกับทารกในครรภ์ เริ่มด้วยการทำจิตใจให้สงบ ละทิ้งปัญหาและความเครียดทิ้งไป แล้วเริ่มต้นบทสนทนากับลูกน้อยในท้อง เลือกพูดในสิ่งดีๆ ด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยน เพื่อสานสัมพันธ์ระหว่างแม่และลูก ระหว่างที่แม่พูดกับลูกก็จะเป็นการทบทวนความคิด ปรับเปลี่ยนมุมมองด้วยการเลือกเล่าเรื่องดีๆ แล้วหันมาโฟกัสลูกในท้องที่กำลังจะเกิดขึ้นมา
ทั้งนี้ การพูดคุยกับลูก นอกจากจะช่วยบรรเทาความเครียดของแม่ได้แล้ว ยังช่วยพัฒนาระบบประสาทและสมองที่ควบคุมการได้ยินของลูกน้อยได้ด้วย ซึ่งการที่คุณแม่หาวิธีผ่อนคลายความเครียดบ่อยๆ ร่างกายก็จะหลั่งสารเอนดอร์ฟิน ผ่านสายสะดือส่งต่อถึงลูกน้อย ช่วยให้ลูกมีพัฒนาการที่ดีทั้งสมองและอารมณ์
แม่คุยกับลูกในท้องช่วยลดอาการเครียดได้แต่แม่ก็ยังสงสัยว่า จะคุยกับลูกอย่างไรดี
ลองคุยเรื่องทั่วไป เช่น วันนี้อากาศดีมากเลยลูก แม่ไปเดินดูดอกไม้หน้าบ้านมา มีผีเสื้อสวย ๆ บินมาเกาะด้วยนะลูก
หรือเล่าชีวิตประจำวัน เช่น เมื่อเช้าแม่ไปตลาด ซื้อฝรั่งมาตั้งเยอะ ประโยคง่าย ๆ เหล่านี้ มีผลต่อลูกในท้องนะแม่ เพราะเสียงพูดของคุณแม่ หรือเสียงเพลงที่แม่ชอบร้อง จะช่วยกระตุ้นพัฒนาการทางด้านอารมณ์ความรู้ของทารกน้อยได้ วัดจากอัตราการเต้นของหัวใจที่เต้นเป็นจังหวะช้า ๆ ถี่ ๆ รวมถึงทารกยังสามารถดูดกลืนน้ำคร่ำได้เร็วกว่าปกติอีกด้วย
3 วิธีกระตุ้นพัฒนาการด้านอารมณ์และจิตใจ แม่ไม่เครียด ลูกผ่อนคลาย
นอกจากการที่แม่คุยกับลูกในท้องแล้ว ยังมีวิธีกระตุ้นพัฒนาการด้านอารมณ์และจิตใจ ช่วยลดอาการเครียดได้ ทั้งยังทำให้ลูกในท้อง คลอดออกมาเลี้ยงง่ายอีกด้วย เพียงแค่แม่ทำตามนี้
หายใจลึก ๆ และยิ้มให้กับทุกปัญหา ลดอาการเครียด
ถ้าแม่เครียด ลูกก็เครียด เวลาที่ต้องเผชิญกับปัญหา แม่ควรจัดสมดุลทางอารมณ์ คิดในสิ่งดี ๆ พยายามไม่เครียด เพราะความเครียดส่งผลต่อทารกในครรภ์ เมื่อทารกน้อยคลอดออกมาจะกลายเป็นเด็กโยเยร้องไห้เก่ง และเลี้ยงยาก ลองหายใจลึก ๆ เวลาที่รู้สึกไม่สบายใจ เมื่อคุณแม่ผ่อนคลาย ทารกก็จะสัมผัสได้ถึงความสงบในจิตใจของคุณแม่ รับรู้ได้ถึงความรักของแม่ สมองของลูกจะได้รับการพัฒนา แถมสารเคมีในสมองยังได้รับการพัฒนาขึ้นมา เพื่อปกป้องลูกน้อยจากฮอร์โมนความเครียด และยังช่วยให้ลูกรู้จักการจัดการความเครียดเมื่อโตขึ้น
เล่นสนุกกับลูกลดอาการเครียด
การเล่นเกมกับลูกในท้องช่วยกระตุ้นพัฒนาการได้ เช่น เกมเตะเลยลูก วิธีเล่นคือ เวลาที่ลูกเตะให้คุณแม่สัมผัสตรงบริเวณที่ลูกเตะ แล้วพูดกับลูกว่า “เตะเลยลูก” จากนั้นลองสัมผัสท้องส่วนอื่น ๆ เพื่อให้ลูกในท้องเป็นฝ่ายไล่ตามสัมผัสบ้าง โดยขณะที่สัมผัสท้องก็ให้คุณแม่พูดคำเดิม
แม่ท้องออกกำลังกายเบา ๆ ลดอาการเครียด
การออกกำลังกายเบา ๆ ช่วยให้ลูกในครรภ์อารมณ์สงบและผ่อนคลาย เพราะจะทำให้ออกซิเจนไหลผ่านกระแสเลือดของลูกน้อยได้ดีขึ้น ส่งผลดีต่อการเจริญเติบโตโดยเฉพาะสมอง และหลังออกกำลังกายไประยะหนึ่ง ร่างกายจะหลั่งสารเอ็นดรอฟินที่ช่วยให้คุณแม่และลูกรู้สึกถึงความสงบสุขไปได้อย่างยาวนานต่อเนื่องถึง 8 ชั่วโมง
อย่าลืมนะคะว่าแม่เครียด ลูกก็เครียดไปด้วย แม่ท้องจึงต้องพูดคุยกับทารกในครรภ์บ่อย ๆ เพราะการที่แม่คุยกับลูกในท้องช่วยลดอาการเครียดได้ ดีต่อตัวแม่ท้องเองและลูกในท้องด้วย และควรหาวิธีผ่อนคลายอื่น ๆ เพื่อบรรเทาความเครียด ลูกจะได้ออกมาเป็นเด็กที่สดใสและเลี้ยงง่าย
บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ
5 วิธี ขจัดความเครียดสำหรับแม่ท้อง