ท้องลดก่อนคลอด ท้องลดตอนกี่สัปดาห์ อาการท้องลด เป็นอย่างไร ท้องลดแล้ว ใกล้เข้าห้องคลอดจริงหรือ อายุครรภ์กี่สัปดาห์ถึงจะท้องลด เตรียมตัวคลอดเลยไหม มาไขข้อข้องใจให้คุณแม่เตรียมพร้อมก่อนคลอดอย่างมั่นใจกันค่ะ
ร่างกายคุณแม่ตั้งครรภ์เปลี่ยนไปอย่างไร ตอนท้องลด
มดลูกของคนท้องจะขยายใหญ่ขึ้นอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่เริ่มตั้งครรภ์ จนเมื่ออายุครรภ์ 20 สัปดาห์ หรือ 5 เดือน ยอดมดลูกจะคลำได้ที่ระดับสะดือ พอตั้งท้องได้ประมาณ 32 สัปดาห์ ยอดมดลูกจะอยู่ที่ระดับกึ่งกลางสะดือกับกระดูกลิ้นปี่ จนเมื่อตั้งครรภ์ได้ประมาณ 36 สัปดาห์ หรือ 9 เดือน ยอดมดลูกก็ถึงลิ้นปี่
จนไตรมาสที่สาม เมื่อใกล้ถึงวันคลอด พอตั้งครรภ์ 37 สัปดาห์ไปแล้ว ทารกในครรภ์จะเจริญเติบโตเต็มที่พร้อมออกมาดูโลก โดยศีรษะของทารกจะเคลื่อนลงไปในอุ้งเชิงกราน พร้อมจะคลอดธรรมชาติ ซึ่งท่าคลอดปกติคือทารกท่าหัวหรือท่าศีรษะ ในกรณีที่จะเอาก้นลง ส่วนก้นของลูกก็จะเคลื่อนสู่อุ้งเชิงกราน ทำให้มดลูกส่วนล่างขยายตัวเรียกว่าหัวลงต่ำ
ท้องลดก่อนคลอดกี่สัปดาห์
ท้องลดก่อนคลอด แม่จะท้องลดตอนกี่สัปดาห์
สำหรับอาการท้องลดก่อนคลอดนั้น เกิดในช่วงที่ทารกเคลื่อนลงมาบริเวณอุ้งเชิงกรานเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับท่าคลอด ท้องของแม่จะลดต่ำลงเรียกว่า ท้องลด ส่วนคำถามที่ว่า ท้องลดตอนกี่สัปดาห์ แม่ท้องแรกหรือครรภ์แรกจะเริ่มท้องลดในช่วงอายุครรภ์ประมาณ 37 สัปดาห์เป็นต้นไป
ท้องลดกี่วันคลอด
ท้องลดก่อนคลอด โดยทั่วไปแล้ว อาการท้องลดมักเกิดขึ้นประมาณ 2-4 สัปดาห์ก่อนถึงกำหนดคลอด เนื่องจากทารกในครรภ์เริ่มเคลื่อนศีรษะลงมาในอุ้งเชิงกรานเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการคลอด อย่างไรก็ตาม คุณแม่บางท่านอาจมีอาการท้องลดก่อนคลอดเพียงไม่กี่ชั่วโมง หรือในคุณแม่ที่เคยคลอดบุตรมาแล้ว อาการท้องลดอาจเกิดขึ้นก่อนการเจ็บครรภ์คลอดไม่นานนัก
ท้องไม่ลด คลอดได้ไหม
คุณแม่ที่เคยตั้งครรภ์มาแล้ว จะสังเกตเห็นท้องลดช้ากว่าในท้องแรก ๆ คุณแม่บางคนจวบจนใกล้คลอดแล้วท้องยังไม่ลดเลยก็มี มีคุณแม่จำนวนไม่น้อยที่ไม่รู้สึกว่าท้องลดก่อนคลอดเลย จนกระทั่งถึงระยะเจ็บคลอดก็เป็นได้
ถ้าไม่มีอาการท้องลดเลย ผิดปกติไหม
ไม่ผิดปกติค่ะ คุณแม่บางท่านอาจไม่รู้สึกถึงการเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจน หรือบางทีทารกอาจจะยังไม่เคลื่อนตัวลงต่ำจนกระทั่งเริ่มเจ็บครรภ์คลอดแล้ว ซึ่งก็สามารถคลอดเองตามธรรมชาติได้ปกติค่ะ
วิธีสังเกตอาการ ท้องลดก่อนคลอด
คุณแม่สามารถสังเกตอาการ ท้องลดก่อนคลอด ได้จากการเปลี่ยนแปลงต่างๆ ของร่างกาย ดังนี้ค่ะ
- ท้องลดต่ำลง: สังเกตได้ว่าหน้าท้องส่วนบนยุบลง และยอดมดลูกลดต่ำลงกว่าเดิม
- หายใจสะดวกขึ้น: เมื่อทารกเคลื่อนตัวลงต่ำ ทำให้มีพื้นที่ในช่องท้องส่วนบนมากขึ้น คุณแม่จึงรู้สึกอึดอัดน้อยลงและหายใจได้โล่งขึ้น
- รับประทานอาหารได้มากขึ้น: อาการแน่นท้องหลังรับประทานอาหารจะลดลง
- ปวดหน่วงที่อุ้งเชิงกราน: จะรู้สึกหน่วงๆ บริเวณอุ้งเชิงกรานและหัวหน่าวมากขึ้น
- ปัสสาวะบ่อยขึ้น: เนื่องจากศีรษะของทารกกดทับกระเพาะปัสสาวะ
- ท้องแข็งบ่อยขึ้น: อาจมีอาการท้องเกร็งแข็งบ่อยขึ้น
- อาจมีอาการบวมที่เท้า: และเป็นตะคริวที่ขาบ่อยขึ้น
อาการอื่น ๆ ที่เกิดขึ้นเมื่อท้องลด
การที่ศีรษะของลูกที่อยู่ต่ำในบริเวณอุ้งเชิงกราน จะยิ่งเบียดกระเพาะปัสสาวะของคุณแม่ให้มีพื้นที่น้อยลง ทำให้เก็บปัสสาวะได้น้อยลงอีก คุณแม่จึงต้องเข้าห้องน้ำบ่อยยิ่งขึ้นและจะเจ็บหน่วงในช่องเชิงกรานมากขึ้น เพราะศีรษะของทารกน้อยในครรภ์จะลงไปกดอวัยวะในช่องเชิงกรานทำให้ปวดที่หัวหน่าว และมีอาการปัสสาวะบ่อยขึ้น จะรู้สึกปวดหน่วงแถวบริเวณหัวหน่าวหรือบริเวณช่องคลอด มีอาการเท้าบวม เป็นตะคริวบ่อยขึ้น เนื่องจากศีรษะของทารกและมดลูกกดทับเส้นเลือดดำในอุ้งเชิงกราน ทำให้เลือดไหลกลับจากขาไม่สะดวก
หลังจากท้องลดแล้ว จะรู้สึกว่าลูกดิ้นน้อยลงไหม
นี่เป็นความเข้าใจที่ต้องระวังค่ะ หลังจากท้องลด พื้นที่ในท้องส่วนบนจะน้อยลง ลักษณะการดิ้นอาจเปลี่ยนไป จากที่เคยเตะหรือหมุนตัวแรงๆ อาจกลายเป็นการขยับตัวไปมา หรือกระทุ้งเบาๆ แทน แต่ความถี่ในการดิ้นไม่ควรลดลง คุณแม่ยังคงต้องนับลูกดิ้นตามปกติ หากรู้สึกว่าลูกดิ้นน้อยลงอย่างชัดเจน ควรรีบไปโรงพยาบาลเพื่อตรวจเช็กทันที
ท้องแรกกับท้องหลัง อาการท้องลดต่างกันไหม
ต่างกันค่ะ ในคุณแม่ท้องแรก กล้ามเนื้ออุ้งเชิงกรานยังแข็งแรง ทารกจึงมักจะเคลื่อนตัวลงมาอยู่ ในท่าเตรียมพร้อมล่วงหน้าเป็นสัปดาห์ แต่ในคุณแม่ท้องหลัง กล้ามเนื้อจะยืดหยุ่นกว่า ทำให้ทารกอาจยังลอยอยู่สูงและเคลื่อนตัวลงมาในช่วงที่เริ่มเจ็บครรภ์คลอดแล้ว
ท้องลดแล้วต้องเตรียมตัวอย่างไร
เมื่อท้องลดแล้วให้เตรียมตัวดังนี้ค่ะ
1. เตรียมของให้พร้อม จัดกระเป๋าเตรียมคลอดสำหรับไปโรงพยาบาล เตรียมของใช้แม่และลูกให้ครบ รวมถึงวางแผนการเดินทางและเตรียมเบอร์โทรฉุกเฉินให้พร้อมค่ะ
2. ดูแลตัวเองระหว่างรอ พักผ่อนเยอะๆ นอนเก็บแรงไว้สำหรับวันคลอด เคลื่อนไหวเบาๆ เช่น การเดิน จะช่วยให้คุณแม่สบายตัวขึ้น และกินของย่อยง่ายๆ เพื่อให้มีแรงและไม่แน่นท้องค่ะ
3. สังเกตอาการสำคัญ ถ้ามีอาการต่อไปนี้ให้รีบไปโรงพยาบาลทันที เช่น เจ็บท้องถี่และแรงขึ้นเรื่อยๆ มีมูกเลือดออกทางช่องคลอด มีน้ำใสๆ ไหลออกมาจากช่องคลอด
อาการท้องลดเป็นสัญญาณหนึ่งที่บ่งบอกว่าใกล้ถึงเวลาคลอดแล้ว แต่ไม่ใช่สัญญาณที่บ่งบอกว่าจะคลอดในทันที อย่างไรก็ตาม อีกไม่นานคุณแม่ก็จะได้พบหน้าลูกน้อยแล้ว ขอให้ดูแลตัวเองให้แข็งแรง เพื่อลูกน้อยคลอดออกมาอย่างแข็งแรงและปลอดภัยค่ะ
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
ผักผลไม้วิตามินซีสูง ป้องกันหวัดลูก ดีต่อสุขภาพคนท้อง สร้างเนื้อเยื่อและกระดูกทารกในครรภ์
คนท้องไตรมาสที่3 คนท้องใกล้คลอด อาหารคนท้องไตรมาส3 อาการที่พบบ่อย แม่ท้องไตรมาสสุดท้าย
อาการแพ้ท้อง เป็นยังไง เริ่มแพ้ท้องวีคที่เท่าไหร่ เตรียมตัวอย่างไรไม่ให้แพ้ท้อง
อันตรายหรือไม่ หากลูกแฝดเสียชีวิตในท้อง 1 คน
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!
