ท่าทาง ทารก : เมื่อทารกทำท่าแบบนี้อยากบอกอะไรแม่นะ!!! ท่าทาง ทารกบอกอะไร ภาษาทารก เมื่อทารกทำท่าแบบนี้อยากบอกอะไรแม่นะ
ทำท่าแบบนี้อยากบอกอะไรแม่ ท่าทาง ทารกบอกอะไร
1. เตะขา
ความเป็นไปได้ว่า 1 : ลูกกำลังอยู่ในช่วงเวลาที่สบาย ๆ เป็นเวลาแห่งความสุข เมื่อเขาเหลือบไปเห็นอะไรที่แปลกตาสำหรับเขา เจ้าหนูอาจกำลังคิดว่านั่นคือสิ่งมหัศจรรย์ เช่น เมื่อคุณแม่เปิดก๊อกน้ำ มีน้ำไหลออกมาจากก๊อก การเตะขาของเขาแสดงถึงความน่าตื่นเต้นในแบบของทารกนั่นเอง
สิ่งที่คุณแม่ควรทำ : การเตะขาช่วยเสริมพัฒนาการด้านกล้ามเนื้อของทารกเพื่อเตรียมความพร้อมในการหัดคลานต่อไป ดังนั้น หากคุณแม่เห็นว่า การกระทำอะไรก็ตามที่ทำให้เจ้าหนูรู้สึกตื่นเต้น เช่น ให้ดูน้องแมว น้องหมา เจ้าหนูเตะขาเสียสูงเชียว นั่นแสดงว่าเขากำลังตื่นเต้นสุด ๆ ไปเลยค่ะ
ความเป็นไปได้ 2 : ลูกอยากมีปฏิสัมพันธ์ โดยทารกค้นพบว่า การเตะขาให้กระทบกับขอบเตียงแล้วเกิดเสียงดังเป็นจังหวะ เขาก็จะสนุกกับการทำจังหวะในแบบของทารก หรืออีกอย่างการเตะขาชนกับขอบเตียงทำให้คุณแม่ต้องรีบมาหาเขานั่นเอง แบบนี้เจ้าหนูเรียกร้องความสนใจจากแม่ ก็หนูไม่อยากอยู่ห่างแม่นี่นา !!!
สิ่งที่คุณแม่ควรทำ : จับลูกวางบนตักแล้วร้องเพลงให้ลูกฟัง นอกจากลูกจะได้เตะขาไปตามจังหวะเพลงแล้ว เจ้าหนูยังได้ใกล้ชิดกับคุณพ่อคุณแม่ตามที่ต้องการอีกด้วย สุขสุด ๆ ไปเลย !!!
2. เอามือปิดหูหรือปิดตา
ความเป็นไปได้ 1 : ลูกอยากชวนคุณพ่อคุณแม่เล่นจ๊ะเอ๋นะสิคะ เพราะทารกจะเรียนรู้ได้ไวว่า เกมนี้เล่นยังไงที่สำคัญมันสนุกมากสำหรับหนู โดยเฉพาะเมื่ออายุได้ 8 – 9 เดือน เกมนี้ลูกจะเป็นฝ่ายเริ่มชวนคุณแม่เล่นก่อนด้วยซ้ำ
สิ่งที่คุณแม่ควรทำ : เอาผ้าห่มบาง ๆ มาคลุมศีรษะลูกเพื่อให้ลูกดึงผ้าออก แล้วโผล่หน้ามาหัวเราะเฮฮากับคุณแม่ที่จะรอ “จ๊ะเอ๋” จากนั้นสลับกันบ้างให้คุณแม่เอาผ้ามาคลุมศีรษะตัวเองและให้ลูกเป็นคนดึงผ้าออก พร้อมกับบอก “จ๊ะเอ๋” ลูก รับรองหัวเราะเอิ๊กอ๊ากแน่นอนค่ะ
บทความแนะนำ น่ารัก..คลิปเด็กน้อยเล่นจ๊ะเอ๋กับคุณพ่อ แต่ต้องตกใจเมื่อคุณพ่อทำสิ่งนี้บนใบหน้า !!
ความเป็นไปได้ 2 : ลูกอยากบอกว่า ถึงเวลานอนของหนูแล้วนะ เพราะทารกทำท่านี้ไม่ต่างกับเวลาที่ผู้ใหญ่อย่างเรารู้สึกเพลียหรือเหนื่อยมักจะเอามือลูบหน้าลูบตา
สิ่งที่คุณแม่ควรทำ : ถ้าลูกเริ่มหาวแล้วหรือนั่งเอนไปพิงของเล่น ให้พาลูกเข้านอนค่ะ พร้อมกับอ่านนิทานให้ฟังหรือเปิดเพลงบรรเลงสบาย ๆ ช่วยขับกล่อมให้เจ้าหนูนอนหลับฝันดี
3. เบือนหน้า
ความเป็นไปได้ 1 : ลูกอาจกำลังต้องการให้คุณหันไปดูว่าเกิดอะไรขึ้น หรืออีกเหตุผลนึง คือ เขาต้องการบอกว่าขอหนูเคี้ยวคำนี้ให้หมดก่อนนะ แล้วแม่ค่อยป้อนต่อ
สิ่งที่คุณแม่ควรทำ : ปล่อยให้ลูกสำรวจสิ่งต่าง ๆ รอบตัวสักพักแต่ถ้าลูกยังไม่ยอมหันมาเสียที แบบนี้ต้องเบี่ยงเบนความสนใจให้หันกลับมาแล้วค่ะ
ความเป็นไปได้ 2 : คุณแม่กำลังทำให้เจ้าหนูไม่สบอารมณ์แล้วสิคะ เป็นไปได้ว่าอาจไปรุกล้ำความเป็นส่วนตัว บางทีทารกก็มีโลกส่วนตัวเหมือนกันนะ ประมาณว่า ตอนนี้อยากอยู่คนเดียวค่ะแม่!!!
สิ่งที่คุณแม่ควรทำ : แม้ว่าคุณแม่อยากจะอุ้ม กอดเจ้าหนู แต่ช่วงเวลานี้ปล่อยเขาไปสักพักกับของเล่นชิ้นโปรดที่จดจ่ออยู่ ปล่อยเขาเล่นสัก 10 – 20 นาที เวลานี้คุณแม่จะได้มีเวลาจัดเตรียมหรือทำอะไรตามต้องการแม้จะเป็นช่วงเวลาสั้น ๆ ก็ตาม เดี๋ยวลูกก็ร้องหาแล้วค่ะ
4. เอามือม้วนผม
ความเป็นไปได้ 1 : เจ้าตัวน้อยรู้จักวิธีที่จะทำให้ตัวเองผ่อนคลายแล้วหละ เพราะการทำอะไรซ้ำ ๆ อย่างเอามือจับผมม้วนเล่น จะทำให้ระบบประสาทส่วนกลางของลูกทำงานช้าลง ช่วยให้รู้สึกผ่อนคลายได้
สิ่งที่คุณแม่ควรทำ : หากลูกไม่ถึงกับทึ้งผมตัวเอง ก็ปล่อยเจ้าหนูทำตามสบายเลยค่ะ
ความเป็นไปได้ 2 : ลูกกำลังรู้สึกกังวลกับสิ่งรอบตัว อาจจะเป็นพี่เลี้ยงคนใหม่ แขกแปลกหน้าที่มาเยี่ยมเยียนหรือมารุมล้อมหรือเสียงเจี๊ยวจ๊าวของเด็ก ๆข้างบ้าน
สิ่งที่คุณแม่ควรทำ : ปลอบลูก และบอกว่าไม่เป็นไรแม่อยู่ตรงนี้ใกล้ ๆ หนู เสียงที่อ่อนโยนของคุณแม่จะช่วยให้ลูกคลายความกังวลไปได้ค่ะ
5. ดึงหู
ความเป็นไปได้ 1 : อาการนี้บ่งบอกว่าหนูกลับไม่สบอารมณ์แล้วนะ หรือบ่งบอกว่ากำลังเกิดความไม่พอดีขึ้นกับลูก เช่น นมที่ให้หนูมันร้อนเกินไป หรือหนูมีแก๊สในท้องอยากเรอจังแม่
บทความแนะนำ เทคนิคจับลูกเรอให้ได้ผลชะงัด!!!
สิ่งที่คุณแม่ควรทำ : คุณแม่ต้องหาสาเหตุแล้วแก้ปัญหาไปตามนั้นค่ะ แต่ถ้าอาการยังไม่ดีขึ้น เช่น เรอแล้วแต่ก็ยังไม่สงบลง ยังดึงหูอยู่ คุณแม่ลองสร้างบรรยากาศแห่งความสงบขึ้นมาเองนะคะ อาจจะปิดมู่ลี่หรือปิดโทรทัศน์ หรือพาไปเปลี่ยนบรรยากาศข้างนอกห้องก็จะดีไม่น้อย
ความเป็นไปได้ 2 : ลูกกำลังไม่สบายตัว เช่น ปวดท้อง เจ็บคอ คัดจมูก ฯลฯ แต่แทนที่เจ้าหนูจะจับส่วนนั้น ๆ กลายเป็นไปจับหูแทนเสียนี่
สิ่งที่คุณแม่ควรทำ : สังเกตอาการหรือตรวจหาสาเหตุอื่น ๆ ที่ทำให้ลูกเกิดความไม่สบายตัว หากลูกยังร้องไห้แสดงอาการหงุดหงิดมาก ๆ แล้วยังหาสาเหตุไม่เจอต้องไปพบคุณหมอแล้วค่ะ
6. เหยียดแขน
ความเป็นไปได้ 1 : การเหยียดแขนพร้อมกับกางไม้กางมือเป็นสัญญาณว่า ตอนนี้หนูอารมณ์ดีจังแม่ !!
สิ่งที่คุณแม่ควรทำ : ใช้นาทีทองให้คุ้มค่าค่ะ เช่น เมื่อลูกเคยเบื่อหรืองอแงเมื่อนั่งรถออกไปเลือกซื้อของกับคุณแม่ ตอนนี้อารมณ์ดีก็พาเจ้าหนูออกไปชอปปิ้งได้เลย ลูกจะรู้สึกสนุกมากขึ้นแล้วหละ
ความเป็นไปได้ 2 : ลูกกำลังหัดลุกขึ้นนั่ง การยื่นแขนออกมาเพื่อเป็นการทรงตัวนั่นเอง
สิ่งที่คุณแม่ควรทำ : ให้ความช่วยเหลือเมื่อลูกต้องการ อาจจะเอาหมอนวางไว้รอบ ๆ ตัวลูกจะได้ไม่เกิดอันตราย หากลูกทรงตัวอยู่จะได้ไม่ล้มหัวฟาดพื้น
ท่าทางต่าง ๆ ที่ทารกแสดงออกมานั้น ล้วนแล้วแต่มีสิ่งที่ต้องการบอกกับคุณพ่อคุณแม่ เพราะเจ้าหนูอยากให้คุณพ่อคุณแม่เข้าใจ การสื่อสารโดยใช้ท่าทางเป็นพัฒนาการด้านการสื่อสารของทารก หากได้รับการตอบสนองอย่างถูกต้องและเหมาะสมก็จะต่อยอดให้ทารกเกิดการเรียนรู้ต่อเนื่องต่อไป
ร่วมบอกเล่าและแชร์ประสบการณ์ในช่วงตั้งครรภ์ คลอดบุตร รวมถึงการเลี้ยงดูทารกน้อย เพื่อเป็นประโยชน์ต่อครอบครัวอื่น ๆ กันนะคะ หากมีคำถามหรือข้อสงสัย ทางทีมงานจะหาคำตอบมาให้คุณ
อ้างอิงข้อมูลจาก
หนังสือ คุณพร้อมหรือยังเพื่อลูกรัก แปลโดย ศศิวรรณ
บทความอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง
รู้ใจเบบี๋ง่าย ๆ ด้วย App แปลภาษาทารก