ตำนานแม่นาก คลอดลูกแล้วตาย ทำไมจึงตายตอนคลอดลูก นางนากเสียชีวิตขณะคลอดหรือที่เรียกกันว่า ตายทั้งกลม นั่นเอง
ตามตำนานทั้งจากภาพยนตร์ ละคร และเรื่องเล่าต่าง ๆ นานา ที่เราคุ้นเคยกันดี แต่จะมีใครสักกี่คนที่รู้ว่า แท้จริงแล้วสาเหตุการ คลอดลูกแล้วตาย หรือตายทั้งกลมของ ตำนานแม่นาก นั้นมีสาเหตุจากอะไร และต่อไปนี้คือข้อสันนิษฐานหลากหลายกรณีสาเหตุการตายของแม่ดังนี้ค่ะ
# ลูกในท้องไม่กลับหัว
เด็กในครรภ์ขณะคลอดมักจะมีส่วนนำเป็นหัวเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งเมื่อหัวเด็กคลอดออกมาแล้ว ส่วนอื่น ๆ ของตัวเด็ก ตั้งแต่ คอ ไหล่ ท้อง ก้น และขามักจะคลอดตามมาโดยสะดวก แต่หากเด็กใช้ก้นเป็นส่วนนำในการคลอด ซึ่งถือว่าเป็นการคลอดผิดปกติจากธรรมชาติ จะมีโอกาสเกิดภาวะแทรกซ้อนได้สูงขึ้น เช่น เกิดภาวะสายสะดือย้อยออกมาก่อนที่เด็กจะคลอด โดยทั่วไปสายสะดือมีลักษณะเป็นท่อยาว ๆ ที่มีเส้นเลือดแดง 2 เส้น เส้นเลือดดำ 1 เส้น ที่นำเลือดจากแม่ผ่านรก เพื่อนำเลือดที่มีอาหาร และออกซิเจนไปให้ลูกขณะอยู่ในครรภ์ ถ้าเกิดภาวะสายสะดือย้อย สายสะดือก็อาจะถูกกดทับโดยส่วนต่าง ๆ ของตัวเด็กอาจทำให้เด็กเสียชีวิตได้ในเวลาไม่กี่นาที ซึ่งในปัจจุบันหากเกิดภาวะนี้ จำเป็นต้องรีบช่วยคลอดโดยด่วน ซึ่งส่วนใหญ่ก็คือการผ่าตัดคลอด
หรืออาจเกิดภาวะที่คลอดออกมาแล้วศีรษะติดคาอยู่ในช่องคลอดหลังจากที่ส่วนอื่น ๆ ของเด็กคลอดออกมาหมดแล้ว ซึ่งเพียงไม่กี่นาทีก็ทำให้เด็กเสียชีวิตได้เหมือนกัน แต่ภาวะนี้โดยทั่วไปคุณแม่มักจะไม่ค่อยเป็นอันตรายถึงแก่ชีวิต และมักจะคลอดเองได้ หากแต่ถ้าคลอดยิ่งช้าเท่าไรก็จะเกิดอันตรายกับทารกในครรภ์มากขึ้นเท่านั้น ดังนั้น หากลูกในท้องนางนากไม่กลับหัวจริงก็ไม่น่าจะเป็นเหตุให้นางนากเสียชีวิตได้ แต่ลูกอาจจะเสียชีวิตได้
# ทารกอยู่ในแนวขวางกับความสูงของแม่
เมื่อทารกอยู่ในแนวขวางกับความสูงของแม่แล้วทารกจะใช้ไหล่เป็นส่วนนำในการคลอดแทนการใช้ศีรษะหรือก้น ไหล่ทั้งไหล่มันใหญ่กว่าศีรษะหรือก้นขนาดไหน แต่กรณีที่ 2 นี้ ทารกจะคลอดออกทางช่องไม่ได้เป็นอันขาด ซึ่งถ้าเป็นสมัยนี้ต้องใช้การผ่าตัดคลอดทางหน้าท้อง ถ้าย้อนกลับไปในสมัยที่ยังไม่มีการผ่าตัดคลอด หรือการผ่าตัดคลอดยังมีอันตรายอยู่มากจากภาวะแทรกซ้อน สูติแพทย์จะใช้เครื่องมือ เช่น กรรไกร หรือคีมตัดทารก ซึ่งส่วนใหญ่จะเสียชีวิตไปแล้ว และดึงออกทางช่องคลอด เรียกว่าหัตถการทำลายเด็ก
ปัจจุบันนี้เนื่องจากการผ่าตัดคลอดทางหน้าท้องมีความปลอดภัยสูงมาก จึงทำให้ไม่มีสูติแพทย์คนไหนใช้หัตถการทำลายเด็กแล้ว เพราะว่าเมื่อใช้หัตถการนี้แล้ว ทารกทุกคนจะเสียชีวิตหมด และมีอันตรายต่อช่องคลอดของแม่สูงจากการที่ร่างกายของเด็กโดยเฉพาะกระดูกที่ถูกตัด อาจทิ่มตำช่องคลอดหรือมดลูกทำให้เกิดการฉีกขาด และเสียเลือดได้ และหากรอคลอดทางช่องคลอดโดยไม่ได้ทำหัตถการอะไรเลย ก็อาจเกิดภาวะมดลูกแตก ซึ่งจะทำให้คุณแม่ตกเลือดในช่องคลอด และเสียชีวิตในเวลาต่อมาไม่นาน เนื่องจากเกิดภาวะช็อค นอกจากนี้ภาวะสายสะดือย้อยก็อาจเกิดได้เช่นเดียวกับในกรณีแรก
# ลูกในท้องเอาหัวเป็นส่วนนำ
ทารกที่มีส่วนนำเป็นหัวคลอดหัวได้ทางช่องคลอด แต่ไหล่ของเด็กไม่สามารถคลอดออกมาได้อาจเนื่องจากเด็กมีน้ำหนักมาก ทำให้ไหล่ใหญ่มากกว่าเด็กที่มีน้ำหนักปกติทั่วไป หากเด็กคลอดติดไหล่อยู่ในช่องคลอดเพียงไม่กี่นาทีก็อาจเสียชีวิตได้ ภาวะนี้ส่วนใหญ่ในที่สุดเด็กก็จะคลอดออกทางช่องคลอดได้โดยการใช้หัตถการช่วยหลาย ๆ อย่างร่วมกัน แต่มักใช้เวลาหลาย ๆ นาทีก่อนที่เด็กจะคลอดออกมาได้ และเด็กส่วนใหญ่มักเสียชีวิต แต่แม่มักจะรอดชีวิต ภาวะแทรกซ้อนที่เกิดจากการคลอดติดไหล่ ส่วนใหญ่มักเกิดขึ้นกับลูกมากกว่าแม่ เช่น กระดูกไหปลาร้าหัก เส้นประสาทของแขนเสื่อมหรืออาจเสียชีวิตหากไม่ได้รับการช่วยเหลือไม่ทันท่วงที ส่วนภาวะแทรกซ้อนที่เกิดกับแม่ มักจะพบหลังจากที่เด็กคลอดออกมาหมด เช่น ภาวะตกเลือดหลังคลอดที่มีสาเหตุจากการที่มดลูกหดรัดตัวไม่ดี ภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรงที่สุดที่อาจเกิดแก่แม่คือมดลูกแตก ซึ่งอาจเป็นสาเหตุให้แม่เสียชีวิตได้
# ทารกมีส่วนนำเป็นหัวแต่คลอดไม่ออกเลยแม้กระทั่งศีรษะ
ภาวะนี้เรียกว่าเป็นภาวะศีรษะทารกกับเชิงกรานมารดาไม่ได้สัดส่วนกัน (Cephalo-pelvic disproportion) เกิดจากเชิงกรานเล็กเมื่อเปรียบเทียบกับศีรษะทารก ทำให้ศีรษะทารกไม่สามารถคลอดผ่านช่องเชิงกรานมายังช่องคลอด และปากช่องคลอดได้ ภาวะนี้อาจเกิดได้ในแม่ที่ขนาดมาตรฐานทั่วไป แต่มีลูกที่มีขนาดใหญ่มาก กับในกรณีที่ 2 ที่ทารกอยู่ในแนวขวางกับความสูงของแม่ คืออาจเกิดภาวะมดลูกแตกได้ ซึ่งในกรณีของนางนากก็อาจมีภาวะศีรษะทารกกับเชิงกรานมารดาไม่ได้สัดส่วนก็เป็นได้
# สรุปสาเหตุการตายโดยรวมที่ไม่แน่ชัดของนางนาก
อย่างไรก็ตามตราบจนทุกวันนี้ก็ยังไม่มีหลักฐานที่แน่นอน เมื่อพิจารณาถึงสาเหตุการตายของนางนาก คือ ทารกในครรภ์ตัวใหญ่มากเกิดภาวะศีรษะทารกกับเชิงกรานมารดาไม่ได้สัดส่วน ทำให้ไม่สามารถคลอดผ่านช่องคลอดได้ สุดท้ายเกิดภาวะมดลูกแตก ตกเลือดในช่องท้อง และเสียชีวิตจากภาวะช็อคที่เกิดจากการเสียเลือดในที่สุด
ลูกตายในท้อง คำที่อาจดูแรง แต่ระวังเรื่องเหล่านี้ไว้ก่อนจะดีที่สุด
บทความ : ลูกตายในท้อง คำที่อาจดูแรง แต่ระวังเรื่องเหล่านี้ไว้ก่อนจะดีที่สุด
คำว่าลูกตายในท้อง ในที่นี้หมายถึงการที่ทารกเสียชีวิตในช่วงอายุครรภ์ 22-40 สัปดาห์ รวมถึงทารกที่คลอดออกมาแล้วเสียชีวิตทันทีด้วย
สาเหตุหลัก ทำลูกตายในท้อง
การที่แม่ท้องมีโรคประจำตัว เช่น เบาหวาน โรคความดันโลหิต โรคหัวใจ โรคเอสแอลอี (SLE) ทำให้มีเลือดไปเลี้ยงทารกไม่เพียงพอ อายุมาก อ้วนมาก ดื่มเหล้า สูบบุหรี่ เสพยาเสพติด
ทารกมีความผิดปกติของโครโมโซม มีความพิการติดเชื้อในครรภ์ ทารกเจริญเติบโตช้าในครรภ์ (Intrauterine growth restriction) การขาดออกซิเจนเรื้อรัง เช่น จากรกเสื่อม
สายสะดือ สายสะดือพันกันสายสะดือย้อยหรือโผล่แลบ รกลอกตัวก่อนกำหนด รกเสื่อม
สัญญาณอันตราย ลูกตายในท้อง
- ลูกไม่ดิ้น ไม่มีความเคลื่อนไหวในครรภ์
- คุณแม่รับรู้ได้ถึงความผิดปกติบางอย่าง
- ไม่มีเสียงหัวใจเต้นเมื่อฟังจากเครื่องฟังเสียงหัวใจทารกในครรภ์ เมื่อไปตรวจกับคุณหมอพบว่า ไม่มีการเต้นของหัวใจทารกเมื่อฟังจากเครื่อง CTG (Cardiotocography)
- ไม่มีการเต้นของหัวใจทารกในครรภ์ และไม่มีสัญญาณการเคลื่อนไหวของทารกในครรภ์ เมื่อดูจากการอัลตร้าซาวนด์
หากคุณแม่สังเกตหรือรู้สึกถึงความผิดปกติ อย่าชะล่าใจ ควรรีบไปพบคุณหมอที่คุณแม่ฝากครรภ์โดยเร็วค่ะ เพื่อให้คุณหมอตรวจหาความผิดปกติ และหาวิธีป้องกันหรือแก้ไขที่เหมาะสม เพื่อรักษาทารกไว้ให้ได้นานที่สุด ทั้งนี้คุณแม่ควรปฏิบัติตามคำแนะนำของคุณหมออย่างเคร่งครัดด้วยนะคะ
ท้องแบบไหนเสี่ยงลูกตายในท้อง
- แม่ท้องอายุมาก เนื่องจากสภาพของครรภ์มีความสมบูรณ์ลดลงตามวัย
- แม่ท้องน้ำหนักตัวมาก หรือเป็นโรคอ้วน มีปัญหาเรื่องน้ำหนักเกิน
- แม่ท้องมีโรคประจำตัวในกลุ่มโรคเรื้อรังเช่น เบาหวาน ความดันโลหิต โรคหัวใจ
- แม่ท้องที่ตั้งครรภ์ทารกแฝด
- แม่ท้องที่มีอาการติดสุรา ยาเสพติด
- แม่ท้องที่ได้รับอุบัติเหตุในช่วงตั้งครรภ์
ข้อมูล : www.silpa-mag.com
ภาพประกอบ : https://www.youtube.com/watch?v=2hH-vXNOCJ
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
คนสูบบุหรี่เสี่ยงติดCovid-19 วิจัยเผยคนสูบบุหรี่จัด มีความเสี่ยงตายมากกว่า
คลายกังวล WHO เผยที่ตรวจเจอ ไวรัสในนมแม่ เป็นแค่ชิ้นส่วนไวรัส ความเสี่ยงติดโควิดต่ำ
แท้งลูกเกิดจากอะไร? สัญญาณอะไรบ่งบอกว่าคุณอาจแท้ง อาการเป็นไง?
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!