อันตรายไหมหาก คนท้องเลือดกำเดาไหล แล้วอาการนี้บ่งบอกถึงอะไร คุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์คงสงสัยใช่ไหมว่า การที่เลือดกำเดาของคุณแม่นั้นไหลเป็นเพราะอะไร หรือเป็นได้อย่างไร และมีวิธีรักษา หรือป้องกันไม่ให้เลือดกำเดาไหลอย่างไรบ้าง วันนี้เรามีเกร็ดความรู้เรื่องเลือดกำเดาไหลมาฝากคุณแม่กัน ถ้าพร้อมแล้วมาดูกันเลย
สาเหตุที่ทำให้ คนท้องเลือดกำเดาไหล
การตั้งครรภ์ ถือเป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้หลอดเลือดในจมูกนั้นขยายตัวขึ้นได้ และปริมาณเลือดที่เพิ่มขึ้นนั้นจะช่วยเพิ่มแรงกด และแรงดันต่อหลอดเลือด ซึ่งเป็นส่วนที่มีความบอบบาง และจะทำให้เส้นเลือดนั้นแตกได้ง่าย นั่นจึงเป็นสาเหตุที่ทำให้เลือดกำเดาไหลตอนท้อง ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่ปกติ การที่มีเลือดกำเดาไหลออกมาเพียงเล็กน้อย เป็นครั้งคราวแล้วอีกสักพักก็หยุดไหล ถือว่าเป็นเรื่องที่ไม่อันตรายต่อหญิงตั้งครรภ์
ซึ่งแพทย์หลาย ๆ ท่านบอกว่าการที่เลือดกำเดาไหลในช่วงที่กำลังตั้งครรภ์นั้น ไม่ได้เป็นสัญญาณที่บ่งบอกถึงอันตรายใด ๆ ต่อคุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์ และทารกในครรภ์ และคุณแม่ที่ตั้งครรภ์นั้นจะมีแนวโน้มที่เลือดกำเดาไหลเมื่อเป็นหวัด เป็นไซนัส หรือภูมิแพ้ หากที่อยู่อาศัย สภาพแวดล้อมแห้งเป็นความเสี่ยงที่จะทำให้คุณแม่ที่ตั้งครรภ์นั้นเกิดอาการเลือดกำเดาไหลได้
และทาง รศ.นพ.ปารยะ อาศนะเสน ภาควิชาโสต นาสิก ลาริงซ์วิทยา คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาลได้เขียนบทความเรื่อง โรคจมูก และไซนัสในคุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์ ระบุว่า การเปลี่ยนแปลงทางสรีรวิทยาระหว่างตั้งครรภ์นั้น ทำให้เกิดการอักเสบของเยื่อบุจมูกที่เกิดจากการตั้งครรภ์ (rhinitis of pregnancy) และยังเพิ่มอุบัติการณ์ของการเกิดภาวะเลือดกำเดาไหลได้ และจะทำให้โรคจมูก และไซนัสนั้นแย่ลงได้ง่าย ๆ
บทความที่เกี่ยวข้อง : เลือดกำเดาไหล ทำไงให้หาย วิธีปฐมพยาบาล เลือดกำเดาไหล หยุดเลือด กำเดาไหล ให้เลือดหยุดไหล ได้เร็ว
ป้องกันเลือดกำเดาไหล ขณะตั้งครรภ์ อย่างไรดี
ปัจจัยที่ทำให้เลือดกำเดาไหลตอนตั้งครรภ์นั้น มีหลากหลายสาเหตุ มีทั้งสภาพแวดล้อม สภาพร่างกาย ซึ่งเป็นปัจจัยบางอย่างที่เรานั้นสามารถที่จะควบคุมได้ อย่างเช่น เรื่องสภาพแวดล้อมที่อยู่อาศัยซึ่งไม่ควรให้อากาศที่เราอยู่ร้อน หรืออากาศแห้งจนเกินไป โดยอาจจะใช้เครื่องเพิ่มความเย็น หรือเครื่องเพิ่มความชื้นภายในบ้านจะดี
นอกจากนี้คุณแม่ต้องดูแลร่างกายของตนเองให้มีความชุ่มชื่น ไม่แห้งกร้าน โดยคุณแม่นั้นต้องดื่มน้ำให้มาก ๆ เพื่อที่จะเพิ่มความชุ่มชื่นให้กับร่างกาย หรืออาจจะใช้สารที่ให้ความชุ่มชื่นแก้ผิวบริเวณจมูก เพื่อที่จะป้องกันการแห้งกร้านในจมูกของคุณแม่ ผู้เชี่ยวชาญบางท่านแนะนำให้คุณแม่นั้น ใช้ปิโตรเลียม น้ำมันหล่อลื่นชนิดพิเศษ ที่มีวางจำหน่ายทางร้านขายยา สเปรย์น้ำเกลือ หรือหยดจมูก ก็ช่วยได้เช่นกัน หากคุณแม่เลือกใช้สเปรย์ฉีดยา หรือยาลดอาการคัดจมูก ควรได้รับคำแนะนำจากแพทย์ หรือเภสัชกรก่อน และควรใช้ตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัด เพราะยาเหล่านี้นั้น อาจจะทำให้จมูกของคุณแม่เกิดอาการแห้ง และระคายเคืองได้เช่นกัน
วิธีบรรเทา อาการเลือดกำเดาไหล
- ให้คุณแม่นั้น นั่งลงแล้วก้มหัวมาข้างหน้าเล็กน้อยไม่ต้องต่ำมาก อย่าแหงนหน้าไปข้างหลัง ที่แนะนำไม่ให้คุณแม่เงยหน้าไปข้างหลังก็เพื่อป้องกันไม่ให้เลือดไหลย้อนลงไปในโพรงจมูก ซึ่งจะทำให้สำลัก เวียนหัว หรืออาเจียนได้ รักษาระดับศีรษะให้อยู่สูงกว่าระดับหัวใจ วิธีนี้จะช่วยให้คุณแม่ที่เลือดกำเดาไหลก็จะค่อย ๆ หยุดไหลในที่สุด
- บีบตรงเหนือปลายจมูกเพื่อไม่ให้อากาศนั้นเข้าไป แล้วให้คุณแม่หายในทางปากแทน
- ประคบจมูกด้วยถุงน้ำแข็ง หรือถ้าไม่มีก็ใช้อะไรที่เย็นจัด ๆ ห่อไว้ด้วยผ้าขนหนูประคบไว้ที่จมูก และแก้ม ความเย็นนั้นจะได้แผ่กระจายไปทั่วบริเวณใบหน้า จะทำให้เลือดที่หมุนเวียนไปอุดตันที่จมูกลดจำนวนลง จนเลือดกำเดาหยุดไหลไปเอง แต่ต้องประคบไว้สักพักอย่าพึ่งใจร้อน ถ้าเลือดกำเดายังไม่มีทีท่าว่าจะหยุดไหล แล้วลอกทุกวิธีที่แนะนำมา ให้รีบไปพบแพทย์ทันที
บทความที่เกี่ยวข้อง : ลูกเลือดกำเดาไหลบ่อย ๆ อย่าปล่อยผ่าน เช็กสัญญาณ ก่อนเป็น โรคร้าย
เลือดกำเดาแบบไหน ควรไปพบแพทย์
หากมีเลือดกำเดาไหลบ่อยในช่วงที่กำลังตั้งครรภ์ คุณแม่ควรไปพบแพทย์เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริง ว่าเลือดกำเดาไหลบ่อย ๆ นั้น เกิดจากอะไร เพื่อที่แพทย์นั้นจะได้รักษาคุณแม่ได้อย่างถูกจุด คุณแม่ตั้งครรภ์หลาย ๆ คนอาจจะตั้งคำถามมาว่า แล้วเมื่อไหร่ที่ควรจะไปพบแพทย์ เช่น เลือดยังไม่หยุดไหลหลังจากผ่านไป 30 นาที มีเลือดไหลเป็นจำนวนมาก มีปัญหาในการหายใจเพราะเลือดไหล มึน หรือวิงเวียนศีรษะ ตัวซีด ผิวซีด จึงควรไปพบแพทย์โดยเร็ว
ในกรณีที่เลือดออกปริมาณน้อยนั้น อาจจะใช้ยาหดหลอดเลือดเฉพาะที่ (topical decongestants) หยอด หรือ พ่นจมูก ซึ่งออกฤทธิ์โดยทำให้เส้นเลือดในเยื่อบุจมูกหดตัว หรือทางแพทย์อาจจะใช้สำลีชุบยาหยดหลอดเลือดดังกล่าวใส่เข้าไปในจมูก แล้วให้ผู้ป่วยนั้นบีบไว้ ตัวอย่างเช่น ได้แก่ 1–3% ephedrine หรือ 0.025–0.05% oxymetazoline เป็นต้น ซึ่งสามารถใช้ได้ในหญิงที่กำลังตั้งครรภ์ เพื่อลดภาวะเลือดกำเดาไหลได้ ระดับ C แต่ไม่ควรใช้ต่อเนื่องเกิน 3 – 5 วัน และไม่ควรใช้ในระยะใกล้คลอด
เป็นยังไงกันบ้างคะ กับเกร็ดความรู้เรื่องเลือดกำเดาไหลในคนท้อง ที่เรานำมาฝากคุณแม่ในวันนี้ คุณแม่ตั้งครรภ์หลาย ๆ คนอาจจะตั้งคำถามมาว่า แล้วเมื่อไหร่ที่ควรจะไปพบแพทย์ เช่น เลือดยังไม่หยุดไหลหลังจากผ่านไป 30 นาที แต่ถ้าหากมีเลือดไหลเป็นจำนวนมาก มีปัญหาในการหายใจเพราะเลือดไหล มึน หรือวิงเวียนศีรษะ ตัวซีด ผิวซีด ควรไปพบแพทย์โดยเร็ว เพื่อหาวิธีป้องกันและดูแลสุขภาพของคุณแม่และลูกในท้องต่อไปค่ะ
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :
คนท้อง ขากระตุก ขาอยู่ไม่สุข เกิดจากอะไร เป็นสัญญาณร้ายหรือไม่
คนท้องเลือดออกใต้ผิวหนัง จุดแดง จุดม่วงใต้ผิว มาจากไหน อันตรายมากไหม ?
7 อาการคนท้อง ตั้งครรภ์ไตรมาสสอง ต้องระวัง อาการแบบไหนเสี่ยงครรภ์เป็นพิษ
แชร์ประสบการณ์หรือเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับอาการคนท้องแต่มีเลือดกำเดาไหล ได้ที่นี่!
กำเดาไหล ช่วงตั้งครรภ์ แบบนี้อันตรายไหมคะ