คนท้องดมยาดม อันตรายไหม พิมเสนกินได้ไหม

ในช่วงตั้งครรภ์ไตรมาสแรกอาการแพ้ท้องคลื่นไส้ อาเจียน เวียนศีรษะ แทบไม่เป็นอันทำอะไร อาการแบบนี้ตัวช่วยที่ดีสำหรับคุณแม่คือ ยาดม  สำหรับคุณแม่บางคนคำว่า ยาดม จะใช่ยาหรือไม่นะ พิมเสนกินได้ไหม ยาดมจะเป็นอันตรายต่อลูกในครรภ์หรือเปล่านะ คนท้องดมยาดม อันตรายไหม บทความนี้มีคำตอบ

คนท้องติดยาดม ต้องบอกก่อนว่ายาดมมีหลากหลายชนิด หลากหลายรูปแบบ แตกต่างกันไปตามยี่ห้อ และมักจะเป็นสิ่งที่คนทั่วไป รวมถึงแม่ท้องมีติดกระเป๋าไว้เสมอ เผื่อเวลาวิงเวียนศีรษะ หรือคลื่นไส้  สำหรับบางคนแล้ว ยาดมอาจไม่ได้มีไว้แค่ดมเวลาฉุกเฉิน แต่ยาดมแทบจะติดมืออยู่ตลอดเวลา เรียกว่า ติดยาดม ส่วนประกอบของยาดม

ยาดม เป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์ที่ผลิตขึ้นมาจากการบูร พิมเสน เมนทอล และน้ำมันหอมระเหยชนิดต่าง ๆ เช่น สะระแหน่ น้ำมันเขียว น้ำมันกานพลู หรือน้ำมันยาคาลิปตัส นอกจากนี้ยังมีส่วนผสมของสุมนไพรชนิดอื่น ๆ บางชนิดมีส่วนผสมของน้ำมันงา และน้ำแร่ เพื่อช่วยทำละลายส่วนผสมต่าง ๆ ในยาดม

ส่วนผสมของยาดมที่อาจส่งผลถึงร่างกาย

1. เมนทอล

เมนทอล หรือเกล็ดสะระแหน่ สรรพคุณช่วยขับลม ลดอาการปวด บวม และมีฤทธิ์เป็นยาชาอ่อน ๆ แต่ถ้าหากใช้ในปริมาณมาก ๆ อาจทำให้เกิดการระคายเคืองในระบบหายใจบางรายถึงขั้นปอดอักเสบ

2. การบูร

การบูรเป็นสารที่สกัดมาจากต้นการบูร สรรพคุณดูดซึมทางผิวหนังได้ดี และมีผิวสัมผัสที่เย็นแบบเมนทอล สรรพคุณที่โดดเด่นของ คือ มีฤทธิ์เป็นยาชา และยาต้านจุลินทรีย์อย่างอ่อน ๆ ช่วยแก้อาการเคล็ดขัดยอก และอาการบวม แก้พิษของแมลงสัตว์กัดต่อย รวมถึงกระตุ้นระบบประสาทได้  หากใช้ในปริมาณมากอาจส่งผลเสียต่อระบบทางเดินหายใจ  ปอด ตับได้  จึงต้องใช้อย่างระมัดระวัง

3. พิมเสน

พิมเสนที่มีส่วนผสมในยาดมที่ใช้กันทุกวันนี้ ส่วนใหญ่แล้วเป็นพิมเสนชนิดสังเคราะห์ ซึ่งมีคุณสมบัติแตกต่างจากพิมเสนแท้  มีรสเผ็ด แต่ไม่แสบลิ้น  จริง ๆ แล้วสรรพคุณของพิมเสนไม่ค่อยแตกต่างจากการบูร และเมนทอลนัก ใช้แก้อาการวิงเวียน หรือทาเพื่อแก้เคล็ดขัดยอก อีกทั้งมีฤทธิ์กระตุ้น และช่วยผ่อนคลายระบบประสาท หากใช้มากอาจทำให้ระคายเคืองผิวหนังได้

คนท้องติดยาดม คนท้องดมยาดมได้ไหม  อันตรายไหม ?

คนท้องดมยาดมได้ไหม คนท้องมักจะมีความกังวลใจเกี่ยวกับการใช้ยาชนิดต่าง ๆ เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ทำให้กังวลใจว่า แล้วยาดมที่ใช้อยู่นั้นจะเป็นผลเสีย หรือทำอันตรายกับทารกในครรภ์หรือไม่  คนท้องติดยาดม อันตรายไหม

คำยืนยันจากคุณหมอ  พ.ญ.นุสารี  กิจวิกัย แผนกสูตินรีเวช โรงพยาบาลเทพธารินทร์ กล่าวว่า อาการแพ้ท้องจนทำให้ ต้องสูดยาดมกันบ่อยครั้งนั้น  ยังไม่มีการศึกษาทางการแพทย์ใดที่รายงานว่า ยาดมมีผลต่อทารก เพราะส่วนใหญ่ แล้วส่วนผสมของยาดม เป็นสารที่ไม่มีอันตราย ส่วนใหญ่จะทำมาจากสมุนไพรธรรมชาติ  ได้ทราบแบบนี้แล้ว คุณแม่ก็คลายกังวลได้ว่า การติดยาดมช่วงตั้งครรภ์ ไม่เป็นอันตรายต่อทารก แถมทำให้คุณแม่โล่งจมูก รู้สึกสดชื่น และยังบรรเทาอาการวิงเวียนศีรษะ คัดจมูกได้ด้วย

แม่ท้องรู้สึกคลื่นไส้ อาเจียน วิงเวียน ปกติหรือไม่ ?

อาการคลื่นไส้ วิงเวียนศีรษะ เป็นอาการปกติของแม่ตั้งครรภ์ที่มีอาการแพ้ท้อง ซึ่งไม่เป็นอันตรายกับลูกในครรภ์ แต่จะสร้างความรำคาญใจให้กับชีวิตประจำวันของแม่ ส่วนมากแล้ว อาการวิงเวียน คลื่นไส้อาเจียน จนต้องหยิบยาดมมาดมนั้น จะเกิดขึ้นช่วงแรกของการตั้งครรภ์ ก่อนสัปดาห์ที่ 9 สำหรับแม่บางคน อาการเหล่านี้จะหายไปหลังจากสัปดาห์ที่ 14 ในขณะที่แม่บางคน ก็จะรู้สึกแพ้ท้องไปอีกหลายเดือน หรือจนกระทั่งคลอด

อาการแพ้ท้อง จัดการอย่างไรดี ?

• ดื่มน้ำมาก ๆ ในช่วงเวลาของการตั้งครรภ์ ร่างกายของแม่ท้องจะต้องการน้ำมากขึ้น อาการขาดน้ำจะยิ่งทำให้รู้สึกแพ้ท้องมากขึ้นไปอีก ดื่มน้ำอย่างน้อยวันละ 8 – 12 แก้ว หรือมากเท่าที่จะทำได้ อาจใช้วิธีการจิบบ่อย ๆ ตลอดทั้งวัน ดื่มก่อน และหลังรับประทานอาหารประมาณ 30 นาที แต่ไม่ควรดื่มร่วมกับการรับประทานอาหาร หรือดื่มทันทีหลังการรับประทานอาหาร
• จัดมื้ออาหารใหม่ แบ่งมื้ออาหารเป็นมื้อเล็ก ๆ สัก 6 มื้อต่อวัน เพราะการปล่อยให้ท้องว่าง จะยิ่งทำให้รู้สึกเวียนหัว และคลื่นไส้ได้ อาจจะนำขนมจำพวกถั่ว ขนมที่ทำจากถั่วเหลืองติดตัวไว้ ทานเรื่อย ๆ ควรหลีกเลี่ยงอาหารรสจัด อาหารที่มีไขมันสูง อาหารทอด อาจไปกระตุ้นระบบการย่อยอาหารให้ผิดปกติ และทำให้รู้สึกอยากอาเจียนได้ง่ายขึ้น แม่ท้องควรเปลี่ยนมาเป็นการรับประทานอาหารที่อุดมด้วยโปรตีนสูง และวิตามินบี 6 ที่จะช่วยบรรเทาอาการแพ้ท้องให้น้อยลง
• พักผ่อนให้เพียงพอ การนอนหลับพักผ่อนไม่เพียงพอ จะทำให้คุณแม่มีอาการแพ้ท้อง รู้สึกเวียนหัว และคลื่นไส้  แม่ท้องควรเข้านอนตั้งแต่หัวค่ำ เพื่อให้ร่างกายได้พักผ่อนอย่างเต็มที่
• หลีกเลี่ยงสถานที่แออัด พยายามหลีกเลี่ยงสถานที่ที่แออัด อากาศไม่ถ่ายเท อากาศร้อน เพราะจะทำให้คุณแม่เกิดอาการคลื่นไส้ อาเจียนได้ง่าย ถ้าต้องออกไปข้างนอก ก็อาจจะพกร่ม พัด ยาดม หรือลูกอมติดตัวเอาไว้ และหลีกเลี่ยงแดดจัดจะดีกว่า
• อาหารที่มีประโยชน์ โดยเน้น วิตามินบี 6 แร่ธาตุสังกะสี ซึ่งพบมากในอาหารประเภทผลิตภัณฑ์นม เนื้อสัตว์ ตับ ไข่ ปลา สัตว์น้ำประเภทมีเปลือก พืชประเภทถั่ว ข้าวโพด ผลไม้ ผักสด และอาหารที่มีคาร์โบไฮเดรตสูง เช่น ขนมปัง หรือขนมปังกรอบ เป็นต้น
• พยายามอย่าเครียด คุณแม่ควรหาเวลาผ่อนคลาย อาจจะนอนแช่น้ำอุ่นในอ่าง หรือนอนนิ่ง ๆ ฟังเพลงสบาย ๆ เปิดใจพูดคุยกับสามีถึงเรื่องที่คุณกังวล หรือลองหากิจกรรมทำเพลิน ๆ เช่น อ่านหนังสือ ดูโทรทัศน์ เล่นเกม ปลูกต้นไม้ เป็นต้น
• สวมเสื้อผ้าที่สบายตัว ความรู้สึกไม่สบายตัว ก็อาจเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้คุณแม่รู้สึกอยากจะอาเจียน วิงเวียน หรืออึดอัด ดังนั้น คุณแม่ควรเลือกสวมใส่เสื้อที่สบาย เนื้อผ้าระบายอากาศได้ดี ก็จะช่วยให้รู้สึกดีมากยิ่งขึ้น

แพ้ท้องหนักควรไปโรงพยาบาลไหม ?

หากแม่ท้องมีอาการคลื่นไส้ วิงเวียนหนักมาก หรือแพ้ท้องอย่างรุนแรง การอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิดสักระยะหนึ่ง อาจจะจำเป็น แพทย์จะทำการตรวจเช็กภาวะขาดน้ำ การทำงานของไต และอาจจะให้ยา หรือวิตามิน เพื่อบรรเทาอาการแพ้ท้อง และรับประทานเสริม เพื่อให้มั่นใจได้ว่าสุขภาพครรภ์จะสมบูรณ์

พิมเสนกินได้ไหม

source healthline.com ,  mayoclinic , acog.org

บทความอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง

คุณแม่ป้ายแดงควรรู้ สารพัดอาการแพ้ท้อง และวิธีการรับมืออย่างได้ผล

แพ้ท้อง ทำอย่างไรดี แม่อาเจียนจนเหนื่อย กินอะไรก็ไม่ได้ มีวิธีแก้แพ้ท้องไหม?

การใช้ยาสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์และคุณแม่ให้นม