กิจกรรมพัฒนาสมองเด็ก 1-3 ปี ด้วยพัฒนาการที่รวดเร็ว พ่อแม่ต้องเตรียมความพร้อมในทุกๆ ด้าน แล้วกิจกรรมอะไรบ้าง ที่ช่วยให้ลูกฉลาด มีพัฒนาการทางการเรียนรู้ที่ดี
กิจกรรมพัฒนาสมองเด็ก 1 – 3 ปี
กิจกรรมพัฒนาสมองเด็ก โดยเฉพาะเด็กเล็กวัยเตาะแตะ อายุ 1 -3 ปี เป็นช่วงวัยที่หนูน้อยมีการเจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว เด็กบางคนจะเริ่มแสดงความสามารถให้เห็น อยากรู้อยากเห็น เริ่มเข้าใจกับสภาพแวดล้อมรอบๆ ตัว การเล่นของเด็กๆ วัยนี้จึงมีส่วนในการพัฒนาสมองของลูกน้อยทั้งนั้น แล้วกิจกรรมอะไรบ้างที่ลูกน้อยเล่นแล้วฉลาด ทาง TheAsianParent มีคำตอบค่ะ
เด็กวัยหัดเดิน กิจกรรมพัฒนาสมอง มีพัฒนาการอะไรบ้าง
- เริ่มนับเลขได้จากการฟังเพลง แต่ก็ยังคงไม่เข้าใจความหมายของตัวเลขเท่าไหร่
- เริ่มคุ้นเคยที่จะเล่นในทุกๆ วัน ไม่เว้นแม้กระทั่งก่อนจะนอนก็ตาม
- เด็กเริ่มทำความเข้าใจกับรูปร่างอย่างง่าย และเข้าใจคำบางคำ เช่น เล็ก ใหญ่ เป็นต้น
- มีความอยากรู้อยากเห็นที่เกี่ยวกับสิ่งต่างๆ รอบตัว และมักจะชอบตั้งคำถามว่า “ทำไม”
- สนุกกับการออกสำรวจธรรมชาติ ชื่นชอบกับการสัมผัส จับ ดม สิ่งต่างๆ
- เริ่มที่จะเลียนแบบเสียงสัตว์ หรือแม้กระทั่งท่าทาง การเคลื่อนไหวของสัตว์ที่พบเห็น
บทความที่น่าสนใจ : พัฒนาการของเด็กวัยหัดเดิน ช่วงอายุ 12-18 เดือน มีอะไรบ้าง?
กิจกรรมพัฒนาสมอง ที่ทำให้ลูกฉลาด
1. เสียงเพลง
ดนตรี และเสียงเพลง เป็นสิ่งที่ใครๆ ก็ชอบ ไม่เว้นแม้กระทั่่งเด็ก โดยเฉพาะเด็กวัยนี้ วิธีที่จะกระตุ้นให้ลูกน้อยเกิดการเรียนรู้ได้อย่างสนุกสนานก็คือ เสียงเพลงนั่นเอง และถ้าเพลงนั้นยังมีการสอดแทรกเนื้อหาเกี่ยวกับการนับเลข หรือสอนพยัญชนะ ก-ฮ เด็กๆ ก็จะจำได้ง่าย ถ้าแม่ๆ คนไหนอยากให้ลูกจำได้เร็วขึ้น อาจจะสอนระหว่างที่เด็กทานของหวานไปด้วย เด็กๆ ก็จะมีความสุขในหารเรียนรู้ที่มากขึ้น
2. เล่นของเล่น
สมัยนี้ของเล่นเด็กมีวางขายกันมากมายให้คุณพ่อคุณแม่ได้เลือก แบ่งตามช่วงวัย และพัฒนาการของลูกน้อย รวมถึงวัสดุที่ใช้ด้วย แต่ถ้าอยากให้ลูกมีพัฒนาการที่ดี แนะนำให้เลือกชุดของเล่นที่เด็กๆ สามารถเข้าใจเกี่ยวกับการใช้ชีวิต เช่น การทำอาหาร ร้านขายของ หริือการเลี้ยงสัตว์ การเลี้ยงดูทารก เป็นต้น
3. เล่นเกมปริศนา
เกมที่เหมาะกับการพัฒนาสมองของเด็กๆ จะเป็นเกมปริศนาง่ายๆ ที่เรียกว่า เกมพัซเซิล “(Puzzle)” เพราะลูกน้อยจะได้เรียนรู้เกี่ยวกับขนาด และรูปทรงได้ โดยที่เด็กๆ จะเลือกรูปทรงแล้วนำมาเรียงต่อกันบนกระดาน เกมประเภทนี้ นอกจากจะทำให้เด็กน้อยรู้จักรูปทรงต่างๆ แล้ว ยังเป็นการฝึกสมาธิและการแก้ปัญหาด้วย แน่นอนว่าเป็นการฝึกสมองโดยตรง
บทความที่น่าสนใจ : ฝึกลูกให้เป็น เด็กอัจฉริยะ เล่นเกมยังไง? ให้เกิดประโยชน์
4. ถามตอบกับลูก
เด็กในวัยนี้จะสนุกกับการเรียนรู้จากสิ่งรอบตัว ขี้สงสัย อยากรู้อยากเห็น จึงมักมีคำถามชวนปวดหัวทุกวัน แต่พ่อแม่ห้ามเบื่อเป็นอันเด็ดขาด พยายามตอบลูกเท่าที่จะตอบได้ ถ้าสิ่งไหนไม่รู้จริงๆ ก็บอกลูกว่าพรุ่งนี้ถามใหม่ เดี๋ยวแม่ไปหาคำตอบมาให้ และที่สำคัญลองถามลูกกลับบ้าง เช่น สิ่งนี้คืออะไรรู้ไหม ใช้ยังไง เพื่อให้เด็กรู้จักคิด และหาคำตอบ
5. ใช้ชีวิตกับธรรมชาติ
ให้ลูกๆ ได้สัมผัสกับอากาศ ต้นไม้ ใบหญ้า ได้เห็นของจริง หรือแม้กระทั่งสัตว์น้อยใหญ่ในสวนสัตว์ ต้องให้ลูกเห็นอะไรมากกว่าในหนังสือ โทรทัศน์ หรือโทรศัพท์มือถือ จะได้รู้ว่าเด็ก ๆ มีจินตนาการเหมือนของจริงหรือไม่ อีกอย่างเด็กบางคนก็ชอบเลียนแบบ ช่างสังเกต สิ่งเหล่านี้คือ กระบวนการพัฒนาสมองขั้นพื้นฐาน
6. ดูหนังสือภาพ
เด็กๆ วัยนี้ ยังอ่านหนังสือได้ เเข้าใจความหมายบางคำ การเรียนรู้จึงค่อยๆ เป็นค่อยๆ ไป สิ่งหนึ่งที่ทำให้ลูกรักเกิดความรักในการเรียนรู้ คือ การปลูกฝังการอ่าน โดยเริ่มจากการให้จับ ฟัง และดูหนังสือภาพเหล่านี้นั่นเอง ซึ่งคุณพ่อคุณแม่ควรเลือกหนังสือที่มีสีสันสดใส มีภาพชัดเจน เพื่อให้เด็กๆ เกิดคความสนใจ
7. เล่นจ้องตากับลูก
การเล่นจ้องตากับลูก พ่อแม่สามารถเล่นกับลูกได้ตั้งแต่เล็กๆ เพราะจะช่วยให้เด็กได้เรียนรู้จดจำใบหน้าและเสียงของพ่อแม่ได้ ทั้งยังเป็นการฝึกให้ลูกได้ใช้สายตา และทำให้เค้ามีความสุขได้อย่างง่ายด้วย
8. เล่นกับเพื่อนๆ
สิ่งหนึ่งที่เด็กๆ ทุกคนต้องมีคือ การมีปฎิสัมพันธ์กับคนอื่น ซึ่งเป็นวิธีที่จะทำให้เด็กเกิดการเรียนรู้ การแก้ปัญหาในยามขับขันที่ดีที่สุด เพราะลูกน้อยได้ลองคิด ลองแก้ปัญหาด้วยตัวเอง ถึงแม้ว่าบางคนลูกอาจจะทะเลาะกับคนอื่น หรือโดนเพื่อนแกล้งบ้าง แต่สิ่งเหล่านี้จะทำให้เด็กสามารถอยู่รวมกับคนอืื่นในสังคมได้ และรู้จักแก้ปัญหาด้วยตนเอง ไม่ได้รอแต่พ่อแม่เป็นคนจัดการให้
กิจกรรมทั้งหมดนี้ เด็กๆ จะทำได้มากน้อยขนาดไหนก็ขึ้นอยู่ความพร้อมของเด็กเอง บางคนสนุกกับการดูหนังสือภาพมากกว่าการฟังเพลง บางคนสนุกกับการเล่นดิน เล่นทราย มากกว่าการอ่านหนังสือ ไม่ว่าวิธีไหนก็ช่วยพัฒนาสมองและการเรียนรู้ลูกได้ทั้งนั้น แต่ต้องพยายามให้ลูกได้ฝึกในทุกๆ ด้าน การเข้าใจและการใช้ภาษา การเคลื่อนไหวร่างกาย และด้านสติปัญญา
ที่มา: kidcentraltn
บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ:
พี่อิจฉาน้อง หวงแม่และกลัวถูกแย่งความรัก อาการเหล่านี้จัดการอย่างไร
แม่ปวดหัวหนัก ลูก 3 ขวบ งอแง ลูก 2 ขวบ ก้าวร้าว เอาแต่ใจ ปราบยังไงดีให้อยู่หมัด!
เตรียมพร้อมเข้า ป 1 ระหว่างเด็กญี่ปุ่น VS เด็กไทย ต่างกันอย่างไร