คนท้องกินกระเจี๊ยบเขียวได้ไหม กินได้ตั้งแต่ตั้งครรภ์ยันคลอด

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

กระเจี๊ยบเขียว เป็นผักอีกหนึ่งชนิดที่ใครหลาย ๆ อาจจะยังไม่เคยรู้ว่ามีประโยชน์มาก ๆ สำหรับคนท้อง แต่ที่เราอาจจะคุ้น ๆ ชื่อกันอยู่ก็มีแต่คำว่ากระเจี๊ยบที่มีสีแดง แต่แท้ที่จริงแล้วกระเจี๊ยบนั้นมีอยู่สองชนิด คือ กระเจี๊ยบแดงที่มักจะนำมาต้มเป็นน้ำกระเจี๊ยบ และกระเจี๊ยบเขียวที่เป็นผักที่อยากจะบอกว่ามีคุณค่าและประโยชน์มาก ๆ สำหรับแม่ท้อง แล้วกระเจี๊ยบเขียวสามารถทำเป็นอาหารอะไรได้บ้างที่คุณแม่กินแล้วจะไม่เกิดอาการเบื่อกระเจี๊ยบเขียว มาดูกันเลย

 

กระเจี๊ยบเขียว คืออะไร

กระเจี๊ยบเขียว คือ พืชล้มลุกที่นิยมนำฝักอ่อนมาลวกรับประทานเป็นผัก หรือจะนำเอาไปใช้ประกอบอาหารก็ได้เช่นกัน กระเจี๊ยบเขียวสามารถเติบโตได้เป็นอย่างดีในอากาศที่มีความร้อนชื้น ลำต้นมีความสูงประมาณ 0.5 – 2.4 เมตร ถ้าฝักอ่อนจะเป็นสีเขียว แต่ถ้าฝักแก่จะเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาล ด้วยความที่ฝักอ่อนมีรสชาติหวานกรอบอร่อย จึงนิยมนำมารับประทานเป็นอาหาร ส่วนฝักแก่จะมีเนื้อเหนียว ไม่นิยมนำมารับประทาน

 

สรรพคุณของกระเจี๊ยบเขียว

1. ให้สารอาหารแก่ร่างกาย

กระเจี๊ยบเขียวนั้นให้สารอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายมาก ๆ เมื่อทานทั้งส่วนของฝักและเม็ดพร้อมกัน ซึ่งจะดีต่อสุขภาพและยังได้รับพลังงานที่สูง เพราะได้มีการศึกษาว่าฝักและเมล็ดแห้ง อย่างละ 100 กรัม สามารถให้พลังงานได้สูงถึง 33 กิโลแคลอรี และยังมีสารอาหารมากมาย ไม่ว่าจะเป็น โปรตีน คาร์โบไฮเดต โดยเฉพาะวิตามิน เอ ฟอสฟอรัส โพแทสเซียม ที่สูงเป็นพิเศษ ซึ่งจะช่วยในเรื่องของการบำรุงสายตา ประสาทและสมองให้ทำงานได้ดีมากยิ่งขึ้น รวมทั้งยังมีแคลเซียมที่จะช่วยเสริมในเรื่องของการสร้างกระดูกให้แข็งแรงขึ้นอีกด้วย

2. ช่วยรักษาโรคเบาหวาน

กระเจี๊ยบเขียวในฝักและเมล็ดของกระเจี๊ยบเขียวนั้นมีเส้นใยรวมกันสูงถึง 22 % ซึ่งด้วยคุณสมบัติของเส้นใยที่จะช่วยในเรื่องของการคุมระดับน้ำตาลในเลือดให้มีความคงที่ได้ และยังสามารถรักษาระดับการดูดซึมน้ำตาลจากลำไส้ใหญ่ได้เป็นอย่างดี แล้วยังช่วยในเรื่องของการยับยั้งการดูดซึมคอเลสเตอรอลและช่วยลดระดับไขมันในเลือดได้ดี ดังนั้นกระเจี๊ยบเขียวจึงเป็นผักที่เหมาะมาก ๆ สำหรับผู้ที่ป่วยโรคเบาหวานนั้นเอง

3. ช่วยป้องกันการเกิดแผลในกระเพาะอาหาร

การรับประทานกระเจี๊ยบเขียวดีต่อกระเพาะอาหารและลำไส้เป็นอย่างมาก เนื่องจากกระเจี๊ยบเขียวนั้นมีสารที่เป็นเมือกจำพวกเพกทิน และกัม ที่สามารถช่วยในเรื่องของการเคลือบแผลในกระเพาะอาหารและลำไส้ได้เป็นอย่างดี และยังสามารถช่วยยับยั้งเชื้อแบคทีเรียที่เป็นสาเหตุสำคัญในการเกิดแผลในกระเพาะอาหารได้อีกด้วย

บทความที่น่าสนใจ : คนท้องกินผักอบกรอบได้ไหม มีประโยชน์เท่าผักสดหรือไม่ ?

 

ประโยชน์ของกระเจี๊ยบเขียวต่อคนท้อง

  • ในกระเจี๊ยบเขียวนั้นอุดมไปด้วยสารอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการต่อร่างกายคนท้อง ไม่ว่าจะเป็น คาร์โบไฮเดรต เส้นใย โปรตีน โฟเลต แคลเซียม ฟอสฟอรัส โพแทสเซียม แมกนีเซียม เหล็ก วิตามินเอ วิตามินบี 1 วิตามินบี 2 และวิตามินซี
  • กระเจี๊ยบเขียวนั้นมีโฟเลตสูง การรับประทานกระเจี๊ยบเขียวเป็นประจำจะช่วยเสริมสร้างเม็ดเลือดแดง บำรุงสมอง และช่วยในเรื่องของการเสริมสร้างพัฒนาการของทารกในครรภ์ โดยฝักแห้ง 40 ฝักจะเทียบเท่ากับปริมาณที่แนะนำให้รับประทานในแต่ละวัน
  • แคลเซียมในกระเจี๊ยบเขียวจะช่วยในเรื่องของการบำรุงกระดูก และช่วยเสริมสร้างเซลล์ผิวหนังใหม่ไม่ให้เป็นรอยแผลเป็น และยังช่วยทำให้หน้าท้องไม่ลายง่าย แถมยังทำให้ผิวพรรณผุดผ่องอีกด้วย
  • ในกระเจี๊ยบเขียวมีเพคตินสูงมาก ซึ่งจะช่วยในเรื่องสมานแผลภายในของคุณแม่หลังการคลอดบุตรได้เป็นอย่างดี
  • เมือกในกระเจี๊ยบเขียวนั้นเป็นสารในกลุ่ม polysaccharide ซึ่งจะช่วยทำให้อุจจาระมีความอ่อนตัว นอกจากนี้ยังเต็มไปด้วยเส้นใยอาหารที่จะช่วยในเรื่องของการแก้ปัญหาเรื่องของระบบขับถ่ายได้เป็นอย่างดี และมีระบบดูดซึมสารอาหาร ช่วยลดความเสี่ยงโรคแผลในกระเพาะอาหารอีกด้วย
  • กระเจี๊ยบเขียวสามารถช่วยลดน้ำตาลและไขมันในเลือดได้เป็นอย่างดี และกระเจี๊ยบเขียวยังได้ถูกจัดเป็นผักสุขภาพสำหรับแม่ท้องที่มีภาวะเสี่ยงเป็นโรคเบาหวานอีกด้วย
  • กระเจี๊ยบเขียวสามารถช่วยในเรื่องของการลดคอเลสเตอรอลในร่างกายได้เป็นอย่างดี และสามารถช่วยบรรเทาอาการหวัด รักษาหวัดได้อีกด้วย

 

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

 

กระเจี๊ยบเขียว สามารถทำเมนูอาหารอะไรได้บ้าง

คุณแม่บางคนอาจจะรับประทานกระเจี๊ยบเขียวไม่เป็น แต่สามารถนำฝักอ่อนหรือผลอ่อนมาทำเป็นอาหารได้หลายประเภท ไม่ว่าจะต้มให้สุกเป็นผักจิ้มรับประทาน หรือนำมาเป็นวัตถุดิบทำแกงต่าง ๆ เช่นใส่ลงในแกงส้ม แกงเลียง แกงจืด หรือทำเป็นเมนูผัดผัก เช่น กระเจี๊ยบผัดขิงอ่อน ผัดเมล็ดกระเจี๊ยบเขียว หรือนำมาทำเป็นยำ สลัด ผักทอด หรือซุปก็ได้ นอกจากนี้ยังทำเป็นเครื่องดื่ม เช่น ชากระเจี๊ยบเขียว เป็นต้น เพียงเท่านี้ก็ทำให้คุณแม่ที่อาจไม่เคยทานได้ลองทานกระเจี๊ยบเขียวได้ง่ายขึ้น

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

1. กระเจี๊ยบเขียวผัดไข่

 

 

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

วัตถุดิบ

  • กระเจี๊ยบเขียว
  • กระเทียม
  • ไข่ 3 ฟอง
  • ซอสหอย
  • ซีอิ๊วขาว
  • น้ำตาล
  • น้ำมันพืช

ขั้นตอนการทำ

  • ขั้นตอนแรก : ให้นำกระเจี๊ยบมาล้างทำความสะอาด จากนั้นให้นำมาหั่นให้เป็นชิ้น ๆ แล้วใส่ถ้วยนำไปพักไว้ก่อน
  • ขั้นตอนที่สอง : ให้นำกระเทียมมาโขลกให้ละเอียด แล้วนำไปพักไว้ก่อน
  • ขั้นตอนที่สาม : ให้ตั้งกระทะแล้วเทน้ำมันลงไป แล้วรอให้กระทะร้อน แล้วให้นำไข่มาผัดในกระทะให้สุกดี แล้วใส่น้ำมันเพิ่มลงไปนิดหน่อย แล้วผัดน้ำมันให้เข้ากับไข่ใให้เข้ากันได้เลย
  • ขั้นตอนที่สี่ : ให้นำกระเทียมที่ได้โขลกเตรียมไว้ มาใส่ในกระทะแล้วทำการผัดให้เข้ากันกับไข่ได้เลย
  • ขั้นตอนที่ห้า : ให้นำกระเจี๊ยบเขียวที่ได้หั่นเตรียมไว้มาผัดรวมให้เข้ากับไข่ในกระทะ
  • ขั้นตอนที่หก : จากนั้นให้ใส่ซอสหอย ซีอิ๊วขาว น้ำตาล ใส่ลงไปในกระทะแล้วทำการใช้ไฟแรง จากนั้นให้ทำการผัดทุกอย่างให้เข้ากันเป็นอย่างดีได้เลย
  • ขั้นตอนที่เจ็ด : เมื่อผัดกันจนเข้ากันดีแล้ว ให้นำมาจัดใส่จานพร้อมรับประทานได้เลย

บทความที่น่าสนใจ : เมนูต้นอ่อนทานตะวัน ทำง่ายหลายเมนู ประโยชน์เยอะ เด็กทานได้ ดีต่อสุขภาพ

 

ข้อควรระวังในการรับประทานกระเจี๊ยบเขียว

แม้ว่ากระเจี๊ยบเขียวนั้นจะมีสารอาหารต่าง ๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย แต่อาจจะเป็นอันตรายต่อผู้ที่รับประทานมากจนเกินไปได้ ดังนั้นควรรับประทานกระเจี๊ยบเขียวอย่างระมัดระวังและพอดี โดยเฉพาะการรับประทานกระเจี๊ยบเขียวแบบสด ๆ เพราะกระเจี๊ยบเขียวนั้นมีกลิ่นที่เหม็นเขียวและอาจจะทำให้เกิดอันตรายได้เมื่อรับประทานสด ๆ เช่น อาการเบื่อเมา ดังนั้น คุณควรที่จะต้มหรือลวกกระเจี๊ยบเขียวให้สุกจัดก่อนบริโภคเสียก่อน เพื่อที่จะหลีกเลี่ยงอันตรายที่จะเกิดขึ้นได้

 

บทความอื่นที่น่าสนใจ :

คนท้องกินเผ็ด กินแซ่บ รสจัด ทำให้ลูกออกมาหัวล้านผมบาง จริงหรือ?

ท้องทั้งทีขอสวย เพ้นท์ท้องป่องๆ ให้กลายเป็นลายสวยๆ ครั้งหนึ่งในชีวิตคนท้อง

คนท้องกินมะม่วงสุก จะเป็นอะไรไหม หวานปากอยากกินไม่ไหวแล้ว

ที่มา : 1 , 2 , 3

บทความโดย

Napatsakorn .R