ปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพของเด็กเล็ก ที่พบบ่อยมากที่สุด มีอะไรบ้าง

ปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพของเด็กเล็ก ที่พบบ่อยมากที่สุด มีอะไรบ้าง

ปัญหาที่คุณพ่อคุณแม่มักกังวลมากที่สุดคงหนีไม่พ้นปัญหาสุขภาพ เด็กเล็กมักมีอาการป่วยบ่อยครั้งในรอบ 1 ปี เนื่องด้วยยังเป็นเด็กและยังมีภูมิคั้มกันในร่างกายตัวเองต่ำและ ปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพของเด็กเล็ก ที่พบบ่อย ได้แก่ โรคภูมิแพ้ หวัด เยื่อบุตาอักเสบ โรคระบบทางเดินอาหาร โรคมือเท้าปาก พุพอง เหา คุณสามารถรักษาปัญหาสุขภาพนี้ได้ที่บ้าน แต่ถ้าคุณกังวลให้ปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ การล้างมือเป็นหนึ่งในวิธีที่ดีที่สุดในการป้องกันการแพร่กระจายของการติดเชื้อ

สุขภาพของเด็กในครอบครัวของคุณ

ความเจ็บป่วยที่ไม่รุนแรงนั้นเป็นส่วนหนึ่งของการเติบโตขึ้นมา คุณสามารถทำอะไรได้หลายอย่างเพื่อช่วยให้ลูกหลีกเลี่ยงอาการป่วย แต่ถ้าคุณกังวลเกี่ยวกับสุขภาพของลูกคุณ คุณควรพาเด็ก ๆ ไปพบแพทย์เพื่อเข้ารับการรักษา

การรู้ว่าคุณมีการดูแลรักษาทางการแพทย์ที่ดีสำหรับเด็กเล็กสามารถทำให้จิตใจของคุณสบายใจ สิ่งสำคัญสำหรับคุณและลูกของคุณคือการมีความสัมพันธ์ที่ดีกับแพทย์ที่ไว้ใจได้และรู้สึกมั่นใจเกี่ยวกับคำแนะนำของแพทย์ดังกล่าว

อาจมีบางครั้งที่คุณไม่พอใจกับการวินิจฉัยหรือคำแนะนำของแพทย์ มันก็โอเคที่จะต้องการความเห็นที่สองหรือพิจารณาการเปลี่ยนแพทย์

ปัญหาสุขภาพเด็กทั่วไปเกี่ยวกับปัญหาสุขภาพเด็กที่พบบ่อยที่สุด

• โรคภูมิแพ้ (Allergies)

อาการแพ้จะเกิดขึ้นเมื่อระบบภูมิคุ้มกันของเด็กทำปฏิกิริยากับสารในสภาพแวดล้อมที่ไม่เป็นอันตรายต่อคนทั่วไป เช่น อาหาร แผล แมลง ไรฝุ่น สัตว์ หรือละอองเกสร ปรึกษาแพทย์ถ้าหากคุณคิดว่าลูกของคุณเป็นโรคภูมิแพ้

• โรคหอบหืด (Asthma)

หากลูกของคุณเป็นโรคหอบหืดเธออาจจะมีอาการหายใจดังเสียงฮืด ๆ เมื่อหายใจเข้า พวกเขาอาจจะหายใจไม่ออกปรึกษาแพทย์ถ้าหากคุณคิดว่าลูกของคุณเป็นโรคหอบหืด

• โรคหวัด (Colds)

เด็ก ๆ สามารถเป็นหวัดได้บ่อย ๆ เดือนละครั้ง การรักษาที่ดีที่สุด คือ การพักผ่อน ยาปฏิชีวนะจะไม่ช่วย หากคุณกังวลว่าบางสิ่งที่เกิดขึ้นอาจร้ายแรงกว่าการเป็นหวัดให้ปรึกษาแพทย์ถ้าหากคุณคิดว่าลูกของคุณเป็นหวัด

• ตาแดง (Conjunctivitis)

เยื่อบุตาอักเสบเป็นการติดเชื้อของเยื่อบุตาและเปลือกตา อาการรวมถึงดวงตาสีแดง บวม เจ็บ เยื่อบุตาอักเสบเกิดจากเชื้อแบคทีเรียและไวรัส ซึ่งสามารถติดต่อได้ง่ายมาก พาลูกของคุณไปพบแพทย์เพื่อตรวจดูว่าลูกตาของคุณมีอาการอะไรและมีวิธีการรักษาอย่างไรได้บ้าง

• การแพ้อาหาร (Food intolerances)

การแพ้อาหารเป็นปฏิกิริยาต่ออาหารที่คุณกิน อาการนี้รวมถึง อาการท้องอืด ท้องเสีย และปวดท้อง ซึ่งมักจะชัดเจนขึ้น ให้ปรึกษาแพทย์ถ้าหากคุณคิดว่าลูกของคุณมีอาการแพ้อาหาร

• ภาวะกระเพาะและลำไส้อักเสบ (Gastroenteritis)

เด็กจำนวนมากมีภาวะกระเพาะและลำไส้อักเสบ อาการนี้รวมถึงอาการท้องเสีย เบื่ออาหาร อาเจียนและคลื่นไส้ ปวดท้องและมีไข้ อาการส่วนใหญ่ของโรคกระเพาะและลำไส้อักเสบในเด็กนั้นไม่ร้ายแรงเท่าไหร่นัก แต่สิ่งสำคัญคือต้องแน่ใจว่าลูกของคุณมีน้ำเพียงพอต่อร่างกาย

• โรคมือเท้าปาก (Hand, foot and mouth disease)

โรคมือเท้าและปากทำให้เกิดแผลพุพองเล็ก ๆ ที่อยู่ภายในปาก ที่มือและเท้า นี่ไม่ใช่อาการคัน เป็นการติดเชื้อที่ไม่รุนแรงและไม่เป็นอันตราย

• โรคผิวหนังชนิดเป็นตุ่มพุพอง

แผลพุพองหรือแผลในโรงเรียน มักเริ่มเป็นรอยแดงหรือแผลเล็ก ๆ บริเวณใดก็ตามบนร่างกายเด็ก จุดที่อาจเต็มไปด้วยหนองสีเหลืองหรือสีเขียวออกมาหรือเปลือกโลก แผลพุพองมากคัน หากคุณคิดว่าลูกของคุณมีแผลพุพอง เป็นหนอง ให้พาเธอไปพบแพทย์เพราะเธอต้องการยาปฏิชีวนะ และแผลพุพองนี้สามารถติดต่อได้ง่ายมาก

• เหา (Lice)

แมลงเหล่านี้เกาะติดกับเส้นผมของเด็กและวางไข่ไว้บนเส้นผมของเด็ก ๆ และทำให้เกิดรอยกัดและคันมาก พวกมันจะกัดหนังศีรษะของเด็ก ๆ  คุณสามารถกำจัดเหาได้ด้วยการหวีเสนียดหรือยากำจัดเหาตามคำแนะนำของเภสัชกรและแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ

• พยาธิ

อาการของพยาธินั้นจะรวมถึงอาการคันหรือแดง พยาธิจะไม่เป็นอันตรายต่อตัวเด็กมากนัก ยาเม็ด antiparasitic นั้นง่ายต่อการรักษาที่คุณสามารถซื้อได้จากร้านขายยาทั่วไปในระแวกบ้าน คุณควรรักษาทุกคนในครอบครัวที่เป็นในเวลาเดียวกัน เป็นเรื่องธรรมดามากที่ผู้ติดเชื้อจะกลับมาเป็นอีกโดยเฉพาะอย่างยิ่งในเด็กที่ดูแลเด็กก่อนวัยเรียนหรือโรงเรียน

เคล็ดลับในการดูแลสุขภาพเด็ก

• ตรวจสอบให้แน่ใจว่าการฉีดวัคซีนมีความทันสมัย

การฉีดวัคซีนจะช่วยปกป้องเด็กของคุณจากโรคต่าง ๆ เช่น โรคหัด และโรคคอตีบ ซึ่งอาจร้ายแรงและถึงขั้นคุกคามต่อชีวิต

• ใช้ยาตามที่แนะนำหรือกำหนดไว้เท่านั้น

ให้ยาสำหรับเด็กตามคำแนะนำจากเภสัชกรหรือตามที่แพทย์สั่ง ตรวจสอบคำแนะนำการใช้ยาบนฉลากเพื่อให้แน่ใจว่าเด็ก ๆ สามารถใช้ยาปริมาณที่เหมาะสมกับน้ำหนักหรืออายุของลูกหรือไม่

• รักษาอากาศให้สะอาด

ควันบุหรี่จากผู้ปกครองหรือจากบุคคลรอบข้างของเด็ก ๆ อาจทำให้เกิดความเสี่ยงต่อสุขภาพได้ วิธีที่ดีที่สุดในการปกป้องลูกของคุณคือเลิกสูบบุหรี่ หากมีคนในบ้านของคุณสูบบุหรี่ตรวจสอบให้แน่ใจว่าพวกเขาสูบบุหรี่อยู่ข้างนอกเสมอ และห้ามสูบบุหรี่ในรถที่มีเด็กอยู่ หลีกเลี่ยงการใช้สเปรย์ในครัวเรือน เช่น ยาไล่แมลง หรือผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดเมื่อลูกของคุณอยู่ในบริเวณ

• สุขภาพ 

สุขอนามัยส่วนบุคคลในชีวิตประจำวันเป็นสิ่งสำคัญสำหรับเด็กและทุกคนที่ดูแลเด็ก เป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพที่สุดในการปกป้องตนเองและผู้อื่นจากความเจ็บป่วย

• ให้ลูกของคุณปลอดภัยในแสงแดดและป้องกันการถูกแดดเผา

1. ใส่เสื้อผ้าที่สามารถป้องกันร่างกายได้ดี
2. ทาครีมกันแดดที่มี SPF 30 หรือสูงกว่าเพื่อปกป้องผิว
3. ใส่หมวกเมื่อต้องออกแดด
4. กางร่ม หรือพยายามอยู่ในที่รม

• แปรงสองครั้งต่อวัน

สุขภาพฟันที่ดีนั้นมีความสำคัญต่อสุขภาพโดยทั่วไปของลูก นอกจากนี้ยังเป็นกุญแจสำคัญในการหลีกเลี่ยงฟันผุแปรงฟันของเด็กวันละสองครั้ง เช้าและกลางคืน เพียงใช้น้ำในแปรงสีฟันจนกว่าลูกของคุณจะมีอายุ 18 เดือน (เว้นแต่ทันตแพทย์จะบอกคุณเป็นอย่างอื่น) ในเวลา 18 เดือนคุณสามารถเริ่มใช้ยาสีฟันฟลูออไรด์ในปริมาณน้อย

Source : raisingchildren

บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ

อย่าลืมดูแลสุขภาพจิต ช่วงนี้มีข่าวให้เครียดเยอะมากอย่าลืมหันมาดูแลสุขภาพจิต

14 ประกันสุขภาพเด็ก เปรียบเทียบประกันสุขภาพให้ลูก เลือกตัวไหนดี ตัวไหนคุ้ม

อ่านกันให้ชัด ๆ ทำไม อาการ เด็กติดโควิด (COVID-19) ถึงไม่รุนแรงเท่าผู้ใหญ่