“โยเกิร์ต” นับได้ว่าเป็นอาหารที่มีผลดีต่อสุขภาพของทั้งเด็ก ผู้ใหญ่ และวัยชรา โดยเฉพาะกรณีที่มี ภาวะย่อยแลคโตสบกพร่อง และท้องเสียบ่อย ซึ่งคุณแม่หลายคนอาจสงสัยว่า เด็กเล็กกินโยเกิร์ตได้ไหม ทารก 6 เดือน ที่กำลังจะหย่านมแม่ล่ะ หากมีความเสี่ยงแพ้แลคโตสและท้องเสียง่ายเช่นกัน จะสามารถกินโยเกิร์ตเป็นอาหารเสริมได้หรือเปล่า ให้ลูกน้อยกินโยเกิร์ตอย่างไรให้ได้ประโยชน์เต็มที่ บทความนี้จะพาไปทำความรู้จักกับอาหารชนิดนี้ให้มากขึ้น พร้อมกับไขข้อข้องใจ เด็กเล็กกินโยเกิร์ตได้ไหม ซึ่งเรามี 6 โยเกิร์ตสำหรับทารก 6 เดือน มาแนะนำด้วยค่ะ
สารบัญ
ทำความรู้จัก โยเกิร์ต ให้มากขึ้น
โยเกิร์ต คือ ผลิตภัณฑ์จากนม ที่ผ่านการหมักโดยใช้แบคทีเรียโพรไบโอติกส์ (Probiotics) กลุ่มที่ผลิตกรดแลคติก (Lactic Acid Bacteria : LAB) ทำให้มีรสเปรี้ยว รวมถึงโปรตีนในน้ำนมเสียสภาพและจับตัวตกตะกอนจนกลายเป็นเนื้อโยเกิร์ตที่มีลักษณะข้นหนืด ซึ่งมีกระบวนการคร่าว ๆ คือ
- นำน้ำนมไปผ่านกระบวนการทำลายจุลินทรีย์ที่ทำให้เกิดโรค เช่น ยีสต์ รา และแบคทีเรียที่ไม่ทนร้อน สาเหตุของอาการท้องเสีย หรือก่อให้เกิดโรคต่าง ๆ ออกไปด้วยวิธีการพาสเจอร์ไรซ์
- จากนั้นใส่หัวเชื้อแบคทีเรีย 2 ชนิด ได้แก่ แล็กโทบาซิลลัส บัลการิคัส และ สเตรพโตค็อกคัส เทอร์โมฟิลัส หมักที่อุณหภูมิ 42-45 องศาเซลเซียส เพื่อให้เชื้อแบคทีเรียเจริญเติบโตเป็นเวลา 4-7 ชั่วโมง
แบคทีเรียทั้ง 2 ชนิดซึ่งเป็น “โพรไบโอติกส์” นี้ หากกินในปริมาณที่พอเหมาะจะเข้าไปอยู่ในระบบทางเดินอาหารของเรา และทำหน้าที่ป้องกันไม่ให้ร่างกายเกิดการติดเชื้อแบคทีเรียที่ก่อโรค
โยเกิร์ตมีกี่ชนิด อะไรบ้าง
ในท้องตลาดบ้านเรานั้นมีโยเกิร์ตหลายยี่ห้อ หลากรูปแบบ มีรสชาติ กลิ่น และเนื้อสัมผัสที่แตกต่างกันไปตามชนิดของนมที่ใช้ ปริมาณแบคทีเรีย รวมถึงส่วนผสมอื่น ๆ เช่น ผลไม้ ธัญพืช สารปรุงแต่งกลิ่นรส และสี โดยสามารถแบ่งโยเกิร์ตได้กว้าง ๆ เป็น 3 ชนิด ได้แก่
- โยเกิร์ตชนิดกวน (stirred yogurt) เช่น โยเกิร์ตผลไม้ ที่มีการนำผลไม้และโยเกิร์ตมาปั่นให้เป็นเนื้อเดียวกันก่อนใส่ลงในบรรจุภัณฑ์
- โยเกิร์ตชนิดคงตัว (set yogurt) เช่น โยเกิร์ตกรีก ที่เกิดจากการกรองและคั้นเอาหางโยเกิร์ต น้ำ และแลคโตสออกไปจนเกือบหมด กลายเป็นเนื้อโยเกิร์ตที่เข้มข้นและแข็งตัว มีรสชาติเปรี้ยวฝาด โปรตีนสูง คาร์โบไฮเดรตต่ำ คุณประโยชน์สูง แต่มีไขมันมากกว่าโยเกิร์ตทั่วไปถึง 3 เท่า และ โยเกิร์ตบัลแกเรีย ที่มักทำจากน้ำนมแกะจึงมีรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ และเกิดจากการบ่มหมักที่ไม่ผ่านการกวน
- โยเกิร์ตชนิดพร้อมดื่ม (drink yogurt) เป็นโยเกิร์ตที่เติมน้ำหรือของเหลวอื่น เช่น น้ำผลไม้ น้ำหวาน ผสมให้เข้ากัน ทำให้มีปริมาณน้ำตาลมากกว่าโยเกิร์ตชนิดอื่น
เด็ก 6 เดือนกินโยเกิร์ตได้ไหม ประโยชน์ของ โยเกิร์ตสำหรับทารก 6 เดือน
จริง ๆ แล้วองค์การอนามัยโลกแนะนำค่ะว่า ลูกน้อยวัยทารกควรกินนมแม่เป็นอาหารหลักให้ครบ 6 เดือน และกินนมแม่ต่อเนื่องควบคู่กับอาหารตามวัยจนถึงอายุ 2 ปี หรือมากกว่านั้นหากเป็นไปได้ แต่อย่างไรก็ตาม คุณแม่หลายคนวางแผนให้ลูกเลิกเต้า หย่านมแม่หลังครบ 6 เดือน แล้วเปลี่ยนไปกินนมชนิดอื่นร่วมกับการกินอาหารเหลว และโยเกิร์ตอาจเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่คุณแม่เล็งไว้
ซึ่งในปัจจุบันต้องบอกว่า เด็กทารก 6 เดือนขึ้นไปสามารถทานโยเกิร์ตเป็นอาหารเสริมได้เช่นเดียวกับการกินนมผงค่ะ เพราะมีประโยชน์ต่อสุขภาพของลูกน้อยหลายประการ ดังนี้
-
ช่วยในการเจริญเติบโต
ในโยเกิร์ตอุดมด้วยโปรตีนเช่นเดียวกับการกินนมวัว ช่วยสร้างและซ่อมแซมเซลล์ในร่างกาย และระบบภูมิคุ้มกัน มีแคลเซียมที่ช่วยเสริมสร้างกระดูกและฟันให้แข็งแรง รวมถึงมีวิตามินบี 12 ที่มีส่วนช่วยในการสร้างเม็ดเลือดแดงด้วย
-
แก้ปัญหาลูกมีภาวะแพ้แลคโตส
ในโยเกิร์ตมีแบคทีเรียที่จะช่วยในการย่อย ทำให้ร่างกายสามารถย่อยแลคโตสในโยเกิร์ตได้ดีกว่าแลคโตสที่พบในในผลิตภัณฑ์อื่น ๆ จากนม ซึ่งมีงานวิจัยเปรียบเทียบระหว่างการกินนม โยเกิร์ตที่ผ่านการพาสเจอไรซ์ และโยเกิร์ตที่ประกอบด้วยจุลินทรีย์มีชีวิต 12 กรัม พบว่า เด็กที่แพ้แลคโตสมีอาการแพ้ลดน้อยลงหลังจากรับประทานโยเกิร์ตที่มีจุลินทรีย์มากกว่ากลุ่มที่ดื่มนม
-
บรรเทาอาการท้องเสีย
จุลินทรีย์โพรไบโอติกส์ในโยเกิร์ตช่วยให้ระบบทางเดินอาหารทำงานได้ดีขึ้น ลดอาการท้องอืด ท้องเฟ้อ ท้องเสียและน้ำหนักลดลง โดยมีการทดลองให้เด็กอายุ 6-24 เดือนที่มีอาการท้องเสียมาน้อยกว่า 4 วัน จำนวน 80 คน แบ่งกลุ่มกินโยเกิร์ต นมวัวพาสเจอไรซ์เพิ่มเติมจากการรักษาตามปกติ ปรากฏว่าโยเกิร์ตมีส่วนช่วยลดความถี่ของการถ่ายท้องและทำให้น้ำหนักของทารกเพิ่มขึ้น
วิธีเลือก โยเกิร์ตสำหรับทารก 6 เดือน
- เลือกชนิดที่ทำจากนมวัวพาสเจอร์ไรส์ เพื่อลดความเสี่ยงในการปนเปื้อนของเชื้อโรค
- เลือกโยเกิร์ตรสชาติธรรมชาติ สูตรปกติ ไม่ต้องเป็นสูตรไขมันต่ำ และไม่ควรมีการเติมน้ำตาล หรือสารปรุงแต่งรสมากเกินไป
- ปราศจากสารเจลาติน ที่อาจทำให้ลูกน้อยเสี่ยงต่อการเกิดอาการแพ้
- อ่านฉลากอย่างละเอียด เพื่อดูส่วนผสมและปริมาณสารอาหารต่าง ๆ ที่จำเป็นต่อร่างกายลูก
- เริ่มต้นให้ลูกน้อยกินโยเกิร์ตในปริมาณน้อย ๆ ก่อน แล้วค่อย ๆ เพิ่มปริมาณขึ้นทีละน้อย โดยผสมกับอาหารอื่น ๆ เช่น กล้วยบด แอปเปิลบด หรือข้าวบด เพื่อเพิ่มรสชาติและความน่าสนใจของอาหาร
- หลีกเลี่ยงการให้ลูกกินโยเกิร์ตเย็นจัด เพื่อป้องกันอาการเจ็บคอ โดยควรนำโยเกิร์ตออกจากตู้เย็นประมาณ 15-20 นาทีก่อนให้ลูกน้อยกิน
ข้อควรระวัง : หากลูกมีภาวะแพ้นมวัว ควรหลีกเลี่ยงการเสริมอาหารทั้งนมวัวและโยเกิร์ตซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่ทำจากนมวัว และควรปรึกษาแพทย์เพื่อรับคำแนะนำในการวางแผนเปลี่ยนนมให้ลูกต่อไปค่ะ
6 โยเกิร์ต Full Fat รสธรรมชาติ สำหรับทารก 6 เดือน
1. โยเกิร์ตเมจิ บัลแกเรีย รสธรรมชาติ
โยเกิร์ตชนิดคงตัว ปราศจากการปรุงแต่งกลิ่น หรือรส ไม่มีสารทำให้คงตัว เป็นโยเกิร์ตแท้ธรรมชาติ เนื้อแน่น เนียน นุ่ม แต่มีรสชาติค่อนข้างเปรี้ยว หากลูกน้อยไม่สามารถกินได้คุณแม่ลองผสมโยเกิร์ตกับกล้วยบด ฟักทองบด หรือมะละกอบด เพื่อปรับรสชาติได้ค่ะ
1 ถ้วย ปริมาณ 110 กรัม (1 หน่วยบริโภค) | |
สารอาหาร | ปริมาณ |
พลังงาน | 60 กิโลแคลอรี |
ไขมัน | 2.5 กรัม |
โปรตีน | 4 กรัม |
คาร์โบไฮเดรต | 6 กรัม |
แคลเซียม | 15% |
น้ำตาล | 4 กรัม |
2. โยเกิร์ตไทย-เดนมาร์ค รสธรรมชาติ
โยเกิร์ตที่ผลิตจากน้ำนมวัวแท้ 100% ไม่ผสมนมผง มีแคลเซียมจากธรรมชาติสูง ธาตุเหล็ก วิตามิน A และวิตามิน B2 สูตรนี้มีใยอาหาร และมีน้ำตาลค่ะ
1 ถ้วย ปริมาณ 120 กรัม (1 หน่วยบริโภค) | |
สารอาหาร | ปริมาณ |
พลังงาน | 100 กิโลแคลอรี |
ไขมัน | 4 กรัม |
โปรตีน | 4 กรัม |
คาร์โบไฮเดรต | 13 กรัม |
แคลเซียม | 20% |
น้ำตาล | 12 กรัม |
3. โยเกิร์ต Butterfly ออร์แกนิก รสธรรมชาติ
เป็นโยเกิร์ตชนิดคงตัว ผลิตจากนมออร์แกนิกเต็มมันเนย เข้มข้น หอมมัน ไม่มีการปรุงแต่งสารเพิ่มความหนืด หรือสารเพิ่มความคงตัว ไม่ผสมนมผง ไม่แต่งกลิ่นสังเคราะห์ มีวิตามิน A และวิตามิน B2 และมีความหวานแบบปราศจากเคมีด้วยน้ำตาลทรายออร์แกนิก
1 ถ้วย ปริมาณ 400 กรัม (4 หน่วยบริโภค) | |
สารอาหาร | ปริมาณ |
พลังงาน (1 หน่วยบริโภค) | 80 กิโลแคลอรี |
ไขมัน | 3 กรัม |
โปรตีน | 3 กรัม |
คาร์โบไฮเดรต | 9 กรัม |
แคลเซียม | 15 % |
น้ำตาล | 8 กรัม |
4. โยเกิร์ต หนองโพ รสธรรมชาติ
ผลิตจากนมน้ำโค 100% มีแคลเซียมธรรมชาติสูง มีวิตามิน A วิตามิน B1, B2 ไม่แต่งกลิ่นสังเคราะห์ ไม่ใช้วัตถุกันเสีย และไม่เจือสี
1 ถ้วย ปริมาณ 130 กรัม (1 หน่วยบริโภค) | |
สารอาหาร | ปริมาณ |
พลังงาน | 100 กิโลแคลอรี |
ไขมัน | 5 กรัม |
โปรตีน | 6 กรัม |
คาร์โบไฮเดรต | 8 กรัม |
แคลเซียม | 25 % |
น้ำตาล | 6 กรัม |
5. โยเกิร์ต Farmers Union Greek Style
กรีกโยเกิร์ต รสธรรมชาติ เนื้อเข้มข้น มีความมัน ทำจากนมโค เนื้อนมและครีม แต่ไม่มีการแต่งสี ไม่ใส่สารกันบูด ไม่มีกลูเตนและเจลาติน เหมาะกับการผสมกับผักผลไม้บดค่ะ
1 ถ้วย ปริมาณ 1,000 กรัม (7 หน่วยบริโภค) | |
สารอาหาร | ปริมาณ |
พลังงาน (1 หน่วยบริโภค) | 200 กิโลแคลอรี |
ไขมัน | 15 กรัม |
โปรตีน | 6 กรัม |
คาร์โบไฮเดรต | 9 กรัม |
แคลเซียม | – |
น้ำตาล | 6 กรัม |
6. โยเกิร์ต Daily Home รสธรรมชาติ สูตรไม่เติมน้ำตาล
โยเกิร์ตจากน้ำนมโคออร์แกนิก 100% ชนิดคงตัวเนื้อเนียนนุ่ม ไม่ผสมนมผง ไม่เติมน้ำตาล แต่มีส่วนผสมของเจลาตินนะคะประมาณ 0.68% นอกจากนี้ยังมีวิตามิน A และวิตามิน B2 สามารถแบ่งให้ลูกกินโดยผสมกับผักผลไม้สุกบดได้ค่ะ
1 ถ้วย ปริมาณ 450 กรัม (3 หน่วยบริโภค) | |
สารอาหาร | ปริมาณ |
พลังงาน (1 หน่วยบริโภค) | 110 กิโลแคลอรี |
ไขมัน | 7 กรัม |
โปรตีน | 6 กรัม |
คาร์โบไฮเดรต | 6 กรัม |
แคลเซียม | 15% |
น้ำตาล | 6 กรัม |
จะเห็นได้ว่า โยเกิร์ตที่มีจำหน่ายในท้องตลาดบ้านเรามีหลายยี่ห้ออาจยังมีน้ำตาลในปริมาณสูงเกินไปสำหรับลูกน้อยวัยทารก รวมถึงบางยี่ห้อมีการเติมเจลาตินและสารคงตัวมาด้วย ดังนั้น แม้ว่าคุณแม่จะสามารถใช้โยเกิร์ตเป็นอาหารเสริมของทารกวัย 6 เดือนได้ก็จริง แต่ควรเลือกให้ลูกน้อยทานอย่างเหมาะสม โดยคำนึงถึงอายุและสุขภาพร่างกายของลูก และจำเป็นต้องปรึกษาแพทย์เพื่อรับคำแนะนำเพิ่มเติมทุกครั้งก่อนเปลี่ยนหรือเสริมผลิตภัณฑ์นมต่าง ๆ เข้ามาในมื้ออาหาร เพื่อความปลอดภัยและพัฒนาการที่ดีของลูกน้อยนะคะ โดยหากยังไม่สามารถเลือกโยเกิร์ตที่ถูกใจคุณแม่ ถูกปากและเหมาะกับสุขภาพร่างกายทารก ลองปรึกษาแพทย์เพื่อเลือกอาหารเสริมชนิดอื่นให้ลูกได้ค่ะ
ที่มา : www.pobpad.com , www.yummytoddlerfood.com , hd.co.th , www.thaihealth.or.th , www.paolohospital.com
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
5 นมแลคโตสฟรี ยี่ห้อไหนดี นม UHT สำหรับลูกน้อยที่กินนมแล้วท้องเสีย
6 นมกล่องเล็ก ยี่ห้อไหนดี ที่เหมาะ สำหรับเด็ก 1 ขวบ+
White noise เสียงไดร์เป่าผม ช่วยกล่อมทารก หลับสบายจริงไหม ?