วิจัยชี้! คนท้องทำงานกะดึก เพิ่มความเสี่ยงแท้งลูก-คลอดก่อนกำหนด

คนท้องทำงานกะดึก มีผลกระทบต่อการตั้งครรภ์อย่างไร บทความนี้จะช่วยให้คุณแม่เข้าใจความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น เพื่อหาทางรับมืออย่างเหมาะสมต่อไป

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

คนท้องทำงานกะดึก ส่งผลกระทบต่อสุขภาพคุณแม่และพัฒนาการของทารกในครรภ์อย่างไร บทความนี้จะช่วยให้คุณแม่เข้าใจความเสี่ยงจากการทำงานกะกลางคืนระหว่างตั้งครรภ์ เพื่อหาทางรับมืออย่างเหมาะสมต่อไปค่ะ

 

คนท้องทำงานกะดึก มีผลกระทบต่อการตั้งครรภ์อย่างไร

การทำงานกะกลางคืนในช่วงตั้งครรภ์อาจเพิ่มความเสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อนหลายประการ ซึ่งเกิดจากกลไกทางชีวภาพที่ซับซ้อนและการรบกวนสมดุลของร่างกาย ดังนี้

1. คนท้องทำงานกะดึก เสี่ยงแท้งลูก-คลอดก่อนกำหนดมากขึ้น

งานกะกลางคืนส่งผลกระทบต่อจังหวะชีวิตของร่างกาย (circadian rhythm) ซึ่งควบคุมการหลั่งฮอร์โมนที่สำคัญต่อการตั้งครรภ์ เช่น เมลาโทนิน และ โปรเจสเตอโรน การรบกวนฮอร์โมนเหล่านี้ รวมถึงความเครียดสะสมและการอักเสบในร่างกายที่เพิ่มขึ้น อาจนำไปสู่การแท้งบุตรหรือการคลอดก่อนกำหนด

จากการศึกษาขนาดใหญ่ที่รวบรวมและวิเคราะห์ผลวิจัยหลายชิ้น (ที่เรียกว่า “การวิเคราะห์อภิมาน”) ซึ่งตีพิมพ์ในปี 2019 ในวารสาร Occupational & Environmental Medicine พบว่า:

  • คุณแม่ที่ทำงานกะกลางคืนมีความเสี่ยงที่จะแท้งบุตรเพิ่มขึ้นประมาณ 23% เมื่อเทียบกับคุณแม่ที่ทำงานกะกลางวัน
  • นอกจากนี้ คุณแม่ที่ทำงานกะกลางคืนเป็นประจำ (ไม่ได้สลับกะไปมา) ยังมีความเสี่ยงที่จะคลอดก่อนกำหนดเพิ่มขึ้นประมาณ 21% อีกด้วยค่ะ

ผลวิจัยนี้ชี้ให้เห็นถึงความเชื่อมโยงที่ชัดเจนว่าการทำงานกะกลางคืนอาจส่งผลกระทบต่อความปลอดภัยในการตั้งครรภ์ของคุณแม่ได้

 

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

2. แม่ท้องทำงานกะกลางคืน เสี่ยงครรภ์เป็นพิษสูงขึ้น

การทำงานกะกลางคืนสามารถรบกวนระบบประสาทอัตโนมัติของร่างกาย ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการควบคุมความดันโลหิต นอกจากนี้ยังอาจส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของหลอดเลือดและการอักเสบในร่างกาย ซึ่งเป็นปัจจัยที่เอื้อต่อการเกิดภาวะความดันโลหิตสูงและภาวะครรภ์เป็นพิษในสตรีมีครรภ์

จากการศึกษาขนาดใหญ่ที่ตีพิมพ์ในปี 2022 ในวารสาร PLOS One ซึ่งติดตามกลุ่มคุณแม่เชื้อสายลาติน พบข้อมูลที่น่ากังวลว่า:

  • คุณแม่ที่ทำงานกะกลางคืน มีความเสี่ยงที่จะเกิดภาวะครรภ์เป็นพิษสูงขึ้นถึง 2 เท่า เมื่อเทียบกับคุณแม่ที่ไม่ได้ทำงานกะกลางคืน
  • ที่สำคัญกว่านั้นคือ ความเสี่ยงของภาวะครรภ์เป็นพิษที่มีอาการรุนแรง ก็เพิ่มขึ้นถึง 1.7 เท่า สำหรับคุณแม่กลุ่มนี้ด้วยค่ะ

แม้ว่าในอดีตเคยมีการศึกษาที่ผลยังไม่ชัดเจนนัก แต่การวิจัยล่าสุดนี้ตอกย้ำให้เห็นถึงความเชื่อมโยงที่น่ากังวลระหว่างการทำงานกะกลางคืนกับภาวะครรภ์เป็นพิษ คุณแม่จึงควรตระหนักและปรึกษาแพทย์เพื่อหาแนวทางดูแลตัวเองอย่างเหมาะสมค่ะ

 

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

 

3. คนท้องทำงานกะกลางคืน เสี่ยงเบาหวานขณะตั้งครรภ์

การทำงานกะกลางคืนส่งผลโดยตรงต่อการรบกวนนาฬิกาชีวภาพ ซึ่งมีอิทธิพลต่อการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดและประสิทธิภาพการทำงานของอินซูลินในร่างกาย การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ทำให้ความทนทานต่ออินซูลินลดลง และเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดเบาหวานขณะตั้งครรภ์

จากการศึกษาที่ตีพิมพ์ในวารสาร PLOS One (ซึ่งใช้ข้อมูลจากงานวิจัยปี 2022) พบว่า:

  • คุณแม่ที่ทำงานกะเย็นหรือกะกลางคืน มีความเสี่ยงที่จะเป็นเบาหวานขณะตั้งครรภ์เพิ่มขึ้นถึงประมาณ 75% เมื่อเทียบกับคุณแม่ที่ทำงานกะกลางวัน
  • งานวิจัยยังบอกอีกว่า ส่วนหนึ่งของความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นนี้ ประมาณ 25% มาจากเรื่องเวลาการนอนหลับที่ไม่ปกติ ของคุณแม่ที่ทำงานกะกลางคืนนั่นเองค่ะ

นี่แสดงให้เห็นว่าการทำงานที่ฝืนเวลานอนตามธรรมชาติอาจส่งผลโดยตรงต่อการควบคุมระดับน้ำตาลในร่างกายของคุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์ค่ะ

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

 

4. แม่ท้องทำงานกะดึก อาจทำให้ลูกตัวเล็กกว่าปกติ

การทำงานกะกลางคืนอาจนำไปสู่พฤติกรรมการกินที่ไม่เหมาะสม ทำให้มารดาขาดสารอาหารที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโตของทารก นอกจากนี้ ความเครียดและการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนอาจส่งผลให้การไหลเวียนเลือดไปสู่รกและทารกลดลง ซึ่งเป็นสาเหตุของน้ำหนักตัวแรกเกิดน้อยและภาวะทารกตัวเล็กกว่าปกติเมื่อเทียบกับอายุครรภ์

จากการรวบรวมและวิเคราะห์งานวิจัยหลายชิ้นในปี 2011 ที่ตีพิมพ์ในวารสาร BJOG: An International Journal of Obstetrics and Gynaecology พบว่า:

  • คุณแม่ที่ทำงานกะกลางคืนมีความเสี่ยงที่จะทำให้ ลูกในท้องตัวเล็กกว่าที่ควรจะเป็นตามอายุครรภ์ (SGA) เพิ่มขึ้นเล็กน้อย โดยมีความเสี่ยงสูงขึ้นประมาณ 12%
  • แม้ว่างานวิจัยนี้จะพบว่าความเสี่ยงโดยรวมที่ลูกจะน้ำหนักตัวแรกเกิดน้อย จากการทำงานกะกลางคืนจะดูไม่มากนัก แต่ก็ยังถือเป็นประเด็นที่คุณแม่ควรใส่ใจและปรึกษาแพทย์ค่ะ

 

 

ผลกระทบเมื่อ คนท้องทำงานกะดึก ต่อพัฒนาการเด็กในระยะยาว

การทำงานกะกลางคืนของคุณแม่ ไม่ได้ส่งผลแค่ตอนตั้งครรภ์เท่านั้น แต่อาจส่งผลไปถึงพัฒนาการและสุขภาพของลูกน้อยในระยะยาวด้วยนะคะ

1. พัฒนาการทางสมองและพฤติกรรม

เมื่อคุณแม่ต้องทำงานกะกลางคืน ร่างกายจะเกิดการเปลี่ยนแปลงหลายอย่าง เช่น มีความเครียดสะสม หรือระดับฮอร์โมนบางชนิดเปลี่ยนไป ซึ่งสภาพแวดล้อมในครรภ์ที่เปลี่ยนแปลงไปนี้ อาจส่งผลกระทบต่อการเจริญเติบโตของสมองและพัฒนาการทางพฤติกรรมของลูกได้ค่ะ

2. ความเสี่ยงต่อปัญหาสุขภาพในวัยเด็ก

ผลกระทบจากการทำงานกะกลางคืนของคุณแม่ อาจส่งผลให้ระบบภูมิคุ้มกันของลูกไม่แข็งแรง หรือเกิดการเปลี่ยนแปลงในระดับยีน (epigenetics) ที่อาจเพิ่มความเสี่ยงให้ลูกมีปัญหาสุขภาพบางอย่างในวัยเด็กได้ค่ะ

งานวิจัยที่ได้กล่าวไปก่อนหน้านี้ว่าการทำงานกะกลางคืนของคุณแม่สัมพันธ์กับ ภาวะน้ำหนักตัวแรกเกิดน้อย (LBW) หรือการคลอดก่อนกำหนด นั้นเป็นสิ่งที่คุณแม่ควรระวัง เพราะภาวะเหล่านี้เองที่ อาจเพิ่มความเสี่ยงให้เด็กมีปัญหาสุขภาพในระยะยาวได้ เช่น ปัญหาด้านระบบหายใจ ปัญหาการเรียนรู้ หรือความเสี่ยงต่อโรคเรื้อรังบางอย่างเมื่อโตขึ้นค่ะ

 

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

 

แนวทางรับมือ: แม่ท้องทำงานกะกลางคืน ควรทำอย่างไร?

ถ้าคุณแม่จำเป็นต้องทำงานกะกลางคืนระหว่างตั้งครรภ์ ไม่ต้องกังวลใจไปค่ะ มีแนวทางที่คุณแม่สามารถดูแลตัวเองและป้องกันความเสี่ยงต่างๆ ได้ดังนี้

แม่ท้องทำงานกะกลางคืน ควรทำอย่างไร
1. ปรึกษาคุณหมอแต่เนิ่นๆ  ทันทีที่รู้ว่าตั้งครรภ์ ให้รีบแจ้งคุณหมอและปรึกษาเรื่องตารางการทำงานของคุณแม่ เพื่อที่คุณหมอจะได้ให้คำแนะนำและดูแลอย่างใกล้ชิดค่ะ
2. คุยกับนายจ้างเรื่องปรับตารางงาน หากเป็นไปได้ ลองปรึกษาหัวหน้าหรือฝ่ายบุคคลเพื่อขอปรับเปลี่ยนตารางการทำงานเป็นกะกลางวัน หรือลดชั่วโมงทำงานลง เพื่อลดความเสี่ยงต่อสุขภาพคุณแม่และลูกน้อย
3. จัดเวลาพักผ่อนให้เต็มที่ แม้จะต้องนอนกลางวัน คุณแม่ต้องพยายามจัดสรรเวลาพักผ่อนให้เพียงพอและมีคุณภาพ เช่น ทำห้องให้มืดสนิท เงียบสงบ ไม่มีสิ่งรบกวน เพื่อให้ร่างกายได้พักผ่อนอย่างแท้จริง
4. เลือกกินอาหารดีมีประโยชน์ การทำงานกะกลางคืนอาจทำให้พฤติกรรมการกินเปลี่ยนไป คุณแม่ควรเน้นกินอาหารที่มีประโยชน์ ครบ 5 หมู่ และเลี่ยงอาหารขยะหรืออาหารแปรรูป เพื่อให้ร่างกายและลูกได้รับสารอาหารที่เพียงพอ
5. หาทางผ่อนคลายความเครียด  ความเครียดส่งผลเสียต่อคุณแม่และลูก คุณแม่ควรหาวิธีผ่อนคลายความเครียดที่เหมาะสม เช่น ฟังเพลงเบาๆ ทำสมาธิ โยคะเบาๆ หรือพูดคุยกับคนใกล้ชิด
6. เลี่ยงปัจจัยเสี่ยงอื่นๆ ในที่ทำงาน หากในที่ทำงานมีสารเคมี เสียงดัง หรือสภาพแวดล้อมที่ไม่เหมาะสม คุณแม่ควรแจ้งนายจ้างเพื่อหาทางหลีกเลี่ยงหรือป้องกันตนเองให้ดีที่สุดค่ะ

 

คุณแม่ที่ทำงานกะกลางคืนจึงควรดูแลสุขภาพอย่างใกล้ชิด และรับมือกับการทำงานกะกลางคืนอย่างเหมาะสม เพื่อให้ทั้งคุณแม่และลูกน้อยปลอดภัยและมีสุขภาพดีในระยะยาวค่ะ

 

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

แม่เครียดตอนท้อง ลูกคลอดออกมาจะเลี้ยงยากไหม?

13 วิธีช่วยบรรเทา คนท้อง ร้องไห้ แม่ท้องเครียดเสี่ยงแท้ง ลูกเสี่ยงซึมเศร้า

คนท้องทำงาน นั่งนาน ยืนนาน แม่ท้องทำงานหนัก นอนน้อย นอนดึก เครียด ส่งผลกับทารกในครรภ์