ยังไม่พร้อมมีลูกควรทำอย่างไร คำถามเกี่ยวกับ “คุมกำเนิด” สำหรับผู้หญิง
ยังไม่พร้อมมีลูกควรทำอย่างไร คำถามเกี่ยวกับ “คุมกำเนิด” สำหรับผู้หญิง
ปัจจุบันมีวิธีคุมกำเนิดให้เลือกได้มากมายหลายทาง แต่ก่อนจะเลือกวิธีที่อยู่ใกล้มือที่สุด คุณควรคำนึงถึงองค์ประกอบต่าง ๆ ด้วยเนื่องจากการคุมกำเนิดแต่ละวิธีเหมาะกับแต่ละบุคคลในช่วงวัยที่ต่างกันไป ลองถามตัวเองด้วยคำถามต่อไปนี้ดู
1. การเลี่ยงการตั้งครรภ์สำคัญต่อคุณขนาดไหน? มันสำคัญมากจริง ๆ หรือคุณพอจะรับมือได้หากตั้งครรภ์ขึ้นมา
2. วัยและสุขภาพของคุณเป็นปัจจัยสำคัญเพราะสภาพร่างกายและอาการเจ็บป่วยบางอย่างควรหลีกเลี่ยงการตั้งครรภ์และห้ามใช้หรือไม่ควรใช้การคุมกำเนิดบางวิธี คุณควรแจ้งให้คุณหมอทราบถึงประวัติสุขภาพของคุณ
3. สถานะความสัมพันธ์ของคุณเป็นสิ่งที่ต้องคำนึงถึงเช่นกัน ตัวอย่างเช่น คุณกำลังมีความสัมพันธ์แบบผูกมัดหรือเปิดกว้าง? คุณมีเพศสัมพันธ์บ่อยแค่ไหน? ครอบครัวของคุณสมบูรณ์พร้อมแล้วหรือคุณยังอยากมีลูก?
4. คุณอยากใช้วิธีคุมกำเนิดที่ไม่ขึ้นกับกิจกรรมทางเพศของคุณหรือคุณสามารถปรับเปลี่ยนวิธีการมีเพศสัมพันธ์ได้
การคุมกำเนิดวิธีต่าง ๆ สำหรับผู้หญิง ได้แก่
ยาคุมกำเนิดชนิดเม็ด
คืออะไร?
ยาเม็ดคุมกำเนิดอาจเรียกได้ว่าเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของผู้หญิงเลยทีเดียว ตามปกติยาหนึ่งแผงจะใช้สำหรับวงจรรอบเดือน 28 วัน
โดยแบ่งเป็นประเภทที่ต้องทานยาทุกวัน วันละหนึ่งเม็ดอย่างต่อเนื่อง หรือทานทุกวัน วันละหนึ่งเม็ดเป็นเวลา 21 วัน และเว้นช่วง 7 วันก่อนจะเริ่มทานยาแผงใหม่
ข้อดีล่ะ?
การคุมกำเนิดวิธีนี้มีข้อดีหลายประการ เช่น จะทำให้มีประจำเดือนที่สม่ำเสมอ ลดความเสี่ยงของการเกิดเนื้องอกในมดลูก โอกาสมีซีสต์ในรังไข่น้อยลง ฯลฯ
ความเชื่อ – ยาเม็ดคุมกำเนิดทำให้น้ำหนักเพิ่มขึ้น
สำหรับผู้ที่ทานยาเม็ดคุมกำเนิดที่มีฮอร์โมนต่ำ น้ำหนักตัวมักคงที่เช่นเดิม อย่างไรก็ตาม อาจมีผู้หญิงบางคนที่น้ำหนักเพิ่มขึ้นเล็กน้อยขณะที่บางคนน้ำหนักลง แต่ไม่มีความแตกต่างเด่นชัดในเรื่องนี้เมื่อเทียบกับผู้หญิงที่ไม่ได้ใช้ยาเม็ดคุมกำเนิด นอกจากนี้ ยาเม็ดคุมกำเนิดสมัยใหม่ยังได้รับการพัฒนาให้สามารถยับยั้งการบวมน้ำอันเกิดจากฮอร์โมนเอสโตรเจน จึงช่วยป้องกันน้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นจากการบวมน้ำได้ด้วย
บทความใกล้เคียง: ลดน้ำหนักหลังคลอด
ยังไม่พร้อมมีลูกควรทำอย่างไร
ยาคุมกำเนิดชนิดแผ่นแปะผิวหนัง
คืออะไร?
ยาคุมกำเนิดชนิดนี้จะปล่อยฮอร์โมนผ่านผิวหนังเข้าสู่กระแสเลือดอย่างต่อเนื่อง คุณต้องเปลี่ยนแผ่นคุมกำเนิดสัปดาห์ละครั้งเป็นเวลาสามสัปดาห์ จากนั้นก็เว้นช่วงหนึ่งสัปดาห์ก่อนจะเริ่มวงจรใหม่ แผ่นแปะผิวหนังคุมกำเนิดไม่ได้ทำจากวัสดุที่ใส วิธีนี้จึงเป็นการคุมกำเนิดที่แลเห็นได้
ผลข้างเคียงล่ะ?
ปวดศีรษะ หน้าอกคัดตึง ผิวหนังระคายเคืองและเลือดออกกะปริบกะปรอย
ยาคุมกำเนิดแบบฉีด
คืออะไร?
ตามปกติแล้ว ยาคุมกำเนิดชนิดนี้แพทย์จะเป็นผู้ฉีดให้เดือนละครั้งหรือสามเดือนครั้ง นี่เป็นวิธีการใช้ฮอร์โมนซึ่งออกฤทธิ์คุมกำเนิดระยะยาว
ผลข้างเคียงล่ะ?
น้ำหนักตัวเพิ่ม ปวดศีรษะ วิงเวียน มีสิวขึ้น ผิวมัน ท้องอืดเฟ้อ หน้าอกคัดตึง แน่นท้อง อารมณ์และความต้องการทางเพศเปลี่ยนแปลง หลังการฉีดยาคุมกำเนิดแล้วจะไม่สามารถขจัดฮอร์โมนออกจากร่างกายได้ ผลข้างเคียงเหล่านี้จึงอาจเกิดขึ้นนับแต่วันที่ฉีดและจะคงอยู่หลังจากนั้นระยะหนึ่ง
ยาคุมกำเนิดชนิดฝังใต้ผิว
คืออะไร?
วิธีนี้คือการฝังหลอดพลาสติกนิ่ม ๆ เล็ก ๆ ซึ่งบรรจุฮอร์โมนโปรเจสโตเจนเข้าไปใต้ผิวหนังบริเวณต้นแขนด้วยการผ่าตัดขนาดเล็กโดยแพทย์หรือพยาบาลที่มีความเชี่ยวชาญ โปรเจสโตเจนจะค่อย ๆ ปล่อยเข้าสู่ร่างกายในปริมาณน้อยและมีฤทธิ์คุมกำเนิดนานสามถึงห้าปีโดยผู้ฝังสามารถเอาออกเมื่อใดก็ได้ด้วยการผ่าตัดขนาดเล็ก ยาคุมกำเนิดชนิดฝังใต้ผิวเหมาะอย่างยิ่งกับผู้หญิงที่ต้องการคุมกำเนิดในระยะยาวและอยากหลีกเลี่ยงการทานยาเม็ดคุมกำเนิดทุกวัน นอกจากนี้ยังเหมาะกับคุณแม่ที่อยู่ในระหว่างให้นมลูกน้อยด้วย หลังผ่าตัดเอาตัวยาออก ร่างกายจะกลับสู่ภาวะเจริญพันธุ์ตามปกติ ผลพลอยได้ของการคุมกำเนิดด้วยวิธีนี้คือลดการปวดประจำเดือนและประจำเดือนมามาก
ผลข้างเคียงล่ะ?
ผู้หญิงบางคนอาจรู้สึกปวดศีรษะ หน้าอกคัดตึง ท้องอืดเฟ้อ อารมณ์และความต้องการทางเพศเปลี่ยนแปลง รวมทั้งอาจมีเลือดออกกะปริบกะปรอยในช่วงสองสามเดือนแรก
ยาคุมกำเนิดชนิดฝังใต้ผิว
ยาคุมกำเนิดชนิดเม็ดแบบโปรเจสโตเจนอย่างเดียว (Mini-Pill)
คืออะไร?
ยาเม็ดคุมกำเนิดชนิดนี้มีฮอร์โมนโปรเจสโตเจนอย่างเดียว และต้องทานวันละหนึ่งเม็ดทุกวันอย่างต่อเนื่อง โดยไม่มีการหยุดระหว่างแผง ซึ่งหมายความว่าต้องทานยาในช่วงที่มีประจำเดือนด้วย โปรเจสโตเจนที่วางจำหน่ายมีหลายประเภท คุณแม่ที่อยู่ในระหว่างให้นมลูกสามารถใช้การคุมกำเนิดวิธีนี้ได้ เนื่องจากไม่มีผลกระทบต่อนมแม่
ข้อควรระวังของการใช้ยาเม็ดคุมกำเนิดโปรเจสโตเจนคือต้องทานทุกวันเวลาเดิมเสมอ ไม่เช่นนั้นจะไม่ได้ผล หากทานช้าต้องไม่นานเกิน 3 ชั่วโมงจากเวลาเดิม ขณะที่ยาเม็ดคุมกำเนิดชนิดอื่นสามารถทานล่าช้ากว่าเวลาเดิมได้มากที่สุด 12 ชั่วโมง
ผลข้างเคียงล่ะ?
ผู้หญิงบางคนอาจมีเลือดออกกะปริบกะปรอย แต่อาการนี้จะหายไปในที่สุด ผลข้างเคียงชั่วคราวอื่น ๆ ได้แก่ มีสิวขึ้น ผิวมัน หน้าอกคัดตึง ท้องอืดเฟ้อและปวดศีรษะ
ยาคุมกำเนิดฉุกเฉิน
คืออะไร?
ควรทานยาคุมกำเนิดฉุกเฉินให้เร็วที่สุดหลังมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ได้ป้องกัน ควรจะทานในช่วง 12 ชั่วโมงแรกหลังมีเพศสัมพันธ์ แต่อาจทานล่าช้าได้มากที่สุดภายใน 72 ชั่วโมงแรกหลังมีเพศสัมพันธ์ ยิ่งทานยาคุมกำเนิดฉุกเฉินเร็วเท่าไรก็ยิ่งได้ผลมากเท่านั้น
ยาคุมกำเนิดฉุกเฉินออกฤทธิ์ด้วยการยับยั้งการตกไข่
การคุมกำเนิดฉุกเฉินวิธีนี้ควรใช้เป็นทางเลือกสำรองเมื่อมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ได้ป้องกัน หรือเมื่อการคุมกำเนิดวิธีอื่นล้มเหลวเท่านั้น (เช่น ถุงยางอนามัยขาดหรือลืมทานยาเม็ดคุมกำเนิด) ไม่แนะนำให้ใช้เป็นประจำ
ยังไม่พร้อมมีลูกควรทำอย่างไร
ห่วงคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมน (IUS)
คืออะไร?
คือการให้แพทย์หรือพยาบาลผู้เชี่ยวชาญสอดอุปกรณ์พลาสติกนิ่ม ๆ ขนาดเล็กซึ่งบรรจุฮอร์โมนโปรเจสโตเจนเข้าไปในโพรงมดลูก ห่วงจะค่อย ๆ ปล่อยฮอร์โมนโปรเจสโตเจนปริมาณน้อยเข้าสู่ร่างกาย การคุมกำเนิดวิธีนี้ป้องกันการตั้งครรภ์ด้วยการทำให้เมือกบริเวณปากมดลูกเหนียว อสุจิผ่านเข้าไปได้ยาก และทำให้ผนังมดลูกบางลงเพื่อป้องกันไม่ให้ไข่ที่ผสมแล้วฝังตัวได้ ทั้งยังอาจยับยั้งการตกไข่ในผู้หญิงบางคนด้วย
ผลข้างเคียงล่ะ?
อาจมีเลือดออกกะปริบกะปรอยในช่วงสองสามเดือนแรก แต่อาการนี้จะหายไปในที่สุด บางคนอาจรู้สึกปวดศีรษะ หน้าอกคัดตึงหรือวิงเวียนในช่วงแรก ๆ ด้วย
ยังไม่พร้อมมีลูกควรทำอย่างไร
ห่วงคุมกำเนิดชนิดทองแดง (IUD)
คืออะไร?
คือการให้แพทย์หรือพยาบาลผู้เชี่ยวชาญสอดอุปกรณ์นิ่ม ๆ ขนาดเล็กซึ่งพันด้วยเส้นลวดทองแดงเข้าไปในโพรงมดลูก ห่วงคุมกำเนิดนี้สามารถทิ้งไว้ในมดลูกได้นาน 5-10 ปี (ขึ้นอยู่กับประเภทของห่วง) ห่วงคุมกำเนิดชนิดทองแดงออกฤทธิ์รบกวนการเดินทางของไข่และอสุจิโดยปล่อยสารบางอย่างซึ่งทำให้อสุจิเคลื่อนที่ไม่ได้และทำให้ไข่เดินทางมาตามท่อนำไข่ได้ยาก หากไข่ได้รับการผสม ห่วงจะออกฤทธิ์ให้ไข่เคลื่อนที่เร็วเกินไปจนไม่สามารถฝังตัวในมดลูกได้
ผลข้างเคียงล่ะ?
ห่วงคุมกำเนิดชนิดทองแดงไม่เหมาะกับผู้หญิงที่มีภาวะโลหิตจาง การคุมกำเนิดวิธีนี้ไม่ป้องกันหรือเพิ่มความเสี่ยงของการติดเชื้อในอุ้งเชิงกราน ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นได้คือปวดประจำเดือน วิงเวียน ประจำเดือนมามากและนานกว่าปกติ
การทำหมันหญิง (ผูกท่อนำไข่)
คืออะไร?
คือกระบวนการผ่าตัดเพื่อตัดท่อนำไข่ (ซึ่งพาไข่จากรังไข่มาสู่มดลูก) หรือทำให้ท่อนำไข่อุดตันเพื่อไม่ให้อสุจิเจอกับไข่ได้ การผ่าตัดจะส่งผลต่อภาวะเจริญพันธุ์แต่ไม่กระทบความต้องการและสมรรถภาพทางเพศ
การทำหมันเป็นทางเลือกเฉพาะสำหรับคนที่ตัดสินใจแล้วว่าไม่อยากมีลูกทั้งในปัจจุบันและในอนาคต แม้จะมีวิธีแก้หมัน แต่ขั้นตอนก็ซับซ้อนและไม่ค่อยประสบความสำเร็จ นอกจากนี้ในบางรายอาจเกิดกรณีหมันหลุดซึ่งท่อนำไข่กลับมาเชื่อมต่อกันอีกได้
The Asianparent Thailand เว็บไซต์ข้อมูลคุณภาพและสังคมคุณแม่ ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ และในเอเชีย เรามีผู้เชี่ยวชาญด้านกุมารแพทย์ แหล่งความรู้แม่และเด็ก รวมถึงแอพพลิเคชั่น The Asianparent ที่ติดตามการตั้งครรภ์ ให้คุณแม่ได้ลงทะเบียนใช้งานฟรี เพื่อติดตามพัฒนาการของทารก ตั้งแต่ตั้งครรภ์ จนถึงติดตามหลังคลอดที่ครอบคลุมที่สุด และผู้ใช้งานสูงสุดในประเทศไทย นอกจากความรู้ยังมีไลฟ์สไตล์ และสื่อมัลติมีเดียหลากหลาย ไม่ว่าสุขภาพแม่และเด็ก โภชนาการแม่และเด็ก กิจกรรมสำหรับครอบครัว การวางแผนครอบครัวไปจนถึง การดูแลลูก การศึกษา และจิตวิทยาเด็ก The Asianparent เราพร้อมสนับสนุนพ่อแม่ทุกท่าน ให้มีความรู้และมีสุขภาพกายใจเข้มแข็ง เพื่อเสริมสร้างครอบครัวอย่างแข็งแรง
เพราะเราเชื่อว่า “พ่อแม่เข้มแข็ง ครอบครัวแข็งแรง”
บทความที่เกี่ยวข้อง :
HHS.gov – Birth Control Methods
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :
ยาคุมผู้ชาย มาแล้วจ้า ยาคุมกำเนิดสำหรับผู้ชายทดสอบผ่านแล้ว
ลืมกินยาคุม ต้องทำอย่างไร ลืมกินยา 1 วัน 2 วัน จะเป็นอะไรไหม วิธีกินยาที่ถูกต้อง
ผลข้างเคียงของการฝังยาคุม ชนิด 3 ปี แม่ขอแชร์..ประสบการณ์เลวร้ายที่ต้องเจอ
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!