เตือนภัย! เด็กกินน้ำผึ้ง มือเท้าม่วงเฉียดตาย แพทย์เผยสาเหตุ

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

น้ำผึ้ง เป็นสารที่ให้ความหวานแบบธรรมชาติ ซึ่งไม่เพียงแต่มีรสชาติดีเท่านั้น แต่ยังมีสารพัดประโยชน์ที่ดีต่อสุขภาพอีกด้วย และถึงแม้ว่ามันจะมีข้อดีหลาย ๆ อย่างก็ตาม แต่การรับประทานน้ำผึ้งอาจไม่ปลอดภัยต่อทารกและเด็กที่ยังเล็กอยู่มาก โดยเฉพาะน้ำผึ้งดิบ เนื่องจากมีโอกาสเสี่ยงที่จะเกิดพิษจากสารโบทูลินั่มต่อร่างกายได้ เหมือนกับข่าวนี้ที่ เด็กทารกมือเท้าเปลี่ยนสี สาเหตุมาจากยายแอบป้อนให้ เด็กกินน้ำผึ้ง หมอเตือน ตายได้ ห้ามให้กินเด็ดขาด

หวิดดับ! ยายแอบป้อนน้ำผึ้งให้หลาน มือเท้าม่วงเฉียดตาย หมอเตือนห้ามให้ เด็กกินน้ำผึ้ง

เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่ประเทศจีน เมื่อเด็กชายวัยไม่ถึง 1 ขวบ ถูกส่งตัวไปยังแผนกฉุกเฉินด้วยอาการมือและเท้าเปลี่ยนเป็นสีน้ำเงินม่วง โดยคุณหมอ หวง ซื่อหลุน กุมารแพทย์จีน เจ้าของเพจ Heilun Doctor ได้วินิจฉัยว่า เด็กได้รับพิษจากสารโบทูลินั่ม ซึ่งเกิดจาก การที่ เด็กกินน้ำผึ้ง ทำให้แขนขาของเด็กเปลี่ยนเป็นสีน้ำเงินและสีม่วง ออกซิเจนในเลือดเหลือเพียง 90%

ซึ่งหลังจากสอบถามครอบครัว ก็ได้พบว่า เด็กได้รับน้ำผึ้งจากคุณยาย โดยคุณยายอธิบายว่า เธอให้หลานกินน้ำผึ้ง เพราะคิดว่าจะช่วยเรื่องท้องผูกได้

หลังจากเหตุการณ์นี้ คุณหมอก็ได้เตือนว่า ห้ามให้ทารกอายุต่ำกว่า 1 ปี กินน้ำผึ้งเด็ดขาด เพราะน้ำผึ้งอาจปนเปื้อนเชื้อแบคทีเรีย ที่ทำให้เกิดโรคโบทูลิซึม และอาจถึงแก่ชีวิตได้

 

 

ซึ่งเหตุการณ์นี้ ไม่ได้เกิดขึ้นเป็นเพียงครั้งแรก แต่ได้เคยเกิดขึ้นมาหลาย ๆ ครั้งแล้วในรอบหลายปีที่ผ่านมา โดยเคสเหล่านี้ ในหลาย ๆ ครั้งมักมีความเข้าใจผิดๆ ที่ผู้ปกครองนำน้ำผึ้งไปป้อนให้กับเด็กทารก

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

ยกตัวอย่างเช่น เคสของประเทศไทย ในปี 2566 เมื่อเด็กทารกวัย 2 เดือน เกือบเสียชีวิตหลังจากที่แม่ให้ตัว เด็กกินน้ำผึ้ง จนต้องรีบนำส่งห้องไอซียู เนื่องจากเด็กมีอาการกล้ามเนื้ออ่อนแรง ปอดติดเชื้อ หายใจลำบาก และมีอาการชัก ซึ่งหมอหมู นพ.วีระศักดิ์ จรัสชัยศรี แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านนิติเวชศาสตร์ มศว ก็ได้ออกมาเตือน โดยระบุข้อความว่า ทีมแพทย์ได้ทำการส่งอุจจาระของเด็กน้อยไปตรวจและพบสารโบทูลินั่ม ซึ่งเป็นสารพิษที่ทำให้กล้ามเนื้อเป็นอัมพาตเป็นสารชนิดเดียวกับที่ใช้ในโบท็อกซ์ เหมือนกับเคสของเด็กทารกชาวจีนดังกล่าว โชคดีที่ในกรณีนี้ทารกสามารถฟื้นตัวเต็มที่ หลังจากต้องรักษาตัวในโรงพยาบาลเป็นเวลาหนึ่งเดือน และได้รับการรักษาด้วยยาต้านพิษ

 

รูปภาพ จาก Facebook: Werasak Charaschaisri

 

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

บทความที่เกี่ยวข้อง : อุทาหรณ์! ป้อนน้ำผึ้งทารก 6 เดือน ต้องเสียใจไปตลอดชีวิต ลูกเป็นโรคนี้ ลูกกินน้ำผึ้ง แล้วตาย

และยังมีอีกหนึ่งเหตุการณ์ รายงานจาก The Japan Times ประเทศญี่ปุ่น ในปี 2560 ที่ผู้ปกครองได้ป้อนน้ำผึ้งให้ลูกวัย 6 เดือน กิน จนเสียชีวิต โดยครอบครัวได้นำน้ำผึ้งมาผสมกับน้ำผลไม้และป้อนให้ลูกน้อยกินเป็นประจำ วันละ 2 ครั้ง มาในระยะเวลาหนึ่งเดือน เพราะเชื่อว่าการรับประทานน้ำผึ้งจะส่งผลดีต่อร่างกายของลูก แต่ท้ายที่สุด เด็กทารกก็เกิดอาการชัก และเสียชีวิตลงในที่สุดค่ะ 

ที่มา: sanook.com, pobpad, Japan Times

ทำไม เด็กกินน้ำผึ้ง แล้วอันตราย?

เหตุผลหลัก ๆ ที่เด็กทารกไม่ควรกินน้ำผึ้ง ก็เพราะว่าน้ำผึ้งอาจปนเปื้อนไปด้วยเชื้อแบคทีเรีย Clostridium botulinum ซึ่งเป็นเชื้อที่ก่อให้เกิดโรคโบทูลิซึมในทารก ซึ่งตัวสารพิษโบทูลิซึมเป็นสารพิษที่รุนแรงมาก ซึ่งผลวิจัยชี้ว่าถึงแม้จะได้รับสารพิษชนิดนี้เข้าไปเพียงน้อยนิด ก็อาจทำให้เด็กเสียชีวิตได้เช่นกันค่ะ

โดยโรคนี้สามารถทำให้กล้ามเนื้ออ่อนแรงและอาจทำให้เสียชีวิตได้ หากระบบทางเดินอาหารของทารกยังไม่สมบูรณ์ ความเป็นกรดในลำไส้ก็จะยังไม่สามารถกำจัดเชื้อ Clostridium botulinum ได้ จึงมีโอกาสสูงที่เด็กทารกเสี่ยงที่จะติดเชื้อนี้ได้มากกว่าผู้ใหญ่ค่ะ เพราะในกรณีเด็กโต หรือผู้ใหญ่ ลำไส้จะกำจัดเชื้อออกไปจากร่างกายได้ก่อนที่เชื้อจะเพิ่มจำนวนจึงทำให้สามารถบริโภคน้ำผึ้งได้โดยไม่อันตราย

อย่างไรก็ตาม ยังมีผู้ปกครองบางคนนำ น้ำผึ้งมาป้อนเด็กทารกกิน ในหลาย ๆ เคส ไม่ว่าจะผสมน้ำผลไม้ หรือคำแนะนำในโลกโซเชียลที่ว่า น้ำผึ้งมีประสิทธิภาพในการรักษาโดรคไอกรนในเด็ก จนแพทย์ต้องออกมาเตือนบ่อยครั้งถึงอันตรายของน้ำผึ้ง สำหรับเด็กทารก

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

บทความที่เกี่ยวข้อง : ประโยชน์จากน้ำผึ้งที่แม่ท้องต้องรู้ เรื่องผึ้งๆ ที่แม่ท้องต้องพึ่ง

 

อาการของโรคโบทูลิซึมในทารก

หากคุณพ่อคุณแม่สังเกตุเห็นว่าลูกน้อยมีอาการ ดังต่อไปนี้ หลังจากได้ทำการรับประทานน้ำผึ้งเข้าไป ควรรีบไปพบแพทย์โดยเร็ว

  • ท้องผูก 
  • อ่อนเพลีย 
  • กล้ามเนื้ออ่อนแรง 
  • หายใจลำบาก
  • กลืนลำบาก 
  • ตาพร่ามัว 
  • ปากแห้ง 
  • เหงื่อออก 
  • หัวใจเต้นเร็ว 

 

 

โดยทาง หมอหมู ยังได้แนะนำว่า วิธีการที่จะป้องกันไม่ให้ลูกน้อยได้รับเชื้อ Clostridium botulinum หรือ โรคโบทูลิซึม จากน้ำผึ้งได้ มีดังนี้ค่ะ

1) ห้ามให้เด็กทารก หรือ เด็กที่อายุต่ำกว่า 1 ปี รับประทานน้ำผึ้ง

2) เก็บน้ำผึ้งให้ห่างจากตัวเด็กทารก

3) สอนเด็กโตว่าไม่ควรให้น้อง ที่เป็นเด็กทารกรับประทานน้ำผึ้งโดยเด็ดขาด

 

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ : 

วิธีดูแลจมูกทารกแรกเกิด ลูกงอแง อาจเกิดจากรูจมูกอุดตัน

คุณแม่มือใหม่ห้ามพลาด! ท่าอุ้มทารก ให้หยุดร้อง ป้องกันสมองบวม-หยุดหายใจ

ราชวิทยาลัยกุมารแพทย์ฯ ชี้ชัด นมวัว ทำลายสุขภาพเด็กจริงหรือไม่?

บทความโดย

samita