โรคผิวหนังอักเสบ เป็นโรคที่พบบ่อยในเด็ก ซึ่งนับว่าเป็นเรื่องที่คนเป็นพ่อเป็นแม่ต้องประสบพบเจอบ่อย ๆ ในการเลี้ยงดูลูกน้อย เพราะโรคนี้มักจะเป็น ๆ หาย ๆ เรื้อรังอยู่นาน แต่การรักษานั้นควรเลือกให้ถูกวิธีค่ะ ไม่อย่างนั้นอาจส่งผลเสียกับผิวที่บอบบางของเด็กได้ เหมือนกับอุทาหรณ์นี้ ที่ครอบครัวหนึ่งได้ใช้ ยาสมุนไพร มารักษาโรคผิวหนังให้ทารกวัย 4 เดือน จากคำแนะนำของเพื่อน สุดท้าย เด็กเกิดอาการ แพ้สมุนไพร เป็นแผลเยินที่แก้มอย่างรุนแรง
ทารก แพ้สมุนไพร! ผื่นคัน ร้องไห้จ้า หน้าเยิน อันตรายที่พ่อแม่ควรรู้
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่ประเทศเวียดนาม เมื่อเด็กชายวัย 4 เดือนถูกนำส่งโรงพยาบาล ด้วยแผลและของเหลวที่ไหลออกจากแก้มทั้งสองข้าง สาเหตุมาจากการที่ครอบครัวพยายามรักษาโรคผิวหนังอักเสบด้วย ยาสมุนไพร เองที่บ้าน โดยทางครอบครัวของเด็กชายได้เล่าว่า เด็กมีผื่นแดงคันขึ้นตามหน้ามาหลายวัน ซึ่งครอบครัวก็เลยได้พาไปพบแพทย์และได้ทำการรักษาจนอาการดีขึ้นแล้ว แต่จู่ ๆ หลังจากนั้นอาทิตย์หนึ่งต่อมา ครอบครัวก็ได้ลองเอายาสมุนไพร มาทาบนแก้มของเด็กตามคำแนะนำของเพื่อนอีกที ซึ่งผลลัพท์ที่ออกมานั่นก็คือ เด็กเกิดอาการ แพ้สมุนไพร ทำให้ที่แก้มของเด็กมีแผลบวมและน้ำไหลออกมาลามไปทั่ว มีการพุพองของแผล ทำให้เด็กมีอาการร้องไห้งอแง ครอบครัวจึงต้องรีบพาไปพบคุณหมออีกครั้ง!
โดยทางคุณหมอได้ทำการรักษาเด็กอย่างเข้มข้นเป็นเวลา 3 วัน แผลเริ่มหาย อาการบวมลดลง น้ำเหลวหยุดไหล และแก้มของเด็กก็เริ่มฟื้นตัวแล้ว
ทั้งนี้ ทางศูนย์สุขภาพอำเภอบาเจะ เมืองกว๋างนิญ ทางตะวันออกเฉียงเหนือของเวียดนาม ก็ได้ออกมาเตือนว่า ขอความร่วมมือผู้ปกครอง ไม่ควรทำการรักษาโรคผิวหนังอักเสบด้วยยาสมุนไพรเอง โดยเฉพาะในเด็กเล็ก เพราะการใช้สมุนไพรอาจทำให้เด็ก แพ้สมุนไพร เกิดแผลติดเชื้อรุนแรง หรือทำให้เกิดเนื้อร้ายที่ผิวหนังได้อีกด้วยค่ะ ซึ่งจากเหตุการณ์นี้ก็ถือว่าเป็นอุทาหรณ์เตือนใจสำหรับคุณพ่อคุณแม่หลาย ๆ คน ว่าการรักษาโรคผิวหนัง โดยเฉพาะในเด็กเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อนมาก ควรใส่ใจเป็นพิเศษ และควรให้ผู้เชี่ยวชาญช่วยดูแล ไม่อย่างนั้นจะเป็นเหมือนกับ เคส เด็กทารกวัย 4 เดือน รายนี้ค่ะ
ที่มา: sanook.com, phyathai.com
โรคผิวหนังอักเสบ หรือ ผื่นแพ้ผิวหนัง คืออะไร?
โรคผิวหนังอักเสบหรือผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง เป็นปัญหากวนใจที่พบได้บ่อยในเด็ก โดยเฉพาะในช่วงก่อนวัย 1 ปี ซึ่งถ้าหากปล่อยไว้นาน โดยไม่รีบทำการรักษาและดูแลอย่างถูกวิธี โรคนี้สามารถกลายเป็นเรื้อรังและติดตามเด็กไปจนถึงวัยผู้ใหญ่ได้ และอาจส่งผลต่อคุณภาพชีวิตได้ การพบแพทย์โดยเร็วที่สุดจึงเป็นสิ่งสำคัญ ช่วยให้ได้รับการรักษาอย่างถูกต้องและหายขาด ป้องกันไม่ให้โรคเรื้อรัง และยังช่วยให้ลูกน้อยไม่หงุดหงิด รำคาญ หรืองอแง
อาการโรคผิวหนังอักเสบ
อาการของโรคผิวหนังอักเสบอาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับสาเหตุและความรุนแรงของโรค โดยทั่วไปแล้ว ลักษณะอาการที่สามารถพบได้บ่อยคือเป็นผื่นตุ่มแดงคัน ลอกและเป็นขุยได้ มีอาการคันร่วมด้วย และการกระจายตามตัวจะต่างกันขึ้นอยู่กับสาเหตุและช่วงอายุ ดังนี้
1) วัยทารก
อาการเหล่านี้มักเริ่มในวัยเด็กเล็กอายุ 2-3 เดือน ตามบริเวณแก้ม ด้านนอกของแขน และขา เมื่อมีการสัมผัสสารระคายเคือง หรือมีการเสียดสี
2) วัยเด็กโต
เด็กวัยนี้ จะมีลักษณะผื่นที่หนาขึ้น มีรอยเกา บริเวณลำคอ ข้อพับของแขนและขา หากเกามากไปก็จะเป็นปื้นหนาได้ในบางคน และยังสามารถเป็นร่วมกับโรคผิวหนังอื่น ๆ ได้อีกด้วย ซึ่งสาเหตุเหล่านี้ยังไม่ทราบแน่ชัด แต่อาจมีความเกี่ยวข้องกับพันธุกรรม เช่น ประวัติคนในครอบครัวที่เป็นโรคภูมิแพ้ หอบหืด แพ้อากาศหรือผิวหนังอักเสบภูมิแพ้ค่ะ
บทความที่เกี่ยวข้อง : ผื่นแพ้ผิวหนังในเด็ก ลูกมีผื่นผิวหนังอักเสบผิดปกติไหม อย่ารอจนเรื้อรัง
วิธีการรักษา โรคผิวหนังอักเสบ
วิธีการรักษาโรคผิวหนังอักเสบในเด็กจะขึ้นอยู่กับความรุนแรงของอาการ โดยทั่วไปแล้ว แพทย์จะแนะนำวิธีการรักษา ดังนี้
1) มอยส์เจอร์ไรเซอร์
การทามอยส์เจอร์ไรเซอร์เป็นประจำ จะช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวหนัง และยังช่วยลดอาการแห้ง คัน ผิวลอก ซึ่งเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้เด็กเกาและเกิดรอยแผลเป็นได้ค่ะ
2) ครีมสเตียรอยด์
ครีมสเตียรอยด์มีหลายชนิด ซึ่งคุณหมอจะเลือกชนิดและความแรงที่เหมาะสมกับเด็ก โดยยาแต่ละชนิดมีวิธีใช้และระยะเวลาการใช้ที่แตกต่างกันออกไป ควรใช้อย่างเคร่งครัดตามคำแนะนำของแพทย์
3) ยาต้านฮิสตามีน
ยาต้านฮิสตามีนจะช่วยลดอาการคัน โดยเฉพาะในเวลากลางคืน มีส่วนช่วยให้เด็กรู้สึกสบายตัว นอนหลับได้ดีขึ้น
4) ยาแก้คัน
ยาแก้คันมีหลายรูปแบบ เช่น ยาทา ครีม โลชั่น แป้ง โดยควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนใช้ การหายา หรือ ยาสมุนไพร มาใช้เองโดยไม่ปรึกษาแพทย์ อาจทำให้ส่งผลเสียต่อสุขภาพผิวหนังได้ โดยเฉพาะในเด็กเล็กค่ะ เพราะว่าผิวเด็กมีความบอบบางมาก
นอกจากนี้ ยังมีวิธีอื่นๆ ที่สามารถช่วยบรรเทาอาการของโรคผิวหนังอักเสบในลูกน้อยได้อีกด้วยค่ะ
1) อาบน้ำเด็กด้วยน้ำอุณภูมิปกติ ประมาณ 10-15 นาที
2) ใช้สบู่อ่อนๆ ที่ไม่มีน้ำหอม
3) ทามอยส์เจอร์ไรเซอร์ให้เด็กหลังอาบน้ำ
4) หลีกเลี่ยงสารระคายเคืองและสารก่อภูมิแพ้
5) รักษาอุณหภูมิห้องให้เย็นสบาย
6) ให้เด็กสวมใส่เสื้อผ้าที่หลวมๆ และระบายอากาศได้ดี
7) ตัดเล็บให้เด็กสั้น เพื่อป้องกันไม่ให้เด็กเกาจนเกิดแผล
8) ห้ามเด็กเกาผื่น เพราะอาจทำให้เกิดรอยแผลเป็นและการติดเชื้อ
หากลูกน้อยมีอาการผิวแห้งคัน เป็น ๆ หาย ๆ แนะนำให้รีบไปพบแพทย์เพื่อรับการวินิจฉัยและรักษาอย่างถูกต้องทันที และไม่ควรทายาสมุนไพรบนใบหน้าเด็ก เพราะอาจส่งผลร้ายแรงต่อสุขภาพของเด็กได้ค่ะ
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ:
ทารกหลับยาก แม่ทำไงดี มาดูวิธีกล่อมลูกให้หลับใน 5 ขั้นตอน
เมื่อลูกน้อยหายใจครืดคราด ต้องดูแลอย่างไร จึงจะปลอดภัยกับเด็ก
หมอสูติฯ เตือน ไม่อยากให้ ลูกป่วยบ่อย แม่ป้องกันได้ตั้งแต่เตรียมตัวตั้งครรภ์