ในช่วงหน้าร้อน อากาศอบอ้าว แดดแรง เด็ก ๆ มักจะชอบไปเล่นน้ำคลายร้อน แต่รู้หรือไม่ว่า อุบัติเหตุอย่าง ลูกจมน้ำ มักเกิดขึ้นบ่อยในช่วงนี้ เหมือนกับเหตุการณ์ระทึกขวัญเกิดขึ้นเมื่อลูกชายของ “หนูเล็ก ก่อนบ่าย” เกือบเอาชีวิตไม่รอด เกือบจมน้ำเสียชีวิตต่อหน้าต่อตา!
อุทาหรณ์เตือนใจ! หนูเล็ก ก่อนบ่าย โพสต์คลิป ลูกจมน้ำ! เรื่องราวที่ไม่มีใครอยากให้เกิด
เมื่อวันที่ 7 มี.ค. ที่ผ่านมา ทางคุณ หนูเล็ก ก่อนบ่าย ได้โพสต์คลิปวิดีโอ ที่เกิดขึ้นเมื่อช่วงเดือนพฤษภาคมของปีที่แล้ว บนโซเชียลมีเดีย เผยให้เห็นนาทีชีวิตของลูกชาย “น้องวิน” จมน้ำ โดยทางคุณหนูเล็กได้ระบุในโพสต์ ดังนี้ค่ะ
“ขอความคิดเห็นพี่น้องและป้าๆของน้องวินทุกคนนะคะ ว่าเหตุการณ์นี้เกิดจากความประมาทของครูผู้สอน หรือเกิดจากน้องวินเป็นคนใช้ให้ครูผู้สอนช่วยไปหยิบบอลที่ปา ไปนะคะ
#จะเล่าให้ฟัง คือเมื่อ ช่วง พ.ค 2566 ได้ลง คอร์สเรียน ว่ายน้ำไว้กับครูคนนึงนะคะ นัดมาเรียนในหมู่บ้าน แม่ก็จะคอยเฝ้า แอบๆ แต่เวลาวินเห็นแม่วินก็จะไม่เรียน เลยฝากครูไว้และแม่แอบหลังต้นไม้บ้าน บางทีเดินกลับบ้านบ้าง ถึงเวลาก็มารับ (เพราะจ้างมาสอนตัวต่อตัวน่าจะฝากได้)
และในคลิปคือ 9หรือ8 พค2566 (จำไม่ได้ชัด ) วินเรียนว่ายน้ำ แม่กำลังมารับ รีบวิ่งได้ยินลูกร้อง ถามครูเกิดอะไรขึ้น ครูบอกว่าวินโยนหมวกครู ลงสระใหญ่ และครูจะลงไปเอา แต่วินก็โยนบอลไปอีกฝั่งที่ไม่ใช่น้ำ และบอกให้ครูช่วยไปหยิบบอลให้หน่อย
ครูบอกวินลงไปเอาหมวก และลืมว่าไม่ได้ใส่ชูชีพ ตกใจ ไม่ได้จมน้ำอะไร และครูก็เฉยๆและครูกลับ แต่เราไม่เชื่อใจสักเท่าไรเพราะวินบอกว่าวินจมน้ำ กินน้ำ สำลักน้ำ
แม่เลยขอหมู่บ้านดูกล้องหน่อย และที่เห็นก็ตกใจ ตัวสั่น มือสั่นร้องไห้ รับไม่ได้กลัวลูกตายเหมือนในข่าว และโกรธที่ครูไม่บอกว่าจมน้ำ บอกว่าแค่ตกใจ และครูไม่มีถามไม่ขอโทษ ไม่รู้สึกอะไรเลย นิ่งเฉย
อีกวันสองวันเค้าทักมาทวงค่าเรียน เราเลยส่งคลิปไปให้เค้า ว่าวินจมน้ำนะ ทำไมครูบอกไม่จม
เค้าถึงจะพิมมาบอกขอโทษจะไม่ทำให้เกิดขึ้นอีก แปลกใจทำไมไม่ขอโทษตั้งแต่วันที่จม ทำไมเฉย
และก็ส่งมาว่าติดงานยาว เราเลยโอเคไม่เรียนแล้วค่ะ และก็เงียบเพราะอยากดูแลความรู้สึกลูกก่อนที่จะโวยวาย เวลาผ่านไปก็ช่างมันไม่เอาความอะไรกับครูแบบนั้นก็แค่หาคนใหม่
จนล่าสุดที่โรงเรียนวินถามวินเป็นอะไรทำไมไม่ชอบเรียนว่ายน้ำแล้ว วินร้องให้ วินจะใส่แต่ชูชีพอย่างเดียว เกิดอะไรขึ้น
เวลาผ่านไปจะครบปี แม่คิดว่าวินจะหายสะเทือนใจแล้วแต่สรุปว่ามันฝังใจลูกไปเลย เป็นปมไปเลย
เลยทักไปบอกครูแย่คนนั้น และคำตอบที่ได้คือ ถ้าคิดว่าครูผิดฝ่ายเดียวก็ไม่มีอะไรจะพูด อี…………… เอ้ยยยยย
ทั้งหมดคือความจริง แต่อยากขอความเห็นจากทุกคน ว่าเกิดจากอะไร ความประมาทของครู หรือเกิดจากความผิดของวินที่โยนของเล่นและลงไปเอาหมวกเอง
ถ้าเกิดจากความผิดวิน เราจะได้ไปกราบขอโทษครูเค้าที่เราไปเลือกไว้ใจครูแน่ๆแบบนี้ให้สอนลูกเรา
ขอความคิดเห็นด้วยค่ะ เพราะคิดคนเดียวเดี๋ยวจะเข้าข้างตัวเอง”
ซึ่งเมื่อคลิปเหตุการณ์ดังกล่าว ได้เผยแพร่ออกไปบนโลกโซเชียล เหตุการณ์นี้ก็ได้สร้างความตกใจให้กับผู้คนมากมาย หลายคนต่างตั้งคำถามว่า อะไรคือสาเหตุของเหตุการณ์นี้? เกิดจากความประมาทของครูผู้ดูแล หรือความผิดพลาดของเด็ก?
โดยล่าสุดทาง เพจเจ้าหญิงน้อยแห่งอันดามัน เมื่อได้เห็นโพสต์ของคุณหนูเล็ก ก็ได้ออกมาให้ความเห็นเกี่ยวกับปัญหาเรื่อง ลูกจมน้ำ โดยระบุว่า
“ในฐานะคนเคยจมน้ำตอนเด็ก 3-4 ครั้ง เลยโดนส่งเรียนว่ายน้ำจริงจัง ปัจจุบัน ว่ายน้ำแบบเอาตัวรอดได้ ดำ SCUBA ได้ ดำ FREEDIVE ได้นิดหน่อย กลั้นหายใจตอนนี้ได้นาทีกว่าๆ เท่าที่ดูคลิป ไม่มีอะไรเลยค่ะ มันคือ แพนิค แน่นอน
เนื่องจากน้องไม่สวมชูชีพตามปกติและเห็นว่าหมวกไม่ไกล เลยโดดลงไปแล้วจะจมน้ำ ประมาณ 13 วินาที ทีนี้ ต้องอธิบายค่ะ เมื่อเด็ก ลงไปแล้วไม่ลอย เพราะไม่มีชูชีพ สิ่งแรกคือ เด็ก แพนิค ตกใจจนลืมพื้นฐาน ส่วนนึงเพราะ ปกติจะลงน้ำแล้วตัวลอยในระดับนึง แต่นี่จมลงไปเลย เลยตกใจ จะเห็นว่า ขาตีน้ำรัวๆ นั่นคืออาการแพนิค
เพราะถ้ามีสติครบ ผ่านการสอนมาบ้างแล้ว เวลาตกน้ำ จมน้ำ ครูจะสอนการลอยตัวไว้ เช่นลูกหมาตกน้ำ ซึ่งหลักสูตรการสอนที่ถูกต้อง จะไม่ตีขารัวค่ะ เพราะจะหมดแรงเร็วมาก และไม่ได้ประโยชน์เท่า ช้า ๆ เป็นจังหวะ ในภาพ น้องตีขารัว จนมีคนมาช่วย และไม่หงายหลัง ซึ่งการหงายหลัง คือการช่วยให้เราสามารถหายใจได้สะดวก โดยการตีขาพยุงตัว แล้วเอนหลังลง จมูกเราจะหายใจสะดวกและเราสามรถลอยตัวได้สะดวก แต่ในคลิป คือ ตัวตั้งตรง ตีขารัว มือไม่พยายามพยุงตัว จึงอนุมานได้ว่า แพนิค ค่ะ
ซึ่งการจัดการภาวะแพนิค แก้ได้ แต่อยู่ที่คน อยู่ที่เวลาค่ะ ถ้าเคสนี้เราแนะนำ เปลี่ยนไปสอน ลอยตัวแบบไม่ขยับร่างกาย จะช่วยพัฒนาได้ดีที่สุด เพราะเทคนิคการลอยตัวแบบไม่ขยับร่างกาย มีการรณรงค์ สอนฟรี เยอะมาก และได้ผลดี เพราะการลอยตัวแบบขยับร่างกายน้อย ๆ มีประโยชน์มากๆ ลดอาการแพนิคได้ด้วย และใช้เอาตัวรอดจากภัยเกี่ยวกับน้ำได้จริง ๆ ซึ่งเราลอยตัวแบบนี้ได้ ตั้งแต่ 16 แล้ว
ตอนเราจมน้ำ จมง๊ายง่าย ตอนเด็กที่จม 3 ครั้ง คือจมแบบเรียบร้อย ไม่ตีขา ไม่ตะกุย จมลงไปเฉยๆ ไปนั่งก้นสระ ดีที่มีคนดำลงไปดึงขั้นมาทั้ง 3 ครั้ง ทีนี้เลยโดยจับเรียน ซึ่งเราสอนยากนะ กว่าครูจะสอนเราสอบผ่าน พี่สาวที่เรียนพร้อมกัน จบคลาส 3 ไปแล้ว เราเพิ่งผ่านคลาส 1
ส่วนนึงเพราะ เราแพนิค ตอนว่ายที่ลึก ๆ ซึ่งอาการก็คล้ายกับในคลิปนี่แหละ”
ที่มา: khaosod.co.th, pobpad.com
Facebook: หนูเล็ก ก่อนบ่าย, เพจเจ้าหญิงน้อยแห่งอันดามัน
เมื่อ ลูกจมน้ำ ต้องทำปฐมพยาบาลอย่างไร
เชื่อว่าเหตุการณ์อย่าง ลูกจมน้ำ คงไม่มีใครอยากให้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น ซึ่งคุณพ่อคุณแม่ต้องไม่ประมาทเพราะเด็กเล็กยังควบคุมตัวเองได้ไม่ดี พ่อแม่ผู้ปกครองควรดูแลอย่างใกล้ชิด และอาจส่งเสริมให้ลูกน้อยได้รับการเรียนการสอนว่ายน้ำ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ร้ายแรงขึ้นได้ค่ะ
บทความที่เกี่ยวข้อง : เด็กจมน้ำ วิธีป้องกันเด็กไม่ให้จมน้ำ และขั้นตอนการช่วยเหลือ
- ประเมินสถานการณ์ คือสิ่งแรกที่ต้องทำเมื่อพบว่ามีเด็กจมน้ำ ที่สำคัญต้องดูให้แน่ใจว่าผู้ที่จะเข้าไปช่วยเหลือเด็กจะสามารถช่วยเหลือได้มากแค่ไหน ควรรีบขอความช่วยเหลือจากหน่วยฉุกเฉิน หรือเรียกรถพยาบาล เพื่อความปลอดภัยของเด็กและผู้ช่วยเหลือด้วย
- เมื่อนำตัวเด็กขึ้นมาจากน้ำแล้ว ควรให้เด็กนอนบนพื้นราบ แห้ง และปลอดภัย ไม่จับอุ้มเด็กพาดบ่าเพื่อเอาน้ำออกเป็นอันขาด ถ้าหากเป็นการเกิดอุบัติเหตุทางน้ำและสงสัยว่าอาจจะกระทบกระเทือนต่อกระดูกต้นคอ ต้องระมัดระวังการเคลื่อนย้ายเด็ก
- หากเด็กไม่หายใจ แต่ยังมีชีพจร ให้ทำการช่วยหายใจ โดยช่วยหายใจ 1 ครั้ง ทุก 3-5 วินาที
- ถ้าไม่มีชีพจรหรือไม่แน่ว่ามีชีพจร ให้ทำการกู้ชีวิต เริ่มจากการกดหน้าอก 30 ครั้ง สลับกับการช่วยหายใจ 2 ครั้ง
- ถ้าเด็กที่จมน้ำรู้สึกตัวขึ้นมาให้เด็กนอนตะแคง จัดท่าของศีรษะให้คอแหงนเล็กน้อยเพื่อเปิดทางเดินหายใจให้โล่ง แล้วรีบนำส่งโรงพยาบาลโดยเร็วที่สุด
แนวทางการป้องกันเมื่อ ลูกจมน้ำ
สิ่งสำคัญที่สุดในการป้องกันไม่ให้ ลูกจมน้ำ คือสถานที่สระว่ายน้ำควรมีอุปกรณ์สำหรับช่วยเหลือคนจมน้ำอยู่ข้างสระ เพื่อที่จะได้ช่วยเหลือได้ทันเวลาหากเกิดเหตุการณ์จมน้ำขึ้น นอกจากนี้วิธีป้องกันการจมน้ำสำหรับตนเองและเด็กเล็กนั้นทำได้หลายวิธี มีอะไรบ้าง มาดูกันค่ะ
แนวทางป้องกันการจมน้ำสำหรับคนทั่วไป
- หัดเรียนว่ายน้ำ
- เรียนรู้วิธีการทำ CPR เพื่อช่วยเหลือผู้ที่จมน้ำ
- ควรงดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ หรือ ของมึนเมา เมื่อต้องว่ายน้ำหรือนั่งเรือ
แนวทางป้องกันการจมน้ำสำหรับเด็กเล็ก
- ดูแลและกั้นทางไม่ให้เด็กเข้าใกล้บริเวณสระว่ายน้ำหรือแหล่งน้ำด้วยตนเอง รวมไปถึงการทิ้งของเล่นไว้ในบริเวณดังกล่าวด้วย เพราะอาจจะดึงความสนใจให้เด็กเดินเข้าไปเอาได้
- ควรสอนให้เด็กหัดว่ายน้ำ เมื่ออายุประมาณ 4 ปี
- ควรอยู่เป็นดูแลลูกไม่ให้ห่างขณะที่ลูกกำลังเล่นน้ำหรือว่ายน้ำทุกครั้ง หรือลงเล่นน้ำกับเด็ก และไม่ควรให้เด็กอยู่ไม่ห่างจากตัวเกินหนึ่งช่วงแขน เพื่อที่จะได้ช่วยได้ทันหากเกิดอุบัติเหตุ
5 โรงเรียนสอนว่ายน้ำเด็กเล็ก
จากเหตุการณ์ดังกล่าว ทำให้พ่อแม่หลายคนไม่สบายใจ และกังวลใจ วันนี้เราจึงมาแนะนำ 5 โรงเรียนสอนว่ายน้ำสำหรับเด็กกันค่ะ เพื่อสอนให้ลูก ไม่แพนิค หากเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้น
หนึ่งในโรงเรียนสอนว่ายน้ำเด็กเล็กชื่อดัง ที่ได้รับการรับรองจากประเทศออสเตรเลีย ที่เหล่าดาราและนักแสดงพาลูกน้อยมาใช้บริการกันเยอะ ซึ่งเด็กเล็กสามารถเข้าเรียนได้ ตั้งแต่อายุ 4 เดือนขึ้นไป ที่สำคัญคุณพ่อคุณแม่สามารถเลือกสถานที่เรียนที่ใกล้บ้าน และ สะดวกสบายต่อตนเองได้เลยค่ะ เพราะโรงเรียนสอนว่ายน้ำที่นี่มีหลายสาขาทั่วกรุงเทพ
โรงเรียนสอนว่ายน้ำที่ใช้หลักสูตรตามแบบฉบับของประเทศอังกฤษ จาก Cambridge ซึ่งเปิดรับสอนตั้งแต่เด็กแรกเกิด ไปจนถึงเด็กที่อายุ 10 ขวบ เปิดมานานมากกว่า 30 ปี แถมยังมีคลาสว่ายน้ำสำหรับคนท้องอีกด้วย มีทั้งหมด 4 สาขา ในกรุงเทพ สะดวกสบายต่อการเดินทางของคุณพ่อคุณแม่สุด ๆ เลยค่ะ
สถาบันสอนว่ายน้ำสำหรับเด็กตั้งแต่แรกเกิดถึง 6 ปี ที่เป็นมากกว่าการสอนว่ายน้ำ แต่เป็นศูนย์รวมกิจกรรมทางน้ำ (Aquatic Center) มาตรฐานสากลอีกด้วยค่ะ ความพิเศษของที่นี่คือ การใส่ใจในทุกความปลอดภัยของเด็กค่ะ โดยทางสถาบันเลือกใช้เครื่องปรับอุณหภูมิสระว่ายน้ำของ PAC เพื่อควบคุมอุณหภูมิให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมสำหรับเด็กอีกด้วย
อีกหนึ่งโรงเรียนที่ได้รับใบประกาศจากสถาบันสอนว่ายน้ำระดับโลก คุณครูสอนว่ายน้ำทุกคนที่นี่ล้วนมีประสบการณ์ โดยทางโรงเรียนเปิดรับสอนเด็กอายุตั้งแต่ 4 เดือนจนถึงเด็กโตที่อายุ 12 ปี ที่สำคัญที่โรงเรียนแห่งนี้มีอุปกรณ์ว่ายน้ำที่ทันสมัย สะอาด และครบครัน แม่ ๆ ไม่ต้องเสียเวลาเตรียมไปเองแน่นอนค่ะ แถมยังมีห้องนั่งพักสุดหรู สบาย ๆ ข้างสระน้ำให้สำหรับผู้ปกครองด้วยค่ะ
อีกหนึ่งโรงเรียนสอนว่ายน้ำที่สอนด้วยหลักสูตรจากประเทศออสเตรเลียอีกเช่นกันค่ะ เปิดรับสอนเด็กอายุตั้งแต่ 4 เดือน – 9 ปี ความพิเศษของสถาบันแห่งนี้คือใช้สระว่ายน้ำที่มีระบบน้ำเกลือบำบัด อุณหภูมิน้ำเหมาะกับทารก อาคารเรียนโปร่ง โล่งสบาย อากาศถ่ายเท และอยู่ในร่ม เหมาะสำหรับคุณพ่อคุณแม่ที่อยากประหยัดงบหน่อยมาก ๆ ค่ะ เพราะราคาต่อคอร์ส เริ่มต้นอยู่ที่ 2,000 บาท
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ:
ทารกว่ายน้ำได้ตอนกี่เดือน พาลูกลงสระเร็วแล้วจะได้อะไร
5 ปัจจัยสำหรับการ เลือกโรงเรียนสอนภาษาอังกฤษให้ลูก
สติช่วยชีวิต! แม่ใช้ทักษะพยาบาลช่วยลูกน้อยจาก ลูกอมติดคอ
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!