TAP top app download banner
theAsianparent Thailand Logo
theAsianparent Thailand Logo
คู่มือสินค้า
เข้าสู่ระบบ
  • อยากท้อง
  • ระยะการตั้งครรภ์
    • โภชนาการ เเม่ท้อง เเม่ให้นม
    • ไตรมาส 1
    • ไตรมาส 2
    • ไตรมาส 3
    • ตั้งชื่อลูก
  • แม่ผ่าคลอด
    • พัฒนาการเด็กผ่าคลอด
    • เตรียมตัวผ่าคลอด
    • สุขภาพเด็กผ่าคลอด
    • คู่มือคุณแม่ผ่าคลอด
    • การดูแลหลังผ่าคลอด
    • โภชนาการเด็กผ่าคลอด
  • หลังคลอด
    • คลอดธรรมชาติ
    • ผ่าคลอด
    • การให้นมลูก
  • สุขภาพและโภชนาการ
    • โภชนาการ
    • สุขภาพ
  • ลูก
    • ทารกแรกเกิด
    • ทารก
    • เด็กวัยหัดเดิน
    • เด็กก่อนวัยเรียน
    • เด็ก
    • เด็กก่อนวัยรุ่น และวัยรุ่น
  • ชีวิตครอบครัว
    • ความรักและความสัมพันธ์
    • การเลี้ยงลูก
    • มุมคุณพ่อ
    • ประกันชีวิต
    • การวางแผนการเงิน
    • ความรัก และ เซ็กส์
  • การศึกษา
    • เด็กวัยประถม
    • โรงเรียนประถม
    • มัธยมศึกษา
    • แบบฝึกหัดและข้อสอบ
    • แนะแนวการศึกษาต่างประเทศ
  • ผู้หญิง
    • แฟชั่น
    • ความงาม
    • ฟิตเนส
  • ที่เที่ยว
    • เที่ยวไทย
    • เที่ยวต่างประเทศ
    • ที่พัก และ โรงแรม
  • ที่กิน
    • ร้านอร่อย
    • ร้านอร่อยสำหรับเด็ก
    • คาเฟ่
    • เมนูอาหาร
  • ไลฟ์สไตล์
    • ดวง
    • ทำนายฝัน
    • สีมงคล
    • บทสวดมนต์
    • ข่าว
    • ดูแลบ้าน
    • แนะนำโดย TAP
    • อีเว้นท์
  • TAPpedia
  • วิดีโอ
    • การตั้งครรภ์
    • ทารก
    • คำแนะนำในการเลี้ยงลูก
    • การให้นมบุตร
    • อาหารเสริมทารก & โภชนาการ
    • เด็กเล็ก
  • ชอปปิง
  • #สอนลูกเรื่องเงิน ฉบับพ่อแม่
  • VIP

เตือนภัย! แม่เกือบสูญเสียลูกชายวัย 4 ขวบ หลังปล่อยให้กิน “น้ำปั่น”

9 Feb, 2024
เตือนภัย! แม่เกือบสูญเสียลูกชายวัย 4 ขวบ หลังปล่อยให้กิน “น้ำปั่น”

ปัจจุบันเครื่องดื่มหลายประเภท ได้ถูกผลิตออกมาเพื่อให้ตรงกับความต้องการของผู้บริโภค ซึ่งเรามักจะเห็นน้ำหวานหรือน้ำผลไม้บางประเภท ที่ผสมสารเคมีที่ช่วยเพิ่มรสชาติและสีสัน ซึ่งทำให้เด็กและวัยรุ่นหลายคนอยากจะลิ้มลอง อย่างไรก็ตาม เครื่องดื่มเหล่านี้อาจเป็นอันตรายต่อร่างกายได้ เช่นเดียวกับกรณีของคุณแม่ชาวอังกฤษท่านนี้ที่ได้ออกมาเตือนอุทาหรณ์ หลังลูกชายของเธอเผลอดื่ม “น้ำปั่น” เข้าไป ทำให้หมดสติ ต้องรีบนำตัวส่งโรงพยาบาลทันที

 

แม่เตือนภัย! ลูกชายเผลอกิน “น้ำปั่น” ทำเอาเกือบเสียชีวิต

เมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2567 ที่ผ่านมา คุณแม่ชาวอังกฤษท่านหนึ่ง ได้ออกมาเตือนอุทาหรณ์แก่ผู้ปกครองทุกคน หลังลูกชายของเธอเผลอดื่มน้ำปั่น เครื่องดื่มประเภท “Slushy” หรือที่คนไทยรู้จักกันดีว่า “สเลอปี้” เว็บไซต์ต่างประเทศได้รายงานว่า เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 13 ตุลาคม 2566 ในเมืองวอร์ริคเชียร์ สหราชอาณาจักร เด็กชายอัลบี วัย 4 ขวบ และเพื่อนอีกคนหนึ่งได้เข้าไปเล่นในลานโบว์ลิ่ง โดยมี เบธ คุณแม่ของเด็กชายอัลบีคอยดูอยู่ห่าง ๆ

 

หลังจากเล่นอยู่ในลานโบว์ลิ่งสักพัก เด็กชายก็ได้ซื้อเครื่องดื่มสตอร์วเบอร์รีปั่นมารับประทาน ซึ่งก่อนหน้านี้ก็ได้รับประทานเครื่องดื่มชนิดนี้มาหลายครั้ง แต่ไม่เคยเจอเหตุการณ์ผิดปกติ แต่หลังจากที่อัลบีดื่มน้ำปั่นนี้ไปประมาณ 1 ชั่วโมง ก็ได้มีอาการผิดปกติขึ้น ระหว่างทางกลับบ้านคุณแม่ต้องมัดเด็กชายไว้กับเบาะ เพราะจู่ ๆ อัลบีก็มีอาการเหนื่อยและกระวนกระวาย

โดยเธอได้กล่าวว่า “มันเป็นเหตุการณ์ที่แปลกจริง ๆ เขากรีดร้องในรถและบอกว่า ‘ไม่’ ‘ปล่อยหนูไว้คนเดียว’ เอาแต่กรี๊ดแล้วก็ล้มลง” ในตอนแรกเบธคิดว่าลูกชายของเธอแค่รู้สึกเหนื่อย และตื่นเต้นจากการเล่นโบว์ลิ่งก่อนหน้านี้ แต่อยู่ ๆ ก็กลับกลายเป็นเรื่องร้าย เพราะอัลบีเริ่มข่วนหน้าตัวเอง และมีอาการประสาทหลอนก่อนที่จะล้มลงและหมดสติไป เธอได้กล่าวอีกว่า “ในตอนนี้ฉันจำไม่ได้ว่าเขาหายใจอยู่หรือเปล่า ตอนที่ฉันอุ้มเขาผ่านประตูเข้าไป เขาก็หมดสติไปแล้ว”

 

เบธรีบพาลูกชายของเธอไปโรงพยาบาล แต่ร่างกายของเด็กชายหนักมาก เจ้าหน้าที่จึงรีบพยายามปลุกให้เด็กตื่น ซึ่งเธอก็ได้กล่าวว่า “พวกเขาพยายามเขย่าและปลุกให้อัลบีตื่น แต่เขาไม่ตอบสนอง พวกเขาเลยรีบพาไปที่ห้องฉุกเฉินแล้วทำการช่วยชีวิตทันที เพราะเด็กเริ่มไม่หายใจ” ซึ่งแพทย์ก็ได้บอกกับเบธว่า หัวใจของลูกชายเธอเต้นในอัตราช้ามาก และระดับน้ำตาลในเลือดของเขาก็ต่ำจนถึงขั้นอันตราย ทำให้แพทย์สงสัยว่าเด็กชายได้เสพยาโดยไม่ได้ตั้งใจ หรือได้รับอินซูลินหรือไม่

 

น้ำปั่น

 

หนูน้อยอัลบีต้องใช้เวลา 3 วันกว่าจะฟื้นตัวหลังจากดื่มเครื่องดื่มเข้าไป คุณแม่ของเด็กชายยังได้กล่าวว่า แพทย์บอกกับเธอว่าอัลบีอาจเสียชีวิตได้ หากพาเขากลับบ้านแทนที่จะพามาโรงพยาบาล

 

ต่อมาแพทย์ได้วินิจฉัยหาสาเหตุ และได้พบว่าทางร้านได้ใส่สารเคมีที่เรียกว่า “กลีเซอรอล” ลงไปเพื่อทำให้เครื่องแข็งตัวและมีเนื้อสัมผัสเป็นวุ้นเหมือนสเลอปี้ ซึ่งโดยทั่วไปแล้ว กลีเซอรอล จะปลอดภัยสำหรับผู้ใหญ่หากรับประทานในปริมาณน้อย แต่สำหรับเด็กอาจร้ายแรงถึงขั้นเสียชีวิตได้

สำนักงานมาตรฐานอาหารแห่งสหราชอาณาจักร (FSA) ได้กล่าวว่า “โดยทั่วไปแล้ว เมื่อเด็กดื่มเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของกลีเซอรอล ก็อาจทำให้เกิดอาการช็อก ภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ และหมดสติได้ เด็กที่มีอายุมากกว่า 4 ขวบอาจเกิดอาการเหล่านี้ ส่วนเด็กที่อายุ 18 ปีขึ้นไป หรือต่ำกว่า อาจมีอาการปวดหัวและเจ็บป่วยจากการรับประทานส่วนผสมของกลีเซอรอลเข้าไป”

 

อย่างไรก็ตาม อัลบี เป็นเด็กรายที่ 2 ในสหราชอาณาจักรที่เกือบเสียชีวิต หลังรับประทานเครื่องดื่มชนิดนี้เข้าไป ก่อนหน้านี้มีเด็กชาวสกอตแลนด์คนหนึ่งที่ได้รับประทานเครื่องดื่มชนิดนี้เข้าไปเช่นกัน และหมดสติหลังดื่มน้ำปั่นเข้าไปครึ่งชั่วโมง ทำให้คุณแม่ของเด็กชายรู้สึกโกรธมากที่ก่อนหน้านี้ลูกชายของเธอได้รับประทานน้ำปั่นมาบ่อยครั้ง แต่ก็ไม่เคยเกิดปัญหาอะไรขึ้นเลย แต่ครั้งนี้จะเป็นสิ่งที่เธอจดจำไปตลอดชีวิต

เธอยังได้กล่าวว่ารัฐบาลอังกฤษควรออกกฎดูแลเรื่องนี้เพื่อปกป้องเด็ก ๆ ไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นอีก เธอยังได้เสริมว่า “ฉันไม่คิดว่าพวกเขาควรขายน้ำปั่นประเภทนี้ให้เด็กที่มีอายุต่ำกว่า 10 ปี โดยเฉพาะในสวนสนุก ลานโบว์ลิ่ง และโรงภาพยนตร์ ซึ่งจะมีเครื่องดื่มชนิดนี้ขายอยู่เสมอ”

บทความที่เกี่ยวข้อง : 7 เครื่องดื่มที่แย่ที่สุดสำหรับเด็กเล็ก เครื่องดื่มที่ไม่ควรดื่ม ควรกันให้ห่างจากตัวลูก

 

น้ำปั่น

 

กลีเซอรอลคืออะไร

กลีเซอรอล (Glycerol) คือ สารเคมีชนิดหนึ่งที่มีลักษณะเป็นของเหลวที่มีความหนืด มีรสหวาน และไม่มีสี เป็นสารประกอบที่ได้มาจากไขมันสัตว์และน้ำพืช สามารถละลายในน้ำและแอลกอฮอล์ได้ดี มักนำไปใช้เป็นสารตั้งต้นในการสังเคราะห์สารเคมีอื่น ๆ และสามารถเป็นสารทำละลายได้ นอกจากนี้ กลีเซอรอลยังเป็นมอยส์เจอไรเซอร์ที่ช่วยดูดซับความชื้น และช่วยขจัดสิ่งสกปรก นิยมนำมาทำแชมพู สบู่ ยาสีฟัน รวมถึงยังนำมาใช้เป็นส่วนผสมในอาหารและเครื่องดื่ม เช่น น้ำปั่น สารให้ความหวาน ลูกอม และสุรา เป็นต้น

 

กลีเซอรอลพบได้ในเครื่องดื่มอะไรบ้าง

ในปัจจุบันหลายบริษัทมักใช้กลีเซอรอลเป็นสารให้ความหวานแทนน้ำตาล โดยถูกนำมาใช้ในเครื่องดื่มหลายประเภท คุณพ่อคุณแม่จึงต้องระมัดระวังอาหารและเครื่องดื่มเหล่านี้ เพราะอาจมีกลีเซอรอลที่เป็นอันตรายแก่เด็กได้

  • น้ำอัดลม ขนมหวาน
  • จิน คอนญัก และไรย์วิสกี้
  • ผลไม้แห้ง เค้ก ชีส และลูกอม
  • เบียร์ น้ำส้มสายชู ไวน์ และน้ำผึ้ง
  • รสวานิลลา กาแฟ ส้ม และช็อกโกแลต
  • กลิ่นลาเวนเดอร์ โรสแมรี เครื่องเทศ และเครื่องปรุงรส

บทความที่เกี่ยวข้อง : 20 เมนูเครื่องดื่มสำหรับเด็ก ประโยชน์เน้น ๆ เมนูเครื่องดื่ม กินได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่

 

น้ำปั่น

 

บทความจากพันธมิตร
ก้าวไปอีกขั้น! PalFish Thailand จัดงานอลัง “ฉลองรับการขยายออฟฟิศใหม่”
ก้าวไปอีกขั้น! PalFish Thailand จัดงานอลัง “ฉลองรับการขยายออฟฟิศใหม่”
แพ็ลฟิชฯ จัดอลัง!! ประชันแข่งขันสุนทรพจน์ภาษาอังกฤษ “PalFish English Speech Contest” - ดัน “UN” ส่งเสริมการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs 17)
แพ็ลฟิชฯ จัดอลัง!! ประชันแข่งขันสุนทรพจน์ภาษาอังกฤษ “PalFish English Speech Contest” - ดัน “UN” ส่งเสริมการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs 17)
สร้างความแข็งแกร่งของฮีโร่ตัวน้อย ด้วย LPR โพรไบโอติก ตัวดัง
สร้างความแข็งแกร่งของฮีโร่ตัวน้อย ด้วย LPR โพรไบโอติก ตัวดัง
วันเด็กแห่งชาติ ปี 2565 กระทรวง อว. ชวนเจ้าตัวเล็ก ร่วมกิจกรรม Online “ถนนสายวิทยาศาสตร์” ลุ้นเปิด “กล่องสุ่มของเล่น” กระจายความสนุกพร้อมกันทั่วประเทศ
วันเด็กแห่งชาติ ปี 2565 กระทรวง อว. ชวนเจ้าตัวเล็ก ร่วมกิจกรรม Online “ถนนสายวิทยาศาสตร์” ลุ้นเปิด “กล่องสุ่มของเล่น” กระจายความสนุกพร้อมกันทั่วประเทศ

เครื่องดื่มที่ปลอดภัยสำหรับเด็ก

เป็นเรื่องปกติสำหรับเด็ก ๆ ที่จะชอบรับประทานของหวานและเครื่องดื่มที่มีน้ำตาล แต่คุณพ่อคุณแม่ไม่ควรให้ลูกดื่มเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลสูงมากเกินไป เพราะอาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพ โดยเครื่องดื่มที่ปลอดภัยสำหรับเด็ก มีดังนี้

 

1. น้ำเปล่า

น้ำเปล่ามีความสำคัญต่อร่างกายของลูกน้อยเป็นอย่างมาก เนื่องจากเด็กมีความต้องการน้ำมากกว่าผู้ใหญ่ อีกทั้งยังเป็นเครื่องดื่มที่ไม่มีน้ำตาลและไม่มีแคลอรี จึงปลอดภัยสำหรับเด็ก อย่างไรก็ตาม คุณพ่อคุณแม่ไม่ควรให้ลูกดื่มน้ำแร่ เพราะน้ำแร่มีระดับเกลือแร่สูง ควรให้ลูกดื่มน้ำเปล่าทั่วไปจะดีกว่า หากอยากให้ลูกดื่มน้ำเปล่าจริง ๆ ควรรอให้ลูกรับประทานอาหารได้อย่างหลากหลายก่อน

 

2. นม

อย่างที่ทราบกันดีว่า นม เป็นเครื่องดื่มที่จำเป็นสำหรับเด็ก เพราะมีสารอาหารที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโต ไม่ว่าจะเป็นแคลเซียม โปรตีน และวิตามินต่าง ๆ เด็กในช่วงวัย 2 ขวบขึ้นไป สามารถดื่มนมวัวธรรมดาได้ และควรเลือกดื่มนมที่มีไขมันต่ำ หรือนมพร่องมันเนยแทนนมที่มีรสหวาน เพราะมีน้ำตาลสูง และมีสารอาหารที่ไม่ต่างกัน

 

3. น้ำผลไม้

สำหรับเด็กที่อายุ 6 เดือนขึ้นไป คุณพ่อคุณแม่สามารถให้ลูกดื่มน้ำผลไม้ได้ แต่ควรเลือกน้ำผลไม้ที่คั้นสด สะอาด และไม่ควรใส่น้ำตาล ส่วนน้ำผลไม้ที่บรรจุในขวด คุณพ่อคุณแม่ควรเลือกแบบคั้นสดใหม่ ไม่มีสารกันเสีย และไม่ควรเติมสารให้ความหวานต่าง ๆ

 

อย่างไรก็ตาม น้ำปั่นยังคงเป็นเครื่องดื่มที่ปลอดภัยสำหรับเด็ก หากเป็นน้ำปั่นจากผลไม้ที่คั้นสดวันต่อวัน คุณพ่อคุณแม่ควรให้ลูกดื่มเครื่องดื่มที่มีประโยชน์ และไม่เติมน้ำตาลจะดีกว่าเพื่อสุขภาพที่ดี

 

บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :

น้ำผลไม้สำหรับเด็กอายุ 3 ขวบ ลูกกินน้ำผลไม้แบบไหนได้บ้าง?

สูตรเครื่องดื่มสำหรับเด็ก เมนูเครื่องดื่มหวานเย็นอร่อย ๆ สำหรับหนูน้อย

เคล็ดลับ เลือก ขนมสำหรับเด็กเล็ก เลือกแบบไหน ไม่ให้ลูกกลายเป็น เด็กติดหวาน

ที่มา : nypost.com, pwai.co.th, healthline.com

มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!

Follow us on:
facebook-logo instagram-logo tiktok-logo
img
บทความโดย

Sittikorn Klanarong

  • หน้าแรก
  • /
  • ข่าว
  • /
  • เตือนภัย! แม่เกือบสูญเสียลูกชายวัย 4 ขวบ หลังปล่อยให้กิน “น้ำปั่น”
แชร์ :
  • เซต คอลเกต บัตเตอร์แบร์ [ฟรี! กระเป๋าน้องเนยลายลิมิเต็ด]

    เซต คอลเกต บัตเตอร์แบร์ [ฟรี! กระเป๋าน้องเนยลายลิมิเต็ด]

  • ฟิลิปส์ เผยผลสำรวจด้านเฮลท์แคร์ล่าสุด Philips Future Health Index 2025 พบความล่าช้าและการเสียโอกาสในการรักษา ทำให้ระบบสาธารณสุขใน ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกต้องเร่งปรับใช้เทคโนโลยี AI

    ฟิลิปส์ เผยผลสำรวจด้านเฮลท์แคร์ล่าสุด Philips Future Health Index 2025 พบความล่าช้าและการเสียโอกาสในการรักษา ทำให้ระบบสาธารณสุขใน ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกต้องเร่งปรับใช้เทคโนโลยี AI

  • คนไทยไม่ปั๊มลูกแล้วจ้า! ไทยติดโผประเทศที่มี อัตราการเกิดลดลง อันดับ 3 ของโลก ในรอบ 74 ปี

    คนไทยไม่ปั๊มลูกแล้วจ้า! ไทยติดโผประเทศที่มี อัตราการเกิดลดลง อันดับ 3 ของโลก ในรอบ 74 ปี

powered by
  • เซต คอลเกต บัตเตอร์แบร์ [ฟรี! กระเป๋าน้องเนยลายลิมิเต็ด]

    เซต คอลเกต บัตเตอร์แบร์ [ฟรี! กระเป๋าน้องเนยลายลิมิเต็ด]

  • ฟิลิปส์ เผยผลสำรวจด้านเฮลท์แคร์ล่าสุด Philips Future Health Index 2025 พบความล่าช้าและการเสียโอกาสในการรักษา ทำให้ระบบสาธารณสุขใน ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกต้องเร่งปรับใช้เทคโนโลยี AI

    ฟิลิปส์ เผยผลสำรวจด้านเฮลท์แคร์ล่าสุด Philips Future Health Index 2025 พบความล่าช้าและการเสียโอกาสในการรักษา ทำให้ระบบสาธารณสุขใน ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกต้องเร่งปรับใช้เทคโนโลยี AI

  • คนไทยไม่ปั๊มลูกแล้วจ้า! ไทยติดโผประเทศที่มี อัตราการเกิดลดลง อันดับ 3 ของโลก ในรอบ 74 ปี

    คนไทยไม่ปั๊มลูกแล้วจ้า! ไทยติดโผประเทศที่มี อัตราการเกิดลดลง อันดับ 3 ของโลก ในรอบ 74 ปี

ลงทะเบียนรับคำแนะนำเรื่องการตั้งครรภ์พัฒนาการลูกในท้องได้ที่นี่
  • เตรียมตัวเป็นผู้ปกครอง
  • พัฒนาการลูก
  • ชีวิตครอบครัว
  • ระยะการตั้งครรภ์
  • โภชนาการ
  • ไลฟ์สไตล์
  • TAP สังคมออนไลน์
  • ติดต่อโฆษณา
  • ติดต่อเรา
  • Influencer Marketing (KOL)
  • มาเข้าร่วมกับเรา


  • Singapore flag Singapore
  • Thailand flag Thailand
  • Indonesia flag Indonesia
  • Philippines flag Philippines
  • Malaysia flag Malaysia
  • Vietnam flag Vietnam
© Copyright theAsianparent 2025. All rights reserved
เกี่ยวกับเรา |ทีม|นโยบายความเป็นส่วนตัว |ข้อกำหนดการใช้ |แผนผังเว็บไซต์
  • เครื่องมือ
  • บทความ
  • ฟีด
  • โพล

เราใช้คุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์คอนเทนต์ที่ดีที่สุดให้กับคุณ. เรียนรู้เพิ่มเติมตกลง เข้าใจแล้ว

เราใช้คุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์คอนเทนต์ที่ดีที่สุดให้กับคุณ. เรียนรู้เพิ่มเติมตกลง เข้าใจแล้ว