เพราะภัยใกล้ตัวสามารถเกิดขึ้นได้ทุกที่ ไม่ว่าจะในบ้าน หรือ นอกบ้าน ผู้ปกครองจึงมีหน้าที่ที่จะต้องดูแลเอาใจใส่เด็ก ๆ อยู่เสมอ เพื่อไม่ให้เกิดอันตรายหรืออุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นได้โดยไม่คาดฝัน เหมือนกับเหตุการณ์นี้ ที่คุณแม่ท่านหนึ่งได้ออกมาแชร์อุทาหรณ์ “ประตูรั้วล้มทับ” เด็กหญิงวัย 3 ขวบ พร้อมเตือนผู้ปกครองท่านอื่นให้ระวัง เพราะความปลอดภัยเป็นสิ่งที่สำคัญสุด
วินาทีชีวิต! ประตูรั้วล้มทับ ลูกสาว แม่แทบขาดใจ!
เมื่อวันที่ 27 มกราคมที่ผ่านมา ได้มีคลิปจากกล้องวงจรปิด ประตูรั้วบ้านล้มทับ เด็กหญิงวัย 3 ขวบ ที่บ้านหลังหนึ่งในจังหวัดศรีสะเกษ โพสต์โดยผู้ใช้เฟซบุ๊กนามว่า ธนาพงศ์ วงศ์จอม ผู้เป็นพ่อของ ด.ญ.วรัณญา วงศ์จอม (น้องทอฝัน) ที่ได้รับบาดเจ็บ โดยคุณพ่อได้โพสต์ว่า “หัวใจแทบสลาย” ซึ่งเหตุการณ์นี้ทำให้ผู้ปกครองและชาวเน็ตมากมายต่างพากันตกอกตกใจเป็นอย่างมาก
โดยทางด้าน นาง ญาณภัทร ทองเบ้า ผู้เป็นแม่ได้เล่าว่า สาเหตุของเหตุการณ์นี้เกิดขึ้น ตอนที่ตนพร้อมลูก ๆ 2 คน กำลังจะออกไปส่งคุณยาย ตนจึงได้กดเปิดเลื่อนประตูรั้วไฟฟ้าออก แต่ระบบประตูรั้วเกิดการติดขัด ล้อตกร่อง ทำให้คุณยายต้องลงมาพยายามยกประตูขึ้นให้ลงร่อง ในระหว่างนั้น คุณยายไม่ได้เห็นว่าน้องเดินลงมาจากรถ จู่ ๆ ประตูรั้วก็เกิดหลุดออกจากบูชข้อต่อประตู ทางน้องทอฝันที่อยู่ใกล้ประตูรั้ว ก็ถูกประตูล้มทับ ซึ่งหลังจากเกิดเรื่อง คุณแม่ก็รีบนำตัวน้องส่งโรงพยาบาลโดยเร็ว
เบื้องต้นคุณพ่อได้ออกมาชี้แจงเพิ่มเติมในเฟซบุ๊กว่าโชคดีที่น้องทอฝันไม่ได้รับบาดเจ็บสาหัสอะไรมาก และตอนนี้น้องก็ได้ออกจากโรงพยาบาลแล้ว แต่เหตุการณ์นี้ก็สร้างความตกใจให้กับครอบครัวเป็นอย่างมาก
นอกจากนี้ทางคุณแม่ยังได้กล่าวว่า ตนและคุณยายรู้สึกเสียใจมากที่เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นกับน้องทอฝัน ก่อนที่จะเกิดเหตุตนได้เตือนลูกสาวแล้วว่าอย่าเพิ่งออกไปก่อน มันอันตราย แต่ก็ไม่ทันการณ์ หลังจากที่เหตุการณ์นี้ได้เกิดขึ้น ตนจึงอยากฝากเตือนผู้ปกครองให้ดูแลบุตรหลานอย่างใกล้ชิด และระมัดระวังภัยใกล้ตัวที่อาจเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา ส่วนทางด้านคุณพ่อได้โพสต์ทางเฟสบุ๊กเพิ่มเติมถึงความโล่งอกโล่งใจที่น้องทอฝันไม่ได้เป็นอะไรมาก และหลังจากที่น้องออกจากโรงพยาบาลมา น้องก็ยังร่าเริงวิ่งเล่นได้ปกติ แต่ก็หวังว่าเหตุการณ์แบบนี้จะไม่เกิดกับลูกของตนอีกในอนาคต
รับชมคลิปเหตุการณ์ ประตูรั้วล้มทับ เด็กน้อยวัย 3 ขวบ อุทาหรณ์เตือนใจคุณพ่อคุณแม่ได้ที่นี่
ที่มา : Facebook : ธนาพงศ์ วงศ์จอม
บทเรียนจาก ประตูรั้วล้มทับ ทบทวนความปลอดภัยของลูก
จากเหตุการณ์ ประตูรั้วล้มทับ น้องทอฝัน ถือได้ว่าเป็นอุทาหรณ์เตือนใจคุณพ่อคุณแม่หลาย ๆ คน ที่ต้องระมัดระวังภัยใกล้ตัวที่อาจเกิดขึ้นกับบุตรหลานอยู่เสมอ เพราะปัญหาภัยใกล้ตัวเหล่านี้สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคนทุกที่และทุกเวลา แม้แต่ในบ้านที่นับว่าเป็นพื้นที่ที่ปลอดภัยที่สุดก็ยังมีโอกาสที่จะเกิดอุบัติเหตุได้
คุณพ่อคุณแม่ควรจึงควรตระหนักถึงความปลอดภัยของลูกในทุก ๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นความปลอดภัยในบ้าน นอกบ้าน หรือแม้แต่ความปลอดภัยในจิตใจ ดังนี้
ความปลอดภัยในบ้าน
ในระหว่างวัย 2-4 ขวบ เป็นช่วงที่เด็ก ๆ เติบโตและพัฒนาการอย่างรวดเร็ว จนพ่อแม่หรือผู้ดูแลอาจคาดไม่ถึงว่าลูกน้อยสามารถทำอะไรได้บ้าง ซึ่งเด็ก ๆ ในวัยนี้ รู้สึกอยากเป็นอิสระมากขึ้น พวกเขามีความอยากรู้อยากเห็น ชอบสำรวจโลกมากขึ้น และมักทำอะไรไปโดยไม่ค่อยคิดหน้าคิดหลัง และในบางทีพวกเขามักจะคิดว่าตนเองสามารถแบกรับสถานการณ์ที่เกินตัวได้ อีกทั้งยังไม่ค่อยตระหนักถึงผลลัพธ์ของการกระทำของตัวเองที่จะตามมาทีหลัง ซึ่งอาจนำไปสู่สถานการณ์อันตรายได้
ผลสำรวจจาก สหรัฐอเมริกา ได้ออกมาชี้แจงว่า เด็กในวัยนี้ยังไม่เข้าใจอันตรายและอาจไม่ฟังคำว่า “ไม่” ในขณะที่เล่นและสำรวจสิ่งต่าง ๆ ทำให้พวกเขามีความเสี่ยงเป็นพิเศษต่ออันตรายจากการล้ม จมน้ำ พิษ ไฟไหม้ และอุบัติเหตุทางรถยนต์ อันที่จริง อุบัติเหตุเป็นสาเหตุหลักของการเสียชีวิตในเด็กอายุต่ำกว่า 4 ปี
ผู้ปกครองควรตรวจสอบสภาพแวดล้อมภายในบ้านให้ปลอดภัยอยู่เสมอ เช่น ตรวจสอบประตูรั้วให้แข็งแรง ไม่ให้ชำรุดเสียหาย ตรวจสอบบันไดไม่ให้มีร่องหรือรอยแตก ตรวจสอบสายไฟและปลั๊กไฟให้อยู่ในสภาพดี เก็บของอันตรายให้พ้นมือเด็ก นอกจากนี้ ผู้ปกครองควรสอนให้ลูกน้อยระมัดระวังอันตรายภายในบ้านด้วย เช่น ไม่ควรเล่นใกล้ประตูรั้วขณะเปิดหรือปิด ไม่ควรปีนป่ายประตูรั้ว ไม่ควรเล่นกับของมีคม เป็นต้น และสอนให้รู้จักสังเกตสิ่งรอบตัวเสมอ
บทความที่เกี่ยวข้อง : เคล็ด(ไม่)ลับ! จัดบ้านให้ปลอดภัยสำหรับเด็ก ป้องกันอุบัติเหตุในบ้าน
ความปลอดภัยนอกบ้าน
ผู้ปกครองควรสอนเด็กให้รู้จักปฏิบัติตามกฎในที่สาธารณะอย่างเคร่งครัด ยกตัวอย่างเช่น ไม่ควรข้ามถนนโดยไม่ดูรถ ไม่ควรเล่นใกล้ริมถนนหรือทางรถไฟ ไม่ควรเล่นในบริเวณที่มีน้ำลึกหรือมีกระแสน้ำเชี่ยว เป็นต้น และที่สำคัญ คุณพ่อคุณแม่ควรดูแลลูกน้อยของคุณอย่างใกล้ชิดและไม่ให้คลาดสายตาเมื่ออยู่นอกบ้าน
ความปลอดภัยในจิตใจ
จากเหตุการณ์นี้ นอกจากจะสร้างรอยช้ำทางร่างกายแล้ว เหตุการณ์นี้ยังสร้างรอยแผลทางจิตใจให้กับทั้งตัวเด็กและผู้ปกครอง เด็กอาจเกิดความหวาดกลัวต่อเสียงหรือสถานการณ์ที่คล้ายคลึงกัน เช่น เสียงประตูเปิด การอยู่ใกล้ประตูรั้ว ผู้ปกครองเองก็อาจมีความเครียด วิตกกังวล และรู้สึกผิดที่ไม่สามารถดูแลลูกได้อย่างรอบคอบเพียงพอ
เพราะฉะนั้นคุณพ่อคุณแม่ควรมอบความรัก ความอบอุ่น และความเข้าใจให้แก่เด็ก เพื่อให้ลูกมีจิตใจที่มั่นคง กล้าเผชิญหน้าและรับมือกับปัญหาต่าง ๆ ได้ โดยผู้ปกครองควรสอนให้ลูกรู้จักจัดการกับอารมณ์ของตนเองอย่างเหมาะสม ควรหมั่นสังเกตพฤติกรรมของเด็กอยู่เสมอ และหากพบเห็น พฤติกรรมที่เสี่ยงอันตราย ควรรีบช่วยแก้ไขทันที เพื่อที่จะไม่ให้อารมณ์ของลูกรุนแรงจนเกินไปจนอาจนำไปสู่พฤติกรรมที่เสี่ยงอันตรายได้
ที่มา : Thairath, Healthychildren.org
โดยสรุปแล้ว เหตุการณ์ประตูรั้วล้มทับเด็กหญิงวัย 3 ขวบ ไม่ใช่แค่ข่าวอุบัติเหตุ แต่เป็นบทเรียนราคาแพงที่สะท้อนให้เห็นถึงความสำคัญของการตระหนักถึงภัยใกล้ตัว การดูแลความปลอดภัยของสถานที่อยู่อาศัย การสอนลูกให้รู้จักระมัดระวัง ประตูบ้านไม่ใช่แค่ทางเข้าออก แต่คือด่านแรกของความปลอดภัยที่เราไม่ควรมองข้าม หมั่นตรวจสอบความปลอดภัยและป้องกันก่อนจะสายไป เพราะฉะนั้นคุณพ่อคุณแม่จึงควรระมัดระวังภัยใกล้ตัวที่อาจเกิดขึ้นกับบุตรหลานอยู่เสมอ หมั่นตรวจสอบความปลอดภัยและป้องกันก่อนจะสายไป
บทความที่น่าสนใจ :
7 ขั้นตอน สอนลูกกลับบ้านเอง ให้ปลอดภัย สอนลูกให้จำที่อยู่บ้าน
ลูกโยน-ขว้างสิ่งของ เมื่อความ “โกรธ” ไม่ใช่เรื่องตลก แต่รับมือได้ใน 4 ขั้นตอน
ถึงสนามบินแล้ว แต่ลูกกลัวเครื่องบินไม่ยอมขึ้น ทำอย่างไรดี ?