คงถึงเวลาแล้ว ที่ลูกจะต้องเดินทางกลับบ้านด้วยตนเอง เรื่องนี้สำคัญมาก เพราะเกี่ยวกับความปลอดภัยของลูกด้วย สอนลูกกลับบ้านเอง จะต้องทำอย่างระมัดระวัง และมีความรอบคอบ ทำแบบไหนบ้าง เรามีแนวทางมาช่วย ถ้าพร้อมแล้วมาเริ่มฝึกลูกรักไปพร้อม ๆ กัน
สอนลูกกลับบ้านเอง ตอนลูกอายุเท่าไหร่ ?
เนื่องจากการกลับบ้านด้วยตนเองไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับเด็กที่มีผู้ปกครองไปรับตลอดเวลา ดังนั้นผู้ปกครองจะต้องคำนึงถึงช่วงอายุที่เหมาะสมของลูก โดยเลือกในช่วงที่ลูกสามารถเรียนรู้ จดจำ และสื่อสารพูดคุยได้อย่างมีประสิทธิภาพมากพอ ซึ่งช่วงอายุ 9 -10 ปีขึ้นไป หรืออยู่ในช่วงไม่ประถมศึกษาปีที่ 4 ขึ้นไป เป็นช่วงที่เหมาะสม อย่างไรก็ตามจะต้องฝึกการกลับบ้านด้วยตนเองให้มั่นใจเสียก่อน ซึ่งเราจะแนะนำในหัวข้อต่อไป นอกจากนี้ผู้ปกครองไม่ควรให้ลูกกลับบ้านด้วยตนเอง กรณีที่วันนั้นมีการทำกิจกรรม หรือเป็นการเดินทางกลับบ้านในช่วงหัวค่ำ หรือกลางคืน
บทความที่เกี่ยวข้อง : ลูกหายไปต้องทำยังไง และสิ่งพ่อแม่ที่ควรสอนลูก หากเกิดพลัดหลงกัน
6 ขั้นตอนสอนลูกกลับบ้านเอง ที่ต้องทำเพื่อความปลอดภัย
หากลูกอยู่ในช่วงอายุที่เหมาะสมแล้ว ผู้ปกครองก็สามารถที่จะฝึกให้เดินทางกลับบ้านด้วยตนเองได้ สิ่งแรกที่ต้องทำ คือ ผู้ปกครองควร สอนลูกจำที่อยู่บ้าน ว่าอยู่เลขที่ไหน ซอยอะไร เขตไหน และเพื่อป้องกันความผิดพลาด ผู้ปกครองสามารถเขียนลงในกระดาษ หรือป้ายชื่อ ให้ลูกเก็บรักษาเอาไว้ หรือเขียนใส่กระดาษแล้วให้ลูกถ่ายรูปเก็บเอาไว้ก็ได้
![สอนลูกกลับบ้านเอง](https://static.cdntap.com/tap-assets-prod/wp-content/uploads/sites/25/2023/04/prepare-child-traveling-alone.jpg?width=700&quality=10)
1. คอยพูดคุยตลอดเมื่อรับลูกกลับบ้าน
ก่อนที่จะให้ลูกกลับบ้านด้วยตนเองนั้น จะต้องเริ่มจากการฝึกโดยทั่วไปก่อน ซึ่งทำได้ไม่ยาก ระหว่างนี้ที่ผู้ปกครองยังคงรับลูกกลับบ้านเองอยู่ ให้คอยพูดคุยตลอดทางว่าจำสถานที่ตรงนี้ได้ไหม ผ่านอะไรมาบ้าง โดยเฉพาะลงรถจุดไหน ขึ้นรถจุดไหน และรถที่ขึ้นสายอะไรบ้างที่ขึ้นได้ เป็นต้น ผู้ปกครองควรพูดคุยกับลูกอยู่ตลอด เมื่อเวลาผ่านไป อาจเปลี่ยนจากการชวนคุย ชวนจำ ให้ลองถามลูกดูบ้างว่า ต่อไปขึ้นรถสายอะไรบ้าง ลงตรงไหน พออยู่บนรถก็ถามว่าตรงนี้เราลงไหม ลงไปแล้วไปขึ้นตรงไหนต่อ เป็นต้น
2. สอนการแก้ปัญหาเบื้องต้น
ปัญหาโดยทั่วไปที่ลูกมักเจอมีหลายอย่าง เช่น ขึ้นรถสายผิด หรือขึ้นถูกแต่ลงผิดป้าย ไปจนถึงปัญหาด้านความปลอดภัยของเด็กที่เดินทางคนเดียว เป็นต้น ซึ่งสิ่งเหล่านี้ผู้ปกครองต้องให้ความรู้พื้นฐานกับลูก เพื่อให้ลูกสามารถรับมือได้ด้วยตนเอง เช่น เมื่อลงผิดป้าย หรือขึ้นรถผิดหากเป็นรถเมล์ให้ถามพนักงานเก็บเงิน หากเป็นรถไฟให้ถามพนักงาน ณ จุดนั้น หรือหากมีคนแปลกหน้ามาคุยด้วย ก็ไม่ควรคุยด้วย มีคนชวนไปที่อื่นก็ไม่ควรตามไป หรือมีอะไรฉุกเฉินก็ให้มองหาตำรวจ หรือตะโกนดัง ๆ เป็นต้น
3. จำลองปัญหาที่อาจเกิดขึ้น เพื่อฝึกแก้ปัญหา
หลังจากที่สอนลูกเกี่ยวกับการแก้ปัญหาที่อาจเจอระหว่างเดินทางกลับบ้านเอง การฝึกฝนเป็นเรื่องที่ดี มากกว่าการให้ลูกไปเจอประสบการณ์จริงเป็นครั้งแรก ผู้ปกครองสามารถฝึกได้ด้วยการสมมุติเหตุการณ์ขึ้นมา ให้คุณแม่แสดงเป็นคนแปลกหน้าเข้ามาหาลูก แล้วให้คุณพ่อแสดงเป็นตำรวจที่อยู่ห่างออกไป เพื่อให้ลูกลองแก้ปัญหา โดยผู้ปกครองคอยแนะนำว่าถูกหรือไม่ หากทำแบบนั้นแบบนี้จะทำให้เกิดผลเช่นไร หรือการจำลองสถานการณ์ว่าตอนนี้ลูกขึ้นรถผิด จะทำอย่างไรดี โดยให้คุณพ่อ และคุณแม่แสดงเป็นคนที่บอกทางไม่เหมือนกัน แล้วดูว่าลูกจะตัดสินใจหาคำตอบที่ถูกต้องได้อย่างไร เป็นต้น
![สอนลูกกลับบ้านเอง 2](https://static.cdntap.com/tap-assets-prod/wp-content/uploads/sites/25/2023/04/prepare-child-traveling-alone-2.jpg?width=700&quality=10)
4. ให้อุปกรณ์ที่จำเป็นต่อเด็ก
สิ่งที่ขาดไม่ได้ในยุคนี้ คือ โทรศัพท์มือถือ เพื่อให้ลูกใช้ติดต่อได้ทุกเวลาที่ลูกต้องการความช่วยเหลือ หรือเจอปัญหา ผู้ปกครองควรบันทึกเบอร์โทรสำคัญเอาไว้ เช่น เบอร์ผู้ปกครอง, เบอร์ญาติหรือบุคคลที่ไว้ใจได้ซึ่งอาศัยอยู่ใกล้ ๆ กับเส้นทางกลับบ้านของลูก ไปจนถึงเบอร์โทรตำรวจ เป็นต้น
นอกจากนี้ยังมีอุปกรณ์อื่น ๆ ที่ผู้ปกครองไม่ควรพลาด เช่น นกหวีด เอาไว้สำหรับให้ลูกพกติดตัวกรณีต้องการความช่วยเหลือฉุกเฉิน เช่น มีคนแปลกหน้ามายุ่งด้วย ก็ให้ลูกเป่านกหวีด ซึ่งดังกว่าเสียงของลูกตะโกนแน่นอน เสียงนกหวีดจะทำให้บุคคลอื่นในพื้นที่หันมาสนใจ ถือเป็นการเอาตัวรอดสำหรับเด็กวิธีหนึ่ง
5. เขียนข้อมูลการติดต่อผู้ปกครองให้ลูกเก็บไว้
ข้อมูลการติดต่อของผู้ปกครองทั้งชื่อนามสกุลของลูก ชื่อผู้ปกครอง เบอร์ของผู้ปกครอง และที่อยู่บ้าน เอาไว้ให้ลูกใช้ยามจำเป็น เช่น เมื่อลูกหลงทางให้หาตำรวจ หรือเจ้าหน้าที่ใกล้เคียง เพื่อใช้ข้อมูลรับการช่วยเหลือ เป็นต้น เราแนะนำว่าให้จดบันทึกข้อมูลเอาไว้มากกว่า 1 ทาง เช่น ถ่ายรูปข้อมูลไว้ในโทรศัพท์ และเขียนลงกระดาษบันทึกที่เคลือบกันน้ำอย่างดี เพื่อป้องกันข้อมูลหายไปพร้อม ๆ กับโทรศัพท์ เป็นต้น
6. ช่วงแรกให้ติดต่อกันไว้ตลอด
หากลูกมั่นใจว่าตนเองสามารถกลับบ้านเองได้แล้ว หรือผู้ปกครองสังเกตว่าจำทางได้แน่นอน ก็ให้ลูกลองเดินทางกลับบ้านด้วยตนเอง โดยในช่วงแรก ๆ ผู้ปกครองควรติดต่อลูกอยู่ตลอดเวลา เราแนะนำให้ใช้การโทรคุยกันผ่านโทรศัพท์มือถือตลอดการเดินทาง เพื่อสอบถามว่าลูกถึงไหนแล้ว ขึ้นรถสายอะไร ลงที่ไหน หรือเมื่อลูกมีปัญหาจะสามารถสอบถามผู้ปกครองได้โดยตรงในทันทีนั่นเอง
![สอนลูกกลับบ้านเอง 3](https://static.cdntap.com/tap-assets-prod/wp-content/uploads/sites/25/2023/04/prepare-child-traveling-alone-3.jpg?width=700&quality=10)
หากติดต่อลูกไม่ได้ควรทำอย่างไร ?
- นำรูปของลูกไปตรวจสอบ และสอบถามพื้นที่กลับบ้านที่ลูกควรเดินทางผ่าน เช่น จุดขึ้นรถ หรือจุดลงรถ โดยให้ถามคนที่ปักหลักในพื้นที่ เช่น ร้านค้าต่าง ๆ ระหว่างนั้นให้พยายามโทรติดต่อลูกว่าติดต่อได้หรือไม่
- หากหาลูกแล้วไม่เจอเบาะแสข้อมูล และไม่สามารถติดต่อได้ ไม่ต้องรอให้ครบ 24 ชั่วโมง สามารถเดินทางไปแจ้งความเอาไว้ก่อน เพื่อปรึกษาเจ้าหน้าที่ และควรติดต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมด้วย เช่น ศูนย์ข้อมูลคนหาย มูลนิธิกระจกเงา เบอร์โทรติดต่อ 080-775-2673
- รอการติดต่อกลับจากเจ้าหน้าที่ และคอยติดตามเรื่องอยู่ตลอด ๆ ระหว่างนี้ควรพยายามติดต่อหาลูกตลอด และด้วยยุคนี้เป็นยุคออนไลน์ การโพสต์ตามหาลูกก็เป็นสิ่งที่ควรทำมาก เพราะโพสต์คนหายมักได้รับการแชร์ต่อเป็นจำนวนมาก
การสอนให้ลูกเดินทางกลับบ้านด้วยตนเอง เป็นเรื่องที่วันหนึ่งก็ต้องเกิดขึ้น คงไม่สามารถไปรับไปส่งลูกได้ตลอด เพราะวันหนึ่งเขาก็ต้องอยู่ให้ได้ด้วยตนเอง และการเดินทางเป็นเรื่องที่ทุกคนต้องเจอไม่ว่าจะตอนเด็ก หรือตอนโตเป็นผู้ใหญ่
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :
7 เทคนิคสอนลูกให้เอาตัวรอดจากโลกที่เรียกว่าอยู่ยาก
ตกน้ำ ตกเรือต้องทำยังไง วิธีเอาตัวรอดเมื่อเกิดอุบัติเหตุทางน้ำ
วิธีสอนลูกเอาตัวรอดเมื่อติดอยู่ในรถ พ่อแม่อย่ารอให้สายเกินไป…แล้วค่อยคิดได้ (มีคลิป)
ที่มา : saferide4kids, parents
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!