ถึงแม้ว่าปัจจุบันจะมีการออกมาร้องเรียนมากมาย เกี่ยวกับการที่ครูทำโทษเด็กเกินกว่าเหตุ แต่เราก็มักจะเห็นข่าวครูทำโทษเด็กนักเรียนเกินกว่าเหตุอยู่บ่อย ๆ ละคงไม่มีใครที่จะอยากให้เหตุการณ์แบบนี้ เกิดขึ้นกับลูกหลานของตัวเอง เช่นเดียวกับเคส สุดช็อก! ครูเอาเข็มทิ่มปากนักเรียน ลงโทษกินหมากฝรั่งในห้อง
สุดช็อก! ครูเอาเข็มทิ่มปากนักเรียน ลงโทษกินหมากฝรั่งในห้อง
เมื่อวันที่ 25 มกราคม 2567 ที่ผ่านมา ได้มีผู้ปกครองของเด็กนักเรียนชั้น ป.2 วัย 7 ขวบ โรงเรียนแห่งหนึ่งในพื้นที่สำโรงเหนือ จ.สมุทรปราการ เดินทางเข้าแจ้งความร้องทุกข์กับรองสาราวัตรสอบสวน สภ.สำโรงเหนือ จ.สมุทรปราการ พร้อมร้องเรียนกับสื่อมวลชน หลังลูกชายและเพื่อนร่วมชั้นเรียน รวม 36 คน ถูกครูลงโทษโดยการใช้เข็มทิ่มปากทั้งชั้นเรียน โดยทางผู้ปกครองต้องการที่จะเอาผิดกับครูผู้ก่อเหตุ และเพื่อเร่งให้ทางโรงเรียนออกมาแสดงความรับผิดชอบ
โดยหนึ่งในผู้ปกครองของเด็กเล่าว่า เมื่อหลานกลับมาจากโรงเรียน เล่าให้ฟังว่าถูกครูลงโทษโดยการใช้เข็มจิ้มปาก เนื่องจากเพื่อนกินหมากฝรั่งกันในห้อง แล้วคายทิ้งไม่เป็นที่ ครูมาเห็นจึงถามนักเรียนในห้องว่า ใครเป็นคนกินหมากฝรั่ง แต่ก็ไม่มีใครยอมรับ ครูจึงจับเด็กนักเรียนนั่งเรียงกัน แล้วจุดธูปให้นักเรียนสาบาน ก่อนเอาเข็มทิ่มที่ปากเด็กทุกคนจนเป็นแผล เมื่อตนได้ฟังเรื่องก็ตกใจ ว่าทำไมถึงต้องทำเด็กขนาดนี้ จึงติดต่อไปยังโรงเรียน ทางโรงเรียนก็ตอบกลับเพียงว่าให้ผู้ปกครองใจเย็น ๆ ให้รอ 3 วัน หากผู้ปกครองไม่สบายใจ จะพาเด็กนักเรียนไปตรวจหาโรค หลังจากนี้ตนพร้อมผู้ปกครองคนอื่น ๆ จะเดินทางไปติดตามเรื่องที่โรงเรียนและเข้าแจ้งความเพิ่มเติม
โดยในไลน์กลุ่มผู้ปกครอง ก็มีผู้ปกครองส่งไลน์ตำหนิครูผู้ก่อเหตุ และทางโรงเรียน เพื่อถามหาความรับผิดชอบ หวั่นลูกหลานที่ถูกลงโทษจะติดโรคติดต่อ เพราะใช้เข็มเล่มเดียวกันทิ่มปากเด็กจนเป็นแผลทั้ง 36 คน
ซึ่งต่อมา ทางโรงเรียนได้ตั้งคณะกรรมการเข้ามาตรวจสอบข้อเท็จจริง และรายงานไปยังเขตพื้นที่การศึกษาปฐมศึกษาสมุทรปราการ ไปตั้งแต่วันเกิดเรื่อง เพื่อดำเนินการลงโทษทางวินัยกับครูคนดังกล่าว เบื้องต้นมีคำสั่งให้ครูหยุดปฏิบัติหน้าที่ไว้ก่อน และย้ายไปปฏิบัติหน้าที่ส่วนกลาง ส่วนโทษนั้นหากมีการสอบสวนและพบว่าทำเกินกว่าเหตุ อาจถึงขั้นถูกไล่ออก
ที่มา : sanook.com, pptvhd36.com, khaosod.co.th
บทความที่น่าสนใจ : ลงโทษลูกน้อย อย่างไรให้ลูกหายดื้อ ทำไมยิ่งทำโทษลูกยิ่งดื้อ!
เมื่อลูกถูกครูทำโทษเกินกว่าเหตุ พ่อแม่ควรทำอย่างไร ?
การที่ครูจะทำโทษเด็กเกินกว่าเหตุนั้น เป็นเรื่องที่ไม่ควรเกิดขึ้น เพราะสิ่งเหล่านี้เป็นการกระทำที่ละเมิดสิทธิมนุษยชนของเด็ก และอาจส่งผลเสียต่อเด็กทั้งทางร่างกายและจิตใจ ผู้ปกครองหรือผู้ที่พบเห็นเหตุการณ์ดังกล่าว ควรดำเนินการดังนี้
-
พูดคุยกับครูผู้ทำโทษ โดยอธิบายให้ผู้เป็นครูทราบถึงความรุนแรงของการกระทำ และผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นกับเด็ก พยายามพูดคุยด้วยเหตุและผล และไม่ใช้อารมณ์ในการพูดคุย เพื่อให้ครูตระหนักถึงความผิดของตนเอง
-
แจ้งให้ผู้บริหารโรงเรียนทราบ หากการพูดคุยกับครูผู้ทำโทษและผู้ปกครองไม่คืบหน้า ผู้ปกครองควรแจ้งผู้บริหารโรงเรียนทราบ เพื่อให้ผู้บริหารเข้ามาดำเนินการสอบสวนและแก้ไขปัญหาต่อไป
-
ร้องเรียนไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง หากผู้บริหารโรงเรียนไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ ผู้ปกครองสามารถร้องเรียนไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) หรือกระทรวงศึกษาธิการ เพื่อขอให้ดำเนินการสอบสวนและลงโทษครูผู้กระทำความผิดต่อไป
-
แจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ หากการกระทำของครูเป็นความผิดทางกฎหมาย เช่น ทำร้ายร่างกาย หรือละเมิดทางเพศ
ผู้ปกครองควรสอนลูกให้รู้จักปกป้องตัวเอง หากลูกถูกครูทำโทษเกินกว่าเหตุ ลูกควรบอกผู้ปกครองทันที และผู้ปกครองควรสนับสนุนให้ลูกกล้าพูดความจริง ไม่ควรให้ลูกกลัวครูหรือกลัวการถูกลงโทษ แต่เมื่อเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้นจริง ๆ ผู้ปกครองควรดูแลเอาใจใส่เด็กที่ตกเป็นเหยื่อของการกระทำดังกล่าว โดยการให้กำลังใจ ไม่โทษเด็ก และช่วยให้เด็กฟื้นฟูสภาพจิตใจได้เร็วขึ้น
ครูเอาเข็มทิ่มปากนักเรียน ผิดกฎหมาย
ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองเด็ก พ.ศ. 2546 มาตรา 123 ระบุว่า ห้ามมิให้ผู้ใดทำร้ายร่างกายเด็ก เว้นแต่การกระทำนั้นเป็นการกระทำเพื่อป้องกันหรือระงับอันตรายแก่เด็กเองหรือผู้อื่น หากครูลงโทษเด็กเกินกว่าเหตุจนเป็นเหตุให้เด็กได้รับบาดเจ็บ อาจเข้าข่ายความผิดฐานทำร้ายร่างกาย ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 295 ซึ่งมีโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
นอกจากนี้ การลงโทษเด็กเกินกว่าเหตุอาจเข้าข่ายความผิดฐานอื่น ๆ เช่น ทารุณกรรมเด็ก ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 293 ซึ่งมีโทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี หรือปรับไม่เกิน 200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ หรือความผิดฐานหมิ่นประมาทเด็ก ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 326 ซึ่งมีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
การลงโทษเด็กควรกระทำด้วยความเหมาะสม สอดคล้องกับความผิดของเด็ก และควรคำนึงถึงผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นกับเด็กทั้งทางร่างกายและจิตใจ หากครูทำโทษเด็กเกินกว่าเหตุ ผู้ปกครองหรือผู้ที่พบเห็นเหตุการณ์ดังกล่าว ควรดำเนินการตามขั้นตอนดังกล่าว เพื่อให้เด็กได้รับการคุ้มครองและได้รับการเยียวยาอย่างเหมาะสม
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :
เลี้ยงลูกยุคใหม่ ต้องไม่ตี วิจัยเผย ยิ่งตีลูกยิ่งทําให้ลูกคิดไม่เป็น ลูกเป็นซึมเศร้า
ห้ามพ่อแม่ตีลูก ญี่ปุ่นเตรียมออกกฎ! หลังสถิติเด็กถูกทำร้ายพุ่งสูง พ่อแม่ไทยทำบ้างดีไหม?
เมื่อไหร่ถึงจะตีลูกได้ ลูกต้องอายุเท่าไร จึงทำโทษได้โดยการตี
วิธีทำโทษลูก พ่อแม่ยุคใหม่ควรลงโทษลูกอย่างไร ไม่ให้ลูกเจ็บปวด ?
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!