เด็กชายวัย 11 ขวบ น้อยใจแม่ ปั่นจักรยานเพื่อหนีออกจากบ้านระยะทางกว่า 130 กิโล เพื่อไปฟ้องยาย เมื่อสมัยเด็กเวลาที่น้อยใจพ่อแม่ ก็จะมีคุณตาคุณยายคอยซัพพอร์ต เพราะในหลาย ๆ ครอบครัว ในส่วนใหญ่มักจะโตมา โดยมีคุณยายคุณตาเลี้ยง จึงเป็นเรื่องที่ธรรมดา ที่เวลามีปัญหากับพ่อแม่เด็ก ๆ จึงเลือกที่จะหาญาติผู้ใหญ่คอยช่วยปลอบใจเป็น เช่นเดียวกับหนุ่มน้อยคนนี้ ที่ทะเลาะกับแม่และจะเดินทางไปฟ้องยาย แต่เรื่องจะไม่อะไรแปลกเลย ถ้าหากบ้านยายไม่ได้อยู่ไกลถึง 130 กิโลเมตร
สื่อต่างประเทศได้รายงานข่าวของเด็กชายคนหนึ่งวัย 11 ขวบ จากเมืองหางโจว มณฑลเจ้อเจียง ประเทศจีน ซึ่งเด็กชายทะเลาะกับแม่จนเกิดอาการน้อยใจ จึงรีบปั่นจักรยานออกจากบ้าน เพื่อมุ่งหน้าไปหาคุณยายที่อาศัยอยู่ในเมืองเหมยเจียง ซึ่งระยะทางห่างออกไป 130 กิโลเมตร
โดยตามรายงานระบุว่า เด็กชายคนดังกล่าวได้ปั่นจักรยานไปตามทางเรื่อย ๆ โดยอาศัยสังเกตป้ายบอกทาง หากเกิดอาการหิว เด็กชายจะกินขนมปังและน้ำที่เตรียมมาจากบ้าน แต่เนื่องจากอายุยังน้อย จึงทำให้เด็กชายคนนี้เลี้ยวผิดทางอยู่หลายครั้ง หลังจากออกจากบ้านมา 22 ชั่วโมง ระยะทางกว่า 130 กิโลเมตร ท้ายที่สุดเด็กชายก็เกิดอาการอ่อนล้า
เด็กชายจึงได้นอนพักอยู่ริมทาง ผู้ที่สัญจรไปมาได้ผ่านเข้ามาเห็น เด็กชายจึงได้ถูกนำตัวไปยังสถานีตำรวจในท้องที่แห่งนั้น ซึ่งเจ้าหน้าที่ต้องอุ้มเด็กชายลงจากรถ เนื่องจากหมดแรงเกินกว่าที่จะเดินไหว จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้โทรแจ้งผู้ปกครองให้มารับตัวของเด็กชายกลับ
ภายหลังจากทราบเรื่อง ทั้งพ่อและแม่ของเด็กชายได้เดินทางมายังสถานีตำรวจ โดยแม่ให้สัมภาษณ์ว่า เธอได้ยินลูกพูดถึงบ้านยาย แต่เธอคิดว่าลูกแค่พูดเล่นเท่านั้น ไม่คิดว่าลูกชายจะกล้าทำจริง ๆ “ฉันได้ยินลูกพูดถึงบ้านยาย แต่ในตอนนั้นคิดว่าลูกพูดขึ้นมาด้วยอารมณ์โกรธ ฉันตกใจมากเมื่อรู้ว่าลูกยอมปั่นจักรยานทั้งคืน เพียงเพื่อไปพบยายและบอกยายเรื่องที่เกิดขึ้น” แม่เผยกับสื่อ
แม้ว่าเด็กชายจะไม่สามารถเดินทางไปถึงบ้านยายได้สำเร็จ แต่สถานที่ที่เด็กชายได้หยุดพักนั้น อยู่ห่างจากบ้านของคุณยายของเขาเพียง 10 กิโลเมตรเท่านั้นเอง หลายคนจึงอดที่จะชื่นชมในความอุตสาหะ และความกล้าหาญของเด็กชายคนนี้ไม่ได้
แต่อย่างไรก็ตาม เรื่องราวดังกล่าวนี้เด็ก ๆ ไม่ควรเอาเยี่ยงอย่าง เนื่องจากอันตรายอย่างยิ่ง หากปล่อยให้เด็กเล็กปั่นจักรยานออกไปข้างนอกเพียงลำพัง และนอกจากนี้แล้ว ผู้เป็นแม่ควรเอาใจใส่ลูกให้มากขึ้น ไม่ควรเพิกเฉยต่อคำพูดของลูก
บทความที่เกี่ยวข้อง : สลดใจ เด็ก 9 ขวบ หนีออกจากบ้าน พร้อมแมวส้ม โชคดีกู้ภัยเจอเร่งส่งคืนยาย
วิธีจัดการกับเด็กนิสัยขี้งอน
1. ใช้เวลาอยู่ด้วยกันให้เพียงพอ
คุณพ่อคุณแม่บางคนอาจจะทำงานจนยุ่ง เพราะมีหน้าที่ต้องหาเงินมาจุนเจือครอบครัว แต่ก็อย่าลืม ว่าการใช้เวลาอยู่กับลูก ๆ นั้นก็สำคัญเช่นกัน การที่คุณพ่อคุณแม่ไม่ค่อยมีเวลาให้ลูก หรือปล่อยให้ลูกเล่นตามลำพังบ่อย ๆ อาจทำให้ลูกนั้นรู้สึกโดดเดี่ยว จนน้อยใจพ่อแม่ หรือแอบไปน้อยใจคนเดียวบ่อย ๆ มิหนำซ้ำ ยังอาจทำให้เกิดปัญหาอื่น ๆ ตามมาในอนาคตได้ เช่น หากเด็กมีปัญหา หรือมีอะไรไม่สบายใจ ก็อาจจะไม่กล้าบอกพ่อแม่ เพราะไม่ได้สนิทกับพ่อแม่ และไม่ค่อยได้ใช้เวลาร่วมกับพ่อแม่เท่าที่ควร เป็นต้น ซึ่งการใช้เวลาอยู่กับลูกให้มากขึ้น ถือว่าเป็นการตีสนิทกับลูก และทำให้ลูกกล้าเปิดใจกับพ่อแม่มากขึ้น
2. ทำบ้านให้เป็นที่ที่น่าอยู่
บ้านเป็นที่ที่เด็ก ๆ ตั้งแต่เกิดจนโตได้ใช้เวลาอยู่ซะเป็นส่วนใหญ่ ดังนั้นแล้ว บ้านจึงควรเป็นสถานที่ที่น่าอยู่ และมีสภาพแวดล้อมที่เอื้ออำนวยให้แก่เด็ก ๆ ได้เป็นตัวของตัวเอง และกล้าที่จะระบายความรู้สึกในใจ หากบรรยากาศในบ้านอึมครึม หรือหากพ่อแม่ทำให้เด็กอึดอัดกดดัน เมื่อเด็กงอน เด็กก็จะไม่ยอมบอกกับพ่อแม่ว่ารู้สึกเช่นไร หรือเหตุผลที่ทำให้เขาไม่พอใจหรืองอน
3. สอนให้กล้าพูดในสิ่งที่ตัวเองคิด
หากลูกกำลังงอนหรือทำหน้าบึ้งตึง คุณพ่อคุณแม่ควรกระตุ้นให้เด็ก ๆ ได้พูดความรู้สึกของตัวเอง หรือสิ่งที่รบกวนอยู่ภายในใจลูก ออกมาเป็นคำพูดแทนการใช้อารมณ์ รวมทั้งคุณพ่อคุณแม่ก็ไม่ควรดุด่า บังคับเด็ก ๆ ต้องให้ค่อย ๆ พูด และไม่ใช่ถ้อยคำที่หยาบคายกับลูก ๆ หากว่าคุณพ่อคุณแม่ดุ หรือด่าลูกด้วยถ้อยคำที่รุนแรง อาจทำให้เด็ก ๆ ไม่อยากพูดกับเราอีกเลยก็เป็นได้
บทความที่เกี่ยวข้อง : ความผิดปกติของการพูด วิธีสังเกตพฤติกรรมการพูดของลูกว่าแบบไหนผิดปกติ?
4. ให้เขียนไดอารี่ระบายความคิด
หากเด็ก ๆ ไม่ยอมสื่อสารความรู้สึกผ่านทางคำพูด ลองกระตุ้นให้เด็ก ๆ ได้เขียนระบายออกมาเป็นตัวหนังสือแทน เพราะนอกจากการเขียนระบายความรู้สึกด้วยวิธีนี้แล้ว จะทำให้เด็กได้เขียนสิ่งที่อยู่ในใจลงไป และยังเป็นอีกหนึ่งวิธี ที่ช่วยเด็กให้ระบายความเครียดได้ดีอีกด้วยค่ะ
5. พ่อแม่ต้องใจเย็น
ในคุณพ่อคุณแม่บางราย หากว่าเห็นลูกงอนหรือทำหน้าบูด ก็มักแสดงอารมณ์ฉุนเฉียวหรือโมโหลูก ๆ ซึ่งในการทำพฤติกรรมเช่นนี้นั้น ไม่ใช่สิ่งที่เหมาะสมที่ควรทำ ทางที่ดีที่สุด คุณพ่อคุณแม่ควรพูดคุยกับลูก ๆ ด้วยเหตุผล และพูดดี ๆ กับลูก หากคุณพ่อคุณแม่ทำพฤติกรรมที่รุนแรงกับลูก ลูกอาจโตมาเป็นเด็กที่มีปัญหาทั้งทางด้านอารมณ์และจิตใจได้ค่ะ
6. ให้กินอาหารที่มีประโยชน์
สิ่งที่ทำให้เด็กอารมณ์แปรปรวน จนอาจกลายเป็นคนขี้งอนบ่อย อาจเกิดจาก การทานอาหารที่ไม่มีประโยชน์ หรือได้รับสารอาหารไม่ครบถ้วน ถ้าหากคุณพ่อคุณแม่ไม่ทราบว่าควรจะให้ลูกทานอะไรดี ให้เข้าปรึกษาคุณหมอ หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ทุกเมื่อ ซึ่งจากงานวิจัยชิ้นหนึ่งพบว่า กรดไขมัน และวิตามินบี นั้นมีส่วนช่วยให้การจัดการอารมณ์ของเด็กได้ดี หากเด็กได้รับวิตามินบีไม่เพียงพอ จะทำให้เด็กกลายเป็นคนที่ฉุนเฉียว และอารมณ์เสียบ่อยได้ค่ะ
ถึงแม้ว่าอาจจะมีบางครั้ง ที่ลูกของเรานั้นแสดงออกทางอารมณ์ หรือพฤติกรรมไม่ค่อยสมเหตุสมผล แต่อย่างไรก็ขอให้คุณพ่อคุณแม่อดทน และพยายามเข้าใจในตัวของลูก ๆ ในตอนที่เรายังเป็นเด็ก เราก็คงไม่ต่างจากลูก ๆ ของเรา เด็กวัยกำลังโตนั้น ยังไม่รู้วิธีจัดการอารมณ์เหมือนผู้ใหญ่ ดังนั้น เราจึงต้องค่อย ๆ สอนเขาด้วยเหตุและผล พูดจากับเขาด้วยถ้อยคำที่เหมาะสมจะดีที่สุดนะคะ
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :
ลูก ขี้งอน เลี้ยงยังไงดี มีวิธีไหน ช่วยปราบเด็กขี้งอนได้บ้าง
ทายนิสัยลูกจากวันเกิด ลูกเกิดวันนี้นิสัยยังไง? มาดูนิสัยลูกน้อยจากวันเกิด
สอนลูกให้เชื่อฟัง ต้องทำยังไง อยากให้ลูกคิดเป็น มีเหตุผล ไม่ต่อต้านพ่อแม่
ที่มา :