ข่าวการสูญเสียคนในครอบครัว ไม่ว่าจะเป็นใคร ต่างก็เป็นเรื่องสะเทือนใจด้วยกันทั้งนั้นค่ะ ดังเช่นข่าวของครอบครัวนี้ที่เป็น คู่รักเสียลูก วัย 1 ขวบครึ่ง ก่อนวันงานวิวาห์ แต่เมื่อถึงวันงานกลับต้องน้ำตาซึม
เรื่องนี้ถูกเผยแพร่ผ่านทาง TikTok ของคู่รักชาวออสเตรเลีย คู่รักเสียลูก วัย 1 ขวบครึ่งไปในอุบัติเหตุ เมื่อ 4 เดือนก่อนงานแต่งงาน เมื่อเดือน ม.ค. 66 ที่ผ่านมา ซึ่งเมื่อทั้งคู่เปิดดูภาพวันงานแต่งพร้อมกัน ทำเอาทั้งคู่ถึงกับน้ำตาซึม เมื่อพบร่างเล็ก ๆ ของลูกสาวในงานแต่ง
ตามรายงานของข่าวได้ระบุว่า คู่รักชาวออสเตรเลียสูญเสียลูกสาววัย 1 ขวบครึ่ง ที่ชื่อว่า ทอตตี้ เด็กสาวจากรัฐควีนส์แลนด์ ประเทศออสเตรเลีย ที่เธอประสบอุบัติเหตุตกลงไปในสระน้ำเป่าลม เมื่อเดือนกันยายน 2565 ที่ผ่านมา ขณะที่เธอกำลังเล่นกับพี่ชายวัย 6 ขวบ ซึ่งจากเหตุการณ์นั้น ทอตตี้ ได้เสียชีวิตในอ้อมแขนของผู้เป็นแม่ หลังจากที่นำตัวเธอส่งโรงพยาบาล โดยหลังจากนั้น 4 เดือน ผ่านไป คู่รักชาวออสเตรเลียนี้ได้เข้าพิธีวิวาห์ แม้ทั้งคู่จะยังอยู่ในความเศร้า จากการสูญเสียลูกสาวตัวน้อย
แต่เมื่อเวลาผ่านไป ทั้งคู่ได้กลับมาดูภาพงานแต่งงานอีกครั้ง ในรูปที่พวกเขาถ่ายในสวน ทั้งคู่ได้สังเกตเห็นภาพประหลาด คล้ายกับร่างเล็ก ๆ ที่ยืนแอบอยู่ด้านหลังในป่า ซึ่งในภาพนั้นเป็นเหมือนเด็กผู้หญิง สวมชุดสีขาว แอบอยู่ข้างต้นไม้ ซึ่งเห็นเป็นคล้ายกำลังอยู่ในการแอบดู
ผู้เป็นแม่ได้ตัดสินใจ โพสต์รูปวันงานแต่งงานใน TikTok โดยเธอได้ระบุว่า เธอไม่เคยเชื่อในเรื่องผี วิญญาณ หรือเทพเจ้า โดยเฉพาะหลังจากการสูญเสียลูกสาวไป แต่เมื่อได้เห็นรูป เธอกลับมีความเชื่อว่า ลูกสาวของเธออยู่ตรงนั้น ลูกสาวของเธอมาร่วมงานแต่ง เพื่อเป็นสักขีพยานให้กับพ่อแม่ ในวันงานแต่งงานที่ผ่านมา เธอยังบอกถึงลูกสาวอีกว่า “แม่จะคิดถึงหนูตลอดไป เงาเล็กๆ ของแม่”
หลังจากเรื่องนี้ถูกแชร์ลงโซเชียล ทำเอาชาวเน็ตหลายคนน้ำตาซึมด้วย เพราะเมื่อได้เห็นภาพทั้งหมด มีหลายคอมเมนต์ที่ระบุว่า เรื่องนี้ทำให้พวกเขาน้ำตาไหล และรู้สึกขนลุกไปพร้อมกับคู่รัก ต่างพากันคอมเมนต์ว่า “ฉันขนลุกจริง ๆ “, “ลูกสาวของคุณอยู่ที่นี่จริง ๆ “, “น้ำตาของฉันไหลออกมา นี่คือเธอจริง ๆ ” และ “เด็ก ๆ ไม่อยากพลาดวันสำคัญของคุณ”
วิธีเยียวยาจิตใจ เมื่อลูกเสียชีวิต
เรื่องของการเสียชีวิต หากเป็นการเกิดขึ้นตามวัย หลายคนมักยอมรับได้ไวว่า เป็นการพบเจอที่หลายคนต้องพบเจอ เป็นส่วนหนึ่งของชีวิตการเกิด แก่ เจ็บ ตาย เป็นเรื่องปกติ แต่เมื่อเป็นเรื่องของการเสียชีวิตกะทันหัน ที่ต้องสูญเสียลูกตั้งแต่ยังน้อย หรือการสูญเสียที่ไม่มีสัญญาณเตือน การที่พ่อแม่ต้องพบเจอประสบการณ์แบบนี้ ย่อมเป็นเรื่องยากที่จะทำความเข้าใจ หรือทำการยอมรับได้ในเวลาสั้น ๆ แต่เมื่อเรื่องเกิดขึ้นไปแล้ว คนที่ยังอยู่ต้องหันมาจับมือกันไว้ให้แน่นค่ะ เพื่อที่จะได้ดูแลคนที่ยังอยู่ไปพร้อม ๆ กัน
1. คอยอยู่เคียงข้าง เป็นกำลังใจให้กันและกัน
การอยู่รวมกัน หันหน้าพึ่งพากัน จะช่วยให้ไม่โดดเดี่ยวในความเศร้า ถึงแม้ว่าจะเกิดเรื่องร้ายกับครอบครัวก็ตาม เพราะความสัมพันธ์ของคู่รักส่วนใหญ่ที่ไปต่อไม่ได้ เป็นเพราะไม่สามารถประคองความเครียดได้ โดยเฉพาะคู่รักที่เกิดการสูญเสียลูก ไม่ว่าจะเกิดจากเหตุใดก็แล้วแต่ หากเป็นคู่รักที่ไม่ได้คบหากันเป็นเวลานาน และขาดการเอาใจใส่หลังการสูญเสีย มักจบลงด้วยปัญหาหย่าร้าง
2. ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ
เนื่องจากระดับความรู้สึกของแต่ละคนจะแตกต่างกันไป การสูญเสียลูกอาจทำให้เป็นปัญหาการแต่งงาน รวมไปถึงความสัมพันธ์กับคนอื่นในครอบครัว หากเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น การขอความช่วยเหลือ หรือปรึกษากับผู้เชี่ยวชาญ ย่อมทำให้สถานการณ์นี้ผ่านไปได้ด้วยดี เพราะการรับมือในความเศร้าของแต่ละคน มีไม่เท่ากัน ในขณะเดียวกัน การขอคำปรึกษาไม่ได้เป็นเพียงแค่การช่วยเหลือพ่อแม่ แต่ยังสามารถช่วยเหลือพี่น้องคนอื่นได้เช่นกัน
บทความที่เกี่ยวข้อง : ฟีเจอร์ใหม่ TikTok ให้เด็กลดเวลาการใช้งาน เหลือไม่เกินวันละ 60 นาที
3. ยอมรับความช่วยเหลือจากคนในครอบครัว
การเต็มใจรับความเป็นห่วง หรือยอมรับความช่วยเหลือจากคนรอบตัว ก็เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่สำคัญ ในช่วงที่ยังไม่สามารถทำใจให้เป็นปกติได้ดังเดิม การปล่อยให้คนอื่นดูแลเรื่องในบ้าน หรือพูดคุยเพื่อระบายความเครียด ก็เป็นเรื่องที่ทำให้ลดความเศร้าลงไปได้ ในบางครั้งผู้คนก็ไม่รู้ว่าต้องการ หรือกำลังรู้สึกถึงสิ่งใดอยู่ การเอ่ยปากขอความช่วยเหลือ หรือยอมรับความปรารถนาดีของคนใกล้ชิด ก็เป็นเรื่องที่ช่วยบรรเทาความทุกข์ในใจไปได้เช่นกันค่ะ
4. เตรียมพร้อมรับความจริง หลังจบพิธีทางศาสนา
หลังจากที่เหตุการณ์เกิดขึ้นจนถึงช่วงที่ต้องกลับไปใช้ชีวิตตามปกติ ความเศร้าจะเริ่มเกาะกินหัวใจของครอบครัวเพิ่มขึ้น และจะยังคงอยู่ต่อไปเรื่อย ๆ การพูดคุยและปรับจิตใจให้ยอมรับความเป็นจริง จะช่วยทำให้สามารถใช้ชีวิตต่อไปได้ อาจจะรู้สึกเศร้า เหงา และคิดถึงอยู่บ้าง แต่เมื่อเหตุการณ์เกิดไปแล้ว ต้องรีบปรับความคุ้นชินให้ทัน ไม่เช่นนั้น ความเศร้าอาจจะกลายเป็นการทำร้ายตัวเองและครอบครัวได้
5. ใส่ใจสุขภาพตัวเอง
ทุกความสูญเสีย ย่อมทำให้จมอยู่กับความเสียใจ ซึ่งอาจจะเกิดเหตุการณ์จมดิ่งกับความเสียใจอยู่บ่อยครั้ง จนทำให้หลายคนละเลยสุขภาพของตัวเอง ขาดความเอาใจใส่ ไม่กินข้าว ขาดการออกกำลังกาย จนทำให้อาจจะร่างกายป่วย จนกลายเป็นการตรอมใจถึงการสูญเสีย ซึ่งบางรายอาจจะมีอาการเสียใจตาม จนเกิดเป็นความสูญเสียซ้ำซ้อนต่อได้ ดังนั้นการหันมาใส่ใจตัวเอง เพื่อคนที่ยังอยู่ก็เป็นเรื่องที่ควรทำ เริ่มจากการหันมากินข้าวให้ได้เยอะ ๆ ก็จะช่วยให้สภาพจิตใจดีตามขึ้น
6. อยู่ให้ห่างคนที่พูดโดยไม่คิด
บางคนอาจจะไม่เข้าใจความสูญเสียของครอบครัว และเลือกใช้คำพูดที่ทำให้รู้สึกไม่ดี หรือบางคำพูดอาจจะไม่ละเอียดอ่อนพอ ที่ใจของคุณพ่อคุณแม่จะรับไหว บางทีคนที่เป็นกลุ่มจำพวก Toxic People เหล่านี้ อาจจะไม่จำเป็นต้องคบหาแล้วก็ได้ค่ะ หากคุณยังอยู่ในช่วงที่ทำใจ และไม่ต้องการรับฟังคำพูดที่ไม่ให้กำลังใจ แล้วยังบั่นทอนความรู้สึกแบบนี้ การเลี่ยงหรือตัดคนจำพวกนี้ออกไป ก็เป็นหนึ่งในการรักษาใจของตัวเองค่ะ
7. อยู่กันให้เป็นครอบครัว
ถึงแม้ว่าจะเป็นความสูญเสียที่ทำใจไม่ได้ แต่อย่าลืมว่าคนที่ขาดหายไป ก็ยังเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวเรา ทุกคนยังคนนึกถึงและเก็บสมาชิกคนนี้ไว้ในใจไปตลอด ดังนั้นการสร้างความใกล้ชิด ด้วยการหากิจกรรมเพื่อการระลึกถึงผู้ล่วงลับ เช่น การทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้ผู้ล่วงลับ ในทุกปีที่ครบรอบการเสียชีวิต ก็เป็นหนึ่งในเรื่องที่น่าสนใจค่ะ ในช่วงแรกอาจจะยังเป็นเรื่องที่ทำได้ยาก แต่เพื่อไม่ลืมว่าเรายังมีอีกคนในครอบครัว เพื่อความสำคัญที่เท่า ๆ กัน เรื่องนี้ก็เป็นอีกเรื่องที่ควรค่ะ
จริงอยู่ที่การสูญเสียคนในครอบครัว หากไม่เจอกับตัว ก็อาจจะไม่เข้าใจความสูญเสียนี้ได้ แต่เมื่อเวลาผ่านไปแล้ว การเร่งสร้างความสบายใจและปลอดภัยให้กับครอบครัว ย่อมเป็นเรื่องสำคัญ ที่ต้องทำให้ชีวิตประจำวันกลับมาเหมือนเดิม โดยเร็วที่สุดค่ะ การต้องงดกิจกรรมที่เคยทำร่วมกัน เพราะความสูญเสีย อาจจะต้องพยายามให้กลับมามีเหมือนเดิม เพื่อให้คนที่ยังอยู่ ลดความเศร้าในใจลง และเปลี่ยนเป็นความทรงจำดี ๆ เพื่อการมีชีวิตต่อไป
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :
เด็กชายถูกบังคับให้กินยาปลุกเซ็กซ์ ก่อนถูกหญิง 8 คน รุมข่มขืน หวังตั้งท้อง !
แม่เตือนภัย ลูกชาย 5 ขวบ เหรียญไหลลงคอ เคราะห์ดีไม่เข้าไปที่หลอดลม
รุ่นพี่โหดทำร้ายเด็กพิเศษ ยกพวกรุมตบถึงโรงพยาบาล!
ที่มา :
https://www.tiktok.com/@leah29murphy
https://www.verywellfamily.com/