นักท่องเที่ยวหนุ่ม เที่ยวทะเลพลาดท่า ทำโทรศัพท์หล่นซอกหินลึก ที่เป็นแนวกันคลื่นทะเล โชคดีได้กู้ภัยตัวน้อยเข้ามาช่วยเหลือ หนูน้อยกู้ภัยมุดซอกหินเล็ก ๆ ใช่เวลาในการนำโทรศัพท์ขึ้นมากว่า 2 ชั่วโมง เจ้าของดีใจหนักมากได้โทรศัพท์คืนตกรางวัลให้หนูน้อย 3,000 บาท
เมื่อวันที่ 31 ม.ค.66 เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยสว่างพรกุศลระยอง ได้รับแจ้งขอความช่วยเหลือจากนักท่องเที่ยวชายคนหนึ่งว่า ได้ทำโทรศัพท์มือถือไอโฟน 13 โปร ตกลงไปในซอกหินลึกของคันหินกันคลื่นทะเล และไม่สามารถนำขึ้นมาจากซอกหินได้ พยายามหาช่องทางมุดลงไปในช่องหิน แต่ก็ไม่สามารถทำได้ เพราะมีขนาดตัวที่ใหญ่เกินกว่าจะเข้าไปในซอกหินได้
เมื่อเจ้าหน้าที่มาถึง ก็ได้พบว่าบริเวณที่เกิดเหตุ เป็นซอกหินลึก ที่มีขนาดช่องไม่ใหญ่มาก ส่วนโทรศัพท์มือถือ ก็ตกอยู่ที่พื้นด้านล่างลึกสุดเลย จึงพยายามใช้ผ้าขาวม้าและเชือกผูกเอว ยกก้อนหิน ใช้ค้อนทุบหิน วิธีการต่าง ๆ แต่ก็ไม่สามารถทำได้ แต่ในจังหวะนั้น มีเจ้าหน้าที่สังเกตเห็น มีหนึ่งจุดที่เป็นโพรง และมีช่องหินเล็ก เกิดไอเดียว่าคนตัวเล็ก ๆ หรือเด็ก น่าจะสามารถมุดเข้าไปได้ สุดท้ายได้ติดต่อกู้ภัยตัวน้อย เด็กชายสิทธิชัย บัวสม อายุ 11 ปี หลังเลิกเรียนช่วงเย็น โดยพี่ ๆ กู้ภัยได้ไปรับมาจากโรงเรียน เพื่อมาช่วยนำโทรศัพท์ขึ้นมาจากซอกหิน โดยเฉพาะ
โดยได้ให้น้องสิทธิชัย มุดตัวลงไปในซอก แล้วใช้ไม้ค่อย ๆ คีบโทรศัพท์ขึ้นมาได้จนสำเร็จ โดยใช้เวลากว่า 2 ชั่วโมง ในการนำขึ้นมา สร้างความดีใจให้กับเจ้าของโทรศัพท์อย่างมาก ได้มอบรางวัลเงินสดจำนวน 3,000 บาท ให้กับเด็กชายสิทธิชัย
เจ้าของโทรศัพท์ เผยว่า ในช่วงเช้าตนเองและเพื่อน ๆ ขี่จักรยานยนต์มาเที่ยวเล่น บริเวณหาดแหลมเจริญ ได้เดินไปถ่ายรูป บริเวณคันหินกันคลื่นทะเล ปรากฏว่าได้เดินสะดุดก้อนหิน ทำให้โทรศัพท์ ไอโฟน 13 โปร กระเด็นหลุดออกจากไม้เซลฟี แล้วตกลงไปในซอกหิน จึงได้พยายามจะมุดลงไปเก็บ แต่ทำไม่ได้
จึงได้ใช้กระดาษมาทำเครื่องหมาย ไว้ที่ตำแหน่งที่ทำตกเอาไว้ แล้วกลับไปบ้านทำใจคิดแล้วว่าไม่น่าจะได้คืน พอถึงช่วงเที่ยงได้ลองโทรเข้าไปที่โทรศัพท์เครื่องที่ตก ปรากฏว่ายังสามารถโทรติด จึงได้กลับมาใหม่ แล้วขอความช่วยเหลือจากทีมกู้ภัย จนกระทั่งได้โทรศัพท์คืนในช่วงตอนเย็น ถือว่าโชคดีมาก ๆ ที่ได้โทรศัพท์คืน
ด้านเจ้าหน้าที่กู้ภัยแจ้งว่า มีหลายเคสที่ทำของตกลงไปในซอกหิน เมื่อวันก่อนก็มีทำโทรศัพท์ 14โปรแม็กซ์ตก แต่ไม่สามารถนำขึ้นมาได้ เพราะซอกหินเล็กมาก จึงอยากเตือนให้นักท่องเที่ยวโปรดระมัดระวังไม่นำสิ่งของลงไปบริเวณคันหินกันคลื่นทะเล
บทความที่เกี่ยวข้อง : เด็ก 6 ขวบน้ำใจงาม คิดค้นโปรเจกต์ใหม่ เพื่อเพื่อนที่ยากไร้
วิธีสอนลูกให้มีความซื่อสัตย์และมีน้ำใจ
1. เป็นตัวอย่างที่ดีในการสร้าง ความซื่อสัตย์และมีน้ำใจ ให้แก่พวกเขา
หากว่าคุณพ่อคุณแม่ยังแสดงพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมให้ลูกเห็นอยู่ คุณพ่อคุณแม่ก็ไม่ควรคาดหวังว่าลูก ๆ จะปฏิบัติตัวตามความต้องการของคุณ ไม่ว่าจะเป็นความซื่อสัตย์ หรือการมีน้ำใจก็ตาม เพราะพฤติกรรมเหล่านั้นจะเป็นสิ่งที่เด็ก ๆ นั้นเข้าใจได้ว่า พวกเขาสามารถทำได้และทำตามอย่างไม่มีเงื่อนไข หากคุณพ่อคุณแม่ต้องการที่จะให้ลูกเป็นคนมีน้ำใจและซื่อสัตย์ คุณพ่อคุณแม่จะต้องแสดงให้พวกเขาได้รู้ว่า การกระทำแบบไหนจึงจะเรียกได้ว่าความซื่อสัตย์และความมีน้ำใจ
2. เป็นตัวอย่างที่ดีในการสร้าง ความซื่อสัตย์และมีน้ำใจ ให้แก่พวกเขา
หลาย ๆ ครั้งที่ลูก ๆ ของคุณพ่อคุณแม่มีพฤติกรรมที่ดี ควรให้คำชมแก่ลูกเพื่อให้พวกเขาได้แสดงพฤติกรรมเหล่านี้มาเรื่อย ๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ เพียงใด เด็ก ๆ ก็ควรได้รับคำชม แม้ว่าลูกจะแค่ทานอาหารหมด เก็บซองขนมที่ทานไปทิ้งขยะ หรือแม้แต่สามารถแปรงฟันได้ด้วยตัวเอง คุณพ่อคุณแม่ก็ควรที่จะให้คำชมพวกเขา เพราะเป็นเหมือนการให้กำลังใจและสร้างแรงผลักดันให้ลูกได้ทำสิ่งดี ๆ ต่อไปเรื่อย ๆ
3. สอนลูกว่า ความซื่อสัตย์และมีน้ำใจ มีผลอย่างไร
หากคุณพ่อคุณแม่ต้องการสอนลูก ๆ ว่าควรทำสิ่งใด ไม่ควรทำสิ่งใด คุณควรที่จะยกตัวอย่างและบอกถึงผลลัพธ์ของการกระทำนั้น ๆ ด้วยว่าจะออกมาเป็นอย่างไร ยกตัวอย่างเช่น “เมื่อลูก
ช่วยเหลือคนอื่น พวกเขาก็จะรู้สึกดีขึ้น” หรือ “หากใครไม่ซื่อสัตย์ คนนั้นจะไม่ได้รับความไว้วางใจจากใครเลย” สิ่งเหล่านี้จะช่วยให้ลูกของคุณเข้าใจในพฤติกรรมเชิงสังคมมากขึ้น ลูกจะเริ่มตระหนักว่าความใจดีและความซื่อสัตย์มีผลกระทบกับพวกเขาอย่างไร
4. มอบหมายหน้าที่ภายในบ้านให้
เป็นเรื่องที่ดีที่คุณพ่อคุณแม่จะกำหนดหน้าที่ความรับผิดชอบงานบ้านให้กับลูก ๆ อาจจะไม่จำเป็นต้องเป็นงานที่ใหญ่ แต่เป็นงานที่จะให้พวกเขาได้ฝึก เช่น การช่วยเตรียมอาหารให้กับทุกคนในครอบครัว การให้หน้าที่ภายในบ้านกับลูกเช่นนี้ จะทำให้ลูกเติบโตขึ้นไป มีจิตใจที่เอื้อเฟื้อต่อผู้อื่นและเอาใจใส่ผู้อื่น
5. พูดถึงเกี่ยวกับการแสดง ความซื่อสัตย์และมีน้ำใจ
พยายามหาประเด็นที่เกี่ยวกับการแสดงความห่วงใยผู้อื่นมาพูดคุยกับเด็ก ๆ เพื่อให้ลูกได้แสดงความเห็นและคุณพ่อคุณแม่คอยชี้แนะว่าความเห็นใดที่เหมาะสม เช่น ทำไมผู้คนที่มี
ฐานะร่ำรวย จึงมักจะบริจาคเงินให้กับเด็ก ๆ ที่ยากไร้ การพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเหล่านี้จะทำให้พวกเขามีทัศนคติที่เข้าใจและห่วงใยผู้อื่นมากขึ้นด้วย
6. อย่าอดทนกับความไม่ซื่อสัตย์
อย่าปล่อยให้ใครมาลบความเชื่อที่ดีจากลูกคุณ เพราะหากมีคนใกล้ตัวเขาเป็นคนที่ไม่ซื่อสัตย์ อาจจะทำให้ลูกเรียนรู้ อีกทั้งและ ลูกอาจจะถูกคนไม่ซื่อสัตย์เหล่านี้ทำบางอย่างที่ทำให้ลูกรู้สึกแย่ คุณพ่อคุณแม่ควรอธิบายเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างมีเหตุผล ถ้าหากว่าเป็นลูกคุณเองที่ทำพฤติกรรมไม่ซื่อสัตย์ อย่าเพิ่งทำโทษหรือต่อว่าลูก แต่ให้พูดคุยและสอบถามถึงสาเหตุและหาทางแก้ไขไปด้วยกัน จากนั้นจึงค่อยตักเตือนลูกอีกครั้งว่าการกระทำเช่นนี้จะได้รับผลกระทบอย่างไร
หลาย ๆ ครั้งที่คุณพ่อคุณแม่ได้เห็นข่าวสารที่เกี่ยวกับมีน้ำใจและซื่อสัตย์ของเด็ก ๆ เป็นเรื่องราวที่อ่านแล้วก็ยิ้มตามกับความน่ารักใสซื่อ และซื่อสัตย์ คุณพ่อคุณแม่สามารถปลูกฝังความมีน้ำใจและซื่อสัตย์ให้กับลูกได้ เพียงแค่ค่อย ๆ สั่งสอนพวกเขาไปทีละนิด ให้ลูกได้ซึมซับสิ่งดี ๆ จากคุณพ่อคุณแม่ ให้ลูกได้เคยชินกับการมีน้ำใจและความซื่อสัตย์ หากคุณพ่อคุณแม่ปลูกฝังพวกเขาจนเคยชิน เมื่อพวกเขาเติบโตและใช้ชีวิตในสังคม พวกเขาก็จะเป็นคนที่มีความซื่อสัตย์และมีน้ำใจให้แก่ผู้อื่นอย่างแน่นอนค่ะ
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!
