X
theAsianparent Thailand Logo
theAsianparent Thailand Logo
คู่มือสินค้าเข้าสู่ระบบ
  • อยากท้อง
  • ตั้งครรภ์
    • คำนวณวันคลอด
    • ฉันกำลังตั้งครรภ์
    • ไตรมาสที่ 1
    • ไตรมาสที่ 2
    • ไตรมาสที่ 3
    • Project Sidekicks
    • ตั้งชื่อลูก
    • การให้นมลูก
  • สุขภาพและโภชนาการ
    • โภชนาการ
    • สุขภาพ
  • ลูก
    • ทารกแรกเกิด
    • ทารก
    • เด็กวัยหัดเดิน
    • เด็กก่อนวัยเรียน
    • เด็ก
    • เด็กก่อนวัยรุ่น และวัยรุ่น
  • ชีวิตครอบครัว
    • ความรักและความสัมพันธ์
    • การเลี้ยงลูก
    • มุมคุณพ่อ
    • ประกันชีวิต
    • การวางแผนการเงิน
    • ความรัก และ เซ็กส์
  • การศึกษา
    • เด็กวัยประถม
    • โรงเรียนประถม
    • มัธยมศึกษา
    • แบบฝึกหัดและข้อสอบ
    • แนะแนวการศึกษาต่างประเทศ
  • ไลฟ์สไตล์
    • ดวง
    • ทำนายฝัน
    • สีมงคล
    • บทสวดมนต์
    • ข่าว
    • ดูแลบ้าน
    • แนะนำโดย TAP
    • อีเว้นท์
  • ที่เที่ยว
    • เที่ยวไทย
    • เที่ยวต่างประเทศ
    • ที่พัก และ โรงแรม
  • ที่กิน
    • ร้านอร่อย
    • ร้านอร่อยสำหรับเด็ก
    • คาเฟ่
    • เมนูอาหาร
  • ผู้หญิง
    • แฟชั่น
    • ความงาม
    • ฟิตเนส
  • TAPpedia
  • วิดีโอ
    • การตั้งครรภ์
    • ทารก
    • คำแนะนำในการเลี้ยงลูก
    • การให้นมบุตร
    • อาหารเสริมทารก & โภชนาการ
    • เด็กเล็ก
  • ชอปปิง
  • อีเว้นท์
    • TAP Awards Winners
    • TAP idol
    • TAP x Safari Largest Treasure Hunt
  • #สอนลูกเรื่องเงิน ฉบับพ่อแม่
  • VIP

ภาพสุดฮา! นักศึกษาสาธิตวิธีการ ช่วยเด็กสำลักอาหาร ทำหัวหุ่นหลุดกระเด็น

10 Jan, 2023
ภาพสุดฮา! นักศึกษาสาธิตวิธีการ ช่วยเด็กสำลักอาหาร ทำหัวหุ่นหลุดกระเด็น

เมื่อวันที่ 9 ม.ค. 2566 เพจ "วิทยากรสอนปฐมพยาบาล เบื้องต้นตามกฎหมาย" โพสต์ภาพกิจกรรมในงานฝึกอบรมการปฐมพยาบาลเบื้องต้น จัดขึ้น ณ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครสวรรค์ พร้อมสาธิตวิธีการ ช่วยเด็กสำลักอาหาร โดยการใช้หุ่นตุ๊กตาเด็กเป็นตัวสาธิต แต่มีนักศึกษาที่เข้าอบรมรายหนึ่งตบที่หลังหุ่นตุ๊กตา โดยใช้แรงมากเกิน จนทำให้หัวหุ่นตุ๊กตากระเด็นหลุดตกลงที่พื้น โดยทางเพจระบุข้อความไว้ว่า "เศษอาหารที่ติดคอ ออกเรียบร้อย" จนทำเอาชาวเน็ตแห่แซวว่า ไม่น่าจะใช่แค่เศษอาหาร เพราะหัวเด็กก็หลุดไปกับเศษอาหารเหมือนกัน

 

อย่างไรก็ตาม โพสดังกล่าวมียอดแชร์กว่า 34,000 ครั้ง ต่างมีชาวเน็ตเข้าคอมเมนต์กันเป็นจำนวนมาก เช่น CPR ต่อเลยค่ะ, ต้องเอาหัวออกก่อนนะ แล้วอาหารที่ติดคอจะค่อย ๆ หลุดออกมา, น้องยิ้มอรุ่มเจ๊าะ แสดงว่าปลอดภัย, ไม่ใช่แค่เศษอาหาร วิญญาณก็เช่นกัน, พยาบาล หรือยมบาล, ติดคอก็ถอดหัวน้องแล้วล้วงออกมา, วอร์ดอำมหิต, จะเศร้ารึขำดี เป็นต้น

บทความที่เกี่ยวข้อง : วิธีช่วยคนสําลักอาหาร ทารกสำลักอาหาร ปฐมพยาบาลอย่างไร วิธีการปฏิบัติเมื่อสำลักอาหาร

 

ช่วยเด็กสำลักอาหาร

(คลิกเพื่อดูโพสต้นฉบับ)

 

10 วิธีปฐมพยาบาลเบื้องต้นให้เด็กรอดพ้นอันตราย

1.แผลถลอก

กรณีที่มีเศษหินติดอยู่ให้ชะล้างบาดแผลด้วยน้ำสะอาดและสบู่ ใช้ผ้าสะอาดซับให้แห้ง ทายารักษาแผลสด เช่น โพวิดีน (Povidine) หรือยาแดง แล้วปิดแผลด้วยผ้าก๊อซหรือผ้าสะอาด ถ้าบาดแผลมีลักษณะตื้น และมีเลือดไหลซิบ ๆ เท่านั้น ให้ทายาโดยไม่ต้องใช้ผ้าปิดบาดแผลก็สามารถทำได้เช่นเดียวกัน

 

2.แผลถูกของมีคมบาด

หากถูกมีดบาด ส่วนมากจะมีเลือดไหลออกมา จะต้องห้ามเลือดก่อน

  • หากเป็นแผลเล็ก ๆ และของที่บาดนั้นไม่สกปรก เพียงแค่ทำความสะอาดแผล และใส่ยาเหมือนแผลถลอก
  • หากเป็นแผลใหญ่ เมื่อห้ามเลือดแล้ว ควรรีบนำเด็กส่งโรงพยาบาล เพราะอาจจะต้องทำแผลด้วยการเย็บแผล
  • สำหรับแผลที่สกปรกมาก หรือสิ่งที่บาดนั้นมีสนิมต้องได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันบาดทะยัก
  • สำหรับแผลใหญ่ เลือดออกมากใช้วิธีกดห้ามเลือดไม่ได้ผล ให้ใช้วิธีรัดส่วนเหนือของแผลด้วยผ้าแล้วใช้ไม้สอดเข้าไปในผ้านั้น พร้อมหมุนไม้ไปทางเดียวกันขันจนแน่น การห้ามเลือดวิธีนี้จะปิดกั้นไม่ให้เลือดไหลผ่านบริเวณที่มีบาดแผลทำให้เลือดหยุดไหลแต่ต้องคลายผ้าเป็นระยะเพื่อป้องกันเนื้อเยื่อตาย เช่น รัดนาน 5 นาที คลายออก 1 นาทีและรีบนำเด็กส่งโรงพยาบาลโดยด่วน

 

3.หัวโน ห้อเลือด ฟกช้ำ

ในระยะแรกภายใน 24 ชั่วโมง ให้ประคบด้วยความเย็น โดยใช้ถุงพลาสติกใส่น้ำแข็งหรือใช้ cold - hot pack เป็นถุงที่ใช้ได้ทั้งร้อนและเย็น เพื่อประคบเส้นเลือดให้หดตัวทำให้เลือดหยุดไหล ห้ามนวดคลึงเพราะจะทำให้เลือดที่ออกใต้ผิวหนังยิ่งออกมากขึ้น ไม่ควรใช้ยาหม่อง หรือของร้อนอื่น ๆ ทาบริเวณที่โน เพราะยาหม่องจะทำให้ปวดแสบปวดร้อนและเลือดมาครั่งอยู่บริเวณแผลมากขึ้น หลังจาก 24 ชั่วโมงไปแล้ว จึงเริ่มประคบร้อนเพื่อให้เลือดที่ออกถูกดูดซึมกลับเข้าไปในเส้นเลือดเร็วขึ้น

 

ช่วยเด็กสำลักอาหาร

 

4.สิ่งแปลกปลอมเข้าจมูก

ให้เด็กอ้าปากหายใจทางปากแทน หยอดน้ำมันพืชเข้าไปทางจมูกที่มีสิ่งแปลกปลอม ถ้าเป็นเมล็ดพืชจะช่วยไม่ให้เมล็ดพืชนั้นบวมปิดรูจมูกแน่นขึ้น ถ้าเป็นแมลงเข้าจมูกจะช่วยลดอาการปวดแสบปวดร้อนในรูจมูกและทำให้แมลงหยุดเคลื่อนไหว หลังจากนั้นให้เด็กสั่งน้ำมูกให้สั่งเบา ๆ วิธีนี้จะทำให้สิ่งแปลกปลอมหลุดออกมา หากเป็นพวกเศษผ้าหรือเศษกระดาษ ให้ใช้คีมปลายมนค่อย ๆ คีบออกมา

 

5.แมลงเข้าหู

ต้องทำให้แมลงตายโดยใช้น้ำมันพืช เช่น น้ำมันมะกอกหรือน้ำมันพืชที่ใช้ทำอาหาร หยอดเข้าไปในหู ทิ้งไว้สักครู่แมลงจะตายและลอยขึ้นมาให้ตะแคงหูเพื่อให้แมลงและน้ำมันไหลออกมาให้หมด และใช้สำลีเช็ดเพื่อทำความสะอาดอีกครั้งค่ะ

บทความที่เกี่ยวข้อง : แมลงเข้าหู ลูกน้อย ทำอย่างไรดี วิธีปฐมพยาบาลเบื้องต้น

 

6.สุนัข หรือแมวกัด

ควรรีบเข้าไปดูลูกน้อย และไล่ให้สัตว์นั้นออกให้ห่างไปไกลที่สุด หรือให้คนช่วยนำไปขังแยกไว้ เพื่อที่จะได้ไม่เกิดการเข้ามากัดซ้ำขณะที่กำลังปฐมพยาบาลเบื้องต้นอยู่ และควรรีบพาลูกไปที่ก๊อกน้ำทันที ใช้น้ำสะอาดและสบู่รีบล้างแผลให้สะอาด ซับแผลให้แห้ง ปิดแผลด้วยผ้าก๊อซหรือผ้าสะอาด และนำเด็กส่งโรงพยาบาล

 

7.สิ่งแปลกปลอมติดคอ

หากเป็นเด็กเล็กอายุน้อยกว่า 1 ขวบ ถ้าเด็กยังไม่หมดสติ

  • ให้รีบเช็กว่าทางเดินหายใจมีการอุดกั้นหรือไม่ โดยดูจากอาการร้องไม่มีเสียง หรือไอไม่ออก
  • จากนั้นใช้ฝ่ามือซัพพอร์ตบริเวณคอของเด็กแล้วจับคว่ำลง ตบหลัง 5 ครั้ง สลับกับนอนหงาย กดหน้าอก 5 ครั้ง ทำสลับไปจนสิ่งแปลกปลอมหลุดออกมา
  • แต่ถ้าหมดสติให้รีบกู้ชีพทันที

หากเป็นกรณีที่เด็กโตแล้ว ยังไม่หมดสติ แต่พูดแล้วไม่มีเสียง

  • ให้รัดกระตุกที่ท้อง เหนือสะดือใต้ลิ้นปี่ จนกว่าสิ่งแปลกปลอมจะหลุดออกมา
  • แต่ถ้าเด็กหมดสติให้รีบกู้ชีพทันที

 

ช่วยเด็กสำลักอาหาร

 

8.กลืนและดมสารพิษ

หากเด็กกลืนสารพิษ พวกน้ำหอม ยาทาเล็บ ผงซักฟอก น้ำยาปรับผ้านุ่ม ดีดีที ยาเบื่อหนู ยากำจัดแมลงสาบ หรืออื่น ๆ ที่เป็นสารเคมีพวกกรดด่าง หรือสารประกอบปิโตรเลียม ถ้ามีอาการผิดปกติแนะนำให้ไปพบแพทย์หรือไปโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุด หากมีอาการรุนแรง เช่น ซึม หมดสติ หรือแน่นหน้าอก หายใจติดขัด ให้โทรเบอร์ 1669 สถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ เพื่อให้มีทีมรถพยาบาลมาดูแลที่จุดเกิดเหตุ กรณีที่สารพิษอาจจะเปื้อนกับเสื้อผ้า หรือเปรอะเปื้อนตามผิวหนัง ระหว่างที่รอรถพยาบาลมา อาจจะถอดเสื้อผ้าผู้ป่วย เพื่อลดการสัมผัสกับตัวผู้ป่วย และจัดผู้ป่วยให้นอนตะแคง เพื่อช่วยเปิดทางเดินหายใจ และรอรถพยาบาลมารับผู้ป่วยไปโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุดค่ะ

 

9.สารเคมีเข้าตา

คุณจะต้องรีบเก็บสารเคมีที่เป็นอันตรายให้พ้นกับมือเด็กก่อน และต้องรีบเบิกเปลือกตาบนและล่างให้เห็นนัยน์ตากว้างที่สุด แล้วรินน้ำสะอาดผ่านนัยน์ตาทันทีโดยรินผ่านนาน ๆ ประมาณ 5 นาที เพื่อล้างสารเคมีออกให้หมด ขณะที่รินน้ำต้องระวังอย่าให้น้ำที่ไหลออกกระเด็นเข้าตาอีกข้างหนึ่งที่โดนสารเคมี ควรให้เด็กนอนเอียงตาข้างที่โดนสารเคมีออกจากตัว เวลารินน้ำควรรินจากหัวตาไปหางตา จากนั้นใช้ผ้าก๊อซหรือผ้าสะอาดปิดตาไว้แล้วรีบนำเด็กส่งโรงพยาบาล

บทความจากพันธมิตร
วันเด็กแห่งชาติ ปี 2565 กระทรวง อว. ชวนเจ้าตัวเล็ก ร่วมกิจกรรม Online “ถนนสายวิทยาศาสตร์” ลุ้นเปิด “กล่องสุ่มของเล่น” กระจายความสนุกพร้อมกันทั่วประเทศ
วันเด็กแห่งชาติ ปี 2565 กระทรวง อว. ชวนเจ้าตัวเล็ก ร่วมกิจกรรม Online “ถนนสายวิทยาศาสตร์” ลุ้นเปิด “กล่องสุ่มของเล่น” กระจายความสนุกพร้อมกันทั่วประเทศ
ดีแทค ขอชวนน้อง ๆ มา #เปลี่ยนโลกช่วงปิดเทอม กับ dtac Young Safe Internet Leader Cyber Camp ซีซั่น 3
ดีแทค ขอชวนน้อง ๆ มา #เปลี่ยนโลกช่วงปิดเทอม กับ dtac Young Safe Internet Leader Cyber Camp ซีซั่น 3
ครั้งแรกในไทยฟิลิปส์ เปิดตัวโคมUVCยับยั้งเชื้อโรคแบบตั้งโต๊ะ รองรับตลาดการใช้งานในครัวเรือนและธุรกิจบริการ
ครั้งแรกในไทยฟิลิปส์ เปิดตัวโคมUVCยับยั้งเชื้อโรคแบบตั้งโต๊ะ รองรับตลาดการใช้งานในครัวเรือนและธุรกิจบริการ
จะดีแค่ไหนหากโลกนี้มีของเล่นที่เด็กทุกคนสนุกด้วยกันได้อย่างเท่าเทียม มารู้จักกับ BLIX POP กันเถอะ
จะดีแค่ไหนหากโลกนี้มีของเล่นที่เด็กทุกคนสนุกด้วยกันได้อย่างเท่าเทียม มารู้จักกับ BLIX POP กันเถอะ

 

10.เลือดกำเดาไหล

อย่าให้เด็ก ๆ เงยหน้าขึ้นเป็นอันขาด เพราะเป็นวิธีที่ผิด ให้เด็กก้มหน้าลงแทน ท่าก้มหน้านั้นจะเป็นนั่งหรือยืนก็ได้แต่ห้ามนอน ใช้นิ้วกดจมูกด้านที่เลือดกำเดาไหล ใช้ความเย็นประคบดั้งจมูก 1-2 นาที หากเลือดยังไม่หยุด ให้ใช้ผ้าก๊อซหรือผ้านุ่ม ๆ สอดเข้าไปในรูจมูกข้างที่เลือดออกทิ้งไว้สักครู่ใหญ่ สังเกตดูว่าเลือดหยุดไหลหรือยัง กรณีเลือดไหลไม่หยุดเกินครึ่งชั่วโมงขึ้นต้องรีบนำส่งโรงพยาบาล

 

อุบัติเหตุ หรือเหตุร้าย เป็นเรื่องไม่คาดคิด แต่เราก็สามารถป้องกัน และลดโอกาสที่จะเกิดขึ้นได้ คุณพ่อคุณแม่ควรใส่ใจดูแล ระมัดระวังลูก และสอนให้พวกเขารู้ว่าการเล่นแบบไหนไม่ปลอดภัย สารเคมีอะไรที่ควรหลีกเลี่ยง ตลอดจนเมื่อเกิดอุบัติเหตุแล้ว ให้รีบมาบอกผู้ปกครองโดยเร็วที่สุดอีกด้วยค่ะ

 

บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :

แผล ลูกมีแผลทำไงดี วิธีปฐมพยาบาลเบื้องต้นง่าย ๆ ที่คุณแม่ก็ทำได้

ลูกสําลักอาหาร ปฐมพยาบาล อย่างไร ป้อนอาหารเด็กเล็ก ต้องระวัง! อาหารอันตราย

วิธีปฐมพยาบาลสําลักอาหาร เด็กเล็ก ช่วยลูกยังไงให้รอด คนเป็นพ่อเป็นแม่ไม่รู้ไม่ได้

ที่มา : 1, 2

มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!

Follow us on:
facebook-logo instagram-logo tiktok-logo
img
บทความโดย

Kanjana Thammachai

  • หน้าแรก
  • /
  • ข่าว
  • /
  • ภาพสุดฮา! นักศึกษาสาธิตวิธีการ ช่วยเด็กสำลักอาหาร ทำหัวหุ่นหลุดกระเด็น
แชร์ :
  • หนุ่ม 15 พาสาววัย 11 หอบเสื้อผ้าหนี โชคดีแม่ตามทัน!

    หนุ่ม 15 พาสาววัย 11 หอบเสื้อผ้าหนี โชคดีแม่ตามทัน!

  • หมอหดหู่ใจ! แม่ติดยาเสพติดมาคลอดลูก น้ำหนักตัวออกมาแค่ 1.5 กิโล

    หมอหดหู่ใจ! แม่ติดยาเสพติดมาคลอดลูก น้ำหนักตัวออกมาแค่ 1.5 กิโล

  • ครูสั่งนักเรียนถอดรองเท้ายืนตากแดด จนเท้าพอง ! เหตุไม่เชื่อนักเรียนเจ็บเล็บขบ

    ครูสั่งนักเรียนถอดรองเท้ายืนตากแดด จนเท้าพอง ! เหตุไม่เชื่อนักเรียนเจ็บเล็บขบ

  • หนุ่ม 15 พาสาววัย 11 หอบเสื้อผ้าหนี โชคดีแม่ตามทัน!

    หนุ่ม 15 พาสาววัย 11 หอบเสื้อผ้าหนี โชคดีแม่ตามทัน!

  • หมอหดหู่ใจ! แม่ติดยาเสพติดมาคลอดลูก น้ำหนักตัวออกมาแค่ 1.5 กิโล

    หมอหดหู่ใจ! แม่ติดยาเสพติดมาคลอดลูก น้ำหนักตัวออกมาแค่ 1.5 กิโล

  • ครูสั่งนักเรียนถอดรองเท้ายืนตากแดด จนเท้าพอง ! เหตุไม่เชื่อนักเรียนเจ็บเล็บขบ

    ครูสั่งนักเรียนถอดรองเท้ายืนตากแดด จนเท้าพอง ! เหตุไม่เชื่อนักเรียนเจ็บเล็บขบ

ลงทะเบียนรับคำแนะนำเรื่องการตั้งครรภ์พัฒนาการลูกในท้องได้ที่นี่
  • เตรียมตัวเป็นผู้ปกครอง
    • ก่อนตั้งครรภ์
    • การคลอด
    • ระยะการตั้งครรภ์
    • การคลอด
  • พัฒนาการลูก
    • ทารก
    • เด็กก่อนเข้าเรียน
    • ช่วงวัยของเด็ก
    • เด็กก่อนวัยรุ่น
  • ชีวิตครอบครัว
    • การวางแผนการเงิน
    • การเลี้ยงลูก
    • ความรัก และ เซ็กส์
  • ระยะการตั้งครรภ์
    • ไตรมาส 1
    • ไตรมาส 2
    • ไตรมาส 3
    • นมแม่และนมผง
  • โภชนาการ
    • สินค้าเด็ก
    • นมผง
    • เมนูอาหาร
    • สินค้าแม่
  • เพิ่มเติม
    • TAP สังคมออนไลน์
    • ติดต่อโฆษณา
    • ติดต่อเรา
    • Influencer Marketing (KOL)
    • มาเข้าร่วมกับเรา


  • Singapore flag Singapore
  • Thailand flag Thailand
  • Indonesia flag Indonesia
  • Philippines flag Philippines
  • Malaysia flag Malaysia
  • Sri-Lanka flag Sri Lanka
  • India flag India
  • Vietnam flag Vietnam
  • Australia flag Australia
  • Japan flag Japan
  • Nigeria flag Nigeria
  • Kenya flag Kenya
© Copyright theAsianparent 2023. All rights reserved
เกี่ยวกับเรา |ทีม|นโยบายความเป็นส่วนตัว |ข้อกำหนดการใช้ |แผนผังเว็บไซต์
  • เครื่องมือ
  • บทความ
  • ฟีด
  • โพล

เราใช้คุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์คอนเทนต์ที่ดีที่สุดให้กับคุณ. เรียนรู้เพิ่มเติมตกลง เข้าใจแล้ว

เราใช้คุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์คอนเทนต์ที่ดีที่สุดให้กับคุณ. เรียนรู้เพิ่มเติมตกลง เข้าใจแล้ว

theAsianparent heart icon
เราต้องการส่งแจ้งเตือนข้อมูลข่าวสารไลฟ์สไตล์ที่น่าสนใจไปให้กับคุณ