เรียกได้ว่าการป่วยของลูกน้อย เป็นเรื่องที่แม่หลายคนใจสลาย โดยเฉพาะหากเป็นโรคหายาก หรือเป็นโรคที่ต้องใช้การรักษานาน หรือใช้ยารักษาที่ต่างไปจากปกติ ดังเช่นคุณแม่ท่านนี้ ที่ออกมาแชร์ประสบการณ์ ลูกป่วยคาวาซากิ แถมค่ารักษาปาไปเกือบแสนสาม!
เรื่องราวของแม่แพร จากเพจเฟซบุ๊ก “หลีกหน่อยแม่ แพรแพรจะรีวิว” ที่ได้เปิดประสบการณ์ ลูกป่วยคาวาซากิ ครั้งแรก ในวัย 11 เดือน นับเป็นการป่วยหนักที่มากกว่าตอนเป็นโควิด โดยแบ่งอาการป่วยทั้งหมดเป็น 10 วัน ไล่เป็นรายละเอียดและไทม์ไลน์ดังนี้
วันที่ 1-2 (ศ-ส) : มาตินมีไข้ต่ำ ๆ แพรก็คิดว่าลูกคงฟันกำลังขึ้น ตามปกติของเด็กวัยนี้ แถมน้ำลายเยอะกว่าปกติ เราก็เข้าใจว่าฟันกำลังขึ้นแน่ ๆ
วันที่ 3 (อา) : ไข้สูงมาก เกือบ 40 ได้ เราตกใจมาก เลยรีบพาไป รพ. ไม่เจอคุณหมอประจำที่ดูแลมาติน เลยได้เจอคุณหมออีกท่าน คุณหมอบอกว่าน่าจะไม่เป็นอะไรมาก เพราะไม่มีอาการบ่งชี้โรคใดใด อาทิ ไอ น้ำมูก เสมหะ คิดว่าอีกไม่เกิน 3วัน ผื่นน่าจะขึ้น (หัดกุหลาบ, ส่าไข้) ก็จะหายเอง ถ้าไม่ดีขึ้นให้กลับมาอีกที โดยคุณหมอก็นัดอีกทีในวันพุธ เพื่อเจอคุณหมอที่ดูแลมาตินเป็นประจำ
วันที่ 4-5 (จ-อ) : ไข้ยังขึ้นสูง แพรก็เช็ดตัว ให้กินยาเรื่อย ๆ คอยสังเกตผื่นลูกตลอด
วันที่ 6 (พ) : ผื่นก็ยังไม่ขึ้น ไข้ก็ยังสูง และวันที่นัดคุณหมอพอดี เลยรีบออกรถไปหาคุณหมอ และคิดว่าจะต้องแอดมิท เพื่อตรวจหาโรค สรุปได้แอดมิทจริง ๆ และเจ้ากระบวนการตรวจเลือด เมื่อผลเลือดออก สรุปไม่เป็นไข้เลือดออก ไม่เป็นไทฟรอย ไม่เป็นโรคที่จะพบเจอทางเลือดได้ เลยตรวจสวอปทางจมูกเพื่อวินิจฉัยโรคอื่นต่อไป
วันที่ 7 (พฤ) : ยังมีไข้อยู่บ้าง ผลตรวจสวอป 22 โรคออกแล้ว ก็ไม่เป็นโรคใดใด ไม่เป็นโควิด ไม่เป็นไข้หวัดใหญ่ จึงสงสัยว่าเป็นโรคอะไรกันแน่ แต่อาการบ่งชี้ของมาตินเริ่มออกคือ ปากแดง ลิ้นแดง มือเท้าเริ่มบวม หมอจึงสันนิษฐานว่าน่าจะเป็น โรคคาวาซากิ ซึ่งเป็นโรคชื่อไม่คุ้นหูเลย หมอจึงขอเพิ่มการรักษาโดยการเพิ่มคุณหมอทางหัวใจเด็กโดยเฉพาะอีกท่านนึง และขอตรวจเลือด และตรวจหัวใจเพิ่ม
วันที่ 8 (ศ) : ยังมีไข้อยู่บ้าง และผลตรวจออกมาแล้วว่า ค่าเลือดที่หัวใจอักเสบ ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นโรค คาวาซากิ หรือโรค mis c (ยังไม่สามารถระบุได้) แต่แนวทางการรักษาเหมือนกัน จึงต้องเริ่มรักษากันเลย เพื่อไม่ให้หัวใจอักเสบไปมากกว่านี้ ซึ่งขั้นตอนนี้สำคัญมากจริง ๆ การรักษาคือต้องรีบให้ยาที่ชื่อว่า ivig และเวลาให้ยาต้องอยู่ในห้อง ICU เท่านั้น เพราะเป็นยาที่ค่อนข้างอันตราย หากเกิดอาการแพ้จะมีอาการค่อนข้างรุนแรงมาก ใจคนเป็นแม่แทบตกไปอยู่ที่ตาตุ่ม แต่มันก็ต้องทำ เราก็ย้ายไปที่ห้อง icu ขอพูดตรงนี้ว่าหดหู่มาก มู้ดมันไม่ดีเลยอะ ร้องไห้นำลูกเลย ลูกงง ม๊าร้องไห้ทำไม
วันที่ 9 (ส) : ได้กลับขึ้นมาที่ห้องพักปกติแล้ว ลูกการตอบสนองยาได้ดีมาก ไม่มีอาการแพ้ ไม่มีไข้แล้ว ไม่บวมแล้ว รอดูอาการต่อถึงวันอาทิตย์
วันที่ 10 (อา) : หมอให้กลับบ้านได้ เพราะอาการดีขึ้นมาก ๆ แล้ว และผลค่าอักเสบของมาตินจาก 2,000 กว่า ลดลงมาเหลือ 800 ถือว่าเป็นค่าที่ดีขึ้นมาก ๆ แค่ถ้าหายขาดเลยต้องเหลือสักหลักสิบ ฉะนั้นก็ให้ยากันต่อไป
ถือว่าเป็น 10 วันที่คนเป็นพ่อแม่เป็นแม่ทรมานมาก ๆ สงสารลูกที่สุด ทำไมลูกต้องมาเจออะไรแบบนี้ โดนเจาะเลือด ให้น้ำเกลือให้ยาจนไม่มีที่ให้เจาะ โดนไปเกือบ 10 รู ให้ยาจนเส้นพัง แขนขาที่เจาะมีแต่รอยเขียวรอยม่วงเต็มไปหมด รู้เลยว่าลูกเจ็บมาก ๆ แต่มาตินก็สู้มาก เข้มแข็งมาก อดทนมากนะลูก ไม่ว่าจะกินยา ฉีดยา เจาะเลือด ยังไงมาตินก็กลับมายิ้มให้ม๊ะม๊าได้เสมอ ขอบคุณมาก ๆ ที่เรายังยิ้มให้กันตลอด
และที่สำคัญค่ารักษาแพงมาก มากแบบตกใจ พูดตรง ๆ ว่าถ้าไม่มีประกันก็คือหน้าแห้ง แค่2วัน ค่ารักษาปาไป เกือบแสนสาม เลยอยากจะบอกทุกคนว่าประกันเด็กสำคัญมากจริง ๆ เราไม่รู้เลยว่าลูกเราจะเจ็บป่วยตอนไหน ยิ่งตอนนี้คือโรคบ้าโรคบออะไรไม่รู้เยอะแยะมากจริง ๆ
บทความที่เกี่ยวข้อง : ประกันสุขภาพเด็ก ดีอย่างไร ? ทำไมคุณพ่อคุณแม่ควรทำ
พอมีประกันมันทำให้เราไม่ต้องมานั่งห่วงเรื่องค่าใช้จ่าย คือเราเต็มที่กับการรักษาลูกได้สุด ๆ คุณหมออยากตรวจอะไร ตรวจเลยค่ะ เต็มที่ค่ะ มันทำให้เราสบายใจหมดห่วงในส่วนเรื่องค่าใช้จ่ายไปได้มาก และอยากให้ดูให้ดีด้วยว่าประกันที่ทำที่เขียนว่าเหมาจ่าย เหมาจ่ายยังไง เหมาจ่ายไม่เกินครั้งละ20,000 หรือ เหมาจ่ายในวงเงิน 50,000 อะไรแบบนี้หรือเปล่า แพรทำของ AIA ให้มาติน เบี้ยแพงจริง พูดตรงนี้เลยว่าแพงกว่ายี่ห้ออื่น ๆ แต่เขียนชัดเจนเลยว่า เหมาจ่ายตามจริง! คือลูกเราทั้งคน เป็นอะไรนิดอะไรหน่อยคือ ประมาทไม่ได้เลย ตอนนี้คือหาหมอโล้ด ไวรัสและโรคต่าง ๆ มันไปไกลมากจริง ๆ
(คลิกอ่านโพสต์ต้นฉบับ)
โรคคาวาซากิ คืออะไร ?
โรคคาวาซากิเป็นโรคที่ทำให้เกิดการอักเสบของผนังหลอดเลือดแดงในร่างกาย รวมไปถึงหลอดเลือดหัวใจ ซึ่งมีหน้าที่นำเลือดไปเลี้ยงกล้ามเนื้อหัวใจด้วย และยังส่งผลให้เกิดการอักเสบของต่อมน้ำเหลือง ผิวหนัง และเยื่อบุในปาก จมูก และลำคอ มักพบในเด็กอายุต่ำกว่า 5 ปี สาเหตุยังไม่ทราบแน่ชัด แต่นักวิทยาศาสตร์เชื่อว่าเป็นโรคไม่ติดต่อ และจากงานวิจัยในปัจจุบันชี้ว่าอาจเกิดได้จากทั้งไวรัส แบคทีเรีย ปัจจัยแวดล้อมอื่น ๆ ที่ไปกระตุ้นให้เกิดปฏิกิริยาทางระบบภูมิคุ้มกันที่ผิดปกติ
อาการของโรคคาวาซากิ
1. ระยะแรก
- ไข้สูงถึง 39 องศาเซลเซียส นานเกินกว่า 3 วัน
- ตาแดงทั้งสองข้าง โดยไม่มีขี้ตา
- ผื่นช่วงกลางลำตัวและอวัยวะสืบพันธุ์
- ปากแดง แห้งแตก ลิ้นบวม หรือที่เรียกว่า Strawberry tongue
- ผิวหนังบวมแดง โดยเฉพาะบริเวณฝ่ามือฝ่าเท้า
- ต่อมน้ำเหลืองโต โดยเฉพาะบริเวณลำคอ
2. ระยะที่สอง
- ผิวหนังบริเวณมือและเท้าลอกออกเป็นแผ่น
- ปวดตามข้อ
- ปวดท้อง ท้องเสีย อาเจียน ถ่ายเหลว
3. ระยะที่สาม
เป็นระยะที่อาการค่อย ๆ ดีขึ้น หากไม่มีภาวะแทรกซ้อนอื่น ระยะนี้อาจนานถึง 8 สัปดาห์
แนวทางการรักษาโรคคาวาซากิ
การดูแลรักษาต้องอาศัยการดูแลร่วมกัน ระหว่างกุมารแพทย์ทั่วไปและกุมารแพทย์โรคหัวใจ โดยผู้ป่วยที่ให้การวินิจฉัยว่าเป็นโรคคาวาซากิควรได้รับ intravenous gammaglobulin (IVIG) ในขนาดสูงเพื่อลดโอกาสการเกิดหลอดเลือดแดงที่เลี้ยงกล้ามเนื้อหัวใจโป่งพอง ร่วมกับการให้ aspirin
บทความที่เกี่ยวข้อง : ชี้เป้า ประกันสุขภาพลูก ลดภาระทางการเงินเมื่อลูกเจ็บป่วย ช่วยให้ได้รับการรักษาอย่างดีที่สุด
ข้อดีของการทำประกันสุขภาพเด็ก
- หายห่วงเรื่องค่ารักษาพยาบาล เมื่อลูกเจ็บป่วยบ่อยครั้ง สิ่งที่ตามมาคือค่ารักษาที่บางทีพ่อแม่อาจไม่ได้สำรองไว้มากพอ
- มีโอกาสหายเร็วขึ้น เพราะได้รักษาในโรงพยาบาลที่ดี และมีการดูแลอย่างต่อเนื่อง
- คุ้มครองโรคได้ครอบคลุม
- ได้ความสบายใจ
อย่างที่บอกค่ะว่าประกันสุขภาพเด็ก เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่คุณพ่อคุณแม่ไม่ควรละเลย เพราะถ้าหากเจอค่าใช้จ่ายที่อาจจะเกินกำลัง แต่ประกันจะช่วยให้ทุกอย่างเบาบางลง แน่นอนว่าหากไม่ได้ทำประกันเอาไว้ พ่อแม่ก็ต้องแบกรับค่าใช้จ่ายแบบไม่ทันตั้งตัว บางครั้งจำเป็นต้องใช้เงินเก็บหรือหาตัวช่วยทางการเงินอย่างบัตรกดเงินสดเพื่อสำรองจ่ายค่ารักษาพยาบาลให้กับลูกเอาไว้ ซึ่งแน่นอนว่าหากมีตัวช่วยหรือมีเงินเก็บมาจ่าย ค่ารักษาพยาบาลก็เบาใจได้ แต่ถ้าหากไม่มีตัวช่วยเอาไว้เลย การทำประกันสุขภาพก็เป็นทางเลือก ที่เบาใจได้นั่นเองค่ะ
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :
เปิดคัมภีร์ ! อยากทำประกันสุขภาพ ต้องรู้อะไรบ้าง สำหรับมือใหม่อยากทำประกัน
ประกันสุขภาพที่ไหนดี !? ชี้จุดเด่นของแต่ละบริษัท เพื่อให้ทำประกันอย่างเหมาะสม
อยากทำ ประกันชีวิตให้ลูก พ่อแม่ต้องคำนึงถึงเรื่องอะไร
ที่มา : facebookหลีกหน่อยแม่ แพรแพรจะรีวิว, bumrungrad
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!