รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ร่วมกับ นพ.โอภาส หารย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค แถลงข่าว แผนเปิดเทอม ภาคเรียนที่ 2/2564 สถานศึกษาต้องปลอดภัย เด็กนักเรียนได้รับวัคซีนครบถ้วน
แผนเปิดเทอม ปีการศึกษา 2565 ที่ผู้ปกครองควรรู้ !
แผนเปิดการเรียน
ตรีนุชกล่าวว่า กระทรวงศึกษาธิการ ได้ระวัง และติดตามสถานการณ์ เกี่ยวกับ การแพร่ระบาดของโรคโควิด – 19 อย่างใกล้ชิด และได้มีการถอดบทเรียนจากการจัดการเรียนการสอน 5 แบบ ในภาคเรียนที่ 1/2564 จนถึง 1/2565 เพื่อนำไปสู่การเรียนการสอนในภาคเรียนต่อไป ให้มีความปลอดภัย และมีประสิทธิภาพ
ซึ่งจากการประชุม กับกระทรวงสาธารณสุข และกระทรวงมหาดไทย มีเแนวทางในการเตรียมความร้องสำหรับการเปิดภาคเรียน ที่ 2 ในปีการศึกษา 2564 คือ ฉีดวัคซีนไฟเซอร์ Pfizer 2 เข็ม แก่กลุ่มผู้ที่มีอายุ 12 – 17 ปี 11 เดือน 29 วัน โดยจะอนุโลมให้แก่กลุ่มนักเรียน ที่มีอายุเกิน 17 ปี 11 เดือน 29 วัน ซึ่งจะครอบคลุมนักเรียนในระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 – 6 , ปวช. , ปวส. หรือเทียบเท่า รวมถึงนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ที่มีอายุ 12 ปีขึ้นไป ในเดือนตุลาคมเป็นต้นไป
โดยจะเริ่มฉีดให้แก่นักเรียนที่อยู่ในพื้นที่สีแดงเข้ม จำนวน 29 จังหวัดก่อน และตั้งเป้าหมายว่านักเรียนทุกคนจะได้รับวัคซีนเข็มที่ 1 ครบถ้วน ซึ่งในประชุม ศบค. ชุดใหญ่ ได้อนุมัติเกี่ยวกับการฉีดไฟเซอร์ ให้แก่นักเรียนนักศึกษาทุกคนกว่า 4.5 ล้างคน ทั้งกระทรวงการอุดมศึกษา , โรงเรียนพระปริยัติธรรม , กระทรวงศึกษาธิการ, กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม , โรงเรียนตำรวจชายแดน และกรุงเทพมหานคร
ตรีนุชได้กล่าวอีกว่า แผนการดำเนินโครงการ โรงเรียน Sandbox Safety Zone in School (SSS) ที่เป็นมาตราการสำหรับโรงเรียนประจำ กระทรวงศึกษาธิการจะประสานกับกระทรวงสาธารณสุขในการลงตรวจพื้นที่โรงเรียน ที่จะประสงค์เข้าโครงการ ว่าเป็นไปตามมาตรการหรือไม่ โดยโรงเรียน SSS มีเงื่อนไข ดังนี้
- เป็นโรงเรียนประจำ
- เป็นไปตามความสมัครใจ
- ผ่านการประเมินความพร้อม
โดยจะต้องแจ้งความประสงค์ผ่านต้นสังกัด มีการหารือกับผู้ปกครอง และผ่านความเห็นจากคณะกรรมการ จัดให้มี Safety Zone ในโรงเรียน ติดตามประเมินผลโดยทีมตรวจราชการของกระทรวงการศึกษาธิการและกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งกระทรวงศึกษาธิการจะพิจารณาความพร้อมของสถานศึกษาสำหรับการเปิดภาคเรียนตามบริบทที่เหมาะสม
ทางกระทรวงศึกษาธิการ ให้ความสำคัญและความปลอดภัยของนักเรียนรักศึกษาเป็นอันดับแรก โดยได้ประสานกับกระทรวงสาธารณสุขให้เข้ามาดูแลช่วยเหลืออย่างใกล้ชิด และการฉีดวัคซีนจะต้องเป็นไปตามความสมัครใจ และได้รับการยินยอมจากผู้ปกครองก่อน
โดยกระทรวงจะเร่งสร้างการรับรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับประโยชน์ของการฉีดวัคซีน รวมถึงวิธีการปฏิบัติก่อนและหลังการฉีดวัคซีน สำหรับการฉีดวัคซีนให้ครูและบุคลากรทางการศึกษา ในเดือนตุลานี้จะให้สถานศึกษาส่งรายชื่อครู และบุคลากรทางการศึกษาที่ยังไม่ได้รับวัคซีนมาด้วย เพื่อเร่งจัดสรรวัคซีนให้กลุ่มครู
เป้าหมายการฉีดวัคซีน
เป้าหมายการฉีดวัคซีน เพื่อเปิดภาคเรียน 2/2564 -1/2565
1. ประชาชนทั่วไปที่มีอายุ 18 ปี ขึ้นไป มีให้ฉีด 3 สูตรคือ
- ซิโนแวค – แอสตร้าเซนเนก้า
- แอสต้าเซนเนก้า – แอสต้าเซนเนก้า
- แอสต้าเซนเนก้า – ไฟเซอร์
2. นักเรียนที่มีอายุ 12 – 18 จะได้ฉีดวัคซีนไฟเซอร์ ในเดือนตุลาคม
3. แรงงานกลุ่มประกันสังคม จะได้ฉีดฉีดวัคซีน ซิโนแวค – แอสตร้าเซนเนก้า
4. หน่วยงานอื่น ๆ จะได้ฉีดฉีดวัคซีน ซิโนแวค – แอสตร้าเซนเนก้า คิดเป็ย 5 % ของวัคซีนในเดือนตุลาคม
5. ผู้ที่ได้รับ วัคซีน ซิโนแวคครบ 2 เข็ม จะต้องกระตุ้นด้วย วัคซีน แอสตร้าเซนเนก้า เป็นเข็มที่ 3
อย่างไรก็ตาม สำหรับการฉีดวัคซีนสำหรับเด็ก ซึ่งมีรายงานเกี่ยวกับ อาการกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ หลังจากการฉีดวัคซีน ทาง ศบค. จะสื่อสาร ชี้แจง ให้ผู้ฉีดวัคซีน รวมถึงจะแจ้งให้ผู้ปกครองได้ทราบถึงความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้น และในการฉีดวัคซีนของเด็กนักเรียน จะต้องได้รับการยินยอมจากผู้ปกครองเท่านั้น และย้ำว่า แนวทางนี้ จะต้องเป็นการสมัครใจ และไม่มีการบังคับใด ๆ ทั้งสิ้น
บทความอื่น ๆ ที่คุณอาจจจะสนใจ :
รวมราคาวัคซีนโควิด-19 และเทียบประสิทธิภาพ ต่างกันอย่างไร?
เป็นประจำเดือนฉีดวัคซีนโควิดได้ไหม? วัคซีนมีผลยังไงกับประจำเดือนของผู้หญิง
ลูกฉีดวัคซีน ไข้ขึ้น ทำยังไง วัคซีนตัวไหนทำให้เกิดไข้บ่อยสุด
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!