แม่ท้องมีความต้องการทางเพศลดลง ผลกระทบต่อความต้องการทางเพศของการตั้งครรภ์

แม่ท้องมีความต้องการทางเพศลดลง ระหว่างการตั้งครรภ์ จนทำให้ไม่อยากมีเพศสัมพันธ์กับคนรัก คนท้องบางคน ไม่มีอารมณ์ทางเพศเลย ด้วยร่างกายที่อ้วนขึ้น รู้สึกไม่สบายตัว อึดอัด หรือมีอาการแพ้ท้องรุนแรง คลื่นไส้ อาเจียน และเครียด ทำให้หมดอารมณ์ได้ง่าย ๆ แต่ถ้าท้องแล้วมีอารมณ์ทางเพศ ก็ไม่ใช่เรื่องผิดปกติ ซึ่งการตั้งครรภ์ในบางครั้งอาจจะเกิด ผลกระทบต่อความต้องการทางเพศ วันนี้เราดูสาเหตุที่เกิดขึ้นกัน

ทำไมการตั้งครรภ์ทำให้ แม่ท้องมีความต้องการทางเพศลดลง

ระยะเวลาที่แม่ท้องจะประสบปัญหาเรื่องทางเพศลดลงในระหว่างตั้งครรภ์แตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล บางคนอาจจะพบในช่วงไตรมาสแรก หรือ ไตรมาสสอง ตลอดจนช่วงเก้าเดือนที่ตั้งครรภ์ โดยคู่รักส่วนใหญ่จะไม่เข้าใจปัญหานี้ของแม่ท้อง บางครั้งอาจจะนำไปสู่การทะเลาะวิวาทเพราะพวกเขาจะรู้สึกถูกกีดกันทางเพศโดยแม่ที่ตั้งครรภ์ วันนี้เราจะมาดูปัญหาที่เกิดขึ้นของแม่ท้องรวมไปถึงการจัดการกับปัญหาที่เกิดขึ้น

1. การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนมีผลกระทบต่อความต้องการทางเพศ

ในระหว่างตั้งครรภ์พบว่ามีการผลิตฮอร์โมนเอสโตรเจนและโปรเจสเตอโรน การเพิ่มขึ้นของฮอร์โมนเอสโตรเจนช่วยในการพัฒนาของหลอดเลือดโดยมดลูกและรก อีกทั้งยังเป็นการให้สารอาหารแก่ทารกที่กำลังพัฒนา การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ยังส่งผลต่อฮอร์โมนอื่น ๆ ซึ่งเชื่อมโยงกับกิจกรรมทางเพศ การเพิ่มขึ้นของฮอร์โมนอาจทำให้เกิดการคลายข้อต่อและเอ็นทั่วร่างกายทำให้แม่ท้องเหนื่อย เกิดอาการเคล็ดขัดยอกบนหัวเข่าและข้อเท้าทำให้เกิดอาการไม่ต้องการทางเพศ รวมไปถึงการขยายตัวของหน้าอกแสดงว่าฮอร์โมนเอสโตรเจนเพิ่มขึ้นเนื่องจากร่างกายเริ่มจัดการให้แม่มีน้ำนมให้กับทารกทำให้เกิดอาการเจ็บด้วย ซึ่งทำให้แม่ท้องเกิดอาการเจ็บปวดและไม่สนใจเรื่องเซ็กส์เลย

2. การเปลี่ยนแปลงของรูปร่างมีผลกระทบต่อความต้องการทางเพศ

ด้วยการเปลี่ยนของหน้าท้องจากแบนราบเป็นเว้าหรือนูนออกมา รวมถึงการตั้งครรภ์จะทำให้จุดศูนย์กลางของแรงโน้มถ่วง นำไปสู่การปรับท่าทางโดยไม่รู้ตัว จึงทำให้แม่ท้องไม่อยากเกี่ยวข้องกับการมีเพศสัมพันธ์ เพราะกลัวเจ็บ

3. น้ำหนักเพิ่มขึ้นมีผลกระทบต่อความต้องการทางเพศ

แม่ท้องมีแนวโน้มที่จะน้ำหนักเพิ่มขึ้นได้ถึง 25 กิโลกรัม ซึ่งน้ำหนักที่เพิ่มขึ้นก็มาจากการรับประทานอาหารตอนท้องและการไม่ได้ออกกำลังกาย ทำให้ร่างกายนั้นอ้วนขึ้น โดยน้ำหนักที่มากขึ้นของแม่ท้อง ทำให้แม่ท้องส่วนมาก รู้สึกอายที่จะถอดเสื้อผ้า เพื่อการมีเพศสัมพันธ์กับคู่รัก จึงเป็นหนึ่งสาเหตุที่น้ำหนักเพิ่มขึ้น แม่ท้องจะไม่อยากมีเซ็กส์

4. การไวต่อสัมผัสของเต้านมมีผลกระทบต่อความต้องการทางเพศ

ในระหว่างตั้งครรภ์ เลือดจะไหลเวียนไปที่ระบบสืบพันธุ์ และเต้านมมากขึ้น ทำให้บริเวณดังกล่าวไวต่อการสัมผัส จนอาจเกิดความเจ็บปวดได้

5. ความสนใจเกี่ยวกับลูกน้อยในครรภ์มีผลกระทบต่อความต้องการทางเพศ

คุณแม่ตั้งครรภ์จะให้ความสนใจกับลูกน้อยที่กำลังเจริญเติบโตอยู่ภายในครรภ์มากกว่าการมีเพศสัมพันธ์ โดยอาจกลัวว่าหากมีเพศสัมพันธ์แล้วจะกระทบกระเทือนต่อทารกได้

6. ผิวแพ้ง่ายมีผลกระทบต่อความต้องการทางเพศ

แม่ท้องหลายคนอาจจะเคยประสบปัญหามีปัญหาผิวหนัง รวมไปถึงผิวหนังแตกลายคัน การเปลี่ยนแปลงของผิวหนังเหล่านี้ อาจทำให้ผิวไวต่อการสัมผัส และเนื่องจากการมีเพศสัมพันธ์นั้นส่วนใหญ่นั้น จะมีการสัมผัสกันตลอดแม่ท้องจึงอาจจะเกิดความกังวลได้

เมื่อใดที่ความต้องการทางเพศจะเพิ่มขึ้น ?

แม่ท้องส่วนใหญ่มักมีความต้องการทางเพศลดลงในช่วงต้นการตั้งครรภ์ไตรมาสแรก และจะค่อย ๆ กลับมาเพิ่มขึ้นตามลำดับในช่วงปลายไตรมาสแรกและไตรมาสที่ 2 โดยในช่วงเวลาดังกล่าว ร่างกายจะสร้างสารหล่อลื่นภายในช่องคลอดแล้ว แต่อย่างไรก็ตาม หากความต้องการทางเพศของแม่ท้องลดลงติดต่อกัน เป็นเวลานานมากกว่าปกติ หรือเป็นปัญหาต่อการตั้งครรภ์ ควรไปปรึกษาแพทย์

ควรจะบริหารชีวิตรักบนเตียงอย่างไรบนเตียงระหว่างตั้งครรภ์

• มีเพศสัมพันธ์ในท่าที่เหมาะกับสรีระ การเปลี่ยนแปลงท่าทางในการมีเพศสัมพันธ์ จะช่วยลดความอึดอัดที่เกิดจากรูปร่างที่เปลี่ยนแปลงไป เช่น เปลี่ยนจากการนอนหงาย เป็นท่านอนตะแคงหันหลังให้ฝ่ายชาย ท่านั่งบนตก หรือ ท่าที่ฝ่ายหญิงอยู่ข้างบนฝ่ายชาย 
• ใช้ถุงยางอนามัย การตั้งครรภ์ควรใช้ถุงยางอนามัยเพื่อลดความเสี่ยงในการติดโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ การติดเชื้อรุนแรงอย่างเอชไอวีได้ เพราะจะเป็นอันตรายทั้งต่อแม่ และทารกในครรภ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากอีกฝ่ายเคยป่วยด้วยโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ นอกจากนี้ การมีเพศสัมพันธ์ทางทวารหนัก ก็เป็นสิ่งที่ควรหลีกเลี่ยง เพราะอาจทำให้เชื้อโรคแพร่กระจายเข้าไปในช่องคลอด จนเกิดการติดเชื้อ ทั้งยังเสี่ยงต่อการเกิดริดสีดวง ในระหว่างตั้งครรภ์อีกด้วย
• พูดคุยกันอย่างเปิดใจ หากคู่รักมีความคิดที่แตกต่างกันในเรื่องการมีเพศสัมพันธ์ระหว่างตั้งครรภ์ ควรเปิดใจพูดคุยกันเพื่อปรับเปลี่ยนความคิดให้ตรงกัน โดยเฉพาะในช่วงใกล้คลอด อาจเปลี่ยนจากการมีเพศสัมพันธ์เป็นการโอบกอด เพื่อไม่ให้กระทบกระเทือนกับทารกในครรภ์

ท่าเซ็กส์สำหรับคนท้อง

• ตั้งครรภ์ไตรมาสแรก เมื่อท้องแล้วมีอารมณ์ แม่สามารถมีเพศสัมพันธ์ได้ทุกท่า แต่ต้องระวังท่าโลดโผน หรือเสี่ยงต่ออุบัติเหตุ เช่น ท่ายืนให้ฝ่ายหญิงห้อยหัวลง หรือการมีเซ็กส์ในอ่างน้ำ ซึ่งอาจลื่นล้มเกิดอุบัติเหตุได้ง่าย
• ตั้งครรภ์ไตรมาสที่สอง เนื่องจากท้องคุณแม่โตเพิ่มขึ้น จึงควรใช้ท่าที่ไม่ทับท้อง เช่น ท่านารีขี่ม้า คือให้ฝ่ายหญิงอยู่ด้านบน ท่านอนตะแคงเข้าหากัน หรือท่าด็อกกี้ ที่ฝ่ายชายสอดใส่เข้าทางบั้นท้าย เป็นต้น
• ตั้งครรภ์ไตรมาสที่สาม เนื่องจากท้องที่ขยาย และโตมากขึ้น อาจจะมีอาการปวดหลังร่วมด้วย ท่าของการมีเพศสัมพันธ์ในระยะนี้ จึงควรเป็นท่าที่ฝ่ายหญิงไม่ต้องออกแรง และผ่อนคลาย

ท้องแล้วมีอารมณ์จนถึงจุดสุดยอด เซ็กซ์หลั่งใน ทำให้เร่งคลอดหรือเปล่า เป็นอันตรายต่อลูกไหม

• เวลาที่มีเซ็กซ์กัน อวัยวะเพศของสามีไม่มีทางไปโดนตัวลูก ดังนั้น ที่พ่อแม่กังวลกันว่า มีเซ็กซ์แล้วลูกจะเป็นอันตราย จึงไม่เป็นความจริง
• เมื่อถึงจุดสุดยอด จนหลั่งในตอนท้อง ก็ไม่มีผลต่อลูกในท้อง เพียงแต่ต้องระวังการติดเชื้อทางช่องคลอดมากกว่า ดังนั้น ก่อนจะมีเพศสัมพันธ์ควรใส่ถุงยางอนามัย

ที่มา : Pobpad.,parentsafrica

บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :

ทำ ออรัลเซ็กส์  ตอนท้องปลอดภัยไหม? ตอนท้องทำออรัลเซ็กส์ได้ไหม?

เซ็กส์บ่อยแค่ไหนถึงท้อง มีเพศสัมพันธ์ทุกวันท้องไหม มีเซ็กส์ช่วงไหนท้องง่ายสุด

ท่าไหนท้องง่ายสุด อยากมีลูก ต้องมีเพศสัมพันธ์ท่าไหน ท่าเซ็กส์ ลูกติดง่าย ท้องง่ายต้องใช้ลีลาแบบไหน

นานแค่ไหนถึงรู้ว่าท้อง มีเซ็กส์กี่วันถึงท้อง คนเราใช้เวลานานเท่าไหร่กว่าจะตั้งท้อง

Sex แบบไหนที่ผู้ชายชอบ ท่าเซ็กส์ท่าไหน ผู้ติดใจไม่ออกไปมีกิ๊ก