เเปลงร่างจากเเม่/พ่อเลี้ยงใจร้าย ให้กลายเป็นเเม่/พ่อเลี้ยงสุดที่รัก
ไม่ใช่เรื่องง่าย หากจะรักคนมีลูกติด ดังนั้นหากไม่มีเทคนิคในการ เเปลงร่างจากเเม่/พ่อเลี้ยงใจร้าย ให้กลายเป็นเเม่/พ่อเลี้ยงสุดที่รัก คุณก็อาจจะต้องใช้เวลาสักพักใหญ่ๆ ดีไม่ดีหากเด็กๆ ไม่ชอบคุณขึ้นมา จะกลายเป็นปัญหาใหญ่เลย
1.อยู่กับความจริงก่อน อย่าเพิ่งเพ้อไปไกล
ภาพครอบครัวสุขสันต์มีอยู่จริงค่ะ เรื่องราวที่ลูกเลี้ยง กับพ่อเลี้ยงหรือเเม่เลี้ยง เข้ากันได้ดีก็มีอยู่จริงค่ะ เเต่ มันไม่ได้การันตีว่าในกรณีของคุณ จะเเฮปปี้กันทุกฝ่ายเเบบนั้น อย่างไรก็ตาม เด็กส่วนใหญ่ จะมีความหวังเสมอว่าพ่อแม่จะกลับคืนดีค่ะ เเละคุณก็ไม่ใช่ พ่อหรือแม่เเท้ๆ ของเขา เรื่องราวดราม่าหรือการไม่เห็นด้วยของเด็กๆ ย่อมเกิดขึ้นได้เเน่นอน
2.รู้สถานะของตัวเอง
เมื่อคุณก้าวเข้าสู่ครอบครัวใหม่ อย่าคาดหวังว่าเด็กๆ จะเข้ากับคุณได้ดี หรือยอมรับคุณว่าเป็นเเม่เลี้ยงหรือเพื่อนของเขา คุณคือเเม่เลี้ยง คนที่เเต่งงานใหม่กับพ่อหรือแม่ของเด็ก เเละในสถานการณ์เเบบนี้คนที่มีผลกระทบมากที่สุดคือ เด็กๆ ค่ะ ส่วนใหญ่คือเรื่องที่เขาไม่มีส่วนร่วมในการเลือกพ่อหรือแม่ใหม่ในครั้งนี้ ดังนั้นเป็นเรื่องปกติที่เด็กๆ จะเกิดความเครียด ความวิตกกังวล ความโกรธ เเละความสับสนได้ ที่สำคัญคือการเรียกร้องความสนใจ
สิ่งสำคัญที่สุดคือให้เด็กๆ ตัดสินใจว่า ความสัมพันธ์ระหว่างคุณกับเขาจะเป็นในรูปเเบบใด เป็นเพื่อน หรือต้องทำหน้าที่เเม่ ซึ่งหากเด็กๆ ตัดสินใจเเล้วนั้น คุณก็ควรที่จะต้องเล่นตามบทบาทนั้นด้วยนะคะ
3.อย่าเสเเสร้งแกล้งทำ
การเข้าหาเด็กๆ ไม่จำเป็นที่คุณต้องสปอยล์เขาค่ะ ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วยกับสิ่งที่เด็กๆ พูดหรือทำ เพราะท้ายที่สุดเเล้ว หากคุณไม่จริงใจ คุณก็เป็นเเค่คนที่หลอกลวงอยู่ดี เเละเเม้คุณจะไม่เห็นด้วย เเต่ก็ต้องทำในเเนวทางที่สุภาพเเละถนอมน้ำใจเด็กๆ ด้วยค่ะ
4.ทำใจถ้าเด็กๆ ต้องเจอพ่อหรือแม่ไว้บ้าง
บทบาทความเป็นพ่อหรือแม่เเม้จะเลิกกับอีกฝ่ายไปเเล้วยังคงอยู่ค่ะ ก็เพราะลูกๆ นั้นเกี่ยวข้องทางสายเลือด ให้ทำใจไว้เลยว่าพ่อหรือแม่ของเด็กจะต้องมาเยี่ยมเเน่ๆ หรือเเบ่งเวลาดูเเลเด็กกับคนของคุณ สิ่งหนึ่งที่ไม่ควรทำเลย คือการเข้าไปก้าวก่ายในเรื่องของการดูเเลเด็กระหว่างพ่อและเเม่ที่เเท้จริงของเขา ยกเว้นว่าคนของคุณจะมาปรึกษาหรือเอ่ยปากถามความคิดเห็นจากคุณค่ะ
5.ฝึกความอดทนไว้ด้วย
คุณสมบัติของคนที่มีลูก (หรือว่าลูกเลี้ยง) ก็คือความอดทนค่ะ สิ่งที่เด็กๆ ต้องเจอมันไม่ต่างอะไรจากการที่คุณต้องดูเเลเด็กหนึ่ง (หรือมากกว่านั้น) โดยที่ไม่เกี่ยวข้องกันทางสายเลือดเลย เเละเด็กๆ ต้องรับมือการความรู้สึกที่มากกว่าคุณด้วยซ้ำไป หากรู้สึกว่าเด็กๆ ไม่เคารพคุณ การวีนเเตกไม่ใช่ทางออกที่ดีนัก ควรรับมือกับสถานการณ์อย่างคนที่มีวุฒิภาวะค่ะ นั่นคือการอดทนเเละอดกลั้นนั่นเอง
6.มีเวลาอยู่กันตามลำพังกับลูกเลี้ยงบ้าง
รู้ค่ะว่ามันไม่ใช่เรื่องง่าย ยิ่งหากคุณเป็นคนที่ไม่ชอบเด็ก เเต่มันก็เป็นเรื่องจำเป็นที่คุณทั้งคู่จะต้องมีความสัมพันธ์ระหว่างกันบ้าง การทำเรื่องง่ายๆ อย่างการพาไปเรียนพิเศษ หรือคอยรับส่ง หรือขยับมาเป็นการทำกิจกรรมร่วมกันบ้างก็ได้ค่ะ เพราะยังไง คุณทั้งคู่ก็ต้องอยู่ร่วมกันอยู่เเล้ว
7.เข้าใจคนของคุณด้วย
ในฐานะพ่อเลี้ยงหรือเเม่เลี้ยง บทบาทหน้าที่ของคุณก็ไม่ได้เป็นเเค่ พ่อหรือเเม่เลี้ยงคนใหม่ของลูกอีกฝ่ายเท่านั้น เเต่คุณก็ยังเป็นภรรยาหรือสามีของเขาอีกด้วย เป็นเรื่องปกติค่ะ หากคุณต้องการเวลาให้เขามาสนใจบ้าง มันอาจจะฟังเเล้วบั่นทอนกำลังใจคุณไปบ้าง เเต่ความสำคัญของลูกเขาต้องมาก่อน เเละคุณก็ต้องเข้าใจในข้อนี้ด้วย
ปล่อยให้มีเวลาพ่อลูก หรือเเม่ลูก ตามลำพังบ้างค่ะ เด็กๆ ต้องการเวลาเเบบนี้บ้าง นั่นคือพื้นที่ของเขา ที่สำคัญคือมันเป็นสิ่งที่คนของคุณเลือกที่จะอยู่กับลูก ส่วนตัวคุณก็วางเเผนอยู่กันสองต่อสองกับคนของคุณบ้าง อาทิตย์ละครั้งสองครั้งหรือมากกว่านั้น โดยไม่เเย่งเวลาที่เขาอยู่กับลูกไป เเค่นั้นก็วินวินกันทั้งสองฝ่ายเเล้วละค่ะ
8.สื่อสารกับคนของคุณด้วย
ถ้าอยากสร้างสัมพันธ์กับเด็กๆ ทางที่ดีที่สุดคือถามจากคนของคุณน่ะเเหละค่ะ เพราะเขารู้ดีว่าลูกเขาเป็นยังไง อีกหนทางที่จะเข้าไปมีปฏิสัมพันธ์กับเด็กๆ ได้คือ ไปไหนมาไหนด้วยกัน 3 คน (เเต่อย่างที่บอกไปข้างต้นคือ ต้องปล่อยให้เขามีเวลาตามลำพังกับลูกด้วย) เเละในเวลาที่อยู่กับคนของคุณ ก็หมั่นถามถึงเด็กๆ ด้วย เพื่อเป็นการบอกคนของคุณอ้อมๆ ด้วยว่า คุณเเคร์ลูกของเขา ซึ่งอย่างไรก็ตามควรอยู่บนพื้นฐานของความจริงใจค่ะ
9.เข้ากับบรรดาญาติๆ ให้ได้ด้วย
ยังไงเสีย ครอบครัวไทยก็ตัดขาดญาติสนิทมิตรสหายไปไม่ได้ บรรดาญาติพ่อแม่พี่น้องของคนของคุณ ก็ควรที่จะต้องเข้ากับพวกเขาให้ได้ด้วยค่ะ หากไม่ได้อยู่ไกลกันเกินไป ชวนพวกเขามาบ้านบ้าง เพราะยังไงๆ ตอนนี้คุณก็เป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวเขาไปเเล้ว
10.มีความสุขเข้าไว้
เรื่องของความจริงใจสำคัญที่สุดคือ การเป็นเเม่เลี้ยงหรือพ่อเลี้ยงไม่ใช่เรื่องง่ายเช่นเดียวกับการเลี้ยงลูกเเท้ๆ ของตัวเองนั่นเเหละ ซื่อสัตย์กับตัวเอง กับลูกเลี้ยง กับสามีหรือภรรยาของคุณ เเต่ก็อย่าลืมว่าต้องสุภาพด้วย อย่าปิดกั้นตัวเอง หรือตั้งเเง่ไว้ก่อน เเม้ความสัมพันธ์นี้จะไม่ใช่เรื่องง่าย เเต่ก็ไม่ยากเกินความพยายามเช่นกันนะคะ
ที่มา Momjunction
บทความอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง
คำพูดเพียงคำเดียวช่วยทำให้ความสัมพันธ์ชีวิตคู่ดีขึ้นได้
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!