เมื่อลูกน้อยเข้าสู่ช่วงอายุ 6 เดือนขึ้นไป ก็จะเป็นช่วงเหมาะสมสำหรับคุณแม่ที่จะ ฝึกลูกใช้แก้วหัดดื่ม เพื่อให้สามารถดื่มน้ำได้ด้วยตัวเองได้ ในวันนี้ เราจะมาแนะนำเคล็ดลับสำหรับคุณแม่ ที่อยากจะสอนลูกหัดดื่มด้วย แก้วหัดดื่ม กัน จะเป็นยังไง ไปดูกันเลยค่ะ!
แก้วหัดดื่ม คืออะไร มีประโยชน์แค่ไหน
คุณแม่บางท่านอาจจะไม่รู้จัก ในวันนี้ เราจึงจะมาแนะนำให้รู้จักกันค่ะ แก้วหัดดื่มนั้น เป็นอุปกรณ์สำหรับฝึกลูกน้อยให้ใช้แก้วน้ำ เพื่อหัดดื่มน้ำหรือดื่มนมจากถ้วนหรือแก้วได้ด้วยตนเอง โดยเป็นอุปกรณ์เสริมที่ได้รับความนิยมมาก เพราะสามารถฝึกลูกน้อยได้ง่าย และยังถูกออกแบบมาให้ถือได้ง่าย จับแล้วไม่หลุดมือง่าย ๆ ถึงแม้ตกก็ไม่แตก ไม่เลอะเทอะ เรียกได้ว่าสะดวกใช้งานทั้งลูกน้อยและคุณแม่เลยค่ะ นอกจากนี้ ในปัจจุบัน แก้วหัดดื่มยังถูกออกแบบให้ดีต่อสุขภาพของเด็ก ๆ ด้วย ไม่ว่าจะเป็นการลดปัญหาสุขภาพช่องปาก และฟันของเด็ก ๆ ได้ดี ยังใช้วัสดุที่มีความปลอดภัยต่อเด็ก ๆ อีกด้วยค่ะ
บทความที่เกี่ยวข้อง : 3 แก้วหัดดื่ม แนะนำอุปกรณ์ถ้วยหัดดื่มตัวช่วยดี ๆ สำหรับลูกน้อย
เมื่อไหร่ที่คุณแม่ควรจะ ฝึกลูกใช้แก้วหัดดื่ม
ก่อนที่จะตั้งใจฝึกลูกใช้แก้วหัดดื่ม ลูกคุณแม่ต้องมีคุณสมบัติเหล่านี้ก่อนค่ะ
ลูกน้อยที่จะเริ่มฝึกใช้แก้วหัดดื่ม ควรมีอายุ 5-6 เดือนขึ้นไปค่ะ
-
มีแก้วหัดดื่มสำหรับเด็กไว้เรียบร้อยแล้ว
คุณแม่ควรเตรียมแก้วหัดดื่มสำหรับลูกน้อยไว้ให้พร้อม เพื่อความสะดวกในการฝึกลูกน้อยนะคะ
-
คุณแม่มีใจพร้อมที่จะฝึกลูก
ขึ้นชื่อว่าเป็นการฝึก ก็ต้องเหนื่อยเป็นธรรมดา คุณแม่ต้องใจเย็น ๆ และค่อย ๆ ฝึกลูกน้อยให้ใช้แก้วหัดดื่มเป็นนะคะ
เคล็ดลับ ฝึกลูกใช้แก้วหัดดื่ม อย่างง่าย ๆ
-
ให้ลูกรู้จักแก้วหัดดื่มก่อน
เปิดโอกาสให้ลูกได้ทำความรู้จักกับแก้วหัดดื่มก่อน เพื่อที่ลูกจะเกิดความคุ้นเคยมากขึ้น ให้ลูกน้อยได้จับ ได้ถือ ได้ลองดูดดูเล่น ๆ เพื่อให้เกิดความสบายใจ และสนใจในแก้วหัดดื่มมากขึ้นค่ะ
-
ใส่นม น้ำเปล่า หรือน้ำผลไม้อร่อย ๆ ในแก้วหัดดื่ม
เริ่มแรก อาจจะลองใส่น้ำเปล่า หรือน้ำผลไม้อร่อย ๆ ที่ลูกชอบลงไปในแก้วหัดดื่ม เพื่อให้ลูกน้อยสนใจ และอยากลองทานมากขึ้น เริ่มแรกอาจจะใส่แค่ปริมาณน้อย ๆ ก่อน เผื่อลูกทำหกเพราะว่าไม่ชินกับการใช้งานนะคะ
-
ค่อย ๆ ฝึกทีละนิด อย่ารีบร้อน
ช่วงแรกถ้าลูกน้อยยังไม่ยอมใช้ ก็อย่ารีบร้อนจนเกินไป อาจจะสลับใช้บางเวลากับขวดนม เพื่อค่อย ๆ สร้างความคุ้นเคยมากขึ้นก่อน แล้วจากนั้นก็ค่อย ๆ เพิ่มปริมาณการใช้งานเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ เช่น อาจจะใช้แค่มื้อกลางวันก่อน พอลูกเริ่มชิน ก็เปลี่ยนมาใช้ทุกมื้อนั่นเองค่ะ
เพื่อที่ลูกน้อยจะได้ลืม และสนใจขวดนมน้อยลง อย่าลืมเก็บขวดนมออกไม่ให้ลูกเห็นนะคะ
ลูกดูดหลอดน้ำไม่เป็น ฝึกยังไงดี
เพราะแก้วหัดดื่มส่วนใหญ่ จะเป็นแก้วพร้อมหลอดดูด ซึ่งเด็ก ๆ ก็อาจจะใช้ไม่เป็น เพราะไม่เคยดูดน้ำจากหลอดน้ำมาก่อน ดังนั้น เรามีเคล็ดลับที่จะฝึกลูกน้อยให้สามารถดูดน้ำจากหลอดเป็นได้ง่าย ๆ มาฝากกัน ไปดูกันเลยค่ะ!
ลูกน้อยเมื่ออายุถึง 1 ขวบ ก็ต้องเริ่มทานนมจากกล่องกันบ้างแล้ว ดังนั้นการฝึกไว้ก่อนก็ไม่เสียหายนะคะ วิธีนี้ ให้คุณแม่นำหลอดเจาะกล่องนม และลองให้ลูกน้อยงับปลายหลอดเอาไว้ แล้วคุณแม่ก็ค่อย ๆ บีบกล่องให้นมไหลผ่านหลอดเข้าไปในปากของลูกน้อย แล้วลูกน้อยก็จะค่อย ๆ เรียนรู้วิธีดูดหลอดทีละน้อยเองค่ะ
-
ใช้น้ำอร่อย ๆ ที่ลูกชอบเป็นตัวดึงความสนใจ
ในช่วงแรก ๆ เราต้องดึงความสนใจของลูกน้อย ให้มีแรงจูงใจที่จะฝึกดูดน้ำจากหลอดก่อน เช่น ใช้น้ำอร่อย ๆ ที่ลูกชอบให้ทานผ่านหลอด พอได้ทานง่าย ๆ ลูกก็จะรู้เองได้ว่า ถ้าดูดหลอด จะได้ทานน้ำอร่อย ๆ ที่ชอบ
ในช่วงแรกของการฝึก ลูกน้อยอาจจะมีการสำลักบ้าง จากการดูดน้ำที่มากเกินไป ให้คุณแม่ลองปรับขนาดหลอดให้เล็กลง เพื่อให้สามารถดูดได้ทีละน้อย ๆ จนลูกชินและไม่สำลักอีกค่อยเพิ่มขนาดหลอดให้ใหญ่ขึ้นค่ะ
-
ให้เด็ก ๆ รู้จักกับหลอดก่อน
อาจจะให้ลูก ๆ ได้สัมผัสกับตัวหลอดก่อน ว่าเป็นอย่างไร หรือนำหลอดมาเล่นโดยการจุ่มลงไปในน้ำ แล้วใช้นิ้วอุดอากาศไว้รูหนึ่ง เพื่อให้มีน้ำค้างในหลอด แล้วหยอดใส่ปากลูกน้อย พอทำบ่อย ๆ ลูกน้อยก็จะเริ่มดูดน้ำจากปลายหลอดได้ค่ะ
โดยสรุปแล้ว แก้วหัดดื่ม เป็นอีกหนึ่งอุปกรณ์ที่จะช่วยให้คุณแม่สามารถหัดลูกน้อยให้ทานน้ำ นม หรือเครื่องดื่มอื่น ๆ ผ่านแก้วได้ด้วยตัวเอง และเลิกจากขวดนมได้ แก้วหัดดื่มเป็นอุปกรณ์สำหรับเด็กโดยเฉพาะ ทำให้มีความปลอดภัย และมีความทนทาน ปลอดภัยต่อลูกน้อยแน่นอน แนะนำมาก ๆ เลยค่ะสำหรับคุณแม่ที่อยากหัดให้ลูกเลิกขวดนม
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :
10 แก้วน้ำเด็ก ถ้วยน้ำหัดดื่ม เลือกแบบไหนดี? ของต้องมี
10 กระติกน้ำเด็ก กระติกน้ำโรงเรียน พกพาง่าย ลูกชอบ งบไม่เกิน 1,000 บาท!
ชุดอาหารเด็ก สำหรับมื้ออาหารของหนูน้อย เลือกแบบไหนให้ปลอดภัยที่สุด
ที่มา : rakluke
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!