มาดู 3 สาเหตุ และวิธีปกป้องดูแล ผิวบอบบางของลูกน้อย
มาดู 3 สาเหตุ และวิธีปกป้องดูแล ผิวบอบบางของลูกน้อย
ผิวในวัยเด็กนั้นบอบบาง และไวต่อสิ่งแปลกปลอมต่าง ๆ ดังนั้น จึงมีความเสี่ยงจากสภาพแวดล้อมที่เป็นอันตราย และผิวหนังที่มีปัญหา ยังส่งผลกระทบไปถึงการทำ กิจกรรมที่ช่วยเสริมสร้างพัฒนาการเด็กในการเจริญเติบโต ซึ่งอาจจะต้องหยุดชะงัก
สำหรับคนที่มีปัญหากับผิวหนังส่วนใหญ่ร้อยละ 80 นั้น มาจากผลกระทบในวัยเด็ก เพราะเด็กยังขาดความรู้เกี่ยวกับภัยร้ายต่างๆ ที่สามารถทำอันตรายต่อสุขภาพผิว
สิ่งแวดล้อมที่ทำลายผิวของเด็กน้อย
การสัมผัสกับรังสียูวี นอกจากจะทำให้ผิวหมองคล้ำ หรือหยาบกร้านไม่สวยแล้ว ยังเป็นสาเหตุหลักของโรคมะเร็งผิวหนัง
งานวิจัยเกี่ยวกับโรคมะเร็งจากประเทศอังกฤษ ได้พิสูจน์ว่า ในปัจจุบันมีหลักฐานเพียงพอที่จะแสดงให้เห็นว่า รังสีอัลตราไวโอเลตเป็นสาเหตุหลักของการเกิดโรคมะเร็ง ทั้งมะเร็งเนื้องอก และมะเร็งผิวหนัง รังสีอัลตราไวโอเลตยังสร้างความเสียหายต่อตา และระบบภูมิคุ้มกัน อีกทั้งยังมีผลในการทำลายเส้นใยในผิวหนังที่เรียกว่า อีลาสติน (Elastin) โดยเมื่ออีลาสตินถูกทำลายลง ผิวจะสูญเสียความสามารถที่จะกลับมาแข็งแรง และยืดหยุ่นได้ดังเดิม ผิวที่ขาดอีลาสตินยังทำให้เกิดรอยฟกช้ำได้ง่ายขึ้นอีกด้วย
รังสีอัลตราไวโอเลต เป็นสาเหตุหลักของการเกิดโรคมะเร็ง ทั้งมะเร็งเนื้องอก และมะเร็งผิวหนัง
อาบน้ำร้อนทำร้ายผิวเด็ก
การอาบน้ำให้เด็กนั้น ควรตั้งอุณหภูมิไว้อยู่ที่ประมาณ 32 องศาเซลเซียส และไม่ควรเกินอุณหภูมิในระดับนี้
เพราะการอาบน้ำร้อนที่มีอุณหภูมิร้อนจนเกินไป จะทำให้ผิวของเด็กแห้งกร้าน ซึ่งนำไปสู่การระคายเคืองมากขึ้น และอาจจะก่อให้เกิดโรคผิวหนังอื่น ๆ ตามมา เนื่องจากน้ำร้อนสามารถส่งผลกระทบต่อผิวหนังชั้นนอก หรือที่เรียกกันว่า หนังกำพร้า
ผิวหนังชั้นนอกส่วนใหญ่จะประกอบไปด้วยเซลล์ผิวหนัง (Keratinocyte) ที่มีหน้าที่สร้างสารเคราติน (Keratin) เคราตินนั้นไม่เพียงแต่ทำหน้าที่เป็นเกราะป้องกันสิ่งแปลกปลอมจากสิ่งแวดล้อมไม่ให้เข้าสู่ผิวหนังแล้ว ยังช่วยให้ผิวของเด็กรักษาความชุ่มชื้นไว้ได้ตามธรรมชาติ
การอาบน้ำ ให้เด็กนั้น ควรตั้งอุณหภูมิ ไว้อยู่ที่ ประมาณ 32 องศาเซลเซียส
เลือกผลิตภัณฑ์อาบน้ำ ที่เหมาะสมให้กับเด็ก
นอกจากการอาบน้ำร้อนแล้ว ผลิตภัณฑ์ที่ใช้อาบน้ำนั้น ก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน สบู่ที่มีส่วนผสมของสารเคมีที่รุนแรง อาจจะเป็นอันตรายต่อผิวหนังของเด็ก และไม่ดีต่อสุขภาพของลูกน้อย ด้วยเหตุนี้ เราจึงจำเป็นต้องให้ความสนใจในเรื่องของการเลือกซื้อสบู่สำหรับเด็กเป็นพิเศษ
เพื่อให้แน่ใจว่า สบู่ไม่เป็นพิษต่อผิวอันบอบบาง คุณควรต้องพิจารณาอย่างรอบคอบถึงส่วนผสมของสบู่ที่ระบุบนผลิตภัณฑ์ก่อนซื้อ เพื่อให้แน่ใจว่าสบู่ที่คุณเลือกนั้นจะไม่ก่อให้เกิดอาการแพ้ใด ๆ กับเด็ก (หากคุณไม่แน่ใจเกี่ยวกับส่วนผสม คุณสามารถตรวจสอบสารประกอบต่าง ๆ ได้จากอินเตอร์เนต) หรือเลือกใช้สบู่ที่ทำจากส่วนผสมจากธรรมชาติ ซึ่งอาจจะเหมาะสำหรับผิวของเด็กมากกว่าสบู่ที่ผลิตจากสารเคมีสังเคราะห์ สบู่ที่มีส่วนผสมจากธรรมชาติยังสามารถช่วยปลอบประโลมผิวของเด็กด้วยส่วนผสมเช่น น้ำมันสกัดจากเมล็ดอัลมอนด์ น้ำมันมะกอก และนม ที่เป็นตัวแทนความชุ่มชื้นตามธรรมชาติอย่างสมบูรณ์ ซึ่งเหมาะสำหรับผิวบอบบางของเด็ก และหลีกเลี่ยงสบู่ต้านเชื้อแบคทีเรียและกลิ่นหอมที่อาจจะทำให้ผิวระคายเคือง
ปัญหาผิวที่อาจทำให้เด็กไม่สบายตัว
ปัญหาผิวที่พบมากที่สุดในเด็ก
ผิวแห้ง – โดยส่วนใหญ่อาการของผิวที่แห้งกร้านนั้นมักเกิดขึ้นในฤดูหนาว โดยเฉพาะกับเด็ก เพราะผิวหนังของเด็กยังไม่มีการพัฒนาที่สมบูรณ์เหมือนผิวหนังของผู้ใหญ่ การอาบน้ำในอุณหภูมิที่เหมาะสม และการทาโลชั่นเด็กหลังจากการอาบน้ำ จะสามารถช่วยคงความชุ่มชื่นให้กับผิวได้
ผิวแตก – ผิวที่แตกนั้นเป็นผลกระทบสืบเนื่องมาจากอาการของผิวที่แห้งกร้านและขาดการบำรุง แต่ก็มีครีมบำรุงผิวจำนวนมากพร้อมที่จะต่อสู้กับปัญหานี้ โดยทั่วไป อาการผิวแตกนั้นสามารถรักษาให้ดีขึ้นได้จากการทาโลชั่นสำหรับเด็ก แต่หากไม่ดีขึ้น ควรรีบไปพบแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อป้องกันการติดเชื้อที่สามารถเกิดขึ้นได้ในขณะที่ผิวแตก
ผิวคัน – เด็กหลายคนต้องทนทุกข์ทรมานจากอาการคันตามผิวหนัง เนื่องจากผิวได้สัมผัสกับสารที่ก่อให้เกิดการแพ้ หรือเกิดจากการติดเชื้อบางประเภทจากสภาวะแวดล้อม หากปล่อยไว้นานอาจจะกลายเป็นแผลบานปลายได้ และยังเป็นการทำลายสมรรถภาพทางการเรียนรู้ของเด็กอีกด้วย ทางที่ดีควรรีบพาเด็กไปพบแพทย์ผู้เชี่ยวชาญทางด้านผิวหนังเพื่อการรักษา และได้รับคำแนะนำอย่างถูกต้อง เพื่อให้ลูกน้อยมีสุขภาพผิวที่แข็งแรง พร้อมที่จะเผชิญกับสิ่งต่างๆ ได้อย่างเต็มที่
คุณควรต้องพิจารณาอย่างรอบคอบถึงส่วนผสมของสบู่ที่ระบุบนผลิตภัณฑ์ก่อนซื้อ
The Asianparent Thailand เว็บไซต์ข้อมูลคุณภาพและสังคมคุณแม่ ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ และในเอเชีย เรามีผู้เชี่ยวชาญด้านกุมารแพทย์ แหล่งความรู้แม่และเด็ก รวมถึงแอพพลิเคชั่น The Asianparent ที่ติดตามการตั้งครรภ์ ให้คุณแม่ได้ลงทะเบียนใช้งานฟรี เพื่อติดตามพัฒนาการของทารก ตั้งแต่ตั้งครรภ์ จนถึงติดตามหลังคลอดที่ครอบคลุมที่สุด และผู้ใช้งานสูงสุดในประเทศไทย นอกจากความรู้ยังมีไลฟ์สไตล์ และสื่อมัลติมีเดียหลากหลาย ไม่ว่าสุขภาพแม่และเด็ก โภชนาการแม่และเด็ก กิจกรรมสำหรับครอบครัว การวางแผนครอบครัวไปจนถึง การดูแลลูก การศึกษา และจิตวิทยาเด็ก The Asianparent เราพร้อมสนับสนุนพ่อแม่ทุกท่าน ให้มีความรู้และมีสุขภาพกายใจเข้มแข็ง เพื่อเสริมสร้างครอบครัวอย่างแข็งแรง
เพราะเราเชื่อว่า “พ่อแม่เข้มแข็ง ครอบครัวแข็งแรง”
บทความที่เกี่ยวข้อง :
RCH.org.au – Skincare for babies
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :
ความสำคัญ ในการนอน ของเด็ก ประโยชน์ และเทคนิค การดูแลลูก เพื่อป้องกันอันตราย
วิธีดูแลทารกแรกเกิดถึง 1 ปี ช่วงหน้าหนาว เคล็ดลับการดูแล ลูกน้อยวัยทารก (0 – 1 ปี) ช่วงหน้าหนาว
การพัฒนา ของเด็กช่วง อายุ 0 – 5 ขวบ พฤติกรรมต่าง ๆ และวิธี รับมือกับลูก
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!