ถามถูกจุด ลูกฉลาดได้จริง: เคล็ดลับ ตั้งคำถามกระตุ้นสมองตามวัย

lead image

ตั้งคำถามอย่างไรให้ลูกฉลาด เผยเคล็ดลับ ตั้งคำถามกระตุ้นสมองตามวัย ที่ช่วยให้ลูกฉลาด คิดเป็น และเติบโตอย่างมีคุณภาพ

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

รู้หรือไม่ว่า? การตั้งคำถาม คือเครื่องมือทรงพลัง ที่ช่วยให้ลูกฉลาด คิดเป็น และเติบโตอย่างมีคุณภาพ บทความนี้จะเผยเคล็ดลับ ตั้งคำถามกระตุ้นสมองตามวัย เพื่อเปิดโอกาสให้ลูกได้ใช้ความคิดและพัฒนาสมองอย่างเต็มศักยภาพ

 

ตั้งคำถามอย่างไรให้ลูกฉลาด

  1. ถามคำถามปลายเปิด

นี่คือหัวใจสำคัญของการกระตุ้นความคิดลูก แทนที่จะถามคำถามที่ลูกตอบได้แค่ “ใช่” หรือ “ไม่ใช่” ให้ลองเปลี่ยนเป็นคำถามที่ชวนให้ลูกต้องคิด อธิบาย และเล่าเรื่องออกมา เช่น 

  • แทนที่จะถามว่า “หนูชอบกินแอปเปิลไหม?” ลองเปลี่ยนเป็น “ทำไมหนูถึงชอบกินแอปเปิลจังเลย?” 
  • แทนที่จะถามว่า “วันนี้ไปโรงเรียนสนุกไหม?” ลองถามว่า “วันนี้มีอะไรสนุก ๆ ที่โรงเรียนบ้าง เล่าให้แม่ฟังหน่อยสิ?” 

คำถามปลายเปิดจะช่วยให้ลูกได้ฝึกการเรียบเรียงความคิด การใช้ภาษา และการเชื่อมโยงข้อมูลต่าง ๆ เข้าด้วยกันค่ะ

 

 

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา
  1. ถามตามความสนใจของลูก

ไม่มีอะไรจะดึงดูดความสนใจของลูกได้ดีเท่าสิ่งที่พวกเขากำลังสนใจ เมื่อลูกกำลังจดจ่ออยู่กับของเล่นชิ้นโปรด การวาดรูป หรือแม้แต่การสังเกตมดตัวเล็ก ๆ บนพื้น นั่นคือช่วงเวลาทอง! 

ลองตั้งคำถามที่เชื่อมโยงกับกิจกรรมนั้น ๆ เช่น 

  • ถ้าลูกกำลังต่อเลโก้ ลองถามว่า “หนูกำลังสร้างอะไรอยู่เหรอ? แล้วทำไมถึงต้องเอาบล็อกสีแดงวางตรงนี้?” 
  • ถ้าลูกกำลังอ่านหนังสือการ์ตูน ลองถามว่า “หนูคิดว่าตัวละครตัวนี้รู้สึกยังไงนะตอนนี้? แล้วถ้าเป็นหนู หนูจะทำยังไง?” 

การถามจากสิ่งที่ลูกสนใจ จะทำให้พวกเขารู้สึกมีส่วนร่วม อยากตอบ และสนุกกับการคิดค่ะ

 

  1. ให้เวลาลูกคิด

ในโลกที่เร่งรีบ บางครั้งเราก็เผลอคาดคั้นคำตอบจากลูกเร็วเกินไป แต่สมองของเด็ก ๆ ต้องการเวลาในการประมวลผลข้อมูลและเรียบเรียงความคิด เมื่อถามคำถามแล้ว ให้เว้นจังหวะสักครู่ อย่าเพิ่งรีบเฉลยหรือถามซ้ำ ปล่อยให้ลูกได้คิด ได้นึก ได้ลองผิดลองถูกในหัวของตัวเอง การให้พื้นที่ตรงนี้เป็นการฝึกความอดทน และสอนให้ลูกรู้ว่าความคิดของพวกเขามีค่าและพ่อแม่พร้อมจะรอฟัง

 

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา
  1. ตั้งใจฟังคำตอบและต่อยอด

การฟังอย่างตั้งใจคือการแสดงความเคารพต่อความคิดของลูก เมื่อลูกตอบกลับมา ให้พยักหน้า ยิ้ม หรือใช้คำพูดสั้น ๆ เช่น “อืม”, “เข้าใจแล้ว” เพื่อแสดงว่าเรากำลังฟังอยู่

และที่สำคัญคือ การต่อยอดคำตอบของลูก เช่น ถ้าลูกตอบว่า “หนูชอบกินแอปเปิลเพราะมันกรอบดีค่ะ” เราอาจจะต่อยอดว่า “จริงด้วย แอปเปิลกรอบอร่อยมากเลยเนอะ แล้วนอกจากแอปเปิล หนูชอบผลไม้อะไรที่กรอบ ๆ อีกไหม?” การต่อยอดนี้จะช่วยขยายบทสนทนา กระตุ้นให้ลูกคิดลึกขึ้น และรู้สึกว่าความคิดของพวกเขามีค่าและน่าสนใจ

 

  1. ยอมรับทุกคำตอบ

สิ่งสำคัญที่สุดคือการสร้างสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยทางความคิด ไม่ว่าคำตอบของลูกจะ “ผิด” หรือ “ถูก” ในสายตาเรา ห้ามตัดสิน ห้ามตำหนิ หรือหัวเราะเยาะ เช่น ถ้าลูกตอบคำถามทางวิทยาศาสตร์ผิด เราอาจจะพูดว่า “เป็นความคิดที่น่าสนใจมากเลยนะ แต่จริง ๆ แล้ว…” หรือ “ขอบคุณที่คิดนะ เดี๋ยวเรามาลองหาข้อมูลเพิ่มเติมด้วยกันดีไหม?” การยอมรับทุกคำตอบจะช่วยให้ลูกกล้าคิด กล้าแสดงออก และไม่กลัวความผิดพลาด ซึ่งเป็นพื้นฐานสำคัญของการเรียนรู้

 

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา
  1. เป็นแบบอย่างที่ดี

เด็ก ๆ เรียนรู้จากการเลียนแบบ พ่อแม่คือต้นแบบแรกของพวกเขา หากเราต้องการให้ลูกเป็นคนช่างสงสัย ช่างคิด พ่อแม่ก็ต้องแสดงให้ลูกเห็นถึงความอยากรู้อยากเห็นด้วยเช่นกัน ลองตั้งคำถามกับตัวเองออกมาดัง ๆ ในชีวิตประจำวัน เช่น “โอ้โห! ทำไมเมฆวันนี้ถึงมีรูปร่างแปลกจังเลยนะ?” หรือ “เราจะแก้ปัญหานี้ได้ยังไงดีนะ?” การเห็นพ่อแม่ตั้งคำถามและพยายามหาคำตอบ จะปลูกฝังนิสัยรักการเรียนรู้ให้กับลูกโดยไม่รู้ตัว

 

 

 เคล็ดลับ ตั้งคำถามกระตุ้นสมองตามวัย

การตั้งคำถามให้ได้ผลนั้น ต้องเข้าใจพัฒนาการของลูกในแต่ละช่วงวัย เพราะการ ตั้งคำถามกระตุ้นสมองตามวัย ที่เหมาะสมจะช่วยกระตุ้นการคิดได้อย่างเต็มศักยภาพ นี่คือแนวทาง

  1. วัยทารก – วัยเตาะแตะ (0-3 ปี): เน้นการรับรู้และเชื่อมโยงสิ่งรอบตัว

ในช่วงวัยนี้ สมองของลูกกำลังเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ รอบตัวผ่านประสาทสัมผัส การตั้งคำถามจึงควรมุ่งเน้นไปที่สิ่งที่ลูกเห็น ได้ยิน หรือสัมผัส เพื่อกระตุ้นความสนใจและส่งเสริมการรับรู้

  • ตัวอย่าง คำถามกระตุ้นสมองตามวัย: “เสียงอะไรนะดัง ‘ปู๊น ๆ’ มาจากไหน?”, “หนูเห็นอะไรอยู่ในหนังสือเล่มนี้บ้าง?”, “โอ้โห! ขนมอันนี้สีสวยจังเลยนะ สีอะไรเอ่ย?”
  • ข้อควรระวัง: ใช้ภาษาที่ง่าย ชัดเจน และตรงไปตรงมา หลีกเลี่ยงคำถามที่ซับซ้อนหรือต้องใช้การตีความมากเกินไป 
  1. วัยก่อนเรียน (3-6 ปี): ส่งเสริมจินตนาการและการเล่าเรื่อง

เด็กวัยนี้เริ่มมีจินตนาการกว้างไกล และสนุกกับการสร้างสรรค์เรื่องราว การตั้งคำถามควรชวนให้ลูกได้ใช้ความคิดสร้างสรรค์ เล่าเรื่อง หรือแก้ปัญหาแบบง่าย ๆ

  • ตัวอย่างคำถาม: “ถ้าแม่มดใจดีจะเสกอะไรให้หนูหนึ่งอย่าง หนูจะขออะไรดีนะ?”, “ถ้าหนูเป็นนก หนูอยากบินไปเที่ยวที่ไหนมากที่สุด?”, “ทำไมกบถึงชอบอยู่ในน้ำ แล้วบนบกไม่ชอบเหรอ?”
  • ข้อควรระวัง: เลือกคำถามที่ท้าทายแต่ไม่ยากเกินความสามารถของลูก เพื่อไม่ให้ลูกรู้สึกท้อหรือไม่รู้จะตอบอย่างไร 
  1. วัยประถม (6-12 ปี): กระตุ้นการคิดวิเคราะห์และหาเหตุผล

ลูกวัยนี้เริ่มมีความสามารถในการคิดเชิงเหตุผลและเชื่อมโยงข้อมูลที่ซับซ้อนขึ้น คำถามควรเน้นการวิเคราะห์ การหาเหตุผล และการคาดการณ์ผลลัพธ์

  • ตัวอย่าง คำถามกระตุ้นสมองตามวัย: “หนูคิดว่าถ้าเราไม่ทิ้งขยะลงถัง จะเกิดอะไรขึ้นกับโลกของเรา?”, “ทำไมเพื่อนถึงทำแบบนั้น หนูคิดว่ามีเหตุผลอะไรบ้าง?”, “ถ้าเราต้องไปติดเกาะร้าง 3 อย่าง หนูจะเลือกอะไรไปบ้างและเพราะอะไร?”
  • ข้อควรระวัง: เริ่มต้นด้วยคำถามที่ค่อนข้างง่ายและค่อย ๆ เพิ่มความซับซ้อนขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อลูกเริ่มคุ้นเคยกับการคิดวิเคราะห์ 
  1. วัยรุ่น (12 ปีขึ้นไป): ส่งเสริมความคิดเชิงนามธรรมและมุมมองส่วนตัว

วัยรุ่นเริ่มมีความคิดที่เป็นนามธรรมมากขึ้น สามารถมองเห็นสถานการณ์จากหลายมุมมอง และมีแนวคิดเป็นของตัวเอง การตั้งคำถามจึงควรกระตุ้นให้ลูกได้แสดงความคิดเห็นส่วนตัว ตัดสินใจ และสะท้อนมุมมองต่อประเด็นต่าง ๆ

  • ตัวอย่าง คำถามกระตุ้นสมองตามวัย: “หนูมีความคิดเห็นอย่างไรกับข่าวนี้ มีมุมมองไหนที่เรายังไม่ได้คิดถึงบ้าง?”, “ถ้าหนูเป็นตัวละครหลักในเรื่องนี้ หนูจะตัดสินใจทำอะไรที่แตกต่างออกไปไหม และทำไม?”, “อะไรคือสิ่งที่สำคัญที่สุดในชีวิตหนูตอนนี้ และเพราะเหตุใดสิ่งนั้นจึงมีความหมายกับหนู?”
  • ข้อควรระวัง: เคารพและเปิดใจรับฟังความคิดเห็นของลูก แม้ว่าความคิดเหล่านั้นอาจจะไม่ตรงกับความเห็นของเรา เพื่อสร้างความมั่นใจและพื้นที่ปลอดภัยในการแสดงออก

 

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

 

ตัวอย่างคำถามกระตุ้นความคิดแบบต่างๆ

การตั้งคำถามอย่างชาญฉลาดคือการใช้คำถามหลากหลายรูปแบบเพื่อกระตุ้นให้ลูกคิดในมิติที่แตกต่างกัน นี่คือตัวอย่างคำถามที่คุณสามารถนำไปใช้ได้

1. คำถามปลายเปิดพื้นฐาน

จุดเริ่มต้นที่สำคัญในการชวนลูกคิด ให้ใช้คำที่ช่วยเปิดประเด็นและกระตุ้นให้ลูกเล่าหรืออธิบาย ไม่ใช่แค่ตอบสั้นๆ ลองใช้คำว่า “อะไร”, “อย่างไร”, “ทำไม”, “เมื่อไหร่”, “ที่ไหน”, “ใคร”, “ถ้า…”

ตัวอย่าง: “วันนี้มีอะไรเกิดขึ้นที่โรงเรียนบ้าง?”, “ทำไมท้องฟ้าถึงเป็นสีฟ้า?”, “ถ้าหนูเป็นสัตว์เลี้ยง หนูอยากเป็นอะไร?”

 

2. คำถามกระตุ้นการคิดเชิงวิเคราะห์

คำถามเหล่านี้จะชวนให้ลูกมองหาเหตุผล ความเชื่อมโยง และผลลัพธ์ของสิ่งต่างๆ เพื่อพัฒนาทักษะการแยกแยะข้อมูล

ตัวอย่าง: “อะไรคือสาเหตุที่ทำให้เหตุการณ์นี้เกิดขึ้น?”, “ถ้าไม่มีน้ำ โลกของเราจะเป็นอย่างไร?”, “หนูคิดว่าทำไมตัวละครตัวนี้ถึงตัดสินใจแบบนั้น?”

 

3. คำถามกระตุ้นความคิดสร้างสรรค์/จินตนาการ

ส่งเสริมให้ลูกคิดนอกกรอบ สร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ หรือจินตนาการถึงสถานการณ์ที่แตกต่างออกไป

ตัวอย่าง: “สมมุติว่าเรามีพลังวิเศษหนึ่งอย่าง หนูจะใช้พลังนั้นทำอะไร?”, “ถ้าหนูออกแบบบ้านในฝัน หนูอยากให้มีอะไรอยู่ในนั้นบ้าง?”, “มีวิธีไหนอีกไหมที่เราจะทำให้เรื่องนี้สนุกขึ้น?”

 

4. คำถามกระตุ้นการแก้ปัญหา

ช่วยให้ลูกฝึกคิดหาวิธีการหรือทางออกเมื่อต้องเผชิญกับสถานการณ์ต่างๆ พัฒนาทักษะการตัดสินใจ

ตัวอย่าง: “เราจะแก้ปัญหานี้ได้อย่างไรให้ทุกคนแฮปปี้?”, “มีวิธีอื่นอีกไหมที่เราจะไปถึงที่นั่นได้เร็วกว่านี้?”, “ถ้าหนูเป็นผู้นำ หนูจะมีแผนรับมือกับเรื่องนี้อย่างไร?”

 

5. คำถามกระตุ้นการไตร่ตรอง/สะท้อนคิด

ชวนให้ลูกทบทวนความรู้สึก ประสบการณ์ และสิ่งที่ได้เรียนรู้ เพื่อให้เข้าใจตัวเองและสิ่งรอบข้างได้ลึกซึ้งขึ้น

ตัวอย่าง: “วันนี้หนูรู้สึกอย่างไรกับเรื่องที่เกิดขึ้น?”, “หนูได้เรียนรู้อะไรจากเหตุการณ์นี้บ้าง?”, “มีอะไรที่หนูอยากทำแตกต่างออกไปในครั้งหน้าไหม?”

 

เมื่อคุณแม่ได้แนวคิดเรื่องการสอนลูกด้วยคำถามไปแล้ว ควรใช้คำถามเป็นเครื่องมือที่ช่วยส่งเสริม ไม่ใช่ภาระที่ผลักให้ลูกต้องคิดเองทั้งหมดสิ่งสำคัญคือ การสร้างบรรยากาศที่ปลอดภัยและเปิดกว้าง ให้ลูกรู้สึกสบายใจที่จะ กล้าคิด กล้าพูด โดยไม่ต้องกลัวถูกตัดสิน เราสามารถเปลี่ยนกิจวัตรประจำวันและเรื่องราวทั่วไปให้กลายเป็น โอกาสในการเรียนรู้ ได้เสมอ ไม่ว่าจะเป็นการพูดคุยเรื่องราวในชีวิตประจำวัน การสังเกตสิ่งรอบตัว หรือแม้แต่การเล่น

การสอนลูกด้วยการ ตั้งคำถามกระตุ้นสมองตามวัย เช่นนี้ ควรอย่างสม่ำเสมอและอดทน จะช่วยหล่อหลอมให้ลูกของคุณเป็นคนฉลาด คิดเป็น และพร้อมรับมือกับสิ่งต่างๆ ได้ด้วยตัวเองในระยะยาวค่ะ

ที่มา : sense say clinic

 

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

15 วิธีกระตุ้นสมองทารก ช่วยให้ลูกฉลาด ทำได้ตั้งแต่แรกเกิด

ควรชมลูกว่าฉลาด หรือไม่ ? 7 วิธีชมลูกแบบใหม่ ที่ไม่ใช่แค่ “เก่ง” หรือ “ฉลาด”

5R เคล็ดลับสร้างลูกฉลาด บ่มเพาะทักษะและความฉลาดให้ลูกง่ายๆ เริ่มได้ที่บ้าน