TAP top app download banner
theAsianparent Thailand Logo
theAsianparent Thailand Logo
คู่มือสินค้า
เข้าสู่ระบบ
  • TAP Awards 2025
  • อยากท้อง
  • แม่ท้อง แม่ให้นม
    • ระยะการตั้งครรภ์
    • โภชนาการเเม่ท้อง
    • โภชนาการแม่ให้นม
    • ตั้งชื่อลูก
    • พัฒนาการสมอง
  • แม่ผ่าคลอด
    • พัฒนาการเด็กผ่าคลอด
    • เตรียมตัวผ่าคลอด
    • สุขภาพเด็กผ่าคลอด
    • คู่มือคุณแม่ผ่าคลอด
    • การดูแลหลังผ่าคลอด
    • โภชนาการเด็กผ่าคลอด
  • หลังคลอด
    • คลอดธรรมชาติ
    • ผ่าคลอด
    • การให้นมลูก
  • สุขภาพและโภชนาการ
    • โภชนาการ
    • สุขภาพ
  • ลูก
    • ทารกแรกเกิด
    • ทารก
    • เด็กวัยหัดเดิน
    • เด็กก่อนวัยเรียน
    • เด็ก
    • เด็กก่อนวัยรุ่น และวัยรุ่น
  • ชีวิตครอบครัว
    • ความรักและความสัมพันธ์
    • การเลี้ยงลูก
    • มุมคุณพ่อ
    • ประกันชีวิต
    • การวางแผนการเงิน
    • ความรัก และ เซ็กส์
    • #สอนลูกเรื่องเงิน ฉบับพ่อแม่
    • TAPpedia
  • การศึกษา
    • เด็กวัยประถม
    • โรงเรียนประถม
    • มัธยมศึกษา
    • แบบฝึกหัดและข้อสอบ
    • แนะแนวการศึกษาต่างประเทศ
  • ผู้หญิง
    • แฟชั่น
    • ความงาม
    • ฟิตเนส
  • ไลฟ์สไตล์
    • ที่เที่ยว
    • ที่กิน
    • ดวง
    • ทำนายฝัน
    • สีมงคล
    • บทสวดมนต์
    • ข่าว
    • ดูแลบ้าน
    • แนะนำโดย TAP
    • อีเว้นท์
  • วิดีโอ
    • การตั้งครรภ์
    • ทารก
    • คำแนะนำในการเลี้ยงลูก
    • การให้นมบุตร
    • อาหารเสริมทารก & โภชนาการ
    • เด็กเล็ก
  • ชอปปิง
  • VIP

คลอดธรรมชาติ บล็อคหลัง คืออะไร? เจ็บมั้ย มีข้อดี ข้อเสีย ยังไงบ้าง

บทความ 5 นาที
คลอดธรรมชาติ บล็อคหลัง คืออะไร? เจ็บมั้ย มีข้อดี ข้อเสีย ยังไงบ้าง

คุณแม่ที่กำลังตัดสินใจเลือกวิธีการคลอด โดยเฉพาะ คลอดธรรมชาติ อาจมีความกังวลและสงสัยเกี่ยวกับการ บล็อคหลัง เรามีคำตอบมาให้ค่ะ

คุณแม่หลายคนเลือก “การคลอดธรรมชาติ” ให้เป็นประสบการณ์พิเศษและน่าจดจำสำหรับท้องแรก แต่ก็ยังมีความกังวลเรื่อง “ความเจ็บปวด” ที่อาจเกิดขึ้นจากการคลอดด้วยวิธีนี้ อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันมีวิธี “บล็อคหลัง” เพื่อบรรเทาความเจ็บปวดจากการคลอดธรรมชาติที่ได้รับความนิยมมากขึ้น แต่คุณแม่หลายท่านก็ยังมีความสงสัยและกังวลเกี่ยวกับความเจ็บปวดขณะฉีดยา รวมถึงผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น เราเลยนำบทความนี้มาช่วยให้คุณแม่ได้ทำความเข้าใจว่า คลอดธรรมชาติ บล็อคหลัง คืออะไร? เจ็บมั้ย มีข้อดีข้อเสียยังไงบ้าง เพื่อประกอบการตัดสินใจและเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับการคลอดธรรมชาติค่ะ

 

สารบัญ

  • คลอดธรรมชาติ บล็อคหลัง คืออะไร?
  • คลอดธรรมชาติ VS คลอดธรรมชาติ บล็อคหลัง ต่างกันยังไง
  • คลอดธรรมชาติ คืออะไร?
  • ระยะเจ็บท้อง
  • ระยะเบ่งคลอด
  • ระยะคลอดรก
  • ข้อดีของการคลอดธรรมชาติ
  • คลอดธรรมชาติแบบบล็อคหลัง เหมาะกับใคร?
  • ข้อดีของการ คลอดธรรมชาติ บล็อคหลัง
  • ข้อเสียของการ คลอดธรรมชาติ บล็อคหลัง
  • คำถามที่พบบ่อย
  • แผลฝีเย็บ คืออะไร 
  • คลอดธรรมชาติ ไม่กรีดช่องคลอดได้ไหม?

คลอดธรรมชาติ บล็อคหลัง คืออะไร?

วิธี คลอดธรรมชาติ บล็อคหลัง เป็นการใช้ “ยาชา epidural” เพื่อระงับความเจ็บปวด ซึ่งใช้แพร่หลายในระหว่างการคลอดค่ะ ทำโดยวิสัญญีแพทย์ที่จะให้ยาชา epidural ผ่านทางสายสวนขนาดเล็กที่สอดเข้าไปในช่องไขสันหลังบริเวณบั้นเอว และยาชาจะออกฤทธิ์ทำให้คุณแม่รู้สึกชาบริเวณช่วงล่างของร่างกาย ทำให้ความรู้สึกเจ็บปวดจากการคลอดลดลง หรือไม่รู้สึกเลยนั่นเองทั้งนี้ ก่อนที่จะทำการบล็อคหลัง จะมีการฉีดยาชาเฉพาะที่บริเวณผิวหนังที่จะใส่สายสวน เพื่อลดความเจ็บปวดขณะใส่สายสวนเข้าไปในช่องไขสันหลัง หลังจากนั้น คุณแม่อาจรู้สึกกดๆ หรือหน่วงๆ บริเวณหลัง แต่จะไม่รู้สึกเจ็บปวดค่ะ

 

คลอดธรรมชาติ บล็อคหลัง

คลอดธรรมชาติ VS คลอดธรรมชาติ บล็อคหลัง ต่างกันยังไง

การเลือกวิธีการคลอดเป็นเรื่องสำคัญที่คุณแม่ตั้งครรภ์ต้องตัดสินใจค่ะ ทั้ง “การคลอดธรรมชาติ (Natural Birth)” และ “การคลอดธรรมชาติแบบบล็อกหลัง (Epidural Block)” มีจุดประสงค์เดียวกันคือให้ลูกน้อยออกมาทางช่องคลอด แต่มีความแตกต่างกันอย่างชัดเจนในเรื่องของ ความเจ็บปวด และ กระบวนการระหว่างรอคลอด

 

คลอดธรรมชาติ คืออะไร?

การคลอดธรรมชาติ คือ การคลอดลูกแบบปกติโดยคุณแม่เบ่งคลอดเองและลูกคลอดออกมาทางช่องคลอด (active birth) โดยไม่ต้องทำการผ่าตัด เป็นการคลอดหลังครบกำหนดระยะเวลาของอายุครรภ์ประมาณ 37 สัปดาห์ แต่ไม่เกิน 42 สัปดาห์ ช่วงเวลาที่ทารกจะอยู่ในท่ากลับศีรษะแล้วจะค่อยๆ เคลื่อนตัวมายังอุ้งเชิงกรานเพื่อเตรียมคลอดแบบธรรมชาติ ทั้งนี้ การคลอดธรรมชาติ มักแบ่งออกเป็น 3 ระยะ ได้แก่

  1. ระยะเจ็บท้อง

ช่วงใกล้คลอดมดลูกจะหดรัดตัวอย่างสม่ำเสมอ หรือที่รู้จักกันในอาการ “เจ็บท้อง” โดยจะเจ็บถี่และแรงขึ้นเรื่อยๆ พร้อมๆ กับการที่ปากมดลูกค่อยๆ เปิดกว้างออกทีละน้อย ซึ่งมักใช้เวลาประมาณ 5-8 ชั่วโมง และอาจมีน้ำสีปนเลือดค่อยๆ ขับออกมาด้วย จากนั้นจะเข้าสู่ “ระยะเจ็บเบ่ง” ที่มดลูกจะหดตัวนานขึ้นในแต่ละครั้งและถี่ขึ้นเรื่อยๆ เป็นช่วงที่แพทย์จะเริ่มตรวจเช็กปากมดลูกแล้วค่ะว่าพร้อมคลอดหรือยัง

  1. ระยะเบ่งคลอด

เมื่อปากมดลูกเปิดเต็มที่ที่ความกว้างประมาณ 7-10 เซนติเมตร หมายความว่า คุณแม่พร้อมคลอดแล้ว ก็จะเข้าสู่ขั้นตอนการคลอดธรรมชาติทันทีค่ะ หากคุณแม่เบ่งคลอดตามจังหวะที่คุณหมอบอกศีรษะทารกน้อยก็จะค่อยๆ เคลื่อนออกมาตามลมเบ่ง พร้อมกับเนื้อเยื่อบริเวณช่องคลอดยืดตัวออก หรืออาจมีการตัดแผลฝีเย็บเพิ่มเพื่อให้คลอดได้ง่ายขึ้น คุณแม่ที่สุขภาพแข็งแรงดีอาจใช้เวลาเพียง 2-3 นาทีก็คลอดได้สำเร็จ จากนั้นแพทย์ดูดเมือกและน้ำคร่ำออกจากปากและจมูกทารกออกให้หมด เพื่อไม่ให้มีสิ่งปิดกั้นทางเดินหายใจ ทารกน้อยจะหายใจได้สะดวก และจบด้วยการตัดแต่งสายสะดือค่ะ

  1. ระยะคลอดรก

การาคลอดรกนั้นคุณแม่จะเริ่มเบ่งอีกครั้ง ออกแรงเบ่งไม่มากและใช้เวลาไม่กี่นาทีค่ะ ก็จะสามารถคลอดรกออกได้โดยไม่รู้สึกเจ็บปวดใดๆ พร้อมให้แพทย์เย็บแผลฝีเย็บได้ค่ะ

 

คลอดธรรมชาติ คืออะไร

 

ข้อดีของการคลอดธรรมชาติ

ความปลอดภัย
  • มีความปลอดภัยต่อทั้งตัวคุณแม่และลูกน้อย เพราะไม่จำเป็นต้องดมยาสลบ หรือฉีดยาชาเข้าไขสันหลัง
  • มีโอกาสติดเชื้อในมดลูกน้อย
  • มีการเสียเลือดน้อยกว่าการคลอดแบบผ่าตัด
  • น้ำนมมาเร็ว
แผลมีขนาดเล็ก
  • การคลอดธรรมชาติ “ท้องแรก” ปากช่องคลอดจะมีความยืดหยุ่นไม่มาก ทำให้มีแผลฝีเย็บเพื่อช่วยเปิดช่องทางคลอดให้ลูกน้อยออกมาได้ง่าย
  • แผลส่วนใหญ่มีขนาดเพียง 2-4 ซม. เท่านั้น ขึ้นอยู่กับสรีระของคุณแม่และขนาดของลูก
ฟื้นตัวได้เร็ว
  • แผลเย็บที่เล็กและไม่ได้ดมยาสลบ คุณแม่จึงเจ็บไม่นาน สามารถเคลื่อนไหว ลุก นั่ง เดินได้หลังการคลอด และใช้เวลาพักฟื้นไม่นาน
  • มีเวลาอยู่กับลูกน้อยได้เร็วขึ้น และกลับบ้านได้เร็ว
สร้างภูมิคุ้มกันให้ลูกได้
  • ทารกจะได้ภูมิคุ้มกันจากเชื้อแบคทีเรียในช่องคลอดของแม่ และได้รับ Probiotic มากกว่าการผ่าคลอด
  • เป็นการสร้างภูมิของทารกในครรภ์ เมื่อคลอดแล้วก็จะมีภูมิอย่างต่อเนื่อง

 

บล็อคหลัง เจ็บมั้ย

 

คุณแม่ที่เลือกคลอดลูกแบบธรรมชาติจะมีอาการเจ็บปวดระหว่างคลอดแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคลค่ะ ขึ้นอยู่กับการบีบตัวของมดลูก ท่าทางของทารกในครรภ์ และความอดทนของคุณแม่ บางคนคลอดง่ายมาก ขึ้นเตียงปุ๊บลูกคลอดเลย บางคนมีระยะเวลารอคลอดนาน เจ็บท้องนาน ฯลฯ ทั้งนี้ ในปัจจุบันมีตัวช่วยระงับความเจ็บระหว่างคลอดธรรมชาติได้หลายวิธี เช่น การฉีดยาลดปวดเข้าหลอดเลือดดำหรือกล้ามเนื้อของคุณแม่ การฉีดยาชาเข้าที่ฝีเย็บ หรือแม้กระทั่งการ “บล็อคหลัง” โดยวิสัญญีแพทย์ ซึ่งวิธีบล็อคหลังนี้จะช่วยลดความเจ็บได้ตั้งแต่ระยะรอคลอดไปจนถึงการตัดฝีเย็บเลยค่ะ

 

คลอดธรรมชาติแบบบล็อคหลัง เหมาะกับใคร?

การบล็อคหลังนั้นเป็นทางเลือกสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์ที่ต้องการบรรเทาความเจ็บปวดจากการคลอดธรรมชาติ โดยเฉพาะคุณแม่ที่มีอาการต่อไปนี้

  • ไม่สามารถทนความเจ็บปวดได้
  • มีความกังวลเกี่ยวกับการคลอด
  • มีภาวะแทรกซ้อนบางอย่างที่อาจทำให้การคลอดเจ็บปวดมากขึ้น

 

ข้อดีของการ คลอดธรรมชาติ บล็อคหลัง

  • ช่วยลดหรือบรรเทาความเจ็บปวดจากการคลอด ทำให้คุณแม่รู้สึกสบายตัวและผ่อนคลายมากขึ้น
  • ทารกได้รับเลือดไปเลี้ยงเต็มที่เพราะเส้นเลือดไม่หดเกร็งตัว ไม่กดการหายใจ
  • เมื่อความเจ็บปวดลดลง คุณแม่จะมีสมาธิในการเบ่งคลอดมากขึ้น
  • การบล็อคหลังอาจช่วยให้การคลอดง่ายขึ้น โดยเฉพาะคุณแม่ที่ไม่สามารถทนความเจ็บปวดได้ หรือมีภาวะแทรกซ้อนบางอย่าง
  • วิสัญญีแพทย์สามารถปรับระดับยาชาให้เหมาะสมกับความเจ็บปวดของแต่ละบุคคลได้
  • หากคลอดธรรมชาติไม่ได้ ต้องผ่าตัด สามารถทำได้ทันที โดยการเติมยาชาเพิ่ม ไม่ต้องใช้การวางยาสลบฉุกเฉินซึ่งเสี่ยงอันตราย
  • คุณแม่สามารถคลอดลูกโดยที่ยังตื่นอยู่ ไม่มีฤทธิ์ง่วงซึม และได้เห็นลูกน้อยตั้งแต่แรกคลอด
  • ลดโอกาสเกิดภาวะซึมเศร้าหลังคลอดได้

 

ข้อเสียของการ คลอดธรรมชาติ บล็อคหลัง

  • ในบางกรณี การบล็อคหลังอาจทำให้การคลอดนานขึ้นเล็กน้อย
  • อาจมีอาการข้างเคียง เช่น อาการปวดหลัง ปวดศีรษะ หรือคลื่นไส้อาเจียน
  • การบล็อคหลังมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม
  • คุณแม่บางท่านอาจไม่สามารถบล็อคหลังได้ เช่น คุณแม่ที่มีปัญหาเกี่ยวกับการแข็งตัวของเลือด หรือมีการติดเชื้อบริเวณหลัง
  • อาจทำให้ความดันโลหิตต่ำระหว่างบล็อคหลัง
  • อาจมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน หนาวสั่น หรือมีผื่นคันได้
  • อาจปัสสาวะไม่ออกและต้องใส่สายสวนปัสสาวะ
  • อาจมีรอยช้ำหรือเลือดออกที่ผิวหนัง และเจ็บบริเวณที่ใส่สาย หรือใส่สายไม่สำเร็จ ใส่สายยาก เช่น คุณแม่มีน้ำหนักตัวมาก หรือมีลักษณะกระดูกสันหลังที่ผิดปกติ
  • บางครั้งอาจเกิดการชาไม่สมบูรณ์เนื่องจากการเลื่อนของสาย
  • อาจมีอาการปวดศีรษะหลังจากการบล็อคหลัง 

 

คลอดธรรมชาติ ฟื้นตัวเร็ว

คำถามที่พบบ่อย

  • แผลฝีเย็บ คืออะไร 

“ฝีเย็บ” คือ ผิวหนังส่วนที่อยู่ระหว่างช่องคลอดกับทวารหนักค่ะ กรณีคลอดธรรมชาติแพทย์มักตัดแผลฝีเย็บ (Episiotomy) ของแม่เพิ่มขณะคลอด เพื่อเพิ่มความกว้างของช่องคลอด ทำให้คลอดง่ายขึ้น ช่วยลดการฉีกขาดของช่องคลอด และลดระยะเวลาการคลอดลงด้วย โดยสามารถเย็บแผลฝีเย็บได้สวยงามกว่า เพราะปากแผลเป็นรอยตัด ขอบแผลไม่รุ่ย ป้องกันปัญหาช่องคลอดหลวมจากการคลอดธรรมชาติได้ค่ะ

  • คลอดธรรมชาติ ไม่กรีดช่องคลอดได้ไหม?

เมื่อพูดถึงแผลฝีเย็บ หรือ “การกรีดช่องคลอด” น่าจะเป็นอีกหนึ่งความกังวลใจของคุณแม่ที่ตั้งใจคลอดธรรมชาติค่ะ เพราะฟังดูแล้วน่าหวาดเสียวเหลือเกิน จนเกิดคำถามว่า ไม่กรีดช่องคลอดได้ไหม? ก็ต้องบอกว่าได้สำหรับคุณแม่บางคน และจำเป็นต้องกรีดกับบางคนค่ะ ซึ่งด้วยสรีระของผู้หญิงไทยนั้นมีเชิงกรานไม่กว้างนัก ทำให้ใช้เวลาคลอดนาน อาจเป็นอันตรายต่อแม่และทารกได้ การตัดแผลฝีเย็บจึงเหมาะสำหรับคุณแม่ไทยค่ะ

 

จะเห็นได้ว่า การคลอดธรรมชาติไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด และยังมีข้อดีมากมาย โดยสำหรับคุณแม่ที่ไม่สามารถอดทนต่อความเจ็บปวดระหว่างการคลอด ก็สามารถเลือกการ ผ่าคลอด หรือใช้วิธีบล็อคหลังเพื่อลดความเจ็บปวดได้อย่างมีประสิทธิภาพ อย่างก็ตาม คลอดธรรมชาติ ร่วมกับการบล็อคหลัง รวมถึงการผ่าคลอด มีทั้งข้อดีและข้อเสียที่ควรพิจารณา ซึ่งคุณแม่ควรปรึกษาแพทย์เพื่อขอคำแนะนำและข้อมูลเพิ่มเติม เพื่อการตัดสินใจเลือกวิธีคลอดที่เหมาะสม ปลอดภัยกับตนเองและลูกน้อยมากที่สุดนะคะ

บทความจากพันธมิตร
Philips Avent เครื่องปั๊มนมไฟฟ้า Premium Plus ตัวช่วยที่คุณแม่มือใหม่ต้องมี! ปั๊มดี ไม่เจ็บ ใช้ง่าย เสียงเงียบ!
Philips Avent เครื่องปั๊มนมไฟฟ้า Premium Plus ตัวช่วยที่คุณแม่มือใหม่ต้องมี! ปั๊มดี ไม่เจ็บ ใช้ง่าย เสียงเงียบ!
เคล็ดไม่ลับ! ปั๊มนมเกลี้ยงเต้า เพิ่มสต็อกน้ำนมได้จริง ด้วยตารางปั๊มและวิธีปั๊มที่ถูกต้อง
เคล็ดไม่ลับ! ปั๊มนมเกลี้ยงเต้า เพิ่มสต็อกน้ำนมได้จริง ด้วยตารางปั๊มและวิธีปั๊มที่ถูกต้อง
Plentitude เปิดตัวผลิตภัณฑ์ Plenty Protein โปรตีนพืชสําหรับคุณแม่ ส่งต่อสารอาหารจากแม่ไปสู่ลูกพร้อมช่วยบํารุงนํ้านม
Plentitude เปิดตัวผลิตภัณฑ์ Plenty Protein โปรตีนพืชสําหรับคุณแม่ ส่งต่อสารอาหารจากแม่ไปสู่ลูกพร้อมช่วยบํารุงนํ้านม
เพื่อลูกน้อย KUMO ผนึกกำลัง theAsianparent และโรงพยาบาลกรุงเทพ มอบ ถุงเก็บน้ำนมแม่ 9,000 ถุง หนุนคุณแม่ไทยให้นมลูกอย่างยั่งยืน
เพื่อลูกน้อย KUMO ผนึกกำลัง theAsianparent และโรงพยาบาลกรุงเทพ มอบ ถุงเก็บน้ำนมแม่ 9,000 ถุง หนุนคุณแม่ไทยให้นมลูกอย่างยั่งยืน

 

 ที่มา : www.samitivejhospitals.com , www.nonthavej.co.th , hdmall.co.th

 

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

รีวิวผ่าคลอดบล็อกหลัง ฉบับคนกลัวมาก มาก มาก มาก

เรื่องควรรู้! เซ็กส์หลังคลอด ประจำเดือนไม่มา มีอะไรกับแฟน จะท้องไหม?

เจ็บครรภ์เตือน เจ็บครรภ์จริง สาเหตุและอาการ วิธีดูแลตัวเองเมื่อมีอาการใกล้คลอด

มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!

Follow us on:
facebook-logo instagram-logo tiktok-logo
img
บทความโดย

จันทนา ชัยมี

  • หน้าแรก
  • /
  • คลอดธรรมชาติ
  • /
  • คลอดธรรมชาติ บล็อคหลัง คืออะไร? เจ็บมั้ย มีข้อดี ข้อเสีย ยังไงบ้าง
แชร์ :
  • Philips Avent เครื่องปั๊มนมไฟฟ้า Premium Plus ตัวช่วยที่คุณแม่มือใหม่ต้องมี! ปั๊มดี ไม่เจ็บ ใช้ง่าย เสียงเงียบ!
    บทความจากพันธมิตร

    Philips Avent เครื่องปั๊มนมไฟฟ้า Premium Plus ตัวช่วยที่คุณแม่มือใหม่ต้องมี! ปั๊มดี ไม่เจ็บ ใช้ง่าย เสียงเงียบ!

  • เคล็ดไม่ลับ! ปั๊มนมเกลี้ยงเต้า เพิ่มสต็อกน้ำนมได้จริง ด้วยตารางปั๊มและวิธีปั๊มที่ถูกต้อง
    บทความจากพันธมิตร

    เคล็ดไม่ลับ! ปั๊มนมเกลี้ยงเต้า เพิ่มสต็อกน้ำนมได้จริง ด้วยตารางปั๊มและวิธีปั๊มที่ถูกต้อง

  • ผ่าคลอด 37 สัปดาห์ได้ไหม? 37 สัปดาห์ถือว่า ครบกำหนดคลอด จริงไหม?

    ผ่าคลอด 37 สัปดาห์ได้ไหม? 37 สัปดาห์ถือว่า ครบกำหนดคลอด จริงไหม?

  • Philips Avent เครื่องปั๊มนมไฟฟ้า Premium Plus ตัวช่วยที่คุณแม่มือใหม่ต้องมี! ปั๊มดี ไม่เจ็บ ใช้ง่าย เสียงเงียบ!
    บทความจากพันธมิตร

    Philips Avent เครื่องปั๊มนมไฟฟ้า Premium Plus ตัวช่วยที่คุณแม่มือใหม่ต้องมี! ปั๊มดี ไม่เจ็บ ใช้ง่าย เสียงเงียบ!

  • เคล็ดไม่ลับ! ปั๊มนมเกลี้ยงเต้า เพิ่มสต็อกน้ำนมได้จริง ด้วยตารางปั๊มและวิธีปั๊มที่ถูกต้อง
    บทความจากพันธมิตร

    เคล็ดไม่ลับ! ปั๊มนมเกลี้ยงเต้า เพิ่มสต็อกน้ำนมได้จริง ด้วยตารางปั๊มและวิธีปั๊มที่ถูกต้อง

  • ผ่าคลอด 37 สัปดาห์ได้ไหม? 37 สัปดาห์ถือว่า ครบกำหนดคลอด จริงไหม?

    ผ่าคลอด 37 สัปดาห์ได้ไหม? 37 สัปดาห์ถือว่า ครบกำหนดคลอด จริงไหม?

ลงทะเบียนรับคำแนะนำเรื่องการตั้งครรภ์พัฒนาการลูกในท้องได้ที่นี่
  • เตรียมตัวเป็นผู้ปกครอง
  • พัฒนาการลูก
  • ชีวิตครอบครัว
  • ระยะการตั้งครรภ์
  • โภชนาการ
  • ไลฟ์สไตล์
  • TAP สังคมออนไลน์
  • ติดต่อโฆษณา
  • ติดต่อเรา
  • Influencer Marketing (KOL)
  • มาเข้าร่วมกับเรา


  • Singapore flag Singapore
  • Thailand flag Thailand
  • Indonesia flag Indonesia
  • Philippines flag Philippines
  • Malaysia flag Malaysia
  • Vietnam flag Vietnam
© Copyright theAsianparent 2025. All rights reserved
เกี่ยวกับเรา |ทีม|นโยบายความเป็นส่วนตัว |ข้อกำหนดการใช้ |แผนผังเว็บไซต์
  • เครื่องมือ
  • บทความ
  • ฟีด
  • โพล

เราใช้คุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์คอนเทนต์ที่ดีที่สุดให้กับคุณ. เรียนรู้เพิ่มเติมตกลง เข้าใจแล้ว

เราใช้คุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์คอนเทนต์ที่ดีที่สุดให้กับคุณ. เรียนรู้เพิ่มเติมตกลง เข้าใจแล้ว