คุณแม่หลายคนเลือก “การคลอดธรรมชาติ” ให้เป็นประสบการณ์พิเศษและน่าจดจำสำหรับท้องแรก แต่ก็ยังมีความกังวลเรื่อง “ความเจ็บปวด” ที่อาจเกิดขึ้นจากการคลอดด้วยวิธีนี้ อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันมีวิธี “บล็อคหลัง” เพื่อบรรเทาความเจ็บปวดจากการคลอดธรรมชาติที่ได้รับความนิยมมากขึ้น แต่คุณแม่หลายท่านก็ยังมีความสงสัยและกังวลเกี่ยวกับความเจ็บปวดขณะฉีดยา รวมถึงผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น เราเลยนำบทความนี้มาช่วยให้คุณแม่ได้ทำความเข้าใจว่า คลอดธรรมชาติ บล็อคหลัง คืออะไร? เจ็บมั้ย มีข้อดีข้อเสียยังไงบ้าง เพื่อประกอบการตัดสินใจและเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับการคลอดธรรมชาติค่ะ

แม่ท้องต้องรู้ คลอดธรรมชาติ คืออะไร?
ความหมายของ การคลอดธรรมชาติ (Natural birth) นั้นง่ายมากค่ะ ซึ่งก็คือ การคลอดลูกแบบปกติโดยคุณแม่เบ่งคลอดเองและลูกคลอดออกมาทางช่องคลอด (active birth) โดยไม่ต้องทำการผ่าตัด เป็นการคลอดหลังครบกำหนดระยะเวลาของอายุครรภ์ประมาณ 37 สัปดาห์ แต่ไม่เกิน 42 สัปดาห์ ช่วงเวลาที่ทารกจะอยู่ในท่ากลับศีรษะแล้วจะค่อยๆ เคลื่อนตัวมายังอุ้งเชิงกรานเพื่อเตรียมคลอดแบบธรรมชาติ ทั้งนี้ การคลอดธรรมชาติ มักแบ่งออกเป็น 3 ระยะ ได้แก่
-
ระยะเจ็บท้อง
ช่วงใกล้คลอดมดลูกจะหดรัดตัวอย่างสม่ำเสมอ หรือที่รู้จักกันในอาการ “เจ็บท้อง” โดยจะเจ็บถี่และแรงขึ้นเรื่อยๆ พร้อมๆ กับการที่ปากมดลูกค่อยๆ เปิดกว้างออกทีละน้อย ซึ่งมักใช้เวลาประมาณ 5-8 ชั่วโมง และอาจมีน้ำสีปนเลือดค่อยๆ ขับออกมาด้วย จากนั้นจะเข้าสู่ “ระยะเจ็บเบ่ง” ที่มดลูกจะหดตัวนานขึ้นในแต่ละครั้งและถี่ขึ้นเรื่อยๆ เป็นช่วงที่แพทย์จะเริ่มตรวจเช็กปากมดลูกแล้วค่ะว่าพร้อมคลอดหรือยัง
-
ระยะเบ่งคลอด
เมื่อปากมดลูกเปิดเต็มที่ที่ความกว้างประมาณ 7-10 เซนติเมตร หมายความว่า คุณแม่พร้อมคลอดแล้ว ก็จะเข้าสู่ขั้นตอนการคลอดธรรมชาติทันทีค่ะ หากคุณแม่เบ่งคลอดตามจังหวะที่คุณหมอบอกศีรษะทารกน้อยก็จะค่อยๆ เคลื่อนออกมาตามลมเบ่ง พร้อมกับเนื้อเยื่อบริเวณช่องคลอดยืดตัวออก หรืออาจมีการตัดแผลฝีเย็บเพิ่มเพื่อให้คลอดได้ง่ายขึ้น คุณแม่ที่สุขภาพแข็งแรงดีอาจใช้เวลาเพียง 2-3 นาทีก็คลอดได้สำเร็จ จากนั้นแพทย์ดูดเมือกและน้ำคร่ำออกจากปากและจมูกทารกออกให้หมด เพื่อไม่ให้มีสิ่งปิดกั้นทางเดินหายใจ ทารกน้อยจะหายใจได้สะดวก และจบด้วยการตัดแต่งสายสะดือค่ะ
-
ระยะคลอดรก
การาคลอดรกนั้นคุณแม่จะเริ่มเบ่งอีกครั้ง ออกแรงเบ่งไม่มากและใช้เวลาไม่กี่นาทีค่ะ ก็จะสามารถคลอดรกออกได้โดยไม่รู้สึกเจ็บปวดใดๆ พร้อมให้แพทย์เย็บแผลฝีเย็บได้ค่ะ
“แผลฝีเย็บ” คืออะไร คลอดธรรมชาติ ไม่กรีดช่องคลอดได้ไหม?
“ฝีเย็บ” คือ ผิวหนังส่วนที่อยู่ระหว่างช่องคลอดกับทวารหนักค่ะ กรณีคลอดธรรมชาติแพทย์มักตัดแผลฝีเย็บ (Episiotomy) ของแม่เพิ่มขณะคลอด เพื่อเพิ่มความกว้างของช่องคลอด ทำให้คลอดง่ายขึ้น ช่วยลดการฉีกขาดของช่องคลอด และลดระยะเวลาการคลอดลงด้วย โดยสามารถเย็บแผลฝีเย็บได้สวยงามกว่า เพราะปากแผลเป็นรอยตัด ขอบแผลไม่รุ่ย ป้องกันปัญหาช่องคลอดหลวมจากการคลอดธรรมชาติได้ค่ะ
เมื่อพูดถึงแผลฝีเย็บ หรือ “การกรีดช่องคลอด” น่าจะเป็นอีกหนึ่งความกังวลใจของคุณแม่ที่ตั้งใจคลอดธรรมชาติค่ะ เพราะฟังดูแล้วน่าหวาดเสียวเหลือเกิน จนเกิดคำถามว่า ไม่กรีดช่องคลอดได้ไหม? ก็ต้องบอกว่าได้สำหรับคุณแม่บางคน และจำเป็นต้องกรีดกับบางคนค่ะ ซึ่งด้วยสรีระของผู้หญิงไทยนั้นมีเชิงกรานไม่กว้างนัก ทำให้ใช้เวลาคลอดนาน อาจเป็นอันตรายต่อแม่และทารกได้ การตัดแผลฝีเย็บจึงเหมาะสำหรับคุณแม่ไทยค่ะ
|
ข้อดีของการคลอดธรรมชาติ
|
ความปลอดภัย |
- มีความปลอดภัยต่อทั้งตัวคุณแม่และลูกน้อย เพราะไม่จำเป็นต้องดมยาสลบ หรือฉีดยาชาเข้าไขสันหลัง
- มีโอกาสติดเชื้อในมดลูกน้อย
- มีการเสียเลือดน้อยกว่าการคลอดแบบผ่าตัด
- น้ำนมมาเร็ว
|
แผลมีขนาดเล็ก |
- การคลอดธรรมชาติ “ท้องแรก” ปากช่องคลอดจะมีความยืดหยุ่นไม่มาก ทำให้มีแผลฝีเย็บเพื่อช่วยเปิดช่องทางคลอดให้ลูกน้อยออกมาได้ง่าย
- แผลส่วนใหญ่มีขนาดเพียง 2-4 ซม. เท่านั้น ขึ้นอยู่กับสรีระของคุณแม่และขนาดของลูก
|
ฟื้นตัวได้เร็ว |
- แผลเย็บที่เล็กและไม่ได้ดมยาสลบ คุณแม่จึงเจ็บไม่นาน สามารถเคลื่อนไหว ลุก นั่ง เดินได้หลังการคลอด และใช้เวลาพักฟื้นไม่นาน
- มีเวลาอยู่กับลูกน้อยได้เร็วขึ้น และกลับบ้านได้เร็ว
|
สร้างภูมิคุ้มกันให้ลูกได้ |
- ทารกจะได้ภูมิคุ้มกันจากเชื้อแบคทีเรียในช่องคลอดของแม่ และได้รับ Probiotic มากกว่าการผ่าคลอด
- เป็นการสร้างภูมิของทารกในครรภ์ เมื่อคลอดแล้วก็จะมีภูมิอย่างต่อเนื่อง
|

“คลอดธรรมชาติ” เจ็บมั้ย? ต้อง “บล็อคหลัง” หรือเปล่า?
คุณแม่ที่เลือกคลอดลูกแบบธรรมชาติจะมีอาการเจ็บปวดระหว่างคลอดแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคลค่ะ ขึ้นอยู่กับการบีบตัวของมดลูก ท่าทางของทารกในครรภ์ และความอดทนของคุณแม่ บางคนคลอดง่ายมาก ขึ้นเตียงปุ๊บลูกคลอดเลย บางคนมีระยะเวลารอคลอดนาน เจ็บท้องนาน ฯลฯ ทั้งนี้ ในปัจจุบันมีตัวช่วยระงับความเจ็บระหว่างคลอดธรรมชาติได้หลายวิธี เช่น การฉีดยาลดปวดเข้าหลอดเลือดดำหรือกล้ามเนื้อของคุณแม่ การฉีดยาชาเข้าที่ฝีเย็บ หรือแม้กระทั่งการ “บล็อคหลัง” โดยวิสัญญีแพทย์ ซึ่งวิธีบล็อคหลังนี้จะช่วยลดความเจ็บได้ตั้งแต่ระยะรอคลอดไปจนถึงการตัดฝีเย็บเลยค่ะ
คลอดธรรมชาติ บล็อคหลัง คืออะไร? เจ็บมั้ย
วิธี คลอดธรรมชาติ บล็อคหลัง เป็นการใช้ “ยาชา epidural” เพื่อระงับความเจ็บปวด ซึ่งใช้แพร่หลายในระหว่างการคลอดค่ะ ทำโดยวิสัญญีแพทย์ที่จะให้ยาชา epidural ผ่านทางสายสวนขนาดเล็กที่สอดเข้าไปในช่องไขสันหลังบริเวณบั้นเอว และยาชาจะออกฤทธิ์ทำให้คุณแม่รู้สึกชาบริเวณช่วงล่างของร่างกาย ทำให้ความรู้สึกเจ็บปวดจากการคลอดลดลง หรือไม่รู้สึกเลยนั่นเองทั้งนี้ ก่อนที่จะทำการบล็อคหลัง จะมีการฉีดยาชาเฉพาะที่บริเวณผิวหนังที่จะใส่สายสวน เพื่อลดความเจ็บปวดขณะใส่สายสวนเข้าไปในช่องไขสันหลัง หลังจากนั้น คุณแม่อาจรู้สึกกดๆ หรือหน่วงๆ บริเวณหลัง แต่จะไม่รู้สึกเจ็บปวดค่ะ

การคลอดธรรมชาติ ด้วยวิธีบล็อคหลัง เหมาะกับใคร?
การบล็อคหลังนั้นเป็นทางเลือกสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์ที่ต้องการบรรเทาความเจ็บปวดจากการคลอดธรรมชาติ โดยเฉพาะคุณแม่ที่มีอาการต่อไปนี้
- ไม่สามารถทนความเจ็บปวดได้
- มีความกังวลเกี่ยวกับการคลอด
- มีภาวะแทรกซ้อนบางอย่างที่อาจทำให้การคลอดเจ็บปวดมากขึ้น
|
ข้อดีข้อเสีย ของการ คลอดธรรมชาติ บล็อคหลัง
|
ข้อดี |
ข้อเสีย |
- ช่วยลดหรือบรรเทาความเจ็บปวดจากการคลอด ทำให้คุณแม่รู้สึกสบายตัวและผ่อนคลายมากขึ้น
- ทารกได้รับเลือดไปเลี้ยงเต็มที่เพราะเส้นเลือดไม่หดเกร็งตัว ไม่กดการหายใจ
- เมื่อความเจ็บปวดลดลง คุณแม่จะมีสมาธิในการเบ่งคลอดมากขึ้น
- การบล็อคหลังอาจช่วยให้การคลอดง่ายขึ้น โดยเฉพาะคุณแม่ที่ไม่สามารถทนความเจ็บปวดได้ หรือมีภาวะแทรกซ้อนบางอย่าง
- วิสัญญีแพทย์สามารถปรับระดับยาชาให้เหมาะสมกับความเจ็บปวดของแต่ละบุคคลได้
- หากคลอดธรรมชาติไม่ได้ ต้องผ่าตัด สามารถทำได้ทันที โดยการเติมยาชาเพิ่ม ไม่ต้องใช้การวางยาสลบฉุกเฉินซึ่งเสี่ยงอันตราย
- คุณแม่สามารถคลอดลูกโดยที่ยังตื่นอยู่ ไม่มีฤทธิ์ง่วงซึม และได้เห็นลูกน้อยตั้งแต่แรกคลอด
- ลดโอกาสเกิดภาวะซึมเศร้าหลังคลอดได้
|
- ในบางกรณี การบล็อคหลังอาจทำให้การคลอดนานขึ้นเล็กน้อย
- อาจมีอาการข้างเคียง เช่น อาการปวดหลัง ปวดศีรษะ หรือคลื่นไส้อาเจียน
- การบล็อคหลังมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม
- คุณแม่บางท่านอาจไม่สามารถบล็อคหลังได้ เช่น คุณแม่ที่มีปัญหาเกี่ยวกับการแข็งตัวของเลือด หรือมีการติดเชื้อบริเวณหลัง
- อาจทำให้ความดันโลหิตต่ำระหว่างบล็อคหลัง
- อาจมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน หนาวสั่น หรือมีผื่นคันได้
- อาจปัสสาวะไม่ออกและต้องใส่สายสวนปัสสาวะ
- อาจมีรอยช้ำหรือเลือดออกที่ผิวหนัง และเจ็บบริเวณที่ใส่สาย หรือใส่สายไม่สำเร็จ ใส่สายยาก เช่น คุณแม่มีน้ำหนักตัวมาก หรือมีลักษณะกระดูกสันหลังที่ผิดปกติ
- บางครั้งอาจเกิดการชาไม่สมบูรณ์เนื่องจากการเลื่อนของสาย
- อาจมีอาการปวดศีรษะหลังจากการบล็อคหลัง
|

จะเห็นได้ว่า การคลอดธรรมชาติไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด และยังมีข้อดีมากมาย โดยสำหรับคุณแม่ที่ไม่สามารถอดทนต่อความเจ็บปวดระหว่างการคลอด ก็สามารถเลือกการ ผ่าคลอด หรือใช้วิธีบล็อคหลังเพื่อลดความเจ็บปวดได้อย่างมีประสิทธิภาพ อย่างก็ตาม คลอดธรรมชาติ บล็อคหลัง รวมถึงการผ่าคลอด มีทั้งข้อดีและข้อเสียที่ควรพิจารณา ซึ่งคุณแม่ควรปรึกษาแพทย์เพื่อขอคำแนะนำและข้อมูลเพิ่มเติม เพื่อการตัดสินใจเลือกวิธีคลอดที่เหมาะสม ปลอดภัยกับตนเองและลูกน้อยมากที่สุดนะคะ
ที่มา : www.samitivejhospitals.com , www.nonthavej.co.th , hdmall.co.th
บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ
รีวิวผ่าคลอดบล็อกหลัง ฉบับคนกลัวมาก มาก มาก มาก
เรื่องควรรู้! เซ็กส์หลังคลอด ประจำเดือนไม่มา มีอะไรกับแฟน จะท้องไหม?
เจ็บครรภ์เตือน เจ็บครรภ์จริง สาเหตุและอาการ วิธีดูแลตัวเองเมื่อมีอาการใกล้คลอด
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!