ให้นมลูก เจ็บหัวนม ต้องหยุดไหม แก้ปัญหายังไงให้ดีต่อคุณแม่และลูกน้อย

คุณแม่ให้นมที่มีปัญหา ให้นมลูก แล้ว เจ็บหัวนม เกิดจากหลายสาเหตุค่ะ มาดูวิธีดูแลและแก้ไขเพื่อให้ลูกน้อยสามารถกินนมแม่ได้ต่อเนื่องกันค่ะ

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

คุณแม่หลายคนที่ให้นมลูกน้อยอาจต้องเผชิญกับปัญหา เจ็บหัวนม ซึ่งนับเป็นอุปสรรคสำคัญที่อาจทำให้ต้องให้ลูกหยุดกินนมแม่ หรือหย่านมแม่ก่อนกำหนด แต่อย่าเพิ่งกังวลค่ะ เราจะชวนมาหาคำตอบกันว่า ให้นมลูก เจ็บหัวนม ต้องหยุดการให้นมไหม รวมถึงมีวิธีแก้ไขปัญหาที่ดีต่อทั้งคุณแม่และลูกน้อย เพื่อให้การกินนมแม่ยังสามารถไปต่อได้อย่างมีความสุขและราบรื่นมากยิ่งขึ้น

สาเหตุที่คุณแม่ ให้นมลูก เจ็บหัวนม 

เชื่อว่าคุณแม่เกือบทุกคนให้ความสำคัญกับการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ และมีความตั้งใจเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ให้นานที่สุด เนื่องจาก นมแม่ซึ่งอุดมไปด้วยสารอาหารและแร่ธาตุที่มีคุณค่านั้นเป็นอาหารที่ดีที่สุดสำหรับลูกน้อย แต่ปัญหาที่คุณแม่หลายคนมักพบบ่อยในช่วงให้นม คือ ให้นมลูก แล้ว เจ็บหัวนม ซึ่งเกิดจากหลายปัจจัยและอาจทำให้คุณแม่ท้อใจจนไม่สามารถเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ได้นานตามที่ตั้งใจไว้ โดยมักเกิดจากสาเหตุต่อไปนี้

  • หัวนมแตกหรือร้าว

การที่ลูกน้อยดูดนมแรงเกินไป หรือดูดหัวนมเป็นเวลานาน อาจทำให้หัวนมคุณแม่แตกหรือร้าว จนมีอาการเจ็บที่บริเวณหัวนมและอาจมีเลือดไหลออกมา ซึ่งมักเกิดจากการเอาลูกเข้าเต้าไม่ถูกวิธี ท่าให้นมไม่ถูกต้อง ทำให้เวลาดูดนมลูกจะอมได้ไม่ถึงลานนม เมื่อดูดแล้วไม่ได้น้ำนมจึงเคี้ยวหัวนมแม่ ส่งผลให้หัวนมแตก เกิดแผล และมีเลือดออก

  • ท่อน้ำนมอุดตัน

ภาวะท่อน้ำนมอุดตันซึ่งทำให้มีน้ำนมค้างอยู่ในเต้านม น้ำนมไหลไม่สะดวก ลูกดูดไม่ออก หรือดูดได้เพียง 20% จนคุณแม่แทบไม่สามารถให้นมลูกน้อยได้ เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้คุณแม่เจ็บเต้านม โดยอาจพบว่ามีก้อนแข็งบริเวณเต้านม กดแล้วเจ็บ หรือมีอาการบวมแดง ซึ่งบางกรณีหัวนมและลานหัวนมอาจมีลักษณะผิดรูปไป มีเส้นเลือดบริเวณเต้านมปูดขึ้น หรือมีจุดสีขาวที่หัวนมที่เรียกว่า White dot อาจเกิดจากลูกดูดนมไม่เกลี้ยงเต้าและคุณแม่ปล่อยให้น้ำนมค้างในเต้าเป็นเวลานาน รวมถึงการกินอาหารไขมันสูงด้วย

  • เต้านมอักเสบ

เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียในเต้านม ซึ่งเริ่มจากการคัดตึงเต้านม คลำพบก้อนแข็งและตึง เมื่อกดจะเจ็บและปวดกระจายไปทั่วเต้านม เกิดภาวะเต้านมบวมแดง โดยคุณแม่จะอ่อนเพลีย ปวดศีรษะ และอาจมีไข้สูงเกิน 38 องศาเซลเซียส เนื่องจากคุณแม่ปล่อยให้มีน้ำนมเก่าค้างในเต้านม หรือจากเหตุอื่น ๆ จนเชื้อโรคเข้าสู่เต้านมและเกิดการอักเสบ/ติดเชื้อผ่านทางแผลบริเวณรอยแตกที่หัวนม

นอกจากนี้ ยังมีความเป็นไปได้ว่าคุณแม่อาจใช้เครื่องปั๊มนมที่มีแรงในการดูดสูงมากเกินไป ใช้ระยะเวลาในการปั๊มนมนานเกินไป หรือการเลือกใช้กรวยที่ปั๊มนมผิดขนาดกับหัวนม จึงทำให้เกิดการบาดเจ็บที่หัวนมได้เช่นกันค่ะ

แนวทางป้องกันและแก้ไขปัญหา ให้นมลูก เจ็บหัวนม

จากสาเหตุของปัญหา ให้นมลูก เจ็บหัวนม ที่บอกไว้ข้างต้น แน่นอนว่าคุณแม่สามารถป้องกันไว้ก่อนได้ค่ะโดยเริ่มให้นมลูกตั้งแต่เนิ่น ๆ ให้นมลูกโดยเร็วที่สุดหลังคลอด จะช่วยให้ทารกดูดนมได้ถูกวิธีและลดความเสี่ยงได้ อย่างไรก็ตาม คุณแม่สามารถป้องกันรวมถึงแก้ไขจากสาเหตุของการเจ็บหัวนมขณะให้นมลูกได้ดังนี้ค่ะ

ป้องกันและดูแลหัวนมแตก 

  • เริ่มต้นให้ลูกดูดเต้าอย่างถูกวิธี โดยอุ้มลูกชิดตัวแนบกับท้อง ให้แก้ม จมูก และคางของลูกสัมผัสกับเต้านม
  • ไม่ดึงหัวนมออกทันทีขณะที่ลูกยังออกแรงดูดอยู่ ควรค่อย ๆ ปลดหัวนมออกเบา ๆ แล้วค่อย ๆ ใส่นิ้วเข้าไปแทนที่จากนั้นจึงดึงหัวนมออก
  • ไม่ควรทำความสะอาดเต้านมและหัวนมมากจนเกินไป และหลีกเลี่ยงการใช้สบู่หรือครีมทาที่หัวนม
  • บีบน้ำนม 2- 3 หยดทาบริเวณหัวนมทิ้งไว้ให้แห้งทุกครั้งหลังให้นมลูก เนื่องจากน้ำนมแม่มีสารที่ช่วยลดการอักเสบ และช่วยในการสมานแผลได้ดี
  • ระวังอย่าให้เต้านมคัด ถ้าเต้านมคัดให้คุณแม่บีบน้ำนมออกเล็กน้อยก่อน เมื่อเต้าเริ่มนิ่มขึ้นจึงค่อยให้ลูกเข้าเต้า
  • ให้ลูกดูดนมจากเต้าที่เจ็บน้อยก่อน หากเจ็บเท่ากันให้หาผ้าชุบน้ำอุ่น ๆ มาประคบและนวดเต้านมเบา ๆ ก่อน กรณีเจ็บมากจนทนไม่ไหวให้พักเต้าแล้วเปลี่ยนเป็นการบีบหรือปั๊มนมให้ลูกแทน เมื่อหายเจ็บค่อยกลับมาดูดนมจากเต้าเหมือนเดิม
  • ควรให้ลูกดูดนมในเวลาที่สั้นลง เหลือครั้งละประมาณ 10-15 นาที ทุก ๆ 1-2 ชั่วโมง

ดูแลแก้ไขปัญหาท่อน้ำนมอุดตัน

  • ก่อนให้นมลูก ลองประคบเต้าด้วยผ้าอุ่นสักประมาณ 5-10 นาที
  • เลือกใส่เสื้อชั้นในที่พยุงเต้านม ไม่หลวมหรือรัดแน่นเกินไป
  • ให้ลูกดูดจากเต้าที่อุดตันก่อน และให้ลูกดูดนมบ่อยขึ้นวันละ 8-12 ครั้ง ข้างละประมาณ 15-20 นาที
  • จัดท่าให้ลูกน้อยดูดนมโดยให้คางของลูกชี้ไปบริเวณที่เป็นก้อน เพื่อให้ลิ้นของลูกช่วยรีดน้ำนมบริเวณที่เป็นก้อนได้ดีขึ้น
  • นวดเต้านมเบา ๆ ไปด้วยขณะลูกเข้าเต้า โดยไล่จากบริเวณที่อุดตันไปจนถึงหัวนม เพื่อช่วยดันส่วนที่เป็นก้อนให้นิ่มลง
  • หลังให้นมลูกควรประคบเย็นเพื่อลดอาการปวดและบวม

บรรเทาอาการเต้านมอักเสบ ป้องกันน้ำนมค้างเต้า

  • ลดปัญหาน้ำนมค้างเต้าโดยให้ลูกดูดนมนานขึ้นอย่างน้อยข้างละ 15-20 นาที และให้ดูดบ่อย ๆ วันละ 8-12 ครั้ง
  • แนะนำให้ลูกดูดจากเต้าที่มีปัญหาก่อน แรงดูดขณะหิวของลูกน้อยจะช่วยให้น้ำนมของคุณแม่ที่ค้างเต้าอยู่ระบายออกมาได้
  • ปั๊มนมป้อนลูกแทนการให้ดูดนมประมาณ 3-4 มื้อ จนคุณแม่รู้สึกดีขึ้นจึงกลับมาให้ลูกดูดนมจากเต้าคุณแม่อีกครั้ง

 

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

แนะนำท่าให้นมลูกที่ถูกต้อง

จะเห็นว่าปัญหาให้นมลูก เจ็บหัวนม ของคุณแม่นั้น มักมีต้นสายปลายเหตุแรกเริ่มมาจากการที่ลูกเข้าเต้าไม่ถูกวิธี ไม่ถูกท่า ดังนั้น ขอแนะนำท่าให้นมที่ถูกต้องซึ่งจะทำให้การให้นมของคุณแม่มีประสิทธิภาพ 4 ท่า ดังนี้

Cradle Hold Position

Modified Cradle Hold Position

Football Hold Position

Side Lying Position

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา
  1. อุ้มนอนขวาง (Cradle Hold Position) เป็นท่าพื้นฐานและเป็นที่นิยมค่ะ โดยคุณแม่ควรเริ่มจากเลือกมุมที่นั่งสบาย กรณีนั่งเก้าอี้ควรมีพนักพิงรองรับแผ่นหลัง มีที่พักแขน จากนั้นนั่งตัวตรง อุ้มลูกนอนในแนวขวาง ตะแคงลูกน้อยเข้าหาเต้านม จัดหน้าอกของลูกและแม่ให้อยู่ชิดกัน ใช้มืออีกข้างพยุงเต้านม วางศีรษะลูกให้อยู่บนข้อพับแขน ปลายแขนประคองหลัง และเอามือช้อนก้นลูกไว้
  2. ท่าประยุกต์ลูกนอนขวางบนตัก (Modified Cradle Hold Position) เหมาะกับการให้ลูกอมหัวนม ควบคุมการเคลื่อนไหวของศีรษะลูกได้ ท่านี้จะมีการเตรียมตัวและจัดท่าทางเหมือนกับท่าอุ้มนอนขวางเลยค่ะ แต่…จะมีการเปลี่ยนมือ โดยให้คุณแม่ใช้มือข้างเดียวกับเต้านมที่ลูกดูด ในการประคองเต้านม ส่วนมืออีกข้างหนึ่งรองต้นคอและท้ายทอยลูก
  3. ท่าอุ้มฟุตบอล (Football Hold Position) เหมาะกับคุณแม่ผ่าคลอด รวมถึงคุณแม่ที่ให้นมลูกแฝด 2 คนพร้อมกัน โดยนั่งเก้าอี้ที่มีความสะดวกสบาย หาหมอนวางข้างตัว จากนั้นวางลูกนอนลงบนหมอน ใช้ฝ่ามือประคองหลังและบ่าของลูก ปลายแขนรองแผ่นหลัง สอดขาของลูกไว้ที่ใต้แขน ให้ลูกนอนโดยใบหู ไหล่ สะโพก อยู่แนวเส้นตรงเดียวกัน เหมือนการถือลูกฟุตบอล
  4. ท่านอนตะแคง (Side Lying Position) โดยนอนตะแคงในท่าที่คุณแม่รู้สึกสบาย งอเข่าเล็กน้อย ใช้หมอนหนุนศีรษะให้สูงพอประมาณ วางลูกลงบนฟูกหรือเบาะ หันหน้ามาทางเต้านม จากนั้นคุณแม่ใช้ศอกดันตัวเองขึ้นเล็กน้อย ประคองต้นคอลูกน้อยด้วยมืออีกข้างเพื่อให้นม พอลูกเริ่มดูดนมได้ดีจึงค่อย ๆ นอนราบลงไป

ทั้งนี้ คุณแม่สามารถเลือกและปรับท่าให้นมตามความเหมาะสม โดยเลือกท่าที่ตัวเองอยู่ในลักษณะสบายที่สุด จะช่วยทำให้ลูกได้รับน้ำนมได้ปริมาณที่เพียงพอค่ะ

ให้นมลูก เจ็บหัวนม อาการแบบไหนควรไปพบแพทย์

อาการหัวนมเจ็บ (Sore nipple) หรือหัวนมแตก (Cracked nipple) ของคุณแม่นั้น อาจจะยับยั้งการหลั่งของฮอร์โมน Oxytocin ทำให้น้ำนมแม่ไม่ไหลหรือไหลน้อยลงได้นะคะ ซึ่งไม่เพียงส่งผลให้เกิดน้ำนมคั่งค้างในเต้านม เต้านมคัด ท่อน้ำนมอุดตัน และทำให้เกิดเต้านมอักเสบเท่านั้น แต่หากปล่อยทิ้งไว้อาจเกิดเป็นฝีได้ในที่สุดค่ะ

ซึ่งคุณแม่สามารถนำวิธีดูแลตัวเองเบื้องต้นที่เราแนะนำไปใช้ได้ แต่หากอาการยังไม่ทุเลาลงจนลุกลามกลายเป็นปัญหาการให้นมจนไม่สามารถให้ลูกกินนมแม่ต่อได้ หรือมีอาการเจ็บหัวนมอย่างรุนแรง หัวนมแตกจนมีเลือดไหล ควรหยุดให้นมข้างที่มีเลือดไหล และรีบไปปรึกษาแพทย์ ปรึกษาบุคลากรทางการแพทย์ที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญเกี่ยวกับการให้นมบุตร เช่น แพทย์ พยาบาล คลินิกนมแม่ คลินิกสุขภาพหญิง เพื่อรับคำปรึกษาและดูแลแก้ไขอย่างถูกวิธี หรือรักษาจนหาย เพื่อกลับมาให้นมลูกอีกครั้งได้เร็วที่สุด และสามารถให้นมลูกต่อไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ

 

ที่มา : pt.mahidol.ac.th , www.samitivejhospitals.com , www.bumrungrad.com , www.sikarin.com , www.ekachaihospital.com , premierehomehealthcare.co.th

 

บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ

คุณแม่อัพไซส์ เสริมหน้าอก ให้นมลูกได้ไหม น้ำนมจะน้อยหรือเปล่า

ให้นมลูกกินหน่อไม้ได้ไหม ส่งผลอะไรต่อน้ำนมบ้าง ลูกกินนมได้หรือเปล่า

“นมแม่” สำหรับ ทารก 1 สัปดาห์ กินกี่ออนซ์

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

บทความโดย

จันทนา ชัยมี