ความสุขของเด็กมีไม่เท่ากัน
กล่าวกันว่า ความสุขเป็นความรู้สึกที่ติดตัวเด็กมาตั้งแต่เกิด ทั้งนี้เนื่องจากเด็กเป็นวัยไร้เดียงสาและมีทัศนคติเชิงบวกต่อชีวิต แม้ว่าที่กล่าวมาจะเป็นจริง แต่ดูเหมือนว่าจะไม่ใช่สำหรับเด็กทุกคน
ถ้ามองรอบๆ สนามเด็กเล่นสักแห่ง คุณอาจสังเกตเห็นเด็กบางคนที่หน้าหงิกหน้างอหรือเอาแต่ร้องไห้ ขณะที่เพื่อนที่เล่นอยู่ด้วยกันหัวเราะร่าเริงและดูยิ้มแย้มแจ่มใส อาจเป็นไปได้ว่าเด็กที่ดูไม่มีความสุขนั้นเพิ่งผ่านอะไร “แย่ๆ” มา แต่นักวิทยาศาสตร์บางกลุ่มเชื่อว่า เด็กบางคนเกิดมาพร้อมกับความสุข โดยเด็กเกิดมาพร้อมกับอารมณ์และทัศนคติบางอย่าง แน่นอนว่า เด็ก ๆ จะได้รับสิ่งเหล่านี้มาจากคุณพ่อคุณแม่ แต่ความเชื่อเหล่านี้ก็ยังไม่ได้ข้อสรุปตามหลักวิทยาศาสตร์
คุณพ่อคุณแม่อาจสังเกตเห็นว่าลูกไม่ค่อยหัวเราะแต่ร้องไห้ง่าย และกังวลว่าเมื่อลูกโตขึ้นอาจจะระทมทุกข์มากยิ่งขึ้นและกลายเป็นคนเจ้าอารมณ์ ซึ่งหากปล่อยให้ลูกเป็นเช่นนี้ต่อไปโดยไม่ให้ความสนใจ ทัศนคติและพฤติกรรมดังกล่าวนี้จะหล่อหลอมให้ลูกกลายเป็นคนเอาแต่อารมณ์ ไม่น่าคบและมองโลกในแง่ร้าย
วิธีสร้างความมั่นใจเกี่ยวกับความสุข
คุยกับลูกเจ้าอารมณ์ของคุณถึงเหตุผลดีๆ มากมายของการมีความสุข เพื่อสร้างความมั่นใจว่าลูกจะมีทัศนคติเชิงบวกและรู้สึกดีขึ้นต่อการดำเนินชีวิต ทำให้ลูกรู้สึกว่าตนเป็นที่รักและมีคุณค่าด้วยการเล่นกับลูกและชี้ชวนให้ลูกเห็นอะไรสนุกมากมาย แต่ที่สำคัญคือ คุณจะต้องให้ลูกได้เป็นตัวของตัวเอง อย่าตามใจจนลูกเหลิงและอย่าปกป้องลูกจากเรื่องแย่ ๆ เพียงเพื่อไม่ให้ลูกรู้สึกผิดหวังเสียใจ ให้ลูกได้สัมผัสประสบการณ์ต่าง ๆ และให้ความเชื่อมั่นกับลูกว่าลูกจะตัดสินใจได้ถูกต้อง รวมถึงมีความรู้สึกที่เหมาะสม ให้ลูกได้มีโอกาสค้นหาสิ่งที่ทำให้เขารู้สึกมีความสุขเอง โดยที่คุณไม่ต้องมาคอยบอก
ชมลูกเมื่อทำอะไรได้ดี แต่จะต้องบอกให้ลูกรู้ถ้าลูกได้ทำอะไรผิดพลาด ความสมดุลเป็นสิ่งสำคัญ เนื่องจากถ้าลูกได้ยินแต่คำชื่นชม เมื่อโตเป็นผู้ใหญ่ ลูกอาจไม่สามารถรับมือกับความล้มเหลวผิดหวังได้ ทำให้ลูกรู้สึกได้ว่าคุณรักเขาเสมอ ไม่ว่าเขาจะทำถูก การให้กำลังใจอย่างสม่ำเสมอเป็นสิ่งที่จำเป็น
ให้ลูกได้อยู่ในหมู่มวลความสุข
ที่สำคัญคือ ให้ลูกคุณได้เล่นและเข้าสังคมกับเด็กคนอื่นๆ ที่ร่าเริงแจ่มใสและมีมนุษยสัมพันธ์ ลูกอาจเรียนรู้ที่จะปรับตัวโดยเปิดรับมุมมองและทัศนคติเหล่านี้จากเพื่อนๆ ซึ่งจะช่วยให้ลูกปรับพฤติกรรมของตนได้มาก คุณสามารถช่วยลูกให้ได้พบเพื่อนๆได้โดยการพาลูกไปเข้าทำกิจกรรมกลุ่ม ชวนเด็กคนอื่น ๆ มาเล่น พาลูกออกไปเล่นที่สนามเด็กเล่นใกล้บ้าน หรือพาลูกไปเยี่ยมญาติและเพื่อน ๆ ที่มีลูกเล็ก ๆ และคุณต้องไม่ลืมที่จะทำให้ลูกเห็นว่าคุณเองก็ มีความสุข เช่นกัน ถ้าลูกจะไปใช้เวลากับคนอื่น ๆ ที่ มีความสุข คุณเองก็ควรจะเป็นหนึ่งในนั้นด้วย ลองทำท่าตลก ๆ เล่าเรื่องขำขันและขลุกอยู่กับลูก
อารมณ์ ทัศนคติและนิสัยใจคอของเด็กไม่สามารถถูกเปลี่ยนได้ แต่ถ้าได้รับการหล่อหลอมด้วยประสบการณ์ต่าง ๆ ความรักและความเอาใจใส่แล้ว เด็กก็จะเติบโตขึ้นอย่างมีวุฒิภาวะ มีทัศนคติในเชิงบวกมากขึ้นและมีวามสุข
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!