พ่อแม่ที่เป็นพิษ Toxic Parents คือรากเหง้าของเด็กมีปัญหา เช็กด่วน! คุณมีพฤติกรรมแบบนี้หรือเปล่า?

undefined

พ่อแม่ที่เป็นพิษ ส่งผลกระทบระยะยาวต่อพัฒนาการทางอารมณ์ สังคม และสมองของเด็ก ลองทำเช็กลิสต์สำรวจตัวเองว่า คุณเข้าข่าย Toxic Parents หรือไม่

พ่อแม่ที่เป็นพิษ (Toxic Parents) ไม่เพียงแต่สร้างบาดแผลทางใจให้กับลูก แต่ยังส่งผลกระทบระยะยาวต่อพัฒนาการทางอารมณ์ สังคม และสมองของเด็กอย่างลึกซึ้ง เหตุใดพ่อแม่ที่เป็นพิษจึงเป็นรากเหง้าของปัญหาในเด็ก มาดูข้อมูลจากงานวิจัย สถิติ เช็กลิสต์ และแนวทางการรับมือ เพื่อให้เข้าใจและก้าวข้ามวงจรแห่งความเจ็บปวดนี้ไปด้วยกัน

 

พ่อแม่ที่เป็นพิษ คือใคร?

พ่อแม่ที่เป็นพิษ ไม่ได้หมายถึงผู้ปกครองที่ทำผิดพลาดเป็นครั้งคราว แต่หมายถึงผู้ที่มีพฤติกรรมที่ทำร้ายจิตใจลูกอย่างต่อเนื่อง เช่น การควบคุมเกินเหตุ การตำหนิอย่างรุนแรง การเพิกเฉยต่อความรู้สึกของลูก หรือการใช้ความรุนแรงทางวาจาและอารมณ์  พฤติกรรมเหล่านี้สามารถทิ้งรอยแผลทางใจให้กับลูกได้ตลอดชีวิต 

 

ผลกระทบระยะยาวของการเลี้ยงดูที่เป็นพิษ

  1. ความภาคภูมิใจในตนเองต่ำ

เด็กที่เติบโตมากับพ่อแม่ที่เป็นพิษ มักรู้สึกว่าตนเองไม่มีคุณค่า ไม่คู่ควรกับความรัก หรือไม่ดีพอ ซึ่งนำไปสู่ความภาคภูมิใจในตนเองที่ต่ำ และอาจส่งผลต่อความสัมพันธ์และการตัดสินใจในชีวิตผู้ใหญ่ 

 

  1. ความวิตกกังวลและภาวะซึมเศร้า

การเลี้ยงดูที่เต็มไปด้วยความเครียดและความไม่แน่นอนสามารถกระตุ้นให้เด็กพัฒนาอาการวิตกกังวลและซึมเศร้า ซึ่งอาจคงอยู่จนถึงวัยผู้ใหญ่ 

 

  1. ปัญหาในการสร้างความสัมพันธ์

เด็กที่ได้รับการเลี้ยงดูแบบเป็นพิษอาจมีปัญหาในการไว้วางใจผู้อื่น ตั้งขอบเขตในความสัมพันธ์ หรือแสดงออกทางอารมณ์อย่างเหมาะสม ซึ่งอาจนำไปสู่ความสัมพันธ์ที่ไม่มั่นคงในอนาคต 

 

  1. พฤติกรรมทำลายตนเอง

ความเครียดและความเจ็บปวดทางใจที่สะสมจากการเลี้ยงดูที่เป็นพิษอาจทำให้เด็กหันไปหาพฤติกรรมที่เป็นอันตราย เช่น การใช้สารเสพติด หรือการทำร้ายตนเอง เพื่อหลีกหนีความรู้สึกเจ็บปวด 

พ่อแม่ที่เป็นพิษ

งานวิจัยและสถิติที่เกี่ยวข้อง

  1. ความสัมพันธ์ระหว่าง พ่อแม่ที่เป็นพิษ กับสุขภาพจิตของเด็ก

การศึกษาในปี 2022 ณ ศูนย์สุขภาพชุมชน Karangampel พบว่า เด็กที่มีพ่อแม่ที่มีพฤติกรรมเป็นพิษมีแนวโน้มที่จะมีปัญหาสุขภาพจิตสูงถึง 92% โดยมีความสัมพันธ์ที่มีนัยสำคัญทางสถิติ ระหว่างระดับของพฤติกรรมเป็นพิษของพ่อแม่กับสุขภาพจิตของเด็ก

 

  1. การเลี้ยงดูที่รุนแรงกับสุขภาพกายของวัยรุ่น

งานวิจัยที่เผยแพร่ในวารสาร Psychoneuroendocrinology ระบุว่าพฤติกรรมการเลี้ยงดูที่ใช้ความรุนแรง เช่น การดุด่า การลงโทษทางร่างกาย และการปฏิเสธ สามารถเพิ่มความเสี่ยงต่อปัญหาพัฒนาการและสุขภาพกายในวัยรุ่นได้อย่างมีนัยสำคัญ

 

  1. ความวุ่นวายในครอบครัวกับพัฒนาการของเด็ก

การศึกษาที่ตีพิมพ์ใน BMC Psychology พบว่าความวุ่นวายในครอบครัว (household chaos) ซึ่งรวมถึงการขาดโครงสร้างและกิจวัตรประจำวัน มีความสัมพันธ์กับผลลัพธ์ที่ไม่พึงประสงค์ในเด็ก เช่น พัฒนาการทางสังคมและอารมณ์แย่ลง พัฒนาการทางสติปัญญาล่าช้า และมีปัญหาพฤติกรรม

 

  1. พฤติกรรมของ พ่อแม่ที่เป็นพิษ กับความภาคภูมิใจในตนเองของเด็ก

การวิจัยในปี 2023 พบว่าพฤติกรรมของพ่อแม่ที่เป็นพิษมีความสัมพันธ์เชิงลบกับความภาคภูมิใจในตนเองของนักเรียนระดับประถมศึกษา โดยมีค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ (r) เท่ากับ -0.484 และมีนัยสำคัญทางสถิติ (p < 0.05)

 

  1. การเลี้ยงดูที่เป็นพิษกับการพัฒนาทางอารมณ์ของเด็ก

บทความวิจัยที่เผยแพร่ในวารสาร Anifa ระบุว่าพ่อแม่ที่มีพฤติกรรมเป็นพิษมีผลกระทบเชิงลบอย่างมากต่อสุขภาพจิตของเด็ก โดยสามารถก่อให้เกิดบาดแผลทางจิตใจลึกซึ้งและยาวนาน

พ่อแม่ที่เป็นพิษ

เช็คลิสต์: คุณมีพฤติกรรม Toxic Parents หรือไม่

ให้คุณพ่อคุณแม่อ่านแต่ละข้อและพิจารณาว่าพฤติกรรมเหล่านั้นเกิดขึ้นบ่อยแค่ไหนในการปฏิสัมพันธ์กับลูกของคุณ เลือกคำตอบที่ตรงกับความเป็นจริงมากที่สุด

  • ไม่เคย/น้อยมาก: พฤติกรรมนี้แทบไม่เคยเกิดขึ้นเลย
  • บางครั้ง: พฤติกรรมนี้เกิดขึ้นบ้างเป็นครั้งคราว
  • บ่อยครั้ง: พฤติกรรมนี้เกิดขึ้นเป็นประจำ
  • เกือบตลอดเวลา: พฤติกรรมนี้เกิดขึ้นเกือบทุกครั้ง

หมวดที่ 1: การควบคุมและใช้อำนาจ

  1. ฉันรู้สึกว่าต้องควบคุมทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิตลูก เช่น การเรียน เพื่อน งานอดิเรก
  2. ฉันใช้คำพูดหรือการกระทำที่ทำให้ลูกรู้สึกผิดหรือละอายใจเพื่อให้ลูกทำตามที่ฉันต้องการ
  3. ฉันตัดสินใจแทนลูกในเรื่องสำคัญๆ โดยไม่รับฟังความคิดเห็นหรือความต้องการของลูกเลย
  4. ฉันใช้รางวัลหรือการลงโทษที่รุนแรงเกินไปเพื่อควบคุมพฤติกรรมของลูก
  5. ฉันรู้สึกว่าลูกเป็นส่วนหนึ่งของฉัน และความสำเร็จหรือความล้มเหลวของลูกสะท้อนถึงตัวฉันโดยตรง

หมวดที่ 2: การสื่อสารและอารมณ์

  1. ฉันตำหนิหรือวิพากษ์วิจารณ์ลูกบ่อยครั้ง แม้ในเรื่องเล็กน้อย
  2. ฉันมักจะระเบิดอารมณ์ใส่ลูก เช่น ตะคอก ตะโกนใส่ลูก เมื่อรู้สึกหงุดหงิดหรือเครียด
  3. ฉันเพิกเฉยหรือปฏิเสธความรู้สึกของลูก เช่น “อย่าร้องไห้สิ” “แค่นี้เองทำไมต้องคิดมาก”
  4. ฉันใช้คำพูดที่บั่นทอนกำลังใจหรือทำให้ลูกรู้สึกไม่ดีกับตัวเอง เช่น “แกมันไม่ได้เรื่อง” “ทำอะไรไม่เคยสำเร็จ”
  5. ฉันเปิดเผยข้อมูลส่วนตัวของลูกให้ผู้อื่นฟังโดยไม่ได้รับอนุญาต หรือนำเรื่องส่วนตัวของลูกมาล้อเลียนต่อหน้าผู้อื่น

บทความที่เกี่ยวข้อง หยุด! คำพูดทำร้ายจิตใจเด็ก คำพูดที่แม่คิดว่าล้อเล่น คือมีดที่กรีดใจลูกทุกวัน

หมวดที่ 3: การสนับสนุนและการให้อิสระ

  1. ฉันตั้งความคาดหวังกับลูกสูงเกินไป จนลูกรู้สึกกดดันและเครียด
  2. ฉันเปรียบเทียบลูกกับคนอื่น เช่น พี่น้อง เพื่อน อยู่เสมอ
  3. ฉันขัดขวางไม่ให้ลูกมีความสัมพันธ์กับเพื่อนหรือบุคคลภายนอกที่ฉันไม่เห็นด้วย
  4. ฉันทำให้ลูกรู้สึกว่าความรักของฉันมีเงื่อนไข เช่น “ถ้าลูกทำได้ดี แม่ถึงจะรัก”
  5. ฉันไม่เคารพความเป็นส่วนตัวของลูก เช่น แอบอ่านข้อความ แอบเช็คโทรศัพท์มือถือ

พ่อแม่ที่เป็นพิษ

การวิเคราะห์ผลเบื้องต้น

  • หากคุณเลือก “บ่อยครั้ง” หรือ “เกือบตลอดเวลา” ในหลายๆ ข้อ อาจเป็นสัญญาณว่าคุณกำลังแสดงพฤติกรรมที่เป็นพิษต่อลูก ซึ่งอาจส่งผลเสียต่อพัฒนาการทางอารมณ์และจิตใจของลูกในระยะยาว มีหลายวิธีที่คุณสามารถปรับปรุงและสร้างความสัมพันธ์ที่ดีขึ้นกับลูกได้

  • หากคุณเลือก “บางครั้ง” ในหลายๆ ข้อ คุณอาจมีแนวโน้มที่จะแสดงพฤติกรรมพ่อแม่เป็นพิษบ้าง ลองปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเพื่อสภาพแวดล้อมที่ส่งเสริมการเติบโตของลูกได้ดียิ่งขึ้น

  • หากคุณเลือก “ไม่เคย/น้อยมาก” ในเกือบทุกข้อ คุณกำลังทำได้ดีในการเลี้ยงดูเชิงบวก อย่างไรก็ตาม การเรียนรู้และพัฒนาตนเองอยู่เสมอเป็นสิ่งที่ดี เพื่อให้แน่ใจว่าคุณยังคงเป็นแบบอย่างที่ดีและสนับสนุนลูกอย่างต่อเนื่อง

หากคุณพบว่าตนเองมีพฤติกรรมที่เข้าข่าย Toxic Parents

อย่าเพิ่งรู้สึกท้อแท้หรือสิ้นหวัง คุณสามารถเปลี่ยนแปลงตัวเองโดยเริ่มจากการ

  1. ศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับการเลี้ยงดูเชิงบวก (Positive Parenting) และการสื่อสารอย่างสันติ
  2. สังเกตปฏิกิริยาและคำพูดของตนเองในการปฏิสัมพันธ์กับลูก
  3. หากคุณเผลอทำพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมไป ให้ขอโทษลูกอย่างจริงใจและอธิบายว่าคุณกำลังพยายามปรับปรุง
  4. ปล่อยให้ลูกมีโอกาสตัดสินใจและเรียนรู้จากข้อผิดพลาดด้วยตัวเองภายใต้ขอบเขตที่เหมาะสม
  5. ฝึกฟังลูกอย่างตั้งใจ แสดงความเห็นอกเห็นใจ และใช้คำพูดที่สร้างสรรค์
  6. พ่อแม่ที่มีสุขภาพจิตที่ดีจะสามารถเลี้ยงดูลูกได้ดียิ่งขึ้น หากรู้สึกเครียดหรือมีปัญหา ควรหาทางผ่อนคลายหรือปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ

พ่อแม่ที่เป็นพิษ สามารถเป็นรากเหง้าของปัญหาหลายประการในเด็ก ตั้งแต่ปัญหาทางอารมณ์ สุขภาพจิต ไปจนถึงความสัมพันธ์ในอนาคต  การตระหนักรู้และพยายามปรับปรุงตัวจะช่วยทำลายวงจรแห่งความเจ็บปวดนี้ และสร้างอนาคตที่ดีขึ้นสำหรับตนเองและรุ่นต่อไป สิ่งสำคัญที่สุดคือการแสดงความรักและความเข้าใจต่อลูกอย่างไม่มีเงื่อนไข และการเป็นพื้นที่ปลอดภัยที่ลูกสามารถเติบโตภายใต้ความสัมพันธ์ที่แข็งแกร่ง มีสุขภาพจิตดี และเป็นตัวเองได้อย่างเต็มที่

 

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

ทำไมเด็กไทยพบจิตแพทย์เพิ่มขึ้น หรือ “พ่อแม่ Toxic” มีส่วนทำลูกจิตป่วย?

การขึ้นเสียงใส่ลูกส่งผลกระทบระยะยาว การพูดด้วยอารมณ์โมโหส่งผลเสียต่อลูก

ทำไมไม่ควรห้ามเด็กร้องไห้ การห้ามน้ำตา ทำร้ายใจเด็ก มากกว่าที่คิด!

มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!