การ เกา จากอาการคันหลากหลายสาเหตุ สามารถเกิดขึ้นได้ตลอดทั้ง 3 ฤดู ทั้งฤดูหนาวจากผิวแห้ง, ฤดูฝนจากการถูกยุงกัด ไปจนถึงฤดูร้อนจากอาการแพ้เหงื่อ ล้วนแล้วแต่ก่อให้เกิดพฤติกรรมการเกาผิวหนังในเด็ก สาเหตุหลักของอาการอักเสบบนผิวหนัง แต่ปัญหาคันผิวหนังในแต่ละฤดูกาลถือเป็นปัญหาที่ไม่รุนแรง และสามารถป้องกัน ดูแลได้ที่บ้าน เพื่อให้เด็กมีสุขภาพผิวที่ดีตลอดทุกฤดูกาล
เด็กคัน เกา จากอากาศเย็นในฤดูหนาว
ในฤดูหนาว หรือสถานที่อากาศเย็นสามารถทำให้ผิวเกิดอาการแห้งได้ รวมไปถึงผิวของเด็กด้วยเช่นกัน หากไม่ทำการดูแลจะทำให้เด็กเกิดอาการ คัน และหากมีวิธีการดูแลผิวของลูกผิดวิธีจะยิ่งเพิ่มความเสี่ยงทำให้เกิดอันตรายของผิวลูกได้ เช่น การอาบน้ำอุ่นมากเกินไป ทำให้ผิวของเด็กเกิดอาการระคายเคืองแทนที่จะได้รับความอบอุ่น เป็นต้น
การดูแลผิวเด็กในฤดูหนาวไร้การเกาจากความคัน
- ระวังน้ำอุ่นจัด : เมื่ออากาศหนาว สิ่งแรกที่คุณพ่อคุณแม่ต้องคิดถึงเป็นอันดับแรกคือการพาลูกไปอาบน้ำอุ่นเพื่อให้ร่างกายอบอุ่น แต่ในความเป็นจริงแล้วการอาบน้ำอุ่นบ่อย ๆ จะส่งผลเสียต่อผิวของลูกมากกว่าการอาบน้ำด้วยอุณหภูมิปกติ อาจทำให้ลูกเกิดอาการคันมากกว่าเดิม เนื่องจากน้ำอุ่นจะทำการล้างไขมันบนผิวหนังที่ทำหน้าที่ปกป้องผิวออกไปด้วยนั้นเอง รวมไปถึงควรหลีกเลี่ยงการขัดผิวที่แรงมากเกินไป ที่อาจทำลายชั้นไขมันด้วย
- ทาครีมเด็กเพิ่มความชุ่มชื้น : คุณพ่อคุณแม่ควรหาซื้อครีมที่มีส่วนผสมกับผิวของเด็กเพื่อหลีกเลี่ยงอาการคัน และอาการระคายเคือง ควรทาให้ลูกทันทีหลังอาบน้ำเพื่อความชุ่มชื้น แต่ไม่ควรใช้เยอะ ควรทาอย่างเบาบางก็พอ หรือใช้เบบี้ออยล์ผสมกับน้ำระหว่างอาบน้ำก็สามารถช่วยลดอาการคันจากอากาศหนาวเย็นได้เช่นกัน
- เสื้อผ้าลดการระคายเคือง : การใส่เสื้อผ้าที่มีความนุ่มต่อผิวสัมผัสของลูก และให้ความอบอุ่นในฤดูหนาวได้ดี สามารถช่วยลดอาการระคายเคืองได้ ควรหลีกเลี่ยงเสื้อผ้าที่มีส่วนผสมของใยสังเคราะห์
- ให้ลูกดื่มน้ำมากขึ้นในฤดูหนาว : สาเหตุที่ต้องให้เด็กดื่มน้ำมากกว่าปกติในช่วงที่พบเจอกับอากาศหนาว เนื่องจากการสูญเสียน้ำของผิว ทำให้ผิวแห้งและมีอาการคัน การดื่มน้ำในปริมาณที่มากขึ้น 8-9 แก้วต่อวันจะสามารถช่วยแก้ปัญหานี้ได้
แต่ถ้าหากเด็กมีอาการ คัน และระคายเคืองผิวมากในฤดูหนาว ควรพาลูกไปพบแพทย์ทางผิวหนัง เพื่อรับการวินิจฉัย และรับคำแนะนำด้านการรักษาต่อไป ไม่ควรซื้อยามาใช้เอง เนื่องจากผิวเด็กมีความบอบบางกว่าผู้ใหญ่ค่อนข้างมาก
บทความที่เกี่ยวข้อง : 7 สิ่งที่แม่ต้องทำ เพื่อฟื้นฟูสภาพ ลูกผิวแห้ง
ลูก เกา จากยุงลายตัวร้ายในฤดูฝน
การระบาดของยุงลายในฤดูฝน เป็นอันตรายต่อทุกคน คุณพ่อคุณแม่จึงควรสอนให้ลูกรู้วิธีการป้องกันยุงลายที่ถูกต้อง เพื่อหลีกเลี่ยงการ เกา ทางผิวหนัง ทำให้ผิวหนังเกิดอาการอักเสบได้ในอนาคต และลดโอกาสเกิดโรคไข้เลือดออกไปในตัวได้ด้วย รวมไปถึงการแก้ปัญหาเมื่อถูกยุงกัด เป็นต้น
ทำอย่างไรเมื่อลูกเกาผิวจากตุ่มยุงลาย
เพื่อเป็นการป้องกันลูกให้รอดพ้นจากยุงลาย บ่อเกิดของพฤติกรรมการเกาผิวหนัง และโรคไข้เลือดออก ควรให้ลูกทายากันยุงในตอนกลางคืน หากต้องมีการเดินทาง หรือทำกิจกรรมใด ๆ ข้างนอกบ้านในตอนกลางคืน แต่หากลูกมีอาการเกาคันจากตุ่มยุงกัดสามารถแก้ได้ ดังนี้
- อย่าให้ลูกเกาตนเอง : หากปล่อยให้เด็กเกาจะทำให้ผิวหนังเกิดอาการอักเสบ เนื่องจากเด็ก ๆ มักชอบเกาทันทีที่รู้สึกว่าตนเองคันผิวหนัง นอกจากนี้ยังสามารถป้องกันไม่ให้ลูกเกาตนเองทางอ้อมได้ด้วยการตัดเล็บของลูกให้สั้นเพื่อลดโอกาสการเกิดผิวอักเสบจากการเกาได้
- ล้างทำความสะอาด : ล้างผิวบริเวณที่ถูกยุงกัดด้วยน้ำอุ่นสะอาด และสบู่ เพื่อลดอาการคันที่เกิดขึ้น และช่วยให้ตุ่มจากยุงกัดหายได้ไวขึ้น
- ใช้ยาบรรเทาอาการ : ปัจจุบันมีตัวยาที่ใช้ทาผิวหนังบริเวณที่ถูกยุงกัดตามร้านยาทั่วไปที่หาซื้อได้ค่อนข้างง่าย เช่น ไฮโดรคอร์ติโซน (Hydrocortisone) หรือ คาลาไมน์ (Calamine) เป็นต้น สามารถใช้ทาได้เรื่อย ๆ จนกว่าอาการคันจะหายไป ระหว่างที่ใช้ตัวยาควรดูแลให้ลูกไม่เกาผิวตนเองด้วย
นอกจากนี้ยังสามารถบรรเทาอาการได้ด้วยการทานยาที่สามารถช่วยบรรเทาอาการคันได้แต่หากอาการรุนแรง คันผิวหนังเป็นเวลานาน หรือมีอาการผิดปกติที่ผิวหนังเมื่อเด็กเกา ควรพาเด็กเข้าพบแพทย์เพื่อรับการรักษาที่ถูกต้อง
บทความที่เกี่ยวข้อง : 8 วิธีรับมือเเบบธรรมชาติเมื่อทารกโดน ยุงกัด
เหงื่อจากฤดูร้อน สาเหตุจากการ เกา ที่เลี่ยงได้ยาก
เมื่ออากาศร้อนสิ่งที่ตามมาคือ “เหงื่อ” ถือเป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้เด็กเกาผิวหนังจากอาการ “แพ้เหงื่อ” ถือเป็นโรคภูมิแพ้ผิวหนังอักเสบ (Atopic Dermatitis) ชนิดหนึ่ง ซึ่งเกิดได้จาก 2 ปัจจัย คือ การกำเริบของอาการผิวหนังที่เป็นอยู่แล้วผ่านเหงื่อ และเกิดจากผื่นลมพิษซึ่งถือเป็นผลกระทบจากการแพ้เหงื่อโดยตรง อาการนี้พบได้ในทุกเพศทุกวัยโดยเฉพาะผู้ที่มีประวัติเป็นโรคภูมิแพ้ต่าง ๆ นอกจากจะต้องระวังอาการแพ้เหงื่อในเด็กช่วงฤดูร้อนแล้ว การออกกำลังกายที่ทำให้เกิดเหงื่อก็ทำให้มีความเสี่ยงได้เช่นกัน
ทำอย่างไรเมื่อลูกแพ้เหงื่อตนเองในหน้าร้อน
กรณีเด็กมีประวัติอาการภูมิแพ้อยู่แล้ว ต้องคอยสังเกตอาการของเด็กในฤดูร้อนให้ดี เนื่องจากหากเด็กแพ้เหงื่อตนเองจะมีอาการคัน และเกาผิวหนังตนเอง หากรู้ตัวช้าไปจนเกิดอาการอักเสบอาจทำให้การรักษาทำได้ยากมากยิ่งขึ้น
- ระวังการออกกำลังกาย : หากเด็กมีอาการแพ้อยู่แล้ว ต้องหลีกเลี่ยงกิจกรรมที่ส่งผลให้เกิดเหงื่อได้ง่ายในฤดูร้อน ต้องให้เด็กระวังเรื่องนี้ไว้ตลอด หากเด็กต้องการออกกำลังกาย ควรออกกำลังกายชนิดเบา ในพื้นที่อากาศถ่ายเทได้สะดวก เพื่อลดอัตราการเกิดเหงื่อจนทำให้เกิดอาการคันตามมา หากผิวหนังมีเหงื่อไม่ควรปล่อยไว้เป็นเวลานานควรรีบเช็ดเหงื่อออกทันที
- อาหารเผ็ดร้อนในหน้าร้อน : การให้เด็กทานอาหารที่มีรสเผ็ดจะยิ่งเพิ่มโอกาสให้มีเหงื่อออกตามจุดต่าง ๆ ของร่างกายมากกว่าผู้ใหญ่ เนื่องจากเด็กเล็กส่วนมากจะไม่สามารถรับรสเผ็ดได้เท่ากับคนในวัยอื่น
- ทำความสะอาดเมื่อมีเหงื่อมาก : หากมีเหงื่อออกมา อาจเสี่ยงให้เกิดอาการคัน และเกา การอาบน้ำทำความสะอาดผิวหนังเป็นวิธีที่สามารถทำได้เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาดังกล่าว เมื่ออาบน้ำแล้วให้เช็ดผิวหนังให้แห้ง และทาโลชั่นให้ผิวเกิดความชุ่มชื้นลดอาการระคายเคืองในเด็ก
- ให้ความสำคัญกับเสื้อผ้า : เสื้อผ้าที่ใส่ในฤดูร้อนควรเป็นชุดที่ใส่สบาย สามารถระบายอากาศได้ดี แต่ก็ไม่ควรให้บางจนเกินไป เพราะจะทำให้ผิวหนังของเด็กสัมผัสกับแสงแดดโดยตรงจะยิ่งทำให้เกิดอาการแพ้เหงื่อได้
หากมีอาการแพ้เหงื่อกำเริบควรทานยาตามที่แพทย์สั่งเพื่อลดอาการ และควบคุมไม่ให้เกิดการอักเสบมากขึ้น หรืออาจรักษาร่วมกับการใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่มีส่วนผสมจากธรรมชาติก็สามารถช่วยลดอาการคันบนผิวหนังได้เช่นกัน
ที่มา : si.mahidol.ac.th , pobpad.com , si.mahidol.ac.th , chulalongkornhospital.go.th , pobpad.com
บทความที่น่าสนใจ
ผื่นคัน เกาแล้วลาม วิธีแก้อาการคัน ผดผื่น ตุ่มแดง จากผื่นภูมิแพ้ผิวหนังในเด็ก
อาการคันของคนผื่นตั้งครรภ์ เรื่องคัน คัน ของแม่ตั้งครรภ์
ผื่นที่ผิวหนังจากเชื้อแบคทีเรียในเด็ก
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!