X
theAsianparent Thailand Logo
theAsianparent Thailand Logo
คู่มือสินค้าเข้าสู่ระบบ
  • อยากท้อง
  • ตั้งครรภ์
    • คำนวณวันคลอด
    • ฉันกำลังตั้งครรภ์
    • ไตรมาสที่ 1
    • ไตรมาสที่ 2
    • ไตรมาสที่ 3
    • Project Sidekicks
    • ตั้งชื่อลูก
    • การให้นมลูก
  • สุขภาพและโภชนาการ
    • โภชนาการ
    • สุขภาพ
  • ลูก
    • ทารกแรกเกิด
    • ทารก
    • เด็กวัยหัดเดิน
    • เด็กก่อนวัยเรียน
    • เด็ก
    • เด็กก่อนวัยรุ่น และวัยรุ่น
  • ชีวิตครอบครัว
    • ความรักและความสัมพันธ์
    • การเลี้ยงลูก
    • มุมคุณพ่อ
    • ประกันชีวิต
    • การวางแผนการเงิน
    • ความรัก และ เซ็กส์
  • การศึกษา
    • เด็กวัยประถม
    • โรงเรียนประถม
    • มัธยมศึกษา
    • แบบฝึกหัดและข้อสอบ
    • แนะแนวการศึกษาต่างประเทศ
  • ไลฟ์สไตล์
    • ดวง
    • ทำนายฝัน
    • สีมงคล
    • บทสวดมนต์
    • ข่าว
    • ดูแลบ้าน
    • แนะนำโดย TAP
    • อีเว้นท์
  • ที่เที่ยว
    • เที่ยวไทย
    • เที่ยวต่างประเทศ
    • ที่พัก และ โรงแรม
  • ที่กิน
    • ร้านอร่อย
    • ร้านอร่อยสำหรับเด็ก
    • คาเฟ่
    • เมนูอาหาร
  • ผู้หญิง
    • แฟชั่น
    • ความงาม
    • ฟิตเนส
  • TAPpedia
  • วิดีโอ
    • การตั้งครรภ์
    • ทารก
    • คำแนะนำในการเลี้ยงลูก
    • การให้นมบุตร
    • อาหารเสริมทารก & โภชนาการ
    • เด็กเล็ก
  • ชอปปิง
  • อีเว้นท์
    • TAP Awards Winners
    • TAP idol
    • TAP x Safari Largest Treasure Hunt
  • #สอนลูกเรื่องเงิน ฉบับพ่อแม่
  • VIP

พ่อแม่ต้องรู้ วิธีเลี้ยงลูกให้ฉลาดสมวัย ตั้งแต่เด็กจนโต

บทความ 8 นาที
พ่อแม่ต้องรู้ วิธีเลี้ยงลูกให้ฉลาดสมวัย ตั้งแต่เด็กจนโต

แน่นอนว่าใคร ๆ ก็อยากเลี้ยงให้ลูกเป็นเด็กฉลาด แต่หาก เลี้ยงลูกให้ฉลาดสมวัย ล่ะ จะเป็นทางเลือกที่ดีกว่าหรือไม่ ?

วิธีเลี้ยงลูกให้ฉลาด คือการปล่อยให้การเรียนรู้ของลูกเป็นไปโดยธรรมชาติ ย่อมจะส่งผลให้ลูกมีพัฒนาการต่าง ๆ ที่สมวัย การบังคับ  คาดหวัง หรือผลักดันให้ลูกไปไกลเกินกว่าความพร้อม ยิ่งจะส่งผลเสียไม่ว่าทางใด ก็ทางหนึ่ง นายแพทย์ประเสริฐ ผลิตผลการพิมพ์ หัวหน้าภาควิชาจิตเวช จิตแพทย์เด็ก โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ ได้เคยกล่าวว่า เลี้ยงลูกแบบไหน ก็ได้แบบนั้น แน่นอนว่าใคร ๆ ก็อยากเลี้ยงให้ลูกเป็นเด็กฉลาด แต่หากมี วิธีเลี้ยงลูกให้ฉลาดสมวัย ล่ะ จะเป็นทางเลือกที่ดีกว่าหรือไม่ ?

วิธีเลี้ยงลูกให้ฉลาดสมวัย

วิธีเลี้ยงลูกให้ฉลาดสมวัย

ลูกน้อยแรกเกิดถึง 12 เดือนแรก

ลูกน้อยในช่วง 12 เดือนแรก จะตัวติดกับแม่มาก ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วง 3 เดือนหลังคลอด เรียกได้ว่าแทบจะเป็นคน ๆ เดียวกันเลยก็ว่าได้ ใน 3 – 6 เดือนต่อมา แม้จะค่อย ๆ ห่างกันได้บ้าง แต่ก็ยังจะต้องดูแลกันอย่างใกล้ชิด ปัญหาหนึ่งของแม่หลังคลอด ก็คือการลาคลอดได้เพียง 3 เดือน ซึ่งยังไม่เพียงพอสำหรับการดูแลลูกวัยทารกอยู่ดี ความสัมพันธ์ของแม่ลูก จึงอาจอ่อนแอลง

เลี้ยงลูกแรกเกิดถึง 3 เดือน

ไม่กี่วันหลังคลอด คุณแม่อาจจะได้เห็นรอยยิ้มของลูกเป็นครั้งแรก พัฒนาการสมองของทารกเริ่มขึ้นตั้งแต่วันแรกที่พวกเขาเกิดมา ลูกมีสัญชาตญาณการยิ้ม ร้องไห้ ส่งเสียง และตอบสนองต่อสัมผัสของคุณแม่ได้ การผูกสายใยสัมพันธ์ระหว่างแม่ลูก จึงเป็นสิ่งที่สำคัญ

  • การเคลื่อนไหวที่ยังไม่ประสานกันดี

ถ้าหากแม่ลองสังเกตการเคลื่อนไหวของลูก จะเห็นว่าการขยับแขน ขา ยังไม่ประสานกันดี คุณพ่อคุณแม่ไม่ควรควบคุมการเคลื่อนไหวของลูก ทารกน้อยควรจะเคลื่อนที่อย่างเป็นอิสระ แม่อาจจะช่วยนำทิศทางของแขน และขาให้ไปในทิศทางเดียวกันได้บ้าง เหตุผลเพื่อให้แม่และลูกได้สัมผัสใกล้ชิดกันมากกว่า

  • สัมผัสรักจากพ่อแม่เป็นสิ่งสำคัญที่สุด

อย่างเช่นที่กล่าวไปแล้วว่า ในช่วงแรกคลอด จนถึง 3 เดือนนั้น เป็นช่วงเวลาที่ลูกและแม่ จะตัวติดกันมาก ๆ หลังจากนั้นก็จะไม่ได้อุ้มอยู่ในอกนานเท่ากับในช่วงเวลานี้อีกแล้ว อีกทั้งความใกล้ชิด และการสัมผัสจากพ่อแม่สู่ลูก เป็นเสมือนเคล็ดลับที่จะช่วยให้ลูกรู้สึกปลอดภัย และมีพัฒนาการที่เหมาะสมด้วย อุ้มเข้าไว้ในอกบ่อย ๆ กอด หอม และแสดงความรักที่มีล้นในอกแม่ แม้ในเวลานี้ ลูกยังพูดไม่ได้ ยังฟังไม่เข้าใจ แต่คุณพ่อคุณแม่ก็ต้องหมั่นพูดกับลูกบ่อย ๆ ใช้น้ำเสียงที่หลากหลาย ช้าบ้าง เร็วบ้าง ดังบ้าง เบาบ้าง ลองสังเกตสีหน้าของลูกเวลาได้ยินว่าสนุกมีความสุขมากเพียงใด

เลี้ยงลูก 3 – 6 เดือนแรก

ลูกน้อยอายุ 3 เดือนเริ่มมีวิสัยทัศน์ในการมองเห็นที่กว้างขึ้นลูก ลูกจึงพอจะจดจำสิ่งรอบ ๆ ตัว และคนใกล้ชิดได้บ้างแล้วว่า ใครกันนะ ที่เขามองเห็นอยู่ตลอดเวลา ลูกจะเริ่มเชื่อใจคุณพ่อคุณแม่มากขึ้น ส่วนร่างกายก็เริ่มมีความแข็งแรงมากขึ้นด้วย เด็ก ๆ จะเรียนรู้การคว่ำตัว การเคลื่อนที่ ไปจนถึงการลุกขึ้นนั่ง ฟังดูแล้วน่าตื่นเต้นทีเดียว เป็นพัฒนาการที่คุณพ่อคุณแม่จะต้องปรบมือให้แน่ ๆ เลย

สิ่งสำคัญก็คือ เมื่ออายุครบ 6 เดือน ก็ได้เวลาที่ลูกจะได้ลิ้มลองอาหารอื่น ๆ นอกจากนมแม่เป็นครั้งแรก เลือกสรรอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการครบครัน เพื่อเสริมสร้างกระบวนการภายในให้พร้อมสำหรับการเรียนรู้ของลูกต่อไป

  • จุดเริ่มต้นของทักษะการสื่อสาร

เช่นเดียวกันกับการดูแลลูกในทุกช่วงวัย คือการปล่อยให้เขาได้เคลื่อนไหวอย่างที่ใจอยาก คุณพ่อและคุณแม่คอยอยู่ใกล้ ๆ เพื่อให้ลูกมีโอกาสพัฒนาระบบประสาทในทุก ๆ ด้าน ทั้งการสัมผัส การมองเห็น การได้ยิน รวมถึงยิ้มให้ลูก และหัวเราะกับลูกบ่อย ๆ ถ้าคุณแม่เลียนแบบเสียง และท่าทางของลูก ลูกก็อาจจะทำแบบเดียวกันกลับมาด้วย

ลูกในวัยนี้มีพัฒนาการด้านการมองเห็นที่ดีขึ้นแล้ว ของเล่นที่มีสีสันสดใส สีตัดกัน จะช่วยดึงดูดสายตา และความสนใจของลูกได้ ถ้าคุณแม่หยิบสิ่งของมาไว้หน้า จะเห็นว่าลูกพยายามอย่างมากทีเดียว ที่จะจับหรือคว้าสิ่งเหล่านั้น ซึ่งเป็นการเล่นที่ถูกใจลูกมาก

  • การหยิบจับ และสัมผัส

หากคุณแม่นำของใช้ที่ไม่เป็นอันตราย มาไว้ในสายตาของลูก ลูกก็อาจจะเอื้อมมือสัมผัส และพยายามที่จะหยิบคว้าสิ่งของชิ้นนั้น เล่นกิจกรรมที่มีการสัมผัสกันบ่อย ๆ อย่างเช่น จั๊กจี๊เบา ๆ ปูไต่ คุณแม่จะเรียกเสียงหัวเราะ และรอยยิ้มจากลูกไปได้เยอะแยะเลย

วิธีเลี้ยงลูกให้ฉลาดสมวัย

เลี้ยงลูกวัย 6 – 9 เดือน

ลูกวัยนี้ยิ้ม และหัวเราะง่ายมาก ลองหยิบกระจกมาให้ลูกส่องดูตัวเอง ลูกก็อาจจะชอบใจแล้ว และยังสนใจในการค้นหาอีกด้วย อย่างเช่น เอาของเล่นไปหลบไว้ข้างหลังแม่ หรือให้ลูกหาว่าอยู่มือซ้าย หรือมือขวา เล่นจ๊ะเอ๋ แม่หายไปไหนนะ ? อย่ารีบร้อนที่จะเอาคำตอบจากลูกมากเกินไป ให้เวลาลูกสักประมาณ 10 วินาที

ลูกจะมีโทนเสียงประหลาด ๆ มาอีกหนึ่งคอลเลคชั่นแล้วด้วย คุณแม่จะพบว่าลูกชอบทำเสียงใหม่ ๆ แล้วก็สนใจในวัตถุที่ตัวเองถืออยู่ในมือเอามาก ๆ

  • พูดคุยกับลูก ให้ลูกทำความรู้จักกับตัวเอง

การพูดคุยกับลูกบ่อย ๆ ช่วยส่งเสริมพัฒนาการให้ลูกได้เสมอ ในช่วงวัยนี้ คุณพ่อคุณแม่สามารถเรียกชื่อลูกได้บ่อย ๆ เท่าที่ต้องการ และเป็นการดีเสียด้วย เพราะลูกจะจดจำชื่อของตัวเอง แต่ต้องระวังอย่างพูดเสียงดัง หรือส่งเสียงดังเกินไป เพราะจะทำให้ลูกรู้สึกหวาดกลัวได้

ให้ลูกดูหนังสือภาพ เล่นหุ่นมือตุ๊กตา (hand puppet) หรือเกมปริศนา (puzzle) ง่าย ๆ จะยิ่งกระตุ้นความสงสัย อยากรู้อยากเห็น และอยากเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ

เลี้ยงลูกวัย 9 –  12 เดือน

หลังจากระยะเวลาเกือบปี ที่ลูกได้เรียนรู้วัตถุบางชิ้นภายในบ้าน และคุ้นเคยกับคนใกล้ชิด ตอนนี้ลูกน้อยก็ยิ่งสนใจ ใคร่รู้ในสิ่งใหม่ ๆ มากขึ้น เริ่มคลานไปผจญภัยรอบบ้านด้วยตัวเอง สงสัย และอยากจะทดสอบ และตรวจสอบด้วยการหยิบเข้าปาก คุณพ่อคุณแม่อาจจะต้องระวัง หากเรียกชื่อลูก ลูกก็อาจจะหันมาสนใจ เพราะตอนนี้เจ้าตัวน้อยรู้แล้วว่า ชื่อของตัวเองนั้น ชื่ออะไร

  • การผจญภัยของลูกน้อยนักสำรวจ

คุณแม่ คุณพ่อ และตัวเจ้าหนูน้อยเอง คงจะเป็นสิ่งมีชีวิตกลุ่มแรก ๆ ที่ลูกรู้จัก จากนี้ ลูกจะเริ่มเรียนรู้การมีปฏิสัมพันธ์กับคนอื่น ๆ มากขึ้น พวกเขาเริ่มสื่อสารได้มากขึ้นแล้ว และมักจะพาตัวเองไปรอบ ๆ ด้วยแขน และขา แถมยังสามารถหาของที่พ่อแม่ซ่อนเอาไว้ ขณะเล่นซ่อนแอบเจออีกด้วย

  • แนะนำให้ลูกรู้จักสิ่งของมากขึ้น

หลังจากจำชื่อของตัวเองได้แล้ว ลูกก็พร้อมที่จะเรียนรู้คำอื่น ๆ แล้วเช่นกัน คุณพ่อคุณแม่อาจจะเริ่มแนะนำของใช้ในบ้านให้กับลูก แน่นอนว่าต้องไม่เป็นอันตรายกับลูกด้วย หรือแนะนำให้ลูกรู้จักอวัยวะต่าง ๆ เวลาพูดกับลูก ก็ใช้ท่าทางประกอบไปด้วย

คุณพ่อคุณแม่พยายามใช้คำพูดที่ดี คำชมเชย และหลีกเลี่ยงคำพูดในด้านลบ เช่น หลีกเลี่ยงคำว่า ไม่ดี ไม่ใช่ ไม่ได้ หรือคำแย่ ๆ และหมั่นชมลูกด้วยคำว่า ดีมาก เก่งมาก จะเพิ่มความเชื่อมั่นในตัวเอง และความมั่นใจให้กับลูก

วิธีเลี้ยงลูกให้ฉลาดสมวัย

เลี้ยงลูกน้อยวัยซน 2 ขวบขึ้นไป ให้ฉลาดสมวัย

เลี้ยงลูกวัย 2 – 3 ขวบ

สำหรับลูกน้อยวัย 2 ขวบ พวกเขาจะเริ่มมีความอยากรู้อยากเห็นพร้อมที่เรียนรู้ และตื่นตัวอยู่ตลอดเวลา ที่สำคัญคือ ดื้อขึ้นมาก ๆ อีกด้วย ไม่เพียงแค่นั้นเด็ก ๆ ยังมีความสามารถในการกลั้นอีกหลายอย่าง เช่น การกลั้นฉี่ กลั้นอึ บางครั้งลูกอาจจะไม่ยอมอึ ไม่ยอมฉี่ ทั้ง ๆ ที่ปวด ดังนั้น คุณพ่อคุณแม่อย่าไปกดดันลูกมาก ปล่อยให้เป็นไปตามธรรมชาติจะดีกว่า

  • ลูกน้อยจอมพลัง

พัฒนาการที่สำคัญอีกอย่างของวัยซน 2 – 3 ขวบนี้ ก็คือ กล้ามเนื้อมัดใหญ่บริเวณแขนขา พวกเขาจะใช้พลังแขนและขาเยอะมาก ทั้งวิ่ง ทั้งเดิน จนพ่อแม่ตามไม่ทันเลยทีเดียว แถมยังขว้างปาสิ่งของด้วยพลังอันล้นเหลืออีกด้วย หากว่าลูกขว้างปา หรือเตะข้าวของ คุณพ่อคุณแม่อย่าเพิ่งอารมณ์เสีย หรือดุด่าลูก เปลี่ยนมาเป็นการสอน หรือชวนลูกไปเล่นโยนลูกบอล ลูกโป่งแทน ก็จะช่วยเรื่องพัฒนาการเข้าไปได้อีก

เด็ก 3 ขวบ จะเริ่มสร้างตัวตน และแสดงออกมา ตั้งแต่การกิน เดิน เรียน เล่น ทำงาน มีความรัก คุณพ่อคุณแม่ควรจะสังเกต และคอยให้คำแนะนำ ดีกว่าจะห้าม หรือพยายามสร้างตัวตนของลูก แทนตัวของเขาเอง

เลี้ยงลูกวัย 4 – 5 ขวบ

พัฒนาการของเด็กวัยนี้จะเน้นที่กล้ามเนื้อมัดเล็ก โดยเฉพาะนิ้วมือ ลูกน้อยสามารถฝึกทักษะด้านนี้ ด้วยการวาดภาพ ระบายสี พับกระดาษ เล่นบทบาทสมมติ วิ่งไล่จับ ปีนต้นไม้ และอ่านหนังสือ ดีกว่าการฝึกนิ้วมือด้วยการเล่นโทรศัพท์มือถือ หรือแท็บเล็ต รวมทั้งอย่าบังคับให้ลูกต้องเขียนพยัญชนะภาษาไทยให้ได้ทั้งหมด เขียนตัวอักษรภาษาอังกฤษให้ครบ เพราะหน้าที่ของลูกในวัยนี้คือการเล่น ไม่ใช่การเขียน อย่าลืมว่าลูกยังต้องเรียนหนังสือไปอีกนาน ด้วยทักษะการใช้นิ้วมือที่เพิ่มขึ้นนี้ อาจทำให้บางบ้าน มีฝาผนัง ประตู ข้าวของ และเฟอร์นิเจอร์ที่เต็มไปด้วยรอยขีดเขียนเต็มไปหมด

  • ความหลากหลายทางเพศ

อีกสิ่งหนึ่งที่หนูน้อยสนใจไม่แพ้กันคือ เพศศึกษา และเริ่มมีกิริยาท่าทางตามเพศที่เขาจะเป็น ไม่ควรปิดกั้นลูก หน้าที่ของพ่อแม่เพียงแค่บอกว่า โลกใบนี้มีความหลากหลายทางเพศมาก แม้วิทยาศาสตร์อาจจะแบ่งลักษณะอวัยวะออกมาเพียงสองก็ตาม

เลี้ยงลูกวัย 6 – 12 ขวบ

หนูน้อยวัยนี้มีหน้าที่ส่วนใหญ่ กับการตื่นนอนเพื่อไปโรงเรียน และเป็นวัยที่อยากจะสร้างผลงาน อยากมีเพื่อน และสร้างกลุ่ม สร้างทีมที่ตัวเองมีส่วนร่วม การสร้างของเด็กจะประกอบด้วย 3Cs ได้แก่

  • Compete – เข้าไปเพื่อแข่งขัน ต่อสู้ ชิงดีชิงเด่นกับเพื่อน ๆ
  • Compromise – หลังจากแข่งขัน ลูกต้องเรียนรู้ที่จะประนีประนอม รอมชอม
  • Coordinate – เพื่อนำไปสู่ความร่วมมือต่าง ๆ เช่นการร่วมกันเล่น ร่วมกันทำการบ้าน และร่วมทำโครงการด้วยกัน เป็นต้น

วิธีเลี้ยงลูกให้ฉลาดสมวัย

เลี้ยงลูกวัยรุ่น 12 – 18 ขวบ

พอโตขึ้นเป็นวัยรุ่น เด็กจะเริ่มหาอัตลักษณ์ของตัวเอง ลูกอาจจะมีพฤติกรรมประหลาด ๆ นั่นก็เพราะเขายังอยู่ในช่วงของการค้นหาอัตลักษณ์ และตัวตนที่เขาเป็นอยู่ ลูกอาจจะเริ่มมีความรักใคร่เกิดขึ้น มีกลุ่มก๊วน ไปไหนไปกัน และมีความภักดีต่อกลุ่ม ลูกเชื่อเพื่อนมาก พูดอะไรก็ไม่ค่อยฟัง และอาจทำให้พ่อแม่โกรธ และเสียใจ ความเข้าใจ จึงเป็นสิ่งที่จะช่วยคุณพ่อคุณแม่ที่มีลูกในวัยนี้ได้มากที่สุด

พ่อแม่ควรจะฟังสิ่งที่ลูกพูด มากกว่าจะดุด่าว่าลูกพูดไม่ฟัง พูดไม่เข้าท่า เพราะนั่นจะยิ่งทำให้คุณไม่มีโอกาสได้รู้ และเข้าใจเลยว่าลูกคิดอะไรอยู่ หากจะไปถาม เด็กวัยนี้ก็คงจะไม่ยอมอธิบายง่าย ๆ เอาเสียด้วย

บทความจากพันธมิตร
เคล็ดลับเนรมิตห้องครัวให้เรียบหรู ทันสมัย และถูกใจคนใช้งานจริง
เคล็ดลับเนรมิตห้องครัวให้เรียบหรู ทันสมัย และถูกใจคนใช้งานจริง
ชี้เป้า ประกันสุขภาพลูก ลดภาระทางการเงินเมื่อลูกเจ็บป่วย ช่วยให้ได้รับการรักษาอย่างดีที่สุด
ชี้เป้า ประกันสุขภาพลูก ลดภาระทางการเงินเมื่อลูกเจ็บป่วย ช่วยให้ได้รับการรักษาอย่างดีที่สุด
ประกันสำหรับเด็ก เลือกแบบไหนดี มีไว้อุ่นใจ คุ้มครองครบ มีทุนสำรองเพื่ออนาคตของลูกรัก
ประกันสำหรับเด็ก เลือกแบบไหนดี มีไว้อุ่นใจ คุ้มครองครบ มีทุนสำรองเพื่ออนาคตของลูกรัก
เพราะการศึกษาลูกเป็นสิ่งสำคัญ เพิ่มความมั่นคงทางการเงินในอนาคต ด้วยประกันสะสมทรัพย์ Saving 20/10
เพราะการศึกษาลูกเป็นสิ่งสำคัญ เพิ่มความมั่นคงทางการเงินในอนาคต ด้วยประกันสะสมทรัพย์ Saving 20/10

การเลี้ยงดูลูกน้อยให้เติบใหญ่ แต่ละช่วงวัย ก็มีสิ่งพ่อแม่จะต้องระมัดระวัง และใส่ใจ แตกต่างกัน แต่ไม่ว่าลูกจะเติบโตมาอย่างไร เชื่อว่าจะเป็นความภาคภูมิใจให้คุณพ่อคุณแม่ได้อย่างแน่นอน

ที่มา: thepotential , unicef , pregnancybirthbaby

บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ:

ชวนแม่ๆ มา เช็คพัฒนาการลูก อะไรบ้างที่คู่มือเลี้ยงลูกไม่ได้บอก

เลี้ยงลูก 1 คนจนโตใช้เงินถึง 1 ล้าน จริงหรือ? กระทู้ร้อนพันทิป ถกเถียงกันใหญ่

ชม 5 ครั้ง ดุ 1 ครั้ง เทคนิคเลี้ยงลูกให้ได้ดี จากคุณหมอ รพ.เด็ก

มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!

Follow us on:
facebook-logo instagram-logo tiktok-logo
img
บทความโดย

Khunsiri

  • หน้าแรก
  • /
  • ชีวิตครอบครัว
  • /
  • พ่อแม่ต้องรู้ วิธีเลี้ยงลูกให้ฉลาดสมวัย ตั้งแต่เด็กจนโต
แชร์ :
  • วิธีเลี้ยงลูกให้ประสบความสำเร็จ พ่อแม่ต้องอ่าน! วิธีเลี้ยงลูกให้ประสบความสำเร็จ เลี้ยงลูกให้ฉลาด วิธีจากวิจัย!

    วิธีเลี้ยงลูกให้ประสบความสำเร็จ พ่อแม่ต้องอ่าน! วิธีเลี้ยงลูกให้ประสบความสำเร็จ เลี้ยงลูกให้ฉลาด วิธีจากวิจัย!

  • เลี้ยงลูกให้ได้ดี เลี้ยงลูกให้ประสบความสำเร็จต้องทำอย่างไร?

    เลี้ยงลูกให้ได้ดี เลี้ยงลูกให้ประสบความสำเร็จต้องทำอย่างไร?

  • ลูกเหงื่อออกตอนนอน สัญญาณโรคร้ายที่พ่อแม่ต้องระวัง

    ลูกเหงื่อออกตอนนอน สัญญาณโรคร้ายที่พ่อแม่ต้องระวัง

  • กรุ๊ปเลือดแม่-ลูกไม่ตรงกัน มีผลกับสุขภาพลูกด้วยหรือ?

    กรุ๊ปเลือดแม่-ลูกไม่ตรงกัน มีผลกับสุขภาพลูกด้วยหรือ?

  • วิธีเลี้ยงลูกให้ประสบความสำเร็จ พ่อแม่ต้องอ่าน! วิธีเลี้ยงลูกให้ประสบความสำเร็จ เลี้ยงลูกให้ฉลาด วิธีจากวิจัย!

    วิธีเลี้ยงลูกให้ประสบความสำเร็จ พ่อแม่ต้องอ่าน! วิธีเลี้ยงลูกให้ประสบความสำเร็จ เลี้ยงลูกให้ฉลาด วิธีจากวิจัย!

  • เลี้ยงลูกให้ได้ดี เลี้ยงลูกให้ประสบความสำเร็จต้องทำอย่างไร?

    เลี้ยงลูกให้ได้ดี เลี้ยงลูกให้ประสบความสำเร็จต้องทำอย่างไร?

  • ลูกเหงื่อออกตอนนอน สัญญาณโรคร้ายที่พ่อแม่ต้องระวัง

    ลูกเหงื่อออกตอนนอน สัญญาณโรคร้ายที่พ่อแม่ต้องระวัง

  • กรุ๊ปเลือดแม่-ลูกไม่ตรงกัน มีผลกับสุขภาพลูกด้วยหรือ?

    กรุ๊ปเลือดแม่-ลูกไม่ตรงกัน มีผลกับสุขภาพลูกด้วยหรือ?

ลงทะเบียนรับคำแนะนำเรื่องการตั้งครรภ์พัฒนาการลูกในท้องได้ที่นี่
  • เตรียมตัวเป็นผู้ปกครอง
    • ก่อนตั้งครรภ์
    • การคลอด
    • ระยะการตั้งครรภ์
    • การคลอด
  • พัฒนาการลูก
    • ทารก
    • เด็กก่อนเข้าเรียน
    • ช่วงวัยของเด็ก
    • เด็กก่อนวัยรุ่น
  • ชีวิตครอบครัว
    • การวางแผนการเงิน
    • การเลี้ยงลูก
    • ความรัก และ เซ็กส์
  • ระยะการตั้งครรภ์
    • ไตรมาส 1
    • ไตรมาส 2
    • ไตรมาส 3
    • นมแม่และนมผง
  • โภชนาการ
    • สินค้าเด็ก
    • นมผง
    • เมนูอาหาร
    • สินค้าแม่
  • เพิ่มเติม
    • TAP สังคมออนไลน์
    • ติดต่อโฆษณา
    • ติดต่อเรา
    • Influencer Marketing (KOL)
    • มาเข้าร่วมกับเรา


  • Singapore flag Singapore
  • Thailand flag Thailand
  • Indonesia flag Indonesia
  • Philippines flag Philippines
  • Malaysia flag Malaysia
  • Sri-Lanka flag Sri Lanka
  • India flag India
  • Vietnam flag Vietnam
  • Australia flag Australia
  • Japan flag Japan
  • Nigeria flag Nigeria
  • Kenya flag Kenya
© Copyright theAsianparent 2023. All rights reserved
เกี่ยวกับเรา |ทีม|นโยบายความเป็นส่วนตัว |ข้อกำหนดการใช้ |แผนผังเว็บไซต์
  • เครื่องมือ
  • บทความ
  • ฟีด
  • โพล

เราใช้คุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์คอนเทนต์ที่ดีที่สุดให้กับคุณ. เรียนรู้เพิ่มเติมตกลง เข้าใจแล้ว

เราใช้คุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์คอนเทนต์ที่ดีที่สุดให้กับคุณ. เรียนรู้เพิ่มเติมตกลง เข้าใจแล้ว

theAsianparent heart icon
เราต้องการส่งแจ้งเตือนข้อมูลข่าวสารไลฟ์สไตล์ที่น่าสนใจไปให้กับคุณ