X
TAP top app download banner
theAsianparent Thailand Logo
theAsianparent Thailand Logo
คู่มือสินค้า
เข้าสู่ระบบ
  • อยากท้อง
  • ระยะการตั้งครรภ์
    • โภชนาการ เเม่ท้อง เเม่ให้นม
    • ไตรมาส 1
    • ไตรมาส 2
    • ไตรมาส 3
    • ตั้งชื่อลูก
  • แม่ผ่าคลอด
    • พัฒนาการเด็กผ่าคลอด
    • เตรียมตัวผ่าคลอด
    • สุขภาพเด็กผ่าคลอด
    • คู่มือคุณแม่ผ่าคลอด
    • การดูแลหลังผ่าคลอด
    • โภชนาการเด็กผ่าคลอด
  • หลังคลอด
    • คลอดธรรมชาติ
    • ผ่าคลอด
    • การให้นมลูก
  • สุขภาพและโภชนาการ
    • โภชนาการ
    • สุขภาพ
  • ลูก
    • ทารกแรกเกิด
    • ทารก
    • เด็กวัยหัดเดิน
    • เด็กก่อนวัยเรียน
    • เด็ก
    • เด็กก่อนวัยรุ่น และวัยรุ่น
  • ชีวิตครอบครัว
    • ความรักและความสัมพันธ์
    • การเลี้ยงลูก
    • มุมคุณพ่อ
    • ประกันชีวิต
    • การวางแผนการเงิน
    • ความรัก และ เซ็กส์
  • การศึกษา
    • เด็กวัยประถม
    • โรงเรียนประถม
    • มัธยมศึกษา
    • แบบฝึกหัดและข้อสอบ
    • แนะแนวการศึกษาต่างประเทศ
  • ผู้หญิง
    • แฟชั่น
    • ความงาม
    • ฟิตเนส
  • ที่เที่ยว
    • เที่ยวไทย
    • เที่ยวต่างประเทศ
    • ที่พัก และ โรงแรม
  • ที่กิน
    • ร้านอร่อย
    • ร้านอร่อยสำหรับเด็ก
    • คาเฟ่
    • เมนูอาหาร
  • ไลฟ์สไตล์
    • ดวง
    • ทำนายฝัน
    • สีมงคล
    • บทสวดมนต์
    • ข่าว
    • ดูแลบ้าน
    • แนะนำโดย TAP
    • อีเว้นท์
  • TAPpedia
  • วิดีโอ
    • การตั้งครรภ์
    • ทารก
    • คำแนะนำในการเลี้ยงลูก
    • การให้นมบุตร
    • อาหารเสริมทารก & โภชนาการ
    • เด็กเล็ก
  • ชอปปิง
  • #สอนลูกเรื่องเงิน ฉบับพ่อแม่
  • VIP

เลี้ยงลูกอย่างไรให้ห่างความรุนแรง เลี้ยงลูก อย่างไร? ไม่ให้ลูกตกเป็นเหยื่อ

บทความ 5 นาที
เลี้ยงลูกอย่างไรให้ห่างความรุนแรง เลี้ยงลูก อย่างไร? ไม่ให้ลูกตกเป็นเหยื่อ

การเลี้ยงลูก ถือเป็นภาระหน้าที่สำคัญของพ่อแม่ นอกจากจะต้องดูแลร่างกายเลี้ยงดูพวกเขาให้เจริญเติบโตอย่างสมบูรณ์แล้ว การดูแลจิตใจก็ถือเป็นหัวใจสำคัญในการเลี้ยงดูลูกด้วยเช่นกัน โดยเฉพาะการเลี้ยงลูกอย่างไรไม่ให้ลูกตกเป็นเหยื่อความรุนแรง สมัยก่อน เชื่อว่า การตีลูกนั้นจำเป็นในการอบรมสั่งสอน แต่ด้วยความไม่พอดีหรือไม่รู้ขีดจำกัดของการลงโทษจึงเผลอใช้ความรุนแรงในบางครอบครัว และอาจเข้าใจว่านี่คือวิธีแก้ปัญหาที่พ่อแม่ในทุกครอบครัวพึงกระทำ นอกจากนี้การเลี้ยงลูกด้วยการว่ากล่าวทำโทษด้วยถ้อยคำที่รุนแรง เพราะบางครอบครัวเลี้ยงลูกโดยใช้ทั้งการตีและดุด่าเด็กตั้งแต่เล็กจนโตจนกลายเป็นความชินชาต่อความรุนแรงที่กระทบต่อร่างกายและจิตใจ เลี้ยงลูกอย่างไรให้ห่างความรุนแรง

 

เลี้ยงลูก ไม่ใช้ความรุนแรง

เลี้ยงลูกอย่างไรให้ห่างความรุนแรง

  1. สิ่งแวดล้อมและการอบรมเลี้ยงดูให้เด็กมีอารมณ์ที่มั่นคง
  2. ทัศนคติในการเลี้ยงลูกของพ่อแม่มีความสำคัญต่อพัฒนาการของลูก
  3. สร้างทักษะในการจัดการกับปัญหาให้ลูก รู้จักการปรับตัวกับสถานการณ์
  4. การเลี้ยงลูกในช่วงวัยเด็กจึงส่งผลต่อพฤติกรรม บุคลิกภาพของเด็กเมื่อเติบโตขึ้น

 

ทั้งนี้การเลี้ยงลูกใน 4 ข้อ สามารถอธิบายในเชิงวิทยาศาสตร์ได้ว่า สมองส่วนที่ควบคุมดูแลเรื่องอารมณ์เริ่มทำงานตั้งแต่แรกเกิด เด็กที่ได้รับการดูแลอย่างอ่อนโยน ได้รับการโอบกอดสัมผัส มีการตอบสนองที่ดีก็จะเอื้อต่อการเจริญเติบโตของสมองส่วนนี้อย่างการเลี้ยงลูกตั้งแต่ช่วงแรกเกิดจนถึงวัย 6 ขวบจึงไม่ได้มีส่วนต่อพฤติกรรมของเด็กเท่านั้น แต่มีส่วนในการกำหนดโครงสร้างและการทำงานของสมองที่ควบคุมอารมณ์ ขณะที่เด็กถูกเลี้ยงดูอย่างละเลย ใส่ความรุนแรงทั้งตั้งใจเช่นการตีลูก และไม่ตั้งใจ เช่น เผลอใส่อารมณ์ แต่สมองก็จะเรียนรู้การกระทำที่ถูกละเลย การกระทำที่ก้าวร้าวนั้น และรับรู้หรือเข้าใจสังคมในทางบวกได้ยาก ฉะนั้นทางออกของปัญหาการเลี้ยงลูกในเรื่องความรุนแรง จึงต้องเริ่มต้นที่จากปัจจัยแวดล้อมในบ้านเป็นอันดับแรก

พ่อแม่ส่วนใหญ่เข้าใจว่า การเลี้ยงลูกเตรียมพร้อมในเรื่องเงิน ทั้งที่จริงแล้ว สิ่งที่พ่อแม่ควรทำความเข้าใจเป็นอันดับแรกคือ การเตรียมพร้อมตนเองในทางร่างกาย จิตใจและสังคม วางแผนการมีลูกทั้งคนแรกและคนที่สอง เพราะการมีลูกในจังหวะที่ไม่พร้อม อาจสร้างความลำบากในการเลี้ยงลูก มีความวิตกกังวลทั้งกับตัวเองและลูกได้ เช่น การมีลูกติดๆ กัน โดยทั่วไปคุณหมอแนะนำให้มีลูกห่างกันประมาณ 2-3 ปี เพราะเด็กอายุ 3 ขวบเริ่มดูแลตัวเองได้มากแล้ว เริ่มสนใจเล่นกับเพื่อน ไม่เกาะติดพ่อแม่มากเหมือนก่อน เมื่อมีน้องความรู้สึกก็ไม่กระทบกระเทือนมากเท่าไหร่ และคนน้องเองก็จะได้รับการดูแลอย่างเต็มที่

Advertisement

 

ทำไมเลี้ยงลูก จึงไม่ควรตีลูกบ่อย ๆ

ทุกวันนี้เรามีการรณรงค์เรื่องความรุนแรงต่อเด็ก  ดังนั้น เราควรเลี้ยงลูกอย่างไร ไม่ให้ลูกตกเป็นเหยื่อ ความรุนแรงจากการเลี้ยงดูของพ่อแม่ ถึงแม้ในประเทศไทยของเราจะยึดสุภาษิต รักวัวให้ผูก รักลูกให้ตี คนไทยจึงเลี้ยงลูกด้วยการอบรมสั่งสอนโดยการตีมาอย่างยาวนาน แต่วิธีนี้อาจจะไม่ใช่วิธีที่เหมาะสมที่สุด เพราะยังมีวิธีอื่น ๆ อีกมากมายที่พ่อแม่สามารถใช้ในการอบรมสั่งสอนเลี้ยงลูกได้ เช่น การแสดงสีหน้า น้ำเสียงที่ดุอย่างชัดเจน งดให้ทำกิจกรรมที่ชอบสักระยะจนกว่าพวกเขารู้สึกผิด ที่สำคัญ หากคุณเลี้ยงลูกด้วยการตีอย่างเดียว อาจส่งผลเสียต่อเด็ก ๆ นั่นคือ นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงเชิงลบได้ในอนาคต เช่น

  • ความสัมพันธ์ในครอบครัวไม่มีความสุขดังเดิม
  • สภาพจิตใจของเด็กเปลี่ยนแปลงไป หรือมีการจดจำเพียงแต่ความเจ็บปวดจากการถูกตีมากกว่าความทรงจำที่ดี
  • ทำให้เด็กก้าวร้าวมากขึ้น
  • เด็กอาจมีพฤติกรรมที่แปลกๆ เช่นเห็นเรื่องความรุนแรงเป็นเรื่องธรรมดา
  • เด็กอาจมีการโต้ตอบที่รุนแรงกลับ เช่น การตะโกน ส่งเสียงดัง ทำร้ายพ่อแม่กลับ

บทความที่เกี่ยวข้อง : เลี้ยงลูกยุคดิจิตอล VS. ยุคโบราณ

 

เลี้ยงลูกอย่างไร ไม่ให้ลูกขาดความรัก

พ่อแม่ควรตระหนักว่า เลี้ยงลูกแบบไหนเราจะมีลูกนิสัยแบบนั้น ดังนั้นเพื่อเป็นการหลีกเลี่ยงปัญหาที่จะตามมา พ่อแม่ควรเริ่มศึกษาวิธีการเลี้ยงลูกที่ถูกต้อง  เริ่มตั้งแต่ตอนที่ลูกรักยังเยาว์วัย และอยู่ในช่วงวัยกำลังจดจำ

1. เลี้ยงลูกโดยสร้างความมั่นใจให้เขา

บางครั้งเด็ก ๆ อาจเผลอกระทำผิดพลาด จะด้วยตั้งใจหรือไม่ตั้งใจก็ตาม พ่อแม่ควรคอยให้แนะนำ พร้อมตักเตือนอยู่ข้าง ๆ มากกว่าการตีและใช้ถ้อยคำรุนแรง อีกทั้งการเลี้ยงลูกไม่ควรห้ามการตัดสินใจของพวกเขา แต่อาจเป็นการพูดคุยด้วยเหตุผล หรืออาจกล่าวชมเชยบ้างหากลูกมีพฤติกรรมอย่างเหมาะสม เพื่อให้เขามีความมั่นใจเมื่อทำสิ่งที่ถูกต้อง และพร้อมแก้ไขหากทำผิดพลาด

2. พ่อแม่ต้องกำหนดวินัยตนเองในการเลี้ยงลูก

วินัย หรือข้อปฏิบัติในการเลี้ยงลูก เป็นสิ่งที่จำเป็นสำหรับทุกครอบครัว การฝึกวินัยขั้นพื้นฐานในการเลี้ยงลูกแบบที่ไม่ใช้การบังคับหรือขู่เข็ญ จะช่วยให้เด็กได้รู้จักขอบเขตว่าสิ่งใดทำได้ สิ่งใดควรระมัดระวัง เช่น ทำการบ้านให้เสร็จก่อนถึงจะอนุญาตให้ดูทีวี เล่นโทรศัพท์ หรือเล่นเกมส์ ถึงแม้คุณพ่อคุณแม่จะต้องขัดใจลูกบ้าง แต่อาจเป็นผลดีที่ช่วยให้เด็ก ๆ เติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่มีความรับผิดชอบในอนาคต

3. ใช้เวลาร่วมกันภายในครอบครัว

พ่อแม่อาจหาเวลาว่าง เช่น วันหยุดสุดสัปดาห์ พาลูก ๆ ไปทำกิจกรรมร่วมกัน โดยอาจเป็นการออกกำลังกาย เล่นกีฬา หรือพักผ่อนตามสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นสวนสนุก สวนสัตว์ ทะเล เป็นต้น การเลี้ยงลูกแบบนี้ส่งผลให้เมื่อลูกเติบโตขึ้นไป พวกเขาอาจต้องการความส่วนตัวมากขึ้น จนมีเวลาอยู่กับคุณพ่อคุณแม่หรือสมาชิกคนอื่นในครอบครัวน้อยลง

4. พ่อแม่ต้องหมั่นพูดคุย และรับฟังกันอยู่เสมอ

เลี้ยงลูกแบบฝึกสอนให้เด็กรู้จักเปิดใจพูดคุย และรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น พวกเขาไม่ใช่แค่เด็กเล็ก ให้คิดว่าพวกเขาคือผู้ใหญ่คนหนึ่งที่สามารถการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นซึ่งกันและกัน รับฟังในสิ่งที่ลูกพูด และแสดงความคิดเห็นโดยไม่ใช้อารมณ์รุนแรง ก็นับว่าเป็นวิธีเลี้ยงลูกที่ดีมาก เพราะจะทำให้พวกเด็กไม่รู้สึกเหมือนตัวคนเดียว และเป็นการกระชับความสัมพันธ์ภายในครอบครัวให้ยิ่งแนบแน่น และเข้าใจกันมากขึ้น

บทความที่เกี่ยวข้อง : 11 คำถามชวนลูกคุยที่จะทำให้เข้าใจลูกมากขึ้น

เลี้ยงลูก ด้วยความเข้าใจ

เลี้ยงลูกดีก็ส่งผลต่อสังคมอย่างไร

เคยหรือไม่เวลาได้ยินข่าวเกี่ยวกับความรุนแรงในเด็ก ไม่ว่าเด็กจะเป็นผู้กระทำ เป็นผู้ถูกกระทำหรือตกเป็นเหยื่อของความรุนแรงเหล่านั้นโดยทางอ้อมนับวันข่าวคราวทำนองนี้ในบ้านเราจะมีมากขึ้น เกิดกับเด็กอายุน้อยลงเรื่อยๆ และดูเหมือนขีดขั้นของความรุนแรงก็ยิ่งเพิ่มมากขึ้น ไม่มีใครอยากเลี้ยงลูกแล้วให้ลูกของเราเข้าไปอยู่ในวังวนของเรื่องเหล่านี้ ไม่ว่าจะในฐานะผู้กระทำหรือผู้ถูกกระทำ และไม่มีใครปฏิเสธว่าจุดเริ่มของการตัด ลดทอนความรุนแรงของปัญหาอยู่ที่การอบรมเลี้ยงลูกที่บ้าน ซึ่งถูกหยิบยกขึ้นมาพูดทุกครั้งที่มีเหตุการณ์รุนแรงเกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า แต่กระนั้นปัญหาดังกล่าวก็ยังคงเกิดขึ้นอยู่เรื่อยๆ บ่อยครั้งและรุนแรงมากขึ้น

เพราะพ่อแม่เองไม่รู้ว่าแต่ละวันๆ ที่ผ่านไป การเลี้ยงลูกของตัวเองได้บ่มเพาะให้ลูกคุ้นชินกับความรุนแรงไปโดยไม่รู้ตัวอย่างนี้ใช่ “ความรุนแรง”กับลูกหรือเปล่า ซึ่งเลี้ยงลูกโดยการตี การทำร้ายทางกาย ไม่ใช่เรื่องเดียวที่เป็นความรุนแรงต่อเด็ก ยังมีการกระทำอื่นที่เราอาจคิดไม่ถึงเลยว่าเป็นการสร้างความรุนแรงต่อเด็กหรือลูกที่เรารักด้วย

1. เลี้ยงลูกโดยไม่ทำร้ายทางใจ

เช่น การเลี้ยงลูกอย่างลำเอียง รักพี่หรือน้องมากกว่า การใช้คำพูดที่กระทบกระเทือนใจไม่ว่าจะตั้งใจหรือไม่ก็ตาม เช่น ประโยคประเภทเกิดมาทำไม ทำไมชอบทำให้พ่อแม่ลำบาก เหล่านี้สามารถสะสมจนเกิดเป็นความน้อยเนื้อต่ำใจ ขาดความมั่นคงทางจิตใจ เพราะคิดว่าพ่อแม่ไม่รัก นานวันเข้าก็อาจแสดงออกด้วยการกระทำที่รุนแรงจากน้อยแล้วค่อยพัฒนาไปหามากได้

2. อย่าปล่อยปละละเลย

เป็นข้อที่คนไม่ค่อยนึกถึงกัน ทั้งที่เกิดขึ้นในหลายครอบครัว โดยพื้นฐานเด็กทุกคนต้องการความรัก ความเอาใจใส่จากพ่อแม่ การเลี้ยงลูกแบบปล่อยปละละเลย ทั้งจงใจหรือละเลยโดยไม่รู้ตัวนั้นเป็นการทำร้ายเด็ก อย่างหนึ่ง เช่น ไม่มีเวลาให้ลูก หรืออยู่ด้วยกันแต่ไม่ได้ใส่ใจลูกอย่างที่ควรจะเป็น อาจเพราะเหนื่อยจากงาน สนใจเรื่องตัวเองมากกว่า ยกหน้าที่ให้คนอื่นดูแลไปแล้ว คิดว่าให้สิ่งที่ดีและสำคัญกับชีวิตลูกแล้ว

2. เลี้ยงลูกอย่าให้ลูกขาดรัก

เด็กทุกคนต้องการเป็นที่รักและต้องการมีคนที่เขารัก เพื่อสร้างความรู้สึกมั่นคงทางใจให้เกิดขึ้นกับใจดวงน้อย ขณะเดียวกันพ่อแม่เองนอกจากต้องให้ความรักกับลูกแล้วยังต้องรักลูกให้เป็น เพื่อไม่ให้รักนั้นหวนกลับมาทำร้ายลูกแต่ก็มีพ่อแม่เลี้ยงลูกโดยการเพาะความรู้สึกบางอย่างให้ลูก เช่น รักอย่างตามอกตามใจเต็มที่ลูกก็จะเติบโตมาเป็นเด็กที่ปรับตัวยาก ขาดความอดทน หรือถ้ารักอย่างที่เข้าไปกะเกณฑ์จุกจิกลูกก็จะเติบโตเป็นเด็กที่รู้สึกว่า ตัวเองมีปมด้อย รู้สึกว่าตัวเองไม่มีอะไรดี ซึ่งไม่เป็นผลดีกับตัวลูกเลย

ฉะนั้น เลี้ยงลูกด้วยความรักแต่ควรยืนอยู่บนความมีเหตุมีผลและให้โอกาสลูกได้เรียนรู้ด้วยตัวพวกเขาเองด้วย แม้ลูกในวัยนี้จะยังเด็กก็ควรให้เขาเริ่มเรียนรู้ขอบเขตของการกระทำ วินัยบ้างได้แล้ว ไม่ใช่ปล่อยตามใจไปเสียทุกเรื่อง

บทความที่เกี่ยวข้อง : เลี้ยงลูกเชิงบวก วิธีเลี้ยงลูกเชิงบวก เลี้ยงลูกสอนลูกอย่างไรให้ลูกคิดบวก

เลี้ยงลูก ควรกอดลูกบ่อยๆ

เลี้ยงลูก ไม่ควรใช้ความรุนแรง

เลี้ยงลูกทางอ้อมโดยการเลียนแบบ

พ่อแม่ คือต้นแบบที่สำคัญเป็นผู้อบรมเลี้ยงดู เมื่อถึงวัยที่เด็กพร้อมซึมซับและเรียนรู้จากการเลียนแบบ โดยเฉพาะจากคนที่อยู่ใกล้ตัวทั้งพ่อแม่และคนในครอบครัว การปฏิบัติตัวของพ่อแม่ที่เลี้ยงลูก หรือปฏิบัติต่อกันเองหรือกับผู้คนในบ้านเป็นเหมือนฉากละครที่ลูกจะต้องได้ เห็นและสัมผัสอยู่ทุกวัน พ่อแม่จึงเป็นต้นแบบในการเลี้ยงลูกทางอ้อมจากอิทธิพลต่อคำพูด ท่าที การกระทำและวิธีคิดของลูกมาก

  • ถ้าพ่อแม่เป็นคนที่รักและเอื้ออาทรกับสัตว์ลูกก็จะเรียนรู้วิธีนั้นจากคุณ
  • ถ้าพ่อแม่เป็นคนที่เห็นสัตว์เดินผ่านมาแล้วต้องขอดึงหางสักหน่อย เตะสักที ลูกก็จะเรียนรู้ที่จะเล่นกับสัตว์เช่นนั้น
  • ถ้าพ่อแม่เป็นคนที่ใครขับรถปาดหน้า พูดจาไม่เข้าหูก็พร้อมสบถ ลูกก็จะเรียนรู้วิธีเหล่านั้น
  • ถ้าพ่อแม่ขัดแย้งกันแล้วตัดสินด้วยการมีปากเสียง ลงไม้ลงมือลูกก็จะเรียนรู้วิธีจัดการกับปัญหาด้วยวิธีเดียวกัน

เลี้ยงลูกผ่านพฤติกรรมก้าวร้าวไม่ต่างอะไรจากพฤติกรรมทางสังคมอื่นๆ ที่ลูกสามารถเรียนรู้ได้จากประสบการณ์ที่พบเห็นไม่ว่าจากประสบการณ์ตรงหรือ ประสบการณ์ทางอ้อม ทุกวันนี้ในสังคมเราปลูกฝังแต่เรื่องของการแข่งขันชิงดีชิงเด่นกันจนแทบจะ เข้าไปอยู่ในวิถีชีวิต เราอาจต้องทานกระแสเพื่อให้ลูกได้เรียนรู้และรู้จักกับการดูแล แบ่งปันและนึกถึงผู้อื่นทั้งที่เป็นมนุษย์ด้วยกันและสิ่งมีชีวิตอื่นๆ ควบคู่ไปด้วย แม้วันนี้ลูกยังเล็กจะยังไม่เห็นภาพชัด แต่อย่างน้อยการได้เริ่มต้นเลี้ยงพวกเขาโดยสั่งสมสิ่งเหล่านี้ในหัวใจลูกก็เป็นพื้นฐาน ช่วยกล่อมเกลาจิตใจให้งอกงามไปพร้อมกับการเจริญเติบโตทางกาย

 

ปรับวิธีการเลี้ยงลูกโดยพ่อแม่หันมามองพฤติกรรมตัวเอง

การอบรมเลี้ยงดูลูกของพ่อแม่ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง ทั้งจากลักษณะเฉพาะของลูก สภาพแวดล้อมในครอบครัว เช่น เศรษฐกิจ เหตุการณ์ที่ผ่านเข้ามาในชีวิต หรือแม้แต่ลักษณะของตัวพ่อแม่ว่าเลี้ยงลูกแบบใด ซึ่งหากเราสามารถควบคุมทุกปัจจัยให้เอื้อต่อการสร้างสิ่งแวดล้อมที่ดีให้กับลูกได้ก็เป็นเรื่องที่ดีและควรทำควบคู่กับการเลี้ยงลูก ซึ่งการปรับตัวเองนี้ไม่ได้ดีต่อลูกและครอบครัวเท่านั้นแต่ยังเป็นผลดีกับตัวเองในการพัฒนาและปรับเปลี่ยนตัวเอง

บทความจากพันธมิตร
อาหารมื้อแรก สำหรับลูกรัก กินอะไรดี? เพื่อสารอาหารที่ครบถ้วน
อาหารมื้อแรก สำหรับลูกรัก กินอะไรดี? เพื่อสารอาหารที่ครบถ้วน
นมสำหรับเด็กผ่าคลอดเจนใหม่ สร้างสมองไว เสริมภูมิคุ้มกันแข็งแรง ที่แม่ยุคใหม่เลือก
นมสำหรับเด็กผ่าคลอดเจนใหม่ สร้างสมองไว เสริมภูมิคุ้มกันแข็งแรง ที่แม่ยุคใหม่เลือก
ดูแลทารกแรกเกิดวิกฤติน้ำหนักเพียง 500 กรัมสำเร็จ ด้วยความเชี่ยวชาญระดับสากล ที่ โรงพยาบาลเด็กสมิติเวช อินเตอร์เนชั่นแนล
ดูแลทารกแรกเกิดวิกฤติน้ำหนักเพียง 500 กรัมสำเร็จ ด้วยความเชี่ยวชาญระดับสากล ที่ โรงพยาบาลเด็กสมิติเวช อินเตอร์เนชั่นแนล
Easy Life III เครื่องปั๊มนม Hands-Free จากแบรนด์ไทยอย่าง Attitude Mom ออกแบบเพื่อชีวิตการปั๊มนมของคุณแม่ที่ง่ายขึ้นกว่าเดิมพร้อมการควบคุมการทำงานผ่านแอปพลิเคชันบนมือถือ
Easy Life III เครื่องปั๊มนม Hands-Free จากแบรนด์ไทยอย่าง Attitude Mom ออกแบบเพื่อชีวิตการปั๊มนมของคุณแม่ที่ง่ายขึ้นกว่าเดิมพร้อมการควบคุมการทำงานผ่านแอปพลิเคชันบนมือถือ
  • สภาพอารมณ์ของตัวเองและคู่ เช่น ถ้าเป็นคนอารมณ์ร้อนก็ต้องหาวิธีควบคุมอารมณ์ตนเอง เตือนสติซึ่งกันและกัน
  • ความสัมพันธ์ระหว่างพ่อแม่เป็นอย่างไร การปฏิบัติต่อกันของพ่อแม่ด้วยความรักความเข้าใจ เห็นอกเห็นใจกัน จะทำให้ลูกรู้สึกอบอุ่น มั่นคง
  • ประสบการณ์ที่ได้รับจากการเลี้ยงดูในวัยเด็ก อย่าให้ประสบการณ์เหล่านั้นมาทำร้ายลูก แต่ใช้ประสบการณ์เหล่านั้น บวกกับความรัก ความเข้าใจที่คุณมีต่อลูกแล้วสร้างสรรค์เป็นวิธีการเลี้ยงดูลูกในแบบฉบับของตัวคุณเอง

ที่สำคัญ สังเกตหรือไม่ว่าทุกวันนี้พ่อแม่เลี้ยงลูกไปพร้อมกับสื่อ ทุกสื่อ ไม่ว่าจะเป็นสื่อโซเชียลมีเดีย โทรทัศน์ สิ่งพิมพ์ วิทยุ สร้างความคุ้นชินให้กับเด็กพ่อแม่ไม่สามารถไปกำหนดหรือกะเกณฑ์สื่อได้มากนัก จึงยากในการเลี้ยงลูกเพราะทุกวันนี้สภาพแวดล้อมทุกคนวนเวียนไปด้วยข้อมูลจากสื่อต่าง ๆ การที่ได้เห็นภาพ ได้ยินเสียงการต่อสู้ ยิง เตะ ต่อย อยู่ทุกวันๆ จะเกิดเป็นความเคยชิน วันนี้อาจเลียนแบบเพื่อความสนุกสนาน แต่วันหนึ่งข้างหน้าวิธีการต่อสู้ การเข้าปะทะซึ่งเขาเห็นเป็นเรื่องธรรมดา

 

บทความที่น่าสนใจ :

ตีลูก หรือ ไม่ตี? การลงโทษมากกว่าการฝึกระเบียบวินัย

ประโยชน์ของการกอดและหอมลูก ที่คุณอาจยังไม่รู้

Time out ลงโทษแบบสงบแต่สยบลูกน้อยอย่างได้ผล

ที่มา: rakluke, hellokhunmor

มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!

Follow us on:
facebook-logo instagram-logo tiktok-logo
img
บทความโดย

Chatchadaporn Chuichan

  • หน้าแรก
  • /
  • ช่วงวัยของเด็ก
  • /
  • เลี้ยงลูกอย่างไรให้ห่างความรุนแรง เลี้ยงลูก อย่างไร? ไม่ให้ลูกตกเป็นเหยื่อ
แชร์ :
  • ยาเสียสาว ภัยร้ายใกล้ตัว! วิธีสอนลูกสาว ให้ปลอดภัย ไม่ตกเป็นเหยื่อ!

    ยาเสียสาว ภัยร้ายใกล้ตัว! วิธีสอนลูกสาว ให้ปลอดภัย ไม่ตกเป็นเหยื่อ!

  • คำถามทดสอบ EQ ลูกน้อยวัย 3-6 ขวบง่ายๆ ให้รู้จุดแข็ง-จุดพัฒนา

    คำถามทดสอบ EQ ลูกน้อยวัย 3-6 ขวบง่ายๆ ให้รู้จุดแข็ง-จุดพัฒนา

  • แฟลชการ์ด ดาวน์โหลดฟรี! เสริมคลังคำศัพท์ พัฒนาความจำ ให้ลูกน้อยเรียนรู้ได้ไวกว่าเดิม

    แฟลชการ์ด ดาวน์โหลดฟรี! เสริมคลังคำศัพท์ พัฒนาความจำ ให้ลูกน้อยเรียนรู้ได้ไวกว่าเดิม

  • ยาเสียสาว ภัยร้ายใกล้ตัว! วิธีสอนลูกสาว ให้ปลอดภัย ไม่ตกเป็นเหยื่อ!

    ยาเสียสาว ภัยร้ายใกล้ตัว! วิธีสอนลูกสาว ให้ปลอดภัย ไม่ตกเป็นเหยื่อ!

  • คำถามทดสอบ EQ ลูกน้อยวัย 3-6 ขวบง่ายๆ ให้รู้จุดแข็ง-จุดพัฒนา

    คำถามทดสอบ EQ ลูกน้อยวัย 3-6 ขวบง่ายๆ ให้รู้จุดแข็ง-จุดพัฒนา

  • แฟลชการ์ด ดาวน์โหลดฟรี! เสริมคลังคำศัพท์ พัฒนาความจำ ให้ลูกน้อยเรียนรู้ได้ไวกว่าเดิม

    แฟลชการ์ด ดาวน์โหลดฟรี! เสริมคลังคำศัพท์ พัฒนาความจำ ให้ลูกน้อยเรียนรู้ได้ไวกว่าเดิม

ลงทะเบียนรับคำแนะนำเรื่องการตั้งครรภ์พัฒนาการลูกในท้องได้ที่นี่
  • เตรียมตัวเป็นผู้ปกครอง
  • พัฒนาการลูก
  • ชีวิตครอบครัว
  • ระยะการตั้งครรภ์
  • โภชนาการ
  • ไลฟ์สไตล์
  • TAP สังคมออนไลน์
  • ติดต่อโฆษณา
  • ติดต่อเรา
  • Influencer Marketing (KOL)
  • มาเข้าร่วมกับเรา


  • Singapore flag Singapore
  • Thailand flag Thailand
  • Indonesia flag Indonesia
  • Philippines flag Philippines
  • Malaysia flag Malaysia
  • Vietnam flag Vietnam
© Copyright theAsianparent 2025. All rights reserved
เกี่ยวกับเรา |ทีม|นโยบายความเป็นส่วนตัว |ข้อกำหนดการใช้ |แผนผังเว็บไซต์
  • เครื่องมือ
  • บทความ
  • ฟีด
  • โพล

เราใช้คุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์คอนเทนต์ที่ดีที่สุดให้กับคุณ. เรียนรู้เพิ่มเติมตกลง เข้าใจแล้ว

เราใช้คุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์คอนเทนต์ที่ดีที่สุดให้กับคุณ. เรียนรู้เพิ่มเติมตกลง เข้าใจแล้ว