เคล็ด(ไม่)ลับ! 8 วิธีการเลี้ยงลูกให้มี IQ EQ ตั้งแต่แรกเกิด

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

ด้วยสังคมยุคปัจจุบันที่เต็มไปด้วยการแข่งขันสูง คุณพ่อคุณแม่หลายคนย่อมอยากให้ลูกเติบโตขึ้นมาเป็นเด็กฉลาดทั้งในด้านสติปัญญา (IQ) และทางด้านอารมณ์ (EQ) ซึ่งการที่ลูกจะมี IQ EQ สูงขึ้นอยู่กับการเลี้ยงดูของคุณพ่อคุณแม่เป็นหลัก การให้ความสำคัญเรื่อง IQ EQ กับลูกตั้งแต่เด็กจึงมีความสำคัญเป็นอย่างมาก วันนี้ theAsianparent จะพามาดู วิธีการเลี้ยงลูกให้มี IQ EQ เพื่อให้ลูกเติบโตขึ้นมาอย่างชาญฉลาดค่ะ

 

ทำความรู้จัก IQ และ EQ

ปัจจุบันการเลี้ยงลูกให้เติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่มีคุณภาพ จะต้องประกอบไปด้วยปัจจัยทั้งเรื่องร่างกายและจิตใจ โดยเฉพาะเรื่องจิตใจที่ 2 ส่วนสำคัญ ได้แก่ IQ และ EQ ต่างเป็นปัจจัยที่คุณพ่อคุณแม่ยุคใหม่ให้ความสนใจเป็นพิเศษ

IQ เป็นตัวแทนค่าของความฉลาด การมีสติปัญญาที่ดี ในขณะที่ EQ จะเป็นคุณค่าทางด้านอารมณ์ การรู้ และเข้าใจอารมณ์ของตนเองและผู้อื่น การมีทักษะสื่อสารที่ดี ความเห็นใจผู้อื่น คุณหมอบอกว่า การที่เด็กคนหนึ่งจะเติบโตขึ้นมาเป็นเด็กที่มีสุขภาพจิตดีเป็นทั้งคนเก่ง คนดี และมีความสุขนั้นย่อมขึ้นอยู่กับ 3 ปัจจัยหลัก คือ

  1. สมองและระบบประสาทที่ดี ได้รับสารอาหารเพียงพอ และได้รับการกระตุ้นอย่างเหมาะสม เพื่อเด็กจะได้เติบโตขึ้นมามี IQ ที่ดี
  2. การอบรมเลี้ยงดูที่ดี ช่วยสนับสนุนให้เด็กมี EQ ดี
  3. การเรียนรู้อย่างมีความสุข จะช่วยเสริมสร้างทั้ง IQ EQ ในทุก ๆ ช่วงวัย

 

น้ำนมแม่ จุดเริ่มต้นของการส่งเสริม IQ และ EQ

โภชนาการที่ดีที่สุดสำหรับลูกน้อย คือ นมแม่ ในช่วง 1,000 วันแรกของลูก เป็นช่วงที่สำคัญมากต่อพัฒนาการทางสมองและสติปัญญาของลูกน้อย โดย 85% ของสมองเติบโตสูงสุดใน 2 ขวบปีแรก เพราะฉะนั้นอาหารการกินในช่วงนี้จึงมีความสำคัญอย่างมาก ลูกน้อยควรได้ดื่มนมแม่เพียงอย่างเดียว อย่างน้อย 6 เดือนแรก และให้นมแม่อย่างต่อเนื่องควบคู่ไปกับอาหารตามวัยจนอายุ  2 ปี

โดยสารอาหารในนมแม่ที่ได้รับการพิสูจน์แล้วว่าช่วยเสริมสร้างพัฒนาการทางสมองก็คือ MFGM (Milk Fat Globule Membrane) เยื่อหุ้มอนุภาคไขมันในนมที่พบในนมแม่ ซึ่งประกอบด้วยโปรตีนต่างๆ และไขมันรวมกว่า 150 ชนิด

MFGM ช่วยเพิ่มการเชื่อมต่อเซลล์สมอง เพราะใน MFGM มีสฟิงโกไมอีลิน ฟอสโฟลิปิด แกงกลิโอไซด์ มีซึ่งมีส่วนช่วยในการสร้างปลอกหุ้มเส้นใยประสาท (Myelin Sheath) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการรับส่งสัญญาณของประสาท และช่วยในการเชื่อมต่อระหว่างเซลล์สมอง สมองก็จะทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ส่งผลต่อการพัฒนาทางสมองและสติปัญญา หากได้รับ MFGM อย่างเพียงพอ จะช่วยให้สมองทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ สามารถเรียนรู้และจดจำได้ดียิ่งขึ้น ทั้งยังช่วยเสริมสร้าง IQ และ EQ ของลูกน้อยให้เหนือกว่าตั้งแต่ 5 ขวบปีแรก

บทความที่เกี่ยวข้อง : MFGM คืออะไร มีส่วนช่วยในพัฒนาการเด็กได้อย่างไร

 

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

 

สุขภาพแข็งแรง พร้อมเรียนรู้

หากลูกน้อยมีระบบภูมิคุ้มกันที่ดีก็จะทำให้มีสุขภาพแข็งแรง พร้อมเรียนรู้สิ่งต่าง ๆ รอบตัวที่มีสิ่งใหม่ๆ ให้เรียนรู้อยู่ตลอดเวลา นอกจาก MFGM จะช่วยเสริมสร้าง IQ และ EQ แล้ว ยังมีส่วนสำคัญในการในการเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้กับลูกน้อยอีกด้วย

MFGM ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน หากร่างกายของลูกไม่พร้อมจะเรียนรู้ การสร้าง IQ และ EQ ให้กับเขา ย่อมเป็นสิ่งที่ไม่สามารถเป็นไปได้ MFGM มีส่วนช่วยในการเสริมสร้างภูมิคุ้มกันของร่างกายและระบบการป้องกันการติดเชื้อจากไวรัสและแบคทีเรีย ช่วยให้ร่างกายเด็กต่อสู้กับการติดเชื้อได้ สามารถลดการติดเชื้อของทางเดินหายใจส่วนบนและภูมิแพ้ในเด็กได้ และเด็กที่ได้รับนมเสริม MFGM จะมีระยะเวลาในการเป็นไข้หรือเจ็บป่วยและใช้ยาปฏิชีวนะน้อยกว่าเด็กที่กินนมที่ไม่มีส่วนผสมของ MFGM แสดงถึงการมีภูมิคุ้มกันที่แข็งแรง

 

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

พื้นฐานทางอารมณ์ที่ดี ช่วยเสริมสร้าง EQ ให้ลูกน้อย

หากจะพูดถึงพื้นฐานทางอารมณ์แล้ว คุณแม่สามารถเสริมสร้างให้ลูกได้ตั้งแต่เมื่อลูกยังอยู่ในครรภ์ของคุณแม่ ถ้าคุณแม่มีความเครียด หงุดหงิด หรือโมโหง่ายระหว่างตั้งครรภ์ก็สามารถ ส่งผลเสียโดยตรงต่อลูกได้ เมื่อคุณแม่ตั้งครรภ์เครียด ร่างกายจะหลั่งฮอร์โมน 2 ชนิด คือฮอร์โมนคอร์ติซอลและอะดรีนาลีน โดยผลกระทบที่เกิดจากความเครียดแบ่งได้ ดังนี้

  • คุณแม่ เมื่อคุณแม่ตั้งครรภ์มีอาการเครียดจะทานอาหารไม่ได้ หรือทานได้มากกว่าปกติ นอนไม่หลับ อ่อนเพลีย ปวดศีรษะ คลื่นไส้อาเจียน ทำให้ร่างกายมีภูมิต้านทานต่ำลง จึงมีโอกาสติดเชื้อได้ง่าย นอกจากนี้ร่างกายจะหลั่งสารอะดรีนาลีน ทำให้หลอดเลือดตีบ ความดันสูง และหัวใจเต้นเร็วขึ้น
  • ลูกในครรภ์ ถ้าคุณแม่เครียดมาก ๆ อาจทำให้แท้งได้ตั้งแต่อายุครรภ์น้อย หรือทำให้อาหารไปเลี้ยงลูกไม่พอ การเจริญเติบโตของเด็กจึงช้าและมีโอกาสคลอดก่อนกำหนด เมื่อคลอดแล้วยังส่งผลให้เด็กเลี้ยงยาก ขี้งอแง อ่อนไหวง่าย ขี้โมโห ไวต่อการกระตุ้น ในระยะยาวจะทำให้เด็กมีปัญหาด้านการปรับตัวทางสังคม อีกทั้งยังมีโอกาสเกิดโรคหัวใจ ความดัน และเบาหวาน เป็นต้น

การพัฒนา IQ และ EQ ไปพร้อมกัน เป็นการเสริมสร้างทักษะให้แก่ลูกน้อยในช่วงเริ่มต้นของชีวิตได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด

บทความที่เกี่ยวข้อง : ผลวิจัยล่าสุด MFGM สุดยอดสารอาหาร เพื่อ IQ /EQ ที่เหนือกว่าของลูกน้อยในวัย 5 ขวบ

 

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

 

วิธีการเลี้ยงลูกให้มี IQ EQ

การเลี้ยงลูกให้มี IQ EQ แล้วเติบโตขึ้นมาเป็นเด็กฉลาดและมีความสุขขึ้นอยู่กับการเลี้ยงดูของคุณพ่อคุณแม่เป็นหลัก วันนี้ theAsianparent มี 8 วิธีที่จะช่วยให้ลูกมี IQ และ EQ สูงมาฝาก มาดูกันว่าจะมีเคล็ดลับใดกันบ้าง

 

1. ให้ความรัก

เป็นข้อแรกที่สำคัญมากและไม่เพียงแต่ให้ความรักเท่านั้น คุณพ่อคุณแม่ต้องแสดงออกอย่างเหมาะสมอีกด้วย บางคนรักลูกแต่ไม่กล้าพูด ไม่กล้าแสดงความรักออกมาให้ลูกเห็นเลย การยิ้มให้ การสัมผัส การกอด โอบไหล่ ล้วนแล้วแต่เป็นภาษากาย ซึ่งบ่งบอกถึงความรักได้เป็นอย่างดี

รวมถึงการสร้างครอบครัวมีสุข คือ การที่คุณพ่อและคุณแม่มีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน และรวมถึงการมีทัศนคติ ความคิดเห็นในการเลี้ยงดูอบรมสั่งสอนลูกไปในทิศทางเดียวกัน ไม่ขัดแย้งกัน หรือถ้ามีความขัดแย้งบ้างก็จะมีการพูดคุยกัน ตกลงกันให้เป็นทิศทางเดียวกันคือเป็นทีมเดียวกันนั่นเอง

 

2. พูดคุยสร้าง EQ อ่านหนังสือเสริม IQ

การอ่านหนังสือให้ลูกฟัง พร้อมทั้งพูดคุยไปด้วย เท่ากับกระสุนนัดเดียวยิงนกได้สองตัวเลยนะคะ ได้ทั้งอ่านหนังสือและได้พูดคุย การพูดคุย ปริมาณคำศัพท์ที่เจ้าตัวน้อยได้ยินในช่วงที่เป็นทารก มีความสัมพันธ์กับระดับ IQ ของลูกเมื่อโตขึ้น ยิ่งคุณพ่อคุณแม่คุยกับลูกมากเท่าไร คลังคำศัพท์ในสมองของลูกก็ยิ่งมีข้อมูลมากเท่านั้น

แต่ทั้งนี้ควรเลือกหัวข้อง่าย ๆ ใกล้ตัว ที่ลูกสามารถเชื่อมโยงคำศัพท์กับสิ่งที่เห็นได้ การอ่านหนังสือหรือการอ่านนิทานให้เจ้าตัวน้อยฟัง ไม่เพียงช่วยให้คุณและลูกได้สายสัมพันธ์กันเท่านั้น แต่หนูน้อยยังได้เรียนรู้เรื่องอารมณ์ ความรู้สึก ซึ่งจะมีผลต่อ EQ ของลูกในอนาคต อีกทั้งเจ้าตัวน้อยยังได้เรียนรู้คำศัพท์ต่าง ๆ พร้อมกับรูปภาพของสิ่งที่เขาไม่อาจพบเห็นได้ในชีวิตประจำวัน เช่น ช้างตัวใหญ่ สิงโตเจ้าป่า และยีราฟคอยาวอีกด้วย

บทความที่เกี่ยวข้อง : แม่ท้องอ่านหนังสือเสริมความฉลาดทารกตั้งแต่ในครรภ์

 

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

 

3. มีส่วนร่วมในการเลี้ยงดูลูกให้มากที่สุด

เท่าที่จะเป็นไปได้ตัวอย่างเช่นบางครอบครัวพ่อแม่ต้องทำงานทั้งคู่ จึงจำเป็นต้องจ้างพี่เลี้ยงดูแลช่วงกลางวัน แต่คุณพ่อคุณแม่บางคนเลิกงานกลับมาบ้านแล้ว เหนื่อย กลางคืนก็ฝากพี่เลี้ยงดูแลอีก ควรอยู่ใกล้ชิดลูกมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ อย่างน้อยช่วงกลางคืนจะได้มีประสบการณ์ได้รับรู้ความรู้สึกของการตื่นมาให้นมลูกเวลาลูกร้องกลางคืน ได้โอบกอดและปลอบให้เขาหลับต่อ เมื่อได้รู้จักจะยิ่งรักและเข้าใจในตัวลูกมากขึ้น

 

4. ให้อิสระและโอกาสในการตัดสินใจกับลูก

จะช่วยให้ลูกมีความคิดสร้างสรรค์ กล้าคิดกล้าทำ ให้ตัดสินใจได้ด้วยตนเอง ไม่พยายามบังคับความคิดลูก โดยเริ่มจากเรื่องง่าย ๆ เช่น เลือกเสื้อผ้าที่จะใส่เอง ดูแลตนเองในเรื่องง่าย ๆ เช่น จัดตารางสอน อาบน้ำ ทานข้าว ฝึกให้เป็นไปตามวัย คอยดูแลให้คำแนะนำ รวมถึงเคารพในการตัดสินใจของลูกด้วยนะคะ

 

5. สอนลูกให้รู้จักรักและดูแลตนเองเช่นเดียวกันกับผู้อื่น

ในข้อนี้ก็คือส่วนสำคัญข้อหนึ่งของ EQ รวมไปถึงการสอนลูกให้รู้สึกเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ผู้อื่นด้วย เช่น การที่คุณพ่อคุณแม่บางคนพาลูกไปให้ของเด็กพิการ ตามสถานสงเคราะห์หรือให้ผู้สูงอายุที่บ้านพักคนชรา

 

6. เป็นแบบอย่างที่ดีให้ลูก (Modeling)

คุณพ่อคุณแม่เป็นแบบอย่างให้ลูกทำสิ่งดี ๆ ตามลูกจะเรียนรู้โดยอัตโนมัติแทบไม่ต้องพูดสอนเลย ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดคือ นิสัยรักการอ่าน ส่วนหนึ่งเกิดจากพ่อแม่เป็นแบบอย่าง เช่นอยู่บ้านว่าง ๆ ก็หยิบหนังสือมาอ่าน ชอบที่จะอ่านนิทานให้ลูกฟัง พูดคุยกับลูกถึงเรื่องในหนังสือที่อ่าน ไปเที่ยวห้างสรรพสินค้าก็มักแวะเข้าร้านหนังสือบ่อย ๆ แบบนี้ลูกก็มักจะติดนิสัยรักการอ่านหนังสือไปโดยไม่รู้ตัว

บทความที่เกี่ยวข้อง : การพัฒนา IQ และ EQ จะไม่เวิร์ค กับ 5 ความเชื่อผิด ๆ ในการเลี้ยงลูก

 

 

7. กฎเกณฑ์ ระเบียบ วินัย

เด็กที่ EQ ดี มักอยู่ในครอบครัวที่พ่อแม่ให้ความรักความเข้าใจ ในขณะเดียวกันก็สอนรู้ว่าอะไรควร อะไรไม่ควร และควบคุมเรื่องของกฎเกณฑ์ระเบียบวินัย ในลักษณะของทางสายกลางตามหลักพระพุทธศาสนา ไม่ควบคุมมากเกินไปหรือน้อยเกินไป รวมไปถึงการฝึกให้ลูกรู้จักรับผิดชอบ และช่วยเหลือตัวเองตามวัย

 

8. ส่งเสริมให้ลูกรู้จักคิดด้วยหลักการและเหตุผล

โดยส่งเสริมทั้งในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวัน และเรื่องสำคัญ ๆ ด้วย ตัวอย่างถ้าลูกอยากจะซื้อของเล่น ของใช้ที่แพง ๆ หรือเป็นของที่มีอยู่แล้ว ก็สอนให้ลูกรู้จักใช้หลักการและเหตุผลว่าควรซื้อหรือไม่ควรซื้อ เพราะอะไร เป็นต้น

 

อย่างไรก็ตาม 8 วิธีการเลี้ยงลูกให้มี IQ EQ ที่เราได้ให้คำแนะนำในวันนี้เป็นเพียงพื้นฐานที่คุณพ่อคุณแม่สามารถใช้เป็นแนวทางในการเลี้ยงลูกได้ เพราะแต่ละครอบครัวก็มีแนวทางในการเลี้ยงลูกที่แตกต่างกันออกไป แต่มีสิ่งที่เหมือนกัน คือ ต้องการเห็นลูก เก่ง ดี และมีความสุขใช่ไหมคะ

 

บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :

รู้หรือไม่!! MFGM คือ สารอาหารในนมแม่ ช่วยพัฒนาสมองของลูกรัก ให้พร้อมเรียนรู้อย่างเต็มประสิทธิภาพ

10 อาหารบำรุงสมองใน 1,000 วันแรก ให้ลูกกินอะไร แล้วลูกฉลาด พัฒนาการสมองไว

EQ นั้นสำคัญไฉน? ทั้งพ่อและแม่ต่างมีส่วนสำคัญในการพัฒนา EQ ของลูก

10 วิธีเล่นเพื่อพัฒนาสมองลูก เล่นอะไรกับลูกแล้วลูกฉลาดบ้าง

 

ที่มา : mgronline, karn, starfishlabz