จากข่าวการเสียชีวิตของคิมแซรน นักแสดงสาวที่โด่งดังมาตั้งแต่วัยเด็ก ซึ่งเลือกจบชีวิตในวันที่ 16 กุมภาพันธ์ ซึ่งเป็นวันคล้ายวันเกิดของคิมซูฮยอน เหตุการณ์นี้ได้นำไปสู่กระแสวิพากษ์วิจารณ์ในสังคมที่พุ่งเป้าไปยังคิมซูฮยอน โดยมีประเด็นเกี่ยวกับ ความใคร่เด็ก และ การพรากผู้เยาว์
กระแสสังคมดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากที่คุณป้าของคิมแซรนได้ออกมาให้ข้อมูลเกี่ยวกับความสัมพันธ์ในอดีตระหว่างคิมแซรนและคิมซูฮยอน
- ทั้งคู่เคยมีความสัมพันธ์กันตั้งแต่ปี 2015 ซึ่งในขณะนั้น คิมแซรนอายุ 15 ปี และคิมซูฮยอนอายุ 27 ปี
- ในปี 2019 คิมซูฮยอน ได้ก่อตั้งบริษัทของตัวเองชื่อ “GOLD MEDALIST” คิมแซรนย้ายสังกัดมาอยู่ในสังกัดของคิมซูฮยอน และช่วยทำงานโดยไม่ได้รับเงิน
- คิมแซรนกับคิมซูฮยอนคบกันเป็นเวลานานกว่า 6 ปี และเลิกกันในปี 2021 ก่อนที่คิมแซรนจะเกิดอุบัติเหตุเมาแล้วขับในปี 2022
- หลังจากเป็นข่าว ทางต้นสังกัดของคิมซูฮยอน ได้ออกมายอมรับว่าทั้งคู่เคยคบหากันจริง แต่ระบุว่าเป็นช่วงเวลาตั้งแต่ฤดูร้อนปี 2019 ถึงฤดูใบไม้ร่วงปี 2020 ซึ่งขณะนั้นทั้งคู่บรรลุนิติภาวะแล้ว
ประเด็นทางกฎหมายของเกาหลีใต้
แม้ในขณะนี้ยังไม่มีบทสรุปว่าความสัมพันธ์ดังกล่าวเกิดขึ้นในขณะที่คิมแซรนยังเป็นผู้เยาว์หรือไม่ แต่หากความสัมพันธ์ดังกล่าวเกิดขึ้นในขณะที่คิมแซรนยังเป็นผู้เยาว์ จะสามารถเอาผิดทางกฎหมายกรณีพรากผู้เยาว์ได้หรือไม่?
ทนายความอีโกอึนให้ความเห็นว่า แม้จะมีข้อเรียกร้องให้ดำเนินคดีกับคิมซูฮยอน แต่การมีความสัมพันธ์กันเพียงอย่างเดียวไม่เพียงพอต่อการดำเนินคดี
นอกจากนี้ กฎหมายเกาหลีใต้ที่แก้ไขในปี 2020 ระบุว่า การมีความสัมพันธ์กับผู้เยาว์อายุต่ำกว่า 16 ปี ถือเป็นการข่มขืนหรือประพฤติผิดทางเพศได้ แม้จะยินยอมก็ตาม
อย่างไรก็ตาม เนื่องจากความสัมพันธ์ที่เป็นประเด็นเริ่มต้นในปี 2015 ซึ่งก่อนการแก้ไขกฎหมาย ผู้เยาว์ในคดีข่มขืนคือผู้ที่มีอายุต่ำกว่า 13 ปี แต่ในขณะนั้น คิมแรซนมีอายุ 15 ปี ทำให้กรณีนี้อาจไม่อยู่ในข่ายความผิดคดีข่มขืนตามกฎหมายเกาหลีปัจจุบัน

กฎหมายพรากผู้เยาว์ของไทย
กรณีของคิมซูฮยอนและคิมแซรนที่ถูกกล่าวหาว่ามีความสัมพันธ์กันในขณะที่คิมแซรนอายุ 15 ปีนั้น หากพิจารณาด้วยกฎหมายไทย สามารถเอาผิดกรณีพรากผู้เยาว์ได้หรือไม่
กฎหมายพรากผู้เยาว์ของประเทศไทยกำหนดไว้ในประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 317 และ 318 ซึ่งมีรายละเอียดดังนี้:
- มาตรา 317: ผู้ใดโดยปราศจากเหตุอันสมควร พรากเด็กอายุยังไม่เกิน 15 ปีไปเสียจากบิดามารดา ผู้ปกครอง หรือผู้ดูแล ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 3 ปีถึง 15 ปี และปรับตั้งแต่ 60,000 บาทถึง 300,000 บาท
- มาตรา 318: ผู้ใดโดยใช้อุบายหลอกลวง ขู่เข็ญ ใช้กำลังประทุษร้าย หรือใช้วิธีข่มขืนใจด้วยประการอื่นใด กระทำชำเรา หรือกระทำอนาจารแก่เด็กอายุยังไม่เกิน 15 ปี ซึ่งมิใช่ภริยาหรือสามีของตน โดยเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 2 ปี ถึง 10 ปี และปรับตั้งแต่ 40,000 บาท ถึง 200,000 บาท
จากกฎหมายดังกล่าว หากคิมซูฮยอนมีความสัมพันธ์ทางเพศกับคิมแซรนในขณะที่เธอยังอายุ 15 ปีจริง อาจเข้าข่ายความผิดตามมาตรา 318 ซึ่งมีโทษจำคุกและปรับ
ความใคร่เด็ก อีกหนึ่งประเด็นที่แม่ต้องใส่ใจ
ความใคร่เด็ก (Pedophilia) เป็นความผิดปกติทางจิตใจที่ผู้ใหญ่มีความสนใจและความต้องการทางเพศกับเด็ก และอาจกระทำการล่อลวงและล่วงละเมิดทางเพศเด็กในภายหลัง
ในกรณีของคิมซูฮยอนและคิมแซรน หากข้อกล่าวหาเป็นจริง อาจเข้าข่ายภาวะใคร่เด็ก เนื่องจากคิมซูฮยอนเป็นผู้ใหญ่ที่มีอายุมากกว่าคิมแซรน ซึ่งเป็นผู้เยาว์ความสัมพันธ์ที่มีความแตกต่างของอายุถึง 12 ปี โดยที่ฝ่ายหญิงเป็นเพียงเด็กวัย 15 ปี สะท้อนถึงความไม่เท่าเทียมกันในความสัมพันธ์อย่างชัดเจน ฝ่ายชายซึ่งมีอายุมากกว่าและมีอำนาจทางสังคมมากกว่า สามารถใช้ความได้เปรียบนี้ในการควบคุมและแสวงหาผลประโยชน์จากผู้เยาว์ และส่งผลเสียต่อพัฒนาการทางร่างกายและจิตใจของผู้เยาว์
แม้ผู้เยาว์จะให้ความยินยอมในความสัมพันธ์ แต่กฎหมายยังถือว่าเป็นการกระทำความผิดฐานพรากผู้เยาว์ เนื่องจากผู้เยาว์ยังไม่มีวุฒิภาวะเพียงพอในการตัดสินใจ
ความใคร่เด็ก ภัยร้ายในคราบผู้ใหญ่ใจดี
การเลี้ยงดูลูกให้ห่างไกลจากอันตรายที่แฝงมาในรูปแบบของผู้ใหญ่ที่คบเด็ก หรือโรคใคร่เด็ก เป็นเรื่องที่ต้องใส่ใจและให้ความสำคัญ ในฐานะพ่อแม่ เรามีบทบาทสำคัญในการสร้างเกราะป้องกันให้ลูกๆ ของเราปลอดภัยจากภัยคุกคามเหล่านี้
สิ่งที่น่าเป็นห่วงคือ การที่เด็กอาจหันไปหาความสัมพันธ์กับผู้ใหญ่ เพราะต้องการความรัก ความอบอุ่น และการรับฟัง ซึ่งเป็นสิ่งที่พวกเขาอาจขาดหายไปจากชีวิตประจำวัน
ปัจจัยที่ทำให้เด็กหันหาการคบผู้ใหญ่
- ความต้องการพื้นฐาน: เด็กทุกคนต้องการความรัก ความอบอุ่น และการยอมรับจากคนรอบข้าง โดยเฉพาะจากพ่อแม่ เมื่อลูกไม่ได้รับสิ่งเหล่านี้อย่างเพียงพอ เด็กอาจมองหาจากแหล่งอื่น ซึ่งอาจนำไปสู่ความสัมพันธ์ที่ไม่เหมาะสม
- ช่องว่างทางอารมณ์: การขาดการสื่อสารและการรับฟังอย่างตั้งใจจากพ่อแม่ อาจทำให้เกิดช่องว่างทางอารมณ์ในตัวเด็ก ทำให้ลูกรู้สึกโดดเดี่ยวและไม่เข้าใจ ซึ่งผู้ใหญ่ที่คบเด็กอาจใช้ช่องว่างนี้ในการเข้าหาและสร้างความสัมพันธ์
- การควบคุมและบงการ: ผู้ใหญ่ที่คบเด็กมักใช้ความรัก ความอบอุ่น และการเอาใจใส่เป็นเครื่องมือในการควบคุมและบงการเด็ก ทำให้เด็กค่อยๆ สูญเสียความเป็นตัวตนและคุณค่าในตัวเองไปอย่างไม่รู้ตัว

|
วิธีป้องกันลูกตกเป็นเหยื่อ ผู้ใหญ่ใคร่เด็ก
|
1. เติมเต็มความรักและความอบอุ่น |
- แสดงความรักต่อลูกอย่างสม่ำเสมอ ทั้งคำพูดและการกระทำ
- สร้างบรรยากาศในบ้านที่อบอุ่นและปลอดภัย ให้ลูกรู้สึกว่าบ้านคือที่ที่พวกเขาสามารถเป็นตัวของตัวเองได้อย่างเต็มที่
|
2. เป็นผู้ฟังที่ดี |
- ให้เวลาและตั้งใจฟังลูกพูด ไม่ว่าเรื่องนั้นจะเล็กน้อยหรือใหญ่โต
- รับฟังโดยไม่ตัดสินหรือขัดจังหวะ ให้ลูกรู้สึกว่าความคิดเห็นของพวกเขามีความสำคัญ
- ถามคำถามเพื่อทำความเข้าใจความรู้สึกและความคิดของลูก
|
3. สร้างการสื่อสารที่เปิดกว้าง |
- สร้างความสัมพันธ์ที่ลูกรู้สึกสบายใจที่จะพูดคุยกับเราทุกเรื่อง
- พูดคุยกับลูกอย่างสม่ำเสมอเกี่ยวกับเรื่องต่างๆ ในชีวิตประจำวัน รวมถึงเรื่องความสัมพันธ์
- สอนลูกให้รู้จักการสื่อสารอย่างชัดเจนและตรงไปตรงมา
|
4. เสริมสร้างความมั่นใจและคุณค่าในตัวเอง |
- ชื่นชมและให้กำลังใจลูกเมื่อพวกเขาทำสิ่งที่ดี
- สนับสนุนให้ลูกทำกิจกรรมที่พวกเขาชอบและถนัด
- สอนให้ลูกรู้จักรักและเคารพตัวเอง
|
5. ให้ความรู้เรื่องความสัมพันธ์ที่เหมาะสม |
- สอนลูกให้รู้จักความสัมพันธ์ที่ดีและไม่ดี
- สอนเรื่องความยินยอม (Consent) และความสำคัญของการเคารพซึ่งกันและกัน
- สอนให้ลูกรู้จักสัญญาณเตือนของความสัมพันธ์ที่เป็นอันตราย
|
การเลี้ยงดูลูกให้ห่างไกลภัยคุกคามจาก ความใคร่เด็ก เป็นสิ่งที่เราพ่อแม่ทุกคนสามารถป้องกันได้ ด้วยการให้ความรัก ความอบอุ่น การรับฟัง และการสื่อสารกับลูกอย่างเปิดกว้าง จะเป็นกราะป้องกันให้ลูกของเรา เติบโตอย่างปลอดภัย มีความสุข และความสดใสตามวัยอย่างที่ควรจะเป็น
ที่มา : TNN , mgronline , Thairath , ตุ๊ดส์review
บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ
พ่อแม่ที่มีลูกดี เป็นแบบไหน? 10 ลักษณะสำคัญของพ่อแม่ยุคใหม่
เช็กด่วน! 5 พฤติกรรมพ่อแม่ที่ทำให้ลูกก้าวร้าว รู้แล้วรีบเปลี่ยน?
เตือนพ่อแม่ระวัง! บุหรี่ไฟฟ้าทรงโดเรมอน หาซื้อง่าย เข้าถึงเด็กวัยประถม
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!