เคล็ดลับปรับนิสัย เด็กดื้อเงียบ เด็กขี้โกหก

พฤติกรรมดื้อเงียบมีตั้งแต่ รับคำสั่งแต่ไม่ทำตาม ปฏิเสธง่ายๆ ว่าไม่ได้ทำอะไรผิด หรือทำตรงข้ามกับที่สั่ง มาดู เคล็ดลับปรับนิสัย เด็กดื้อเงียบ

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

พฤติกรรมดื้อเงียบเป็นการแสดงความโกรธทางอ้อม เมื่อลูกไม่พอใจมักแสดงออกได้หลายวิธี เช่น ทำไม่รู้ไม่ชี้ รับคำสั่งแต่ไม่ทำตาม หรือดื้อตาใสปฏิเสธง่ายๆ ว่าไม่ได้ทำอะไรผิด หรือทำตรงข้ามกับที่ผู้ใหญ่สั่ง ซึ่งแสดงถึงการต่อต้านอย่างชัดเจน หากลูกของคุณกำลังดื้อเงียบ เรามีเคล็ดลับปรับนิสัย เด็กดื้อเงียบ มาฝากคุณพ่อคุณแม่ค่ะ

 

เด็กดื้อเงียบ เป็นอย่างไร

เด็กดื้อเงียบ คือ เด็กที่ปฏิเสธโดยไม่พูดอะไร เป็นเหมือนการสื่อสารที่บอกว่า “ฉันไม่สนใจหรอก ใครจะว่ายังไงก็ช่าง” ซึ่งมักจะทำให้ผู้ใหญ่รู้สึกหงุดหงิดและไม่เข้าใจ โดยทั่วไปแล้ว พฤติกรรมนี้สามารถพบได้ในเด็กทุกช่วงวัย แต่จะแสดงออกในรูปแบบที่แตกต่างกันไปตามพัฒนาการค่ะ

ช่วงอายุที่พบพฤติกรรมดื้อเงียบ

  • วัยเตาะแตะ (1-3 ปี) เด็กวัยนี้มักจะแสดงพฤติกรรมดื้อเงียบเพื่อทดสอบขอบเขตและอำนาจของผู้ใหญ่
  • วัยอนุบาล (3-5 ปี) เด็กวัยนี้เริ่มมีความคิดเป็นของตัวเองมากขึ้น และอาจใช้การดื้อเงียบเพื่อแสดงความไม่เห็นด้วยหรือต่อต้าน
  • วัยเรียน (6 ปีขึ้นไป) เด็กวัยนี้มีพัฒนาการทางอารมณ์ที่ซับซ้อนมากขึ้น การดื้อเงียบอาจเป็นการแสดงออกถึงความรู้สึกผิดหวัง โกรธ หรือไม่มั่นใจในตัวเอง

 

เด็กดื้อเงียบมีสาเหตุจากอะไร

เด็กดื้อเงียบอาจเติบโตในสภาพแวดล้อมที่ไม่เปิดโอกาสให้แสดงความรู้สึก ครอบครัวที่ไม่ค่อยเปิดใจให้สมาชิกในบ้านได้แสดงความโกรธหรือความไม่พอใจออกมาตรงๆ ทำให้ลูกรู้สึกว่าการแสดงออกทางอารมณ์เป็นเรื่องที่ไม่ดีหรือไม่ถูกต้อง ลูกอาจกลัวว่าถ้าพูดออกมาตรงๆ จะถูกดุ ถูกทำโทษ หรือทำให้ความสัมพันธ์ในครอบครัวเสียไป จึงเลือกที่จะเก็บความรู้สึกไว้ข้างในแทน ซึ่งอาจเกิดจากปัจจัยต่างๆ ดังนี้

 

สาเหตุที่ทำให้เด็กดื้อเงียบ
การเลี้ยงดู
  • การใช้ความรุนแรง การลงโทษทางร่างกายหรือวาจาอย่างรุนแรง อาจทำให้เด็กกลัวที่จะแสดงความรู้สึกออกมาตรงๆ
  • การใช้คำสั่งที่เข้มงวดเกินไป การสั่งให้เด็กทำตามโดยไม่ให้เหตุผล อาจทำให้เด็กรู้สึกเหมือนไม่มีสิทธิ์ที่จะมีเสียงของตัวเอง
  • การขาดความรักความอบอุ่น เด็กที่ขาดความรักความอบอุ่นจากพ่อแม่ อาจรู้สึกไม่มั่นคงและใช้การดื้อเงียบเพื่อเรียกร้องความสนใจ
ปัจจัยทางอารมณ์
  • ความเครียด เด็กที่ต้องเผชิญกับความเครียด เช่น การเปลี่ยนแปลงในชีวิต หรือปัญหาในครอบครัว อาจแสดงพฤติกรรมดื้อเงียบออกมา
  • ความกลัว เด็กอาจกลัวที่จะแสดงความรู้สึกของตัวเองออกมา เพราะกลัวว่าจะถูกปฏิเสธหรือถูกตำหนิ
ปัจจัยทางสังคม
  • การเปรียบเทียบ การเปรียบเทียบเด็กกับเด็กคนอื่นๆ อาจทำให้เด็กรู้สึกด้อยค่าและแสดงพฤติกรรมต่อต้าน
  • การขาดทักษะทางสังคม เด็กบางคนอาจยังไม่เรียนรู้วิธีการสื่อสารความรู้สึกของตัวเองอย่างเหมาะสม ขาดทักษะในการสื่อสารและทักษะในการแก้ปัญหาทำให้ไม่รู้จะพูดอย่างไรให้ผู้ใหญ่เข้าใจความต้องการของเขา อาจใช้การดื้อเงียบในการจัดการกับสถานการณ์ที่ยากลำบาก

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

พฤติกรรมดื้อเงียบ ขัดขวางพัฒนาการเด็กอย่างไร

เด็กที่ดื้อเงียบมักจะเรียนรู้ว่าการไม่ทำตามคำขอหรือการไม่รับผิดชอบใดๆ จะทำให้ลูกได้ในสิ่งที่ต้องการในที่สุด ลูกอาจคิดว่าถ้าไม่ยอมเก็บห้อง หรือไม่ยอมล้างจาน สุดท้ายแม่ก็จะต้องทำเอง ซึ่งพฤติกรรมแบบนี้ส่งผลเสียต่อการพัฒนาในหลายด้าน เช่น

  • ขาดทักษะในการรับผิดชอบ เด็กจะไม่เรียนรู้ที่จะรับผิดชอบต่อหน้าที่ของตัวเอง และอาจเติบโตมาเป็นผู้ใหญ่ที่พึ่งพาคนอื่น
  • ขาดความมั่นใจในตัวเอง การไม่ต้องเผชิญกับความท้าทาย ทำให้เด็กขาดโอกาสในการพัฒนาความมั่นใจในตัวเอง
  • ขาดแรงจูงใจ เมื่อเด็กไม่ต้องพยายามอะไรเลย พวกเขาก็จะขาดแรงจูงใจที่จะพัฒนาตัวเอง

นอกจากนี้ เมื่อเด็กเก็บความรู้สึกไว้ภายในเป็นเวลานาน อาจส่งผลให้เกิดพฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์ เช่น 

  • ก้าวร้าวทางอ้อม เด็กอาจแสดงออกทางอารมณ์โดยการทำร้ายคนอื่นทางอ้อม เช่น ทำลายข้าวของ หรือพูดจาเสียดสี
  • มีปัญหาในการเข้าสังคม การไม่สามารถสื่อสารความรู้สึกได้ดี ทำให้เด็กมีปัญหาในการสร้างความสัมพันธ์กับผู้อื่น และไม่สามารถทำงานร่วมกับผู้อื่นได้
  • เกิดความเครียดสะสม การเก็บกดความรู้สึกเป็นเวลานาน อาจส่งผลต่อสุขภาพจิตของเด็ก ทำให้เกิดความเครียดและวิตกกังวล

ผลกระทบระยะยาว

หากปล่อยให้พฤติกรรมดื้อเงียบดำเนินต่อไปเรื่อยๆ เด็กจะเติบโตมาเป็นผู้ใหญ่ที่ขาดความรับผิดชอบ ขาดทักษะในการแก้ปัญหา และอาจประสบปัญหาในการทำงานและความสัมพันธ์ส่วนตัว

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

 

10 เคล็ดลับปรับนิสัย เด็กดื้อเงียบ

การปล่อยให้เด็กดื้อเงียบเป็นการทำลายโอกาสในการเติบโตของเด็ก เราควรช่วยให้ลูกเรียนรู้ที่จะรับผิดชอบต่อการกระทำของตัวเอง เพื่อให้เขาเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่มีความสุขและประสบความสำเร็จในชีวิต

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา
  1. มองลูกด้วยความเป็นธรรม สื่อสารกับลูกด้วยท่าทีที่เป็นมิตร ไม่ใช่การตำหนิ การตำหนิจะยิ่งทำให้ลูกดื้อเงียบมากขึ้น เพราะเป็นการกระตุ้นให้เกิดการต่อต้าน การพูดคุยอย่างใจเย็นและอธิบายเหตุผลจะได้ผลมากกว่า
  2. พยายามเข้าใจความรู้สึกของลูก พยายามมองโลกจากมุมมองของลูก ลองสังเกตดูว่าอะไรเป็นสาเหตุที่ทำให้ลูกดื้อเงียบ อาจเป็นเพราะเขาเหนื่อย หิว หรือรู้สึกไม่สบายใจก็ได้
  3. สร้างความสัมพันธ์ที่ดี อบอุ่นและไว้ใจกันกับลูก หลีกเลี่ยงการตัดสินลูก ให้โอกาสลูกอธิบายและแสดงความคิดเห็น โดยคุณพ่อคุณแม่ควรฟังความคิดเห็นของลูกอย่างตั้งใจ 
  4. สื่อสารอย่างเปิดใจ เน้นเหตุผล อธิบายให้ลูกเข้าใจว่าทำไมพฤติกรรมนั้นจึงไม่เหมาะสม แสดงให้ลูกเห็นว่าคุณพ่อคุณแม่เข้าใจความรู้สึกของเขา และชวนลูกมาคิดร่วมกันว่าจะแก้ไขปัญหานี้อย่างไร
  5. สอนให้ลูกแสดงออกทางอารมณ์ สอนให้ลูกระบุความรู้สึกของตัวเอง สามารถสื่อสารและแสดงออกอย่างเหมาะสม 
  6. เป็นแบบอย่างที่ดี พ่อแม่เป็นแบบอย่างที่ดีในการรับผิดชอบต่อหน้าที่ของตนเอง สื่อสารกับคนอื่นอย่างเปิดเผยและสุภาพ และใช้เหตุผลแก้ไขปัญหาต่างๆ ในครอบครัว
  7. ให้กำลังใจและชื่นชม ชื่นชมพฤติกรรมที่ดีของลูก และให้กำลังใจเมื่อลูกพยายามที่จะเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม
  8. สอนให้ลูกรับผิดชอบและแก้ปัญหา กำหนดหน้าที่ให้ลูกทำ ด้วยกฎเกณฑ์ที่ชัดเจนและสม่ำเสมอ บอกความคาดหวังของพ่อแม่แก่ลูก รวมถึงสอนให้ลูกแก้ปัญหา และช่วยให้ลูกหาทางแก้ไขด้วยตัวเองเมื่อเกิดปัญหา
  9. ปรับเปลี่ยนวิธีการเลี้ยงดู หากพบว่าวิธีการเลี้ยงดูเดิมไม่เป็นผล ควรลองปรับเปลี่ยนวิธีการใหม่ๆ
  10. ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ หากปัญหาของเด็กรุนแรง ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านพัฒนาการเด็ก

สิ่งที่ต้องระวัง

  • หลีกเลี่ยงการตำหนิ ลงโทษ เนื่องจากการลงโทษที่รุนแรงอาจทำให้ปัญหารุนแรงขึ้น
  • หลีกเลี่ยงการเปรียบเทียบลูกกับเด็กคนอื่น อาจทำให้ลูกขาดความมั่นใจในตัวเอง
  • พ่อแม่ควรควบคุมอารมณ์ตัวเองให้ได้ก่อน การเลี้ยงลูกต้องใช้ความอดทนและความเข้าใจ หากพ่อแม่ขาดความอดทน ควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่อยู่ ก็จะไม่สามารถเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับลูกได้

พฤติกรรมดื้อเงียบของเด็กมักเกิดจากความไม่เข้าใจกันและความขัดแย้งที่ยังไม่ได้รับการแก้ไข ลูกอาจรู้สึกว่าการไม่พูดอะไรเป็นวิธีปกป้องตัวเองที่ดีที่สุด แต่จริงๆ แล้วการสื่อสารอย่างเปิดใจจะช่วยให้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่เข้าใจกันมากขึ้นและแก้ไขปัญหาได้ค่ะ

 

ที่มา : เพจเลี้ยงลูกตามใจหมอ , เพจสิ่งเล็กๆ ที่สร้างลูก , หมอชาวบ้าน

 

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

5 เทคนิค สอนลูกให้พอใจในสิ่งที่ตนมี และไม่อิจฉาผู้อื่น ปลูกสุขที่แท้ในหัวใจ

7 พฤติกรรมของพ่อแม่ ที่ทำให้ลูกก้าวร้าว !

ทำไมเด็กไทยพบจิตแพทย์เพิ่มขึ้น หรือ “พ่อแม่ Toxic” มีส่วนทำลูกจิตป่วย?

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา