X
TAP top app download banner
theAsianparent Thailand Logo
theAsianparent Thailand Logo
คู่มือสินค้า
เข้าสู่ระบบ
  • อยากท้อง
  • ระยะการตั้งครรภ์
    • โภชนาการ เเม่ท้อง เเม่ให้นม
    • ไตรมาส 1
    • ไตรมาส 2
    • ไตรมาส 3
    • ตั้งชื่อลูก
  • แม่ผ่าคลอด
    • พัฒนาการเด็กผ่าคลอด
    • เตรียมตัวผ่าคลอด
    • สุขภาพเด็กผ่าคลอด
    • คู่มือคุณแม่ผ่าคลอด
    • การดูแลหลังผ่าคลอด
    • โภชนาการเด็กผ่าคลอด
  • หลังคลอด
    • คลอดธรรมชาติ
    • ผ่าคลอด
    • การให้นมลูก
  • สุขภาพและโภชนาการ
    • โภชนาการ
    • สุขภาพ
  • ลูก
    • ทารกแรกเกิด
    • ทารก
    • เด็กวัยหัดเดิน
    • เด็กก่อนวัยเรียน
    • เด็ก
    • เด็กก่อนวัยรุ่น และวัยรุ่น
  • ชีวิตครอบครัว
    • ความรักและความสัมพันธ์
    • การเลี้ยงลูก
    • มุมคุณพ่อ
    • ประกันชีวิต
    • การวางแผนการเงิน
    • ความรัก และ เซ็กส์
  • การศึกษา
    • เด็กวัยประถม
    • โรงเรียนประถม
    • มัธยมศึกษา
    • แบบฝึกหัดและข้อสอบ
    • แนะแนวการศึกษาต่างประเทศ
  • ผู้หญิง
    • แฟชั่น
    • ความงาม
    • ฟิตเนส
  • ที่เที่ยว
    • เที่ยวไทย
    • เที่ยวต่างประเทศ
    • ที่พัก และ โรงแรม
  • ที่กิน
    • ร้านอร่อย
    • ร้านอร่อยสำหรับเด็ก
    • คาเฟ่
    • เมนูอาหาร
  • ไลฟ์สไตล์
    • ดวง
    • ทำนายฝัน
    • สีมงคล
    • บทสวดมนต์
    • ข่าว
    • ดูแลบ้าน
    • แนะนำโดย TAP
    • อีเว้นท์
  • TAPpedia
  • วิดีโอ
    • การตั้งครรภ์
    • ทารก
    • คำแนะนำในการเลี้ยงลูก
    • การให้นมบุตร
    • อาหารเสริมทารก & โภชนาการ
    • เด็กเล็ก
  • ชอปปิง
  • #สอนลูกเรื่องเงิน ฉบับพ่อแม่
  • VIP

ลูกนอนหายใจทางปาก ลูกหายใจทางปาก ตอนนอน อันตรายไหม

บทความ 5 นาที
ลูกนอนหายใจทางปาก ลูกหายใจทางปาก ตอนนอน อันตรายไหม

แม่ต้องสังเกตลูกนอนหายใจทางปาก ลูกนอนอ้าปาก สัญญาณอันตรายลูกอาจป่วย

อาหารที่สามารถเลี้ยงสมองได้ดี คือ การนอนให้เพียงพอ จะช่วยให้ร่างกายของลูก ได้พักผ่อน สามารถผลิตสารสร้างภูมิต้านทานโรค และทำให้ร่างกายพัฒนาการได้ดี แจ่มใส รวมถึง อารมณ์ดี มีความสามารถในการจดจำ และเรียนรู้ สิ่งต่าง ๆ เพราะฉะนั้น คุณพ่อ คุณแม่ต้องให้ความสำคัญ ในการนอนหลับที่เพียงพอ แก่คุณลูก คุณแม่สังเกตลูกตอนลูกนอนบ้างหรือเปล่า ถ้า ลูกนอนหายใจทางปาก ลูกหายใจทางปาก อันตรายไหม ลูกอ้าปากตอนนอน สัญญาณโรคอะไรได้บ้าง วิธีแก้การนอนอ้าปากทำได้ยังไงบ้าง แม่ต้องรู้ ถ้า ลูกนอนหายใจทางปาก และมีอาการแบบนี้ ต้องรีบพาไปหาหมอด่วน เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา เราไปดูกันเลย

 

ทารกนอนอ้าปาก ลูกหายใจทางปาก เกิดจากสาเหตุอะไร?

คุณแม่สังเกตว่า ตาต้า (นามสมมุติ) นอนอ้าปาก ลูกนอนหายใจทางปากแล้วหายใจเสียงดังผิดปกติมา 2 – 3 วัน จึงมาพบหมอ เมื่อได้ตรวจร่างกายแล้ว ก็พบว่า ตาต้า มีอาการหวัด คัดจมูก ร่วมด้วย ทั้งนี้เพื่อความอยู่ทางธรรมชาติ น้องจึง นอนอ้าปากหายใจ โดยหมอได้อธิบายให้คุณแม่ฟังเกี่ยวกับการนอนอ้าปากของทารกดังนี้

 

ลูกนอนหายใจทางปาก แบบไหนที่ต้องรีบไป รพ.

  • เมื่อลูกหายใจทางปาก ร่วมกับหอบเหนื่อย หายใจเร็ว อกบุ๋ม ซี่โครงบาน
  • มีอาการเขียว หรือซึมลง
  • มีการนอนกรน ร่วมกับหยุดหายใจขณะหลับ (OSA : obstructive sleep apnea)

ผลเสียของการอ้าปากหายใจ นอกเหนือจากสาเหตุที่แท้จริงของโรคที่ไม่ได้รักษาแล้ว ยังทำให้เด็กมีอาการคอแห้ง หายใจได้ไม่เต็มที่เหมือนการหายใจทางจมูก มีโอกาสสำลักได้ง่ายขึ้นอีกด้วย ดังนั้นอย่านิ่งนอนใจ พาลูกไปตรวจที่ โรงพยาบาลได้เลย

 

วิดีโอจาก : พี่กัลนมแม่ Pekannommae mother and child care

Advertisement

 

ลูกหายใจทางปาก ทารกนอนอ้าปากหายใจเพราะเหตุใด?

โดยปกติเด็กควรจะหายใจทางจมูกเป็นหลัก เมื่อในที่นอนอ้าปากหายใจ แสดงว่ามีการอุดกั้นของทางเดินหายใจส่วนต้น โดยเฉพาะโพรงจมูก เช่น

  • หากเกิดขึ้นเพียงช่วงสั้น ๆ มักเกิดจาก จมูกอักเสบจากการติดเชื้อ (ไข้หวัด)
  • หากเกิดขึ้นเรื้อรังเป็นเดือน อาจเกิดจากจมูกอักเสบจากสาเหตุอื่น
  • หากเป็นมาแต่กำเนิด อาจเกิดจาก clonal atresia ซึ่งเป็นภาวะความผิดปกติแต่กำเนิดของโพรงจมูกทารก ทำให้ไม่มีรูเปิดที่ปกติของจมูก

นอกจากนี้ ทารกอาจนอนอ้าปากหายใจจากความผิดปกติอื่น ๆ ในโพรงจมูก ทำให้เยื่อบุโพรงจมูกบวมหรือ ต่อมอะดีนอยด์ ซึ่งเป็นต่อมน้ำเหลืองด้านหลังโพรงจมูกมีการอักเสบ และ โตผิดปกติ ความผิดปกติของโครงสร้างใบหน้าที่ทำให้เกิดการอุดกั้นของทางเดินหายใจ ทารกจึงจำเป็นต้อง อ้าปาก เพื่อหายใจทางปาก อันเป็นการช่วยเหลือตนเอง เพื่อความอยู่รอดนั่นเอง

 

ข้อควรระวัง หากทารกนอนอ้าปากหายใจ คืออะไร ?

การนอนอ้าปากในเด็ก มักจะพบร่วมกับ การนอนหายใจเสียงดัง หรือ นอนกรน ซึ่งอาจเกิดภาวะหยุดหายใจ ขณะหลับจากการอุดกั้น เป็นภาวะแทรกซ้อนได้ “ภาวะหยุดหายใจขณะหลับจากการอุดกั้น” อันเกิดจากการตีบแคบของทางเดินหายใจส่วนบน ทำให้ต้องหายใจเข้ามากขึ้น เพื่อเอาชนะทางเดินหายใจ ที่ตีบแคบนั้น ทำให้เกิดอาการคือ นอนอ้าปาก หายใจเสียงดังมากกว่าปกติ หยุดหายใจ หายใจเฮือกเป็นพัก ๆ หน้าอกบุ๋ม ริมฝีปากเขียวคล้ำ ขณะนอนหลับ

 

ลูกนอนอ้าปาก วิธีแก้การนอนอ้าปากทำได้ยังไงบ้าง

หากลูกมีอาการ นอนอ้าปากหายใจ เป็นบ่อย ๆ หรือ เรื้อรัง ควรไปพบคุณหมอ หรือแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อตรวจหาสาเหตุ และรับการรักษาอย่างถูกต้อง โดยคุณหมอซักถามประวัติอาการ แล้วตรวจร่างกาย และส่งตรวจวินิจฉัยเพิ่มเติม เพื่อหาสาเหตุดังกล่าวข้างต้น เช่น หากสงสัย ต่อมอะดีนอยด์โต คุณหมออาจส่งตรวจเอกซเรย์ ดูขนาดต่อมอะดีนอยด์ ซึ่งไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า เมื่อทราบสาเหตุก็จะได้รีบทำการแก้ไขอย่างถูกต้อง เช่น การให้ยาช่วยลดจมูกบวม ล้างจมูก ดูดน้ำมูก หากมีการติดเชื้อแบคทีเรียในจมูกก็จะได้รับยาปฏิชีวนะจนถึงการผ่าตัดในกรณีที่เกิดจากการผิดปกติอันทำให้เกิดการอุดกั้น ของโครงสร้างในระบบทางเดินหายใจ

 

การรักษาสำหรับทารกนอนอ้าปาก

หากลูกน้อยของคุณมีปัญหาในการหายใจหรือมีอาการอื่น ๆ ร่วมกับการหายใจทางปากให้พิจารณานัดหมายกับกุมารแพทย์ของคุณ แพทย์ของบุตรหลานของคุณสามารถช่วยขจัดเงื่อนไขที่อาจขัดขวางทางเดินหายใจกำหนดยาสำหรับการติดเชื้อใด ๆ หรือสั่งการทดสอบเพิ่มเติม

 

ลูกนอนหายใจทางปาก 2

 

คุณอาจลองทำสิ่งต่อไปนี้ที่บ้านเพื่อล้างความแออัด

  • เครื่องทำให้ชื้น การเพิ่มความชื้นในอากาศสามารถช่วยคัดจมูกได้ เครื่องทำความชื้นแบบละอองเย็นเหมาะสมที่สุดสำหรับทารกและเด็กเล็กเพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงจากการไหม้ หากคุณไม่มีเครื่องเพิ่มความชื้นคุณอาจลองนั่งกับลูกน้อยในห้องน้ำในขณะที่อาบน้ำอุ่นเพื่อสร้างไอน้ำ
  • หลอดฉีดยา น้ำมูกแม้เพียงเล็กน้อยในจมูกของลูกน้อยก็สามารถทำให้หายใจได้ยาก คุณสามารถดูดออกได้โดยใช้หลอดฉีดยาพื้นฐานหรือหนึ่งในตัวดูดน้ำมูกแฟนซีเช่น NoseFrida อ่อนโยนเพื่อไม่ให้ลูกน้อยเจ็บจมูก และทำความสะอาดเข็มฉีดยาของคุณทุกครั้งเพื่อป้องกันไม่ให้แบคทีเรียที่เป็นอันตรายก่อตัวขึ้น
  • ล้างน้ำเกลือ. สเปรย์น้ำเกลือ (น้ำเกลือ) สองสามสเปรย์อาจช่วยบาง ๆ และคลายเมือกก่อนที่คุณจะดูดออก เมื่อลูกน้อยของคุณโตขึ้นคุณอาจลองหม้อเนติหรือน้ำเกลือล้างก็ได้ อย่าลืมต้มน้ำประปาและทำให้เย็นหรือใช้น้ำกลั่นเพื่อความปลอดภัย
  • ดื่มน้ำให้เพียงพอ ตรวจสอบให้แน่ใจว่าลูกน้อยของคุณดื่มนมแม่หรือนมผงในปริมาณมากเพื่อหลีกเลี่ยงการขาดน้ำและให้น้ำมูกไหล

 

ทั้งนี้ หากลูกนอนหายใจทางปาก ทารกชอบนอนอ้าปาก หรือนอนกรน และมีอาการผิดปกติต่าง ๆ อันบ่งถึงภาวะหยุดหายใจขณะหลับจากการอุดกั้น คุณพ่อ คุณแม่ควรรีบไปพบคุณหมอโดยเร็ว เนื่องจากหากปล่อยทิ้งไว้อาจทำให้เกิดภาวะขาดออกซิเจนขณะหลับ อันมีผลต่อสมอง พัฒนาการ และ การเจริญเติบโตของลูกได้

รู้กันไปแล้ว ว่าลูกนอนหายใจทางปาก อาจจะทำให้ ป่วยเป็นอะไรได้บ้าง และทำไมถึงต้องรีบพบแพทย์ เพราะอาจจะไม่ใช่เรื่องเล็ก ๆ อีกต่อไป  มาโหวตกันหน่อยว่า ปัญหาสำหรับลูกเล็ก ที่คุณแม่พบเจอบ่อยคืออะไร ถ้ากดโหวตไม่ได้ คลิกที่นี่

 

สาเหตุที่เป็นไปได้ของการหายใจทางปากมีดังต่อไปนี้

  • เสมหะและน้ำมูก

ลูกน้อยของคุณอาจหายใจทางปากโดยไม่จำเป็นหากมีอาการคัดจมูกหรือมีน้ำมูกอุดตัน พวกเขาอาจเป็นหวัดเมื่อเร็ว ๆ นี้หรืออาจแพ้บางสิ่งบางอย่างในสิ่งแวดล้อม ไม่ว่าในกรณีใดเด็กทารกไม่สามารถล้างน้ำมูกได้เองโดยง่ายดังนั้นจึงอาจชดเชยด้วยการหายใจทางปาก

  • หยุดหายใจขณะหลับ

การหายใจโดยใช้ปากเป็นสัญญาณของภาวะหยุดหายใจขณะนอนหลับซึ่งโดยพื้นฐานแล้วหมายความว่าทางเดินหายใจส่วนบนของทารกถูกอุดกั้นไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง สำหรับทารกและเด็กมักเกิดจากต่อมทอนซิลโตหรือต่อมอะดีนอยด์ อาการอื่น ๆ ได้แก่ การนอนกรนการกระสับกระส่ายระหว่างการนอนหลับการหยุดหายใจและการไอหรือสำลัก

  • กะบังเบี่ยงเบน

บางครั้งการหายใจทางปากอาจเกิดจากความผิดปกติของกระดูกอ่อนและกระดูกที่แยกรูจมูกของทารกออกจากกัน สิ่งนี้อาจนำไปสู่ปัญหาในการหายใจทางจมูกและอาจพบได้บ่อยในผู้ที่มีขากรรไกรบนแคบ (รวมถึงการหายใจด้วยปากด้วย)

 

อาการผิดปกติที่พบได้ในลูกวัยทารก

ลูกวัยแรกเกิด – 3 เดือนแรก คุณพ่อคุณแม่มือใหม่มักกังวลไปตั้งแต่เรื่องกิน นอน ขับถ่าย เรียกว่าห่วงร้อยแปดพันประการกัน ยิ่งถ้าเป็นเรื่องสุขภาพของเจ้าตัวเล็กแล้วละก็เรื่องใหญ่เชียว จึงถือโอกาสพาคุณพ่อคุณแม่มือใหม่ไปทำความรู้จักโรคที่อาจจะเกิดขึ้นได้กับลูกเล็กวัยแรกเกิดถึง 3 เดือน

บทความจากพันธมิตร
อาหารมื้อแรก สำหรับลูกรัก กินอะไรดี? เพื่อสารอาหารที่ครบถ้วน
อาหารมื้อแรก สำหรับลูกรัก กินอะไรดี? เพื่อสารอาหารที่ครบถ้วน
Dadi International Kindergarten เรียนรู้สนุก เล่นอย่างสร้างสรรค์ ด้วย 3 ภาษา พร้อมเสริมสร้างทักษะ EF
Dadi International Kindergarten เรียนรู้สนุก เล่นอย่างสร้างสรรค์ ด้วย 3 ภาษา พร้อมเสริมสร้างทักษะ EF
ดูแลทารกแรกเกิดวิกฤติน้ำหนักเพียง 500 กรัมสำเร็จ ด้วยความเชี่ยวชาญระดับสากล ที่ โรงพยาบาลเด็กสมิติเวช อินเตอร์เนชั่นแนล
ดูแลทารกแรกเกิดวิกฤติน้ำหนักเพียง 500 กรัมสำเร็จ ด้วยความเชี่ยวชาญระดับสากล ที่ โรงพยาบาลเด็กสมิติเวช อินเตอร์เนชั่นแนล
Easy Life III เครื่องปั๊มนม Hands-Free จากแบรนด์ไทยอย่าง Attitude Mom ออกแบบเพื่อชีวิตการปั๊มนมของคุณแม่ที่ง่ายขึ้นกว่าเดิมพร้อมการควบคุมการทำงานผ่านแอปพลิเคชันบนมือถือ
Easy Life III เครื่องปั๊มนม Hands-Free จากแบรนด์ไทยอย่าง Attitude Mom ออกแบบเพื่อชีวิตการปั๊มนมของคุณแม่ที่ง่ายขึ้นกว่าเดิมพร้อมการควบคุมการทำงานผ่านแอปพลิเคชันบนมือถือ

เริ่มจากส่วนบนสุดของร่างกายไล่ลงไปถึงหน้าอกของลูก ช่วงแรกนี้มีระบบการทำงานของร่างกายที่สำคัญ คือ ระบบการหายใจและระบบการทำงานของหัวใจ ซึ่งโรคที่มักพบได้บ่อยมีดังนี้

 

  • ระบบหายใจ

หายใจเสียงดังเป็นช่วง ๆ   อาทิตย์แรกและอาทิตย์ที่ 2 หลังคลอด   ลูกอาจจะจาม หายใจเสียงดัง หรือหายฮึดฮัดเป็นช่วง ๆ   ถ้าเป็นเพียงเล็กน้อยจะไม่มีอาการผิดปกติอะไร อาจเป็นเพราะลูกยังเล็กจึงยังหายใจทางปากไม่เป็น เลยหายใจทางจมูกได้ทางเดียว เมื่อจมูกมีขี้มูกอุดตันตรงบริเวณโพรงจมูก ก็จะทำให้เกิดเสียงดัง แต่ถ้าลูกหายใจเสียงดังมาก ๆ เหมือนนอนกรน ต้องมาพบคุณหมอ เพราะลูกอาจจะมีปัญหาเรื่องกล้ามเนื้อหลอดลมอ่อนตัว ทำให้เวลาหายใจเข้า-ออก กล้ามเนื้อเปิด-ปิดไม่สัมพันธ์กันจนเกิดเสียงดัง   หากเกิดจากกรณีที่ขี้มูกอุดตัน คุณแม่ควรใช้คัตตอนบัตชุบน้ำอุ่นเช็ดจมูกลูกหลังอาบน้ำทุกครั้ง แต่ถ้าเกิดจากสาเหตุอื่นให้คุณแม่ลองเปลี่ยนท่านอนของลูกใหม่ จากนอนหงายหรือนอนตะแคงเป็นนอนคว่ำอาจจะทำให้ดีขึ้น แต่ถ้าลูกหายใจเสียงดังมากควรพบคุณหมอจะดีที่สุด

 

  • หวัด

แรกเกิด – 3 เดือน ลูกเล็กเมื่อเป็นหวัดก็จะมีอาการหายใจอึดอัด คัดจมูก อาจมีน้ำมูกไหล และเริ่มมีอาการไอตามมา  คนที่นำเชื้อโรคมาแพร่กระจายให้ลูกไม่ใช่ใครอื่น ก็คุณพ่อคุณแม่หรือคนในบ้านนั่นแหละ เพราะลูกเล็กไม่ได้ออกไปนอกบ้านอยู่แล้ว ด้วยความที่ภูมิคุ้มกันโรคของลูกยังต่ำอยู่พอมีคนนำเชื้อมาให้ถึงที่ก็เลยทำให้ติดเชื้อได้ง่าย  ลูกเล็กเป็นหวัดนี่แนะนำให้มาหาคุณหมออย่างเดียวเลย ห้ามซื้อยาให้ลูกกินเองเด็ดขาด ส่วนคนที่ต้องดูแลลูกเล็กหรือคนในบ้าน ถ้าเป็นหวัดไม่ควรเข้าใกล้ลูก ควรใช้ผ้าปิดปากปิดจมูกตัวเอง และควรล้างมือให้สะอาดก่อนอุ้มลูกด้วย ระบบการทำงานของหัวใจ

 

  • โรคหัวใจ

ส่วนใหญ่ถ้ามีอาการรุนแรงคุณหมอมักตรวจเจอตั้งแต่แรกเกิด  ดูจากอาการทั่วไปอาจจะไม่รู้ว่าลูกเป็นโรคหัวใจ แต่ถ้าคุณแม่สังเกตจะเห็นว่า ลูกที่เป็นโรคหัวใจเวลาร้องไห้แล้วรอบปากจะเขียว หรือกินนมแล้วเหนื่อยกว่าปกติ เช่น ดูด ๆ แล้วก็หยุด ดูดต่อเนื่องได้ไม่นานอย่างเคย แต่ถ้าเป็นโรคลิ้นหัวใจรั่วบางชนิดอาจจะไม่มีอาการเขียว คุณแม่ต้องสังเกตอาการอย่างอื่น ๆ ประกอบ โรคหัวใจในเด็กเล็กเกิดจากความผิดปกติของลิ้นหัวใจและทางเดินหลอดเลือดหัวใจ หากลูกเป็นโรคหัวใจอย่างรุนแรงมักมีอาการเร็ว แต่โรคหัวใจรั่วบางชนิดช่วงแรกอาจจะไม่มีอาการหรือไม่ได้ยินเสียงผิดปกติ แต่พอโตขึ้นจะเริ่มมีอาการหรือฟังเสียงหัวใจผิดปกติได้ ทำให้แพทย์ตรวจเจอความผิดปกติของหัวใจได้ที่สุด หมั่นสังเกตอาการลูกน้อยเวลาดูดนมหรือเมื่อร้องไห้มาก ๆ และต้องพาลูกมาพบคุณหมอตามเวลาที่นัดตรวจสุขภาพ เพราะตรวจสุขภาพแต่ละครั้งคุณหมอจะตรวจหัวใจด้วย

 

บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ

ลูกนอนแบบไหนผิดปกติ พร้อมวิธีสังเกตความผิดปกติ เรื่องที่พ่อแม่ทุกคนต้องรู้

10 วิธี ฝึกลูกนอนเร็ว เทคนิคที่ทำให้ลูกนอนหลับง่ายขึ้น วิธีให้ลูกนอนง่าย ๆ

6 วิธี ทำให้ลูกนอนนาน นอนหลับได้ตลอดคืน ถ้าทำได้เหมือนถูกลอตเตอรี่ชุดใหญ่!!

 

ที่มาข้อมูล : mccormickhospital

มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!

Follow us on:
facebook-logo instagram-logo tiktok-logo
img
บทความโดย

รศ. พญ. รวีรัตน์ สิชฌรังษี

  • หน้าแรก
  • /
  • ทารก
  • /
  • ลูกนอนหายใจทางปาก ลูกหายใจทางปาก ตอนนอน อันตรายไหม
แชร์ :
  • แผลปลูกฝีเป็นหนอง ต้องดูแลยังไง? ลูกมีไข้ งอแงหลังปลูกฝี ปกติไหม?

    แผลปลูกฝีเป็นหนอง ต้องดูแลยังไง? ลูกมีไข้ งอแงหลังปลูกฝี ปกติไหม?

  • ลูกยังไม่พูด ต้องพาไปหาหมอไหม? 3 วิธีกระตุ้นให้ลูกพูด ทำเลยได้ผลจริง!

    ลูกยังไม่พูด ต้องพาไปหาหมอไหม? 3 วิธีกระตุ้นให้ลูกพูด ทำเลยได้ผลจริง!

  • “คลิปสั้น” อันตรายนะรู้ไหม? ผลกระทบลึกถึงระดับโครงสร้างสมอง

    “คลิปสั้น” อันตรายนะรู้ไหม? ผลกระทบลึกถึงระดับโครงสร้างสมอง

  • แผลปลูกฝีเป็นหนอง ต้องดูแลยังไง? ลูกมีไข้ งอแงหลังปลูกฝี ปกติไหม?

    แผลปลูกฝีเป็นหนอง ต้องดูแลยังไง? ลูกมีไข้ งอแงหลังปลูกฝี ปกติไหม?

  • ลูกยังไม่พูด ต้องพาไปหาหมอไหม? 3 วิธีกระตุ้นให้ลูกพูด ทำเลยได้ผลจริง!

    ลูกยังไม่พูด ต้องพาไปหาหมอไหม? 3 วิธีกระตุ้นให้ลูกพูด ทำเลยได้ผลจริง!

  • “คลิปสั้น” อันตรายนะรู้ไหม? ผลกระทบลึกถึงระดับโครงสร้างสมอง

    “คลิปสั้น” อันตรายนะรู้ไหม? ผลกระทบลึกถึงระดับโครงสร้างสมอง

ลงทะเบียนรับคำแนะนำเรื่องการตั้งครรภ์พัฒนาการลูกในท้องได้ที่นี่
  • เตรียมตัวเป็นผู้ปกครอง
  • พัฒนาการลูก
  • ชีวิตครอบครัว
  • ระยะการตั้งครรภ์
  • โภชนาการ
  • ไลฟ์สไตล์
  • TAP สังคมออนไลน์
  • ติดต่อโฆษณา
  • ติดต่อเรา
  • Influencer Marketing (KOL)
  • มาเข้าร่วมกับเรา


  • Singapore flag Singapore
  • Thailand flag Thailand
  • Indonesia flag Indonesia
  • Philippines flag Philippines
  • Malaysia flag Malaysia
  • Vietnam flag Vietnam
© Copyright theAsianparent 2025. All rights reserved
เกี่ยวกับเรา |ทีม|นโยบายความเป็นส่วนตัว |ข้อกำหนดการใช้ |แผนผังเว็บไซต์
  • เครื่องมือ
  • บทความ
  • ฟีด
  • โพล

เราใช้คุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์คอนเทนต์ที่ดีที่สุดให้กับคุณ. เรียนรู้เพิ่มเติมตกลง เข้าใจแล้ว

เราใช้คุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์คอนเทนต์ที่ดีที่สุดให้กับคุณ. เรียนรู้เพิ่มเติมตกลง เข้าใจแล้ว