เป็นเรื่องปกติที่คุณแม่จะคอยสังเกตทุกรายละเอียดของลูก โดยเฉพาะเสียงหายใจที่บางทีก็ดูแปลก ๆ ไป มาดูกันดีกว่าค่ะว่า ลูกหายใจแบบไหนผิดปกติ ต้องจับตาด่วน ๆ
การหายใจของทารก แบบไหนที่เรียกว่า “ปกติ” ?
การหายใจของทารกแรกเกิดไม่เหมือนของผู้ใหญ่เรานะคะ คุณแม่ไม่ต้องตกใจถ้าเจอแบบนี้
- หายใจเป็นพัก ๆ (Periodic Breathing): นี่คือเอกลักษณ์ของทารกเลยค่ะ! ลูกอาจจะหายใจเร็ว ๆๆ แล้วก็หยุดไปแป๊บนึง (ไม่เกิน 10 วินาที) ก่อนจะกลับมาหายใจตามปกติอีกครั้ง เป็นรูปแบบที่พบได้บ่อยในทารกแรกเกิดและจะค่อย ๆ หายไปเองเมื่อโตขึ้นค่ะ
- หายใจเร็ว: อัตราการหายใจปกติของทารกแรกเกิดจะอยู่ที่ประมาณ 30-60 ครั้งต่อนาทีในขณะที่ตื่นและสงบ ซึ่งเด็กทารกหายใจเร็วกว่าผู้ใหญ่มากค่ะ
- หายใจท้องป่อง: เบบี๋จะใช้กล้ามเนื้อกระบังลมเป็นหลักในการหายใจ คุณแม่จึงเห็นท้องของลูกป่องขึ้นลงชัดเจนกว่าหน้าอก ซึ่งถือเป็นเรื่องปกติค่ะ
- มีเสียงเล็ก ๆ น้อย ๆ: เสียงฟืดฟาดเบา ๆ เสียงครืดคราดในลำคอ หรือเสียงเหมือนหายใจไม่ค่อยโล่ง มักเกิดจากช่องจมูกของลูกยังเล็กและมีน้ำมูกหรือนมที่แหวะออกมาค้างอยู่เล็กน้อย ถ้าลูกยังดูสบายดี กินได้หลับได้ ก็ยังไม่น่ากังวลค่ะ
สิ่งสำคัญคือ: ตราบใดที่ลูกยังดูสบายตัว ไม่ได้ดูเหนื่อยหอบ ตัวไม่เปลี่ยนสี การหายใจรูปแบบเหล่านี้ถือว่าปกติค่ะ

โรคไหลตายในทารก (SIDS) และ “การนอนอย่างปลอดภัย”
เรื่องนี้เป็นฝันร้ายของคุณพ่อคุณแม่ทุกคนค่ะ SIDS (Sudden Infant Death Syndrome) หรือโรคไหลตายในทารก เป็นการเสียชีวิตอย่างกะทันหันของทารกที่แข็งแรงดีโดยไม่ทราบสาเหตุชัดเจน มักเกิดในเด็กอายุน้อยกว่า 1 ปี โดยช่วงที่เสี่ยงที่สุดคือ 1-4 เดือน แม้จะป้องกันไม่ได้ 100% แต่เราลดความเสี่ยงลงได้มหาศาลด้วยหลัก “การนอนอย่างปลอดภัย” ค่ะ
- Back to Sleep: จับลูกนอนหงายเสมอ ไม่ว่าจะนอนกลางวันหรือกลางคืน
- Firm Surface: ให้ลูกนอนบนที่นอนที่แข็งพอดีตัว ไม่นุ่มยวบ
- Keep the Crib Clear: ในเปลหรือที่นอนของลูก ควรมีแค่ตัวลูกเท่านั้น! ห้ามมีหมอน ผ้าห่มนุ่ม ๆ ตุ๊กตา หรือของกั้นเตียงเด็ดขาด เพราะสิ่งเหล่านี้อาจอุดกั้นทางเดินหายใจของลูกได้
- Room-Sharing, not Bed-Sharing: ให้ลูกนอนในห้องเดียวกับคุณแม่ แต่แยกที่นอนกัน จะช่วยให้คุณแม่ดูแลลูกได้สะดวกและปลอดภัยค่ะ
การจับลูกนอนขดตัวหรือลูกนอนคว่ำเพิ่มความเสี่ยง เพราะอาจทำให้ลูกได้รับออกซิเจนไม่เพียงพอและหายใจเอาคาร์บอนไดออกไซด์ที่ตัวเองหายใจออกมากลับเข้าไปใหม่ได้ค่ะ
วิธีสังเกตการหายใจของลูกแบบง่าย ๆ
คุณแม่ไม่ต้องเอาหูหรือแก้มไปแนบใกล้ ๆ ก็ได้ค่ะ ลองใช้วิธีนี้ดูนะคะ
- ดู (Look): ในขณะที่ลูกสงบหรือหลับ ให้มองที่หน้าอกและหน้าท้องของลูก สังเกตการเคลื่อนไหวที่สม่ำเสมอ และสังเกตสีผิวของลูกว่าอมชมพูดีหรือไม่
- ฟัง (Listen): ฟังเสียงหายใจของลูกในห้องที่เงียบ ๆ เพื่อให้คุ้นเคยกับเสียงหายใจปกติของเขา
- นับ (Count): ลองนับอัตราการหายใจของลูกเป็นครั้งคราวตอนที่เขาสงบ โดยนับการยกตัวของหน้าอก/หน้าท้อง 1 ครั้งเป็น “หนึ่ง” แล้วนับไปให้ครบ 1 นาทีเต็ม จะช่วยให้คุณแม่รู้ว่าอัตราปกติของลูกอยู่ประมาณเท่าไหร่

ลูกหายใจแบบไหนผิดปกติ ? ต้องรีบพาไปหาหมอ
ลูกหายใจแบบไหนผิดปกติ ถ้าคุณแม่สังเกตเห็นอาการเหล่านี้ อย่าลังเลที่จะพาลูกไปพบแพทย์ทันที เพราะนี่คือสัญญาณว่าลูกกำลัง “หายใจลำบาก” ค่ะ
- หายใจเร็วกว่าปกติ: หายใจมากกว่า 60 ครั้งต่อนาที ตลอดเวลาในขณะที่ลูกพักหรือไม่ร้องไห้
- หายใจลำบาก (เห็นชัดด้วยตา):
- จมูกบาน: ปีกจมูกของลูกบานออกทุกครั้งที่หายใจเข้า เพื่อพยายามเอาอากาศเข้าไปมากขึ้น
- หน้าอกบุ๋ม: กล้ามเนื้อบริเวณซี่โครง คอ หรือใต้ลิ้นปี่ บุ๋มลึกลงไปทุกครั้งที่หายใจ
- ศีรษะผงก: ลูกผงกศีรษะขึ้นลงตามจังหวะการหายใจ เป็นการใช้กล้ามเนื้อคอช่วยหายใจ
- มีเสียงหายใจผิดปกติ:
- เสียงคราง: มีเสียง “อึ๊บ” หรือเสียงครางสั้น ๆ ท้ายลมหายใจออกทุกครั้ง เป็นสัญญาณว่าร่างกายพยายามอย่างหนักเพื่อเปิดทางเดินหายใจไว้
- เสียงหวีด: เสียงแหลมสูงคล้ายนกหวีด ลูกหายใจวี๊ดๆ มักได้ยินตอนหายใจออกชัดกว่า บ่งบอกว่าหลอดลมส่วนปลายมีการตีบแคบ
- เสียงแหลมสูงตอนหายใจเข้า: เสียงแหลมสูงตอนหายใจเข้า เกิดจากการอุดกั้นของทางเดินหายใจส่วนบน เช่น กล่องเสียงอักเสบ ซึ่งเป็นภาวะฉุกเฉิน
- ภาวะตัวเขียว: นี่คือสัญญาณฉุกเฉินที่สุด! ผิวของลูก โดยเฉพาะ รอบริมฝีปาก ลิ้น หรือปลายเล็บ มีสีเขียวคล้ำหรือม่วง แสดงว่าร่างกายได้รับออกซิเจนไม่เพียงพออย่างรุนแรง (ข้อมูลเดิมที่บอกว่าหน้าผากเป็นสามเหลี่ยมสีเขียวไม่ถูกต้องนะคะ)
- อาการอื่น ๆ ร่วมด้วย: มีไข้สูง ซึมลง ไม่ยอมดูดนมหรือกินอาหาร ร้องกวนไม่หยุด
คุณแม่คือคนที่รู้จักลูกดีที่สุดนะคะ เมื่อทราบวิธีสังเกต ลูกหายใจแบบไหนผิดปกติ ตามข้อมูลข้างต้นแล้ว อย่าลังเลที่จะปรึกษาคุณหมอนะคะ การไปโรงพยาบาลเพื่อความสบายใจ ดีกว่ารอจนอาการของลูกหนักเสมอค่ะ
ได้รับการตรวจสอบข้อมูลโดย นพ. ชัยวัฒน์ เชื้อพันธุ์ แพทย์ หู คอ จมูก ภูมิแพ้

ที่มา momjunction.com , Pregnancy Birth & Baby , Children’s Hospital of Philadelphia
บทความอื่นๆที่น่าสนใจ
หมอเตือน! โรคครูป ระบาดหน้าฝน สังเกตเสียงไอ-รับมือก่อนลูกแย่
ลูกกินนมแม่แล้วถ่ายบ่อยจนก้นแดง ทำอย่างไรดี
การนอนของเด็ก แต่ละช่วงวัย ตั้งแต่ทารกจนวัยเรียน สิ่งที่พ่อแม่ควรทำ ห้ามทำกับลูก
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!